มาแล้วค่าาาาาาา มาแล้ว
รีบอัพให้ได้เยอะๆ ก่อนที่จะต้องส่งเครื่องจ้า
----------------------------------------------------------------------------------------
「こだま」(Kodama) โคะดะมะ
โคะดะมะอาจอยู่ในร่างที่เป็นมนุษย์หรือ“ไม่ใช่มนุษย์” ก็ได้ ซึ่ง “วิญญาณพฤกษา (Dryad) ส่วนมากมักไม่อยู่ในรูปต้นไม้อยู่แล้ว โคะดะมะไม่ชอบผู้ที่ไม่เคารพผืนป่า ใครก็ตามที่ตัดต้นไม้โดยไม่จำเป็นเหล่าโคะดะมะจะหาทางแก้แค้นผู้นั้น แต่โคะดะมะส่วนมากรักสงบ และชอบที่จะแลกเปลี่ยนความรู้กับใครก็ตามที่สามารถสื่อสารกับโคะดะมะได้เนื่องมาจากเชื่อกันว่าวิญญาณยิ่งอยู่นานยิ่ง “แข็งแกร่ง”โคะดะมะเป็นวิญญาณของต้นไม้ที่มีอายุยืนนานมาหลายร้อยปีจึงมีพลังมหาศาลตรงกันข้ามกับท่าทีที่สงบนิ่งไม่มีพิษภัย
2 เรื่องที่ผ่านมาเป็นCedit :Dek-D ค่ะ
----------------------------------------------------------------------------------------
「かっぱ」(Kappa) คัปปะ หรือ กัปปะ
คัปปะมีความมั่นใจในพละกำลังตัวเองมากมักจะท้ามนุษย์ในการแข่งซูโม่ จึงมีเรื่องเล่าว่าคนที่ฉลาดจะทำความเคารพคัปปะก่อนเริ่มการประลอง ด้วยการก้มศีรษะ แล้วคัปปะจะก้มตามทำให้น้ำกระฉอกออกจากจาน คัปปะจะอ่อนแรงลง และพ่ายแพ้ในที่สุดซึ่งจะทำให้คัปปะเสียใจอย่างมาก นิสัยของคัปปะ คือ ชอบกินแตงกวาในฤดูเก็บเกี่ยวแตงกวาของเกษตรกร ที่ญี่ปุ่นจึงมีธรรมเนียมการลอยแตงกวาลงแม่น้ำเพื่อเซ่นวารีเทพ และทำทานให้ผีอดโซ เป็นที่มาของเรื่องเล่าที่ว่า หากชายใดแก้ผ้าลงเล่นน้ำในแม่น้ำอาจถูกคัปปะดึงของลับ เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแตงกวาที่เอามาเซ่น คัปปะมีนิสัยที่ขี้เล่นและอยากรู้อยากเห็นซึ่งบางครั้งก็เป็นอันตรายกับมนุษย์
คัปปะมีความอันตรายเช่นเดียวกับผีร้ายอื่นๆมีเรื่องเล่าอยู่เสมอๆ ว่าคัปปะเคยหลอกล่อให้คนลงไปในน้ำ มักจะลากม้าหรือเด็กๆลงแม่น้ำจนจมน้ำตาย หากถูกชาวประมงจับได้ มันจะปล่อยตดออกมาป้องกันตัวซึ่ง“เหม็นบรรลัย” ทั้งยังมีเรื่องเล่าที่ว่า คัปปะจะคอยแอบอยู่แถวๆ ส้วม เมื่อคนเผลอมันจะแกล้งโดยใช้นิ้วสวนทวารซึ่งพฤติกรรมพิเรนนี้ อาจทำให้มันถูกคนจับตัวได้แต่คัปปะมีความสุภาพอ่อนน้อมและมีสัมมาคาราวะมาก คัปปะเป็นพรายที่มีความคิดความรู้สึกผิดมันจะขอโทษโดยการจับปลามาให้ที่หน้าประตูบ้านทุกวัน หรือไม่ก็มอบยาสมุนไพรชั้นเลิศที่มันปรุงขึ้นมาให้ซึ่งคัปปะมีความเชี่ยวชาญด้านการปรุงยาลี้ลับอย่างมาก
ความเชื่อเรื่องคัปปะ มีกระจายไปทั่วประเทศญี่ปุ่น มีตำนานเล่าว่ามีช่างไม้ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งชื่อ ฮิดาริจินโกโร่ อ้างว่าตุ๊กตาไม้ที่เขาทำโยนลงน้ำ กลายเป็นคัปปะไปอีกตำนานก็เล่าว่า เดิมคัปปะเป็นเทพที่ดูแลแม่น้ำลำคลอง แต่เมื่อมนุษย์เลิกนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์คัปปะเลยตกชั้นเป็นเพียงภูตผีธรรมดา อาจเป็นไปได้ว่าสิ่งที่มีบุคคลเห็นปีศาจชนิดนี้ คือ สัตว์บางประเภทเช่น นาก หรือ ลิงมาก้มดื่มน้ำในเวลากลางคืนก็ได้
การาสุเทนกุสามารถเรียกพายุได้เชี่ยวชาญมนต์มายา และวิชาแปลงกาย มีพละกำลังมากทั้งยังเจนจัดการรบเป็นสมุนที่พึ่งพาได้ของไดเทนกุ ซึ่งเป็นเทนกุที่มีลำดับชั้นสูงกว่าลักษณะของการาสุเทนกุคล้ายกับมนุษย์นก ซึ่งมักไปไหนมาไหนด้วยการบินแต่ว่าไดเทนกุจะใช้วิธีเคลื่อนย้ายในพริบตา มากกว่าการบินถ้าเป็นระยะทางสั้นๆ
การาสุเทนกุชื่นชมผู้กล้าที่กล้าต่อกรกับผู้นำทรราชการาสุเทนกุจะช่วยเหลือเหล่าผู้กล้า ให้สามารถสู้เพื่อความยุติธรรมได้ จึงมีคนเชื่อว่าการที่ชื่อเสียงของการาสุเทนกุเสียหายเป็นเพราะเหล่าผู้นำทรราชที่สูญเสียอำนาจใส่ความการาสุเทนกุ ดังนั้นแม้ว่าในยุคปัจจุบันมนุษย์จึงมีความยำเกรงการาสุเทนกุบางครั้งถึงกับเรียกว่าเป็น “เทพพยาบาท” เมื่อใดที่มนุษย์ลุ่มหลงในอำนาจ หรือ “ผิดคำสาบาน”การาสุเทนกุจะออกมาจากเขาแล้วทำลายผู้นั้นให้สิ้นซาก
มีเรื่องเล่าหนึ่งเล่าว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งที่สายตาย่ำแย่มาก เล็งอะไรไม่เคยแม่นยำเลยแต่ถูกการาสุเทนกุเข้าสิง และในฝันการาสุเทนกุได้สอนวิชาดาบให้กับเด็กผู้หญิงคนนั้นจนเธอกลายเป็นนักดาบที่ร้ายกาจและมีชื่อเสียง บางข่าวลือก็เล่าว่า เหล่า “ชิโนบิ” หรือนินจาคือเหล่าผู้ที่ได้รับการฝึกฝนวิชาจากการาสุเทนกุ
เรื่องเล่าที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการาสุเทนกุคือ เรื่องราวของ มินาโมโตะ โนะ โยชิซึเนะ (Minamoto noYoshitsune) ซึ่งเดิมชื่อว่า“อุชิวากะมารุ”เป็นลูกชายของ “โยริโทโมะ”ซึ่งเป็นเจ้าเมืองที่ถูกลอบสังหาร แต่อุชิวากะมารุได้รับการไว้ชีวิตอุชิวากะมารุจึงออกบวช และเร้นกายอยู่ในวัดแถบ “หุบเขาคุรามะ” 「くらま山」 มีอยู่วันหนึ่ง อุชิวากะมารุได้ไปพบกับการาสุเทนกุเข้าการาสุเทนกุรู้สึกถูกชะตากับอุชิวากะมารุ จึงสอนเพลงดาบให้ จนอุชิวากะมารุเป็นนักดาบที่เก่งกาจและสามารถรวบรวมกองกำลัง ชิงอำนาจกลับคืนมาได้เป็นผลสำเร็จ และได้เป็น “มินาโมโตะโน โยชิซึเนะ”
นกสามขาที่มีลักษณะคล้ายกับการาสุเทนกุก็คืออีกาสามขา“ยะตะกะระสุ” 「やたからす」ซึ่งเป็นนกประจำตัวของ “เทพีสุริยาอะมะเตะระสุ” 「あまてらす」 และเป็นสัญลักษณ์ของสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นในปัจจุบัน
----------------------------------------------------------------------------------------
「ざしきわらし」(Zashikiwarashi) ซะชิกิวะระชิ
การที่ซะชิกิวะระชิจะเลือกอาศัยบ้านหลังไหนนั้นไม่ทราบแน่ชัด แต่จะชอบเลือกบ้านที่ค่อนข้างเก่ามากกว่า สำหรับบ้านสมัยใหม่ซะชิกิวะระชิอาจจะเลือกเข้าอยู่บ้างแต่ต้องไม่มีสำนักงานในตัวบ้าน เพราะซะชิกิวะระชิไม่ชอบกิจวัตรประจำวันที่อึกทึก ผู้คนพยายามที่จะสร้างห้องไว้ให้สำหรับซะชิกิวะระชิโดยเฉพาะอย่างยิ่งตามโรงแรมและสำนักงานโดยจะเป็นห้องที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาและของเล่น แต่ความพยายามดังกล่าวมักสูญเปล่า
การจะให้ซะชิกิวะระชิอยู่กับบ้านใดบ้านหนึ่งนานๆต้องการการดูแลที่เหมาะสม ซะชิกิวะระชิไม่ชอบการเอาใจที่มากเกินไป เพราะว่าซะชิกิวะระชิมีนิสัยเหมือนเด็กบางครั้งก็สร้างปัญหาให้ได้เหมือนกัน การพูดคุยอย่างสุภาพเป็นวิธีที่ดีกว่าการแสดงอารมณ์โกรธเพราะความโกรธจะขับไล่ซะชิกิวะระชิไปเหมือนกัน
3เรื่องสุดท้าย Credit :Wikipedia ค่ะ
ขอบคุณที่คอยติดตามกันนะคะ
จะรีบมาอัพให้เร็วๆเรื่อยๆ นะคะ
รีบอัพให้ได้เยอะๆ ก่อนที่จะต้องส่งเครื่องจ้า
「あみきり」(Amikiri)อะมิคิริ หรือ ภูตตัดตาข่าย
มีลักษณะคล้ายกุ้งผสมกับงูส่วนมากมีขนาดตัวค่อนข้างเล็ก ในสมัยก่อนตาข่ายดักยุงเป็นสิ่งเดียวที่จะป้องกันจากยุงในเวลาค่ำคืนตอนรุ่งเช้าจะพบว่าตาข่ายกลับขาดเป็นรู จึงเกิดเป็นเรื่องเล่าของอะมิคิริขึ้นมาซึ่งมันจะมีพฤติกรรมชอบตัดตาข่าย
อะมิคิริจัดอยู่ในประเภท“พรายน้ำ” เป็นภูตที่รักสงบ แต่สร้าง “ความรำคาญ” ให้กับมนุษย์ในบางครั้งไม่เป็นอันตรายกับมนุษย์ ไม่ค่อยชอบให้ใครพบเห็นตัวมันนักแต่สามารถบินในอากาศได้เหมือนกับว่ายน้ำเมื่ออยู่ในน้ำมันมักจะตัดตาข่ายหรือแหของชาวประมงที่ขวางทางอะมิคิริชอบอยู่ในน้ำมากกว่าบนบก นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าที่ว่า มันชอบตัดเสื้อผ้าที่ตากไว้ให้เป็นรูอีกด้วย มักจะพบเรื่องเล่าเกี่ยวกับอะมิคิริในน้ำมากกว่าบนบกและมักเกี่ยวข้องกับชาวประมง อะมิคิริสามารถว่ายน้ำได้อย่างรวดเร็วสามารถแปลงกายเพื่อขึ้นบกได้เป็นเวลาสั้นๆ และใช้มนต์มายาได้เล็กน้อย
ถ้าเจอตัวเมื่อไหร่จะจับมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วย่างเป็นกุ้งย่างมันซะเลย!!!
อะมิคิริจัดอยู่ในประเภท“พรายน้ำ” เป็นภูตที่รักสงบ แต่สร้าง “ความรำคาญ” ให้กับมนุษย์ในบางครั้งไม่เป็นอันตรายกับมนุษย์ ไม่ค่อยชอบให้ใครพบเห็นตัวมันนักแต่สามารถบินในอากาศได้เหมือนกับว่ายน้ำเมื่ออยู่ในน้ำมันมักจะตัดตาข่ายหรือแหของชาวประมงที่ขวางทางอะมิคิริชอบอยู่ในน้ำมากกว่าบนบก นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าที่ว่า มันชอบตัดเสื้อผ้าที่ตากไว้ให้เป็นรูอีกด้วย มักจะพบเรื่องเล่าเกี่ยวกับอะมิคิริในน้ำมากกว่าบนบกและมักเกี่ยวข้องกับชาวประมง อะมิคิริสามารถว่ายน้ำได้อย่างรวดเร็วสามารถแปลงกายเพื่อขึ้นบกได้เป็นเวลาสั้นๆ และใช้มนต์มายาได้เล็กน้อย
ถ้าเจอตัวเมื่อไหร่จะจับมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วย่างเป็นกุ้งย่างมันซะเลย!!!
----------------------------------------------------------------------------------------
「こだま」(Kodama) โคะดะมะ
โคะดะมะเป็นวิญญาณแห่งป่า แต่ไม่ใช่ว่าต้นไม้ทุกต้นจะกลายเป็นโคะดะมะ เรื่องเล่าของโคะดะมะมักจะเกิดกับต้นไม้ที่มีอายุมากๆใครก็ตามที่ไปตัดต้นไม้ที่กลายเป็นโคะดะมะแล้ว จะเกิดความ “หายนะ” แก่ผู้นั้น และแถบพื้นที่ที่คนนั้นอาศัยอยู่ทั้งหมด
ต้นไม้ที่น่าจะกลายเป็นโคะดะมะผู้คนจะนำเชือกศักดิ์สิทธิ์ 「しめなわ」 (Shimenawa) มาผูกไว้ เพื่อให้โคะดะมะคอยปกป้องคุ้มครอง โคะดะมะนั้นมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่มีนิสัยชอบปลอมเสียงผู้คน ดังนั้นเมื่อไปตะโกนที่ภูเขาแล้วมีเสียงสะท้อนกลับมาคนญี่ปุ่นจึงเรียกเสียงสะท้อนนั้นว่า “โคะดะมะ”
ต้นไม้ที่น่าจะกลายเป็นโคะดะมะผู้คนจะนำเชือกศักดิ์สิทธิ์ 「しめなわ」 (Shimenawa) มาผูกไว้ เพื่อให้โคะดะมะคอยปกป้องคุ้มครอง โคะดะมะนั้นมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่มีนิสัยชอบปลอมเสียงผู้คน ดังนั้นเมื่อไปตะโกนที่ภูเขาแล้วมีเสียงสะท้อนกลับมาคนญี่ปุ่นจึงเรียกเสียงสะท้อนนั้นว่า “โคะดะมะ”
โคะดะมะอาจอยู่ในร่างที่เป็นมนุษย์หรือ“ไม่ใช่มนุษย์” ก็ได้ ซึ่ง “วิญญาณพฤกษา (Dryad) ส่วนมากมักไม่อยู่ในรูปต้นไม้อยู่แล้ว โคะดะมะไม่ชอบผู้ที่ไม่เคารพผืนป่า ใครก็ตามที่ตัดต้นไม้โดยไม่จำเป็นเหล่าโคะดะมะจะหาทางแก้แค้นผู้นั้น แต่โคะดะมะส่วนมากรักสงบ และชอบที่จะแลกเปลี่ยนความรู้กับใครก็ตามที่สามารถสื่อสารกับโคะดะมะได้เนื่องมาจากเชื่อกันว่าวิญญาณยิ่งอยู่นานยิ่ง “แข็งแกร่ง”โคะดะมะเป็นวิญญาณของต้นไม้ที่มีอายุยืนนานมาหลายร้อยปีจึงมีพลังมหาศาลตรงกันข้ามกับท่าทีที่สงบนิ่งไม่มีพิษภัย
2 เรื่องที่ผ่านมาเป็นCedit :Dek-D ค่ะ
----------------------------------------------------------------------------------------
「かっぱ」(Kappa) คัปปะ หรือ กัปปะ
เป็นผีญี่ปุ่นชนิดหนึ่งจัดอยู่ในจำพวกพรายน้ำ มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกบ ตัวสีเขียว แต่มีกระดองเต่าอยู่ข้างหลังเท้ามีพังผืดทั้งเท้าหน้าและเท้าหลัง จมูกแหลม มีลักษณะศีรษะที่แบนและกลางกระหม่อมไม่มีผมเป็นปีศาจที่อาศัยอยู่ตามหนองน้ำหรือแหล่งน้ำต่าง ๆ เชื่อว่า อาหารที่คัปปะชอบคือ แตงกวาชอบเล่นซูโม่ เพราะมีพละกำลังเยอะ ลักษณะพิเศษ คือ มีจานอยู่บนหัวไว้เก็บน้ำ ซึ่งน้ำจะทำให้คัปปะมีพลังพิเศษและมีพละกำลังมากขึ้น ในทางกลับกันถ้าสูญเสียน้ำไป คัปปะจะอ่อนแรงลงอย่างมากถึงขนาดที่ไม่สามารถขยับตัวได้ถึงแม้ว่าคัปปะจะมีรูปร่างพอๆกับเด็ก แต่ก็เป็นผีที่เอาชนะได้ยากมันมีปากแหลมเหมือนนก ผิวเป็นเมือกลื่น อาจมีสีเขียว น้ำเงิน หรือแดง มือเป็นพังผืดที่หลังจะมีกระดองเต่า มีขนดกทั่วตัว แขนขาของคัปปะยาว และยืดหยุ่นได้ เมื่อคัปปะขึ้นจากน้ำจะหมดฤทธิ์จึงใส่น้ำไว้บนศีรษะที่แบนราบของตัวเอง ดังนั้นเมื่อพบเจอกับคัปปะให้ก้มคาราวะเมื่อคัปปะคาราวะตอบ น้ำบนศีรษะจะหก ทำให้หมดฤทธิ์ และอีกวิธี ก็คือให้เขียนชื่อตัวเอง ลงไปในแตงกวา แล้วขว้างลงไปในแม่น้ำ เมื่อ คัปปะ มาเจอแตงกวานี้เข้าก็จะกินอย่างเอร็ดอร่อยและ ก็จดจำชื่อ ที่อยู่บนแตงกวาด้วย คราวหน้าบังเอิญต้องเจอะเจอเจ้าของชื่อ คัปปะ ก็จะไม่ทำอันตรายอะไร ปัจจุบันมีซูชิ “ไส้แตงกวา” เรียกว่า"คัปปะ มากิ" 「かっぱ まき」
คัปปะมีความมั่นใจในพละกำลังตัวเองมากมักจะท้ามนุษย์ในการแข่งซูโม่ จึงมีเรื่องเล่าว่าคนที่ฉลาดจะทำความเคารพคัปปะก่อนเริ่มการประลอง ด้วยการก้มศีรษะ แล้วคัปปะจะก้มตามทำให้น้ำกระฉอกออกจากจาน คัปปะจะอ่อนแรงลง และพ่ายแพ้ในที่สุดซึ่งจะทำให้คัปปะเสียใจอย่างมาก นิสัยของคัปปะ คือ ชอบกินแตงกวาในฤดูเก็บเกี่ยวแตงกวาของเกษตรกร ที่ญี่ปุ่นจึงมีธรรมเนียมการลอยแตงกวาลงแม่น้ำเพื่อเซ่นวารีเทพ และทำทานให้ผีอดโซ เป็นที่มาของเรื่องเล่าที่ว่า หากชายใดแก้ผ้าลงเล่นน้ำในแม่น้ำอาจถูกคัปปะดึงของลับ เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแตงกวาที่เอามาเซ่น คัปปะมีนิสัยที่ขี้เล่นและอยากรู้อยากเห็นซึ่งบางครั้งก็เป็นอันตรายกับมนุษย์
คัปปะมีความอันตรายเช่นเดียวกับผีร้ายอื่นๆมีเรื่องเล่าอยู่เสมอๆ ว่าคัปปะเคยหลอกล่อให้คนลงไปในน้ำ มักจะลากม้าหรือเด็กๆลงแม่น้ำจนจมน้ำตาย หากถูกชาวประมงจับได้ มันจะปล่อยตดออกมาป้องกันตัวซึ่ง“เหม็นบรรลัย” ทั้งยังมีเรื่องเล่าที่ว่า คัปปะจะคอยแอบอยู่แถวๆ ส้วม เมื่อคนเผลอมันจะแกล้งโดยใช้นิ้วสวนทวารซึ่งพฤติกรรมพิเรนนี้ อาจทำให้มันถูกคนจับตัวได้แต่คัปปะมีความสุภาพอ่อนน้อมและมีสัมมาคาราวะมาก คัปปะเป็นพรายที่มีความคิดความรู้สึกผิดมันจะขอโทษโดยการจับปลามาให้ที่หน้าประตูบ้านทุกวัน หรือไม่ก็มอบยาสมุนไพรชั้นเลิศที่มันปรุงขึ้นมาให้ซึ่งคัปปะมีความเชี่ยวชาญด้านการปรุงยาลี้ลับอย่างมาก
ความเชื่อเรื่องคัปปะ มีกระจายไปทั่วประเทศญี่ปุ่น มีตำนานเล่าว่ามีช่างไม้ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งชื่อ ฮิดาริจินโกโร่ อ้างว่าตุ๊กตาไม้ที่เขาทำโยนลงน้ำ กลายเป็นคัปปะไปอีกตำนานก็เล่าว่า เดิมคัปปะเป็นเทพที่ดูแลแม่น้ำลำคลอง แต่เมื่อมนุษย์เลิกนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์คัปปะเลยตกชั้นเป็นเพียงภูตผีธรรมดา อาจเป็นไปได้ว่าสิ่งที่มีบุคคลเห็นปีศาจชนิดนี้ คือ สัตว์บางประเภทเช่น นาก หรือ ลิงมาก้มดื่มน้ำในเวลากลางคืนก็ได้
----------------------------------------------------------------------------------------
「からすてんく」(Karasutenku) คะระสุเท็นกุหรือ การาสุเทนกุ หรือ นกสามขา
「からすてんく」(Karasutenku) คะระสุเท็นกุหรือ การาสุเทนกุ หรือ นกสามขา
ความเชื่อเรื่องนกสามขาที่มีอยู่ทั้งในแถบญี่ปุ่นและเกาหลีโดยทางญี่ปุ่นเชื่อว่าการาสุเทนกุ มีภาพลักษณ์ของปีศาจร้าย และมักจะสร้างพายุเข้าโจมตีผู้คนเสมอๆซึ่งประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ ถูกพายุถล่มบ่อยครั้ง การาสุเทนกุเป็นข้ารับใช้ของ“ไดเทนกุ” 「だいてんく」 ซึ่งมักปรากฏภาพของไดเทนกุที่ล้อมรอบไปด้วยการาสุเทนกุ บางความเชื่อนั้นเชื่อว่าการาสุเทนกุไม่ได้เป็นผีร้ายทั้งยังเป็นปีศาจที่รักสงบและสุภาพ แต่การกระทำร้ายๆนั้น เป็นเพราะการาสุเทนกุต้องทำตามคำสั่งของไดเทนกุ
ตามความเชื่อแล้วการาสุเทนกุมีแต่เพศผู้ จะอาศัยอยู่ในป่าลึก เป็นผีที่คาดเดาไม่ได้ ตามเรื่องเล่ามักจะพฤติกรรมที่คาดเดาได้ยากบางครั้งมันจะลักพาตัวเด็กๆ ไปทิ้งไว้ในป่า แล้วเฝ้ามองเด็กที่หลงทางอยู่ในป่า แต่บางเรื่องเล่าผู้คนก็บอกว่าเมื่อใดที่หลงป่าให้ขอร้องให้การาสุเทนกุช่วยแล้วมันจะนำทางออกจากป่าให้ได้ การาสุเทนกุยังชอบปล่อยข่าวลือสร้างความวุ่นวายให้มนุษย์ แต่บางคนกลับเชื่อว่าการาสุเทนกุชอบสงคราม อีกทั้งมันยังเชื่อว่ามนุษย์ไม่ควรมีอำนาจมากเกินไปเหตุการณ์การประท้วงหรือสงครามในสมัยก่อน จึงมักโทษว่าเป็นฝีมือของการาสุเทนกุที่ปล่อยข่าวลือ
ตามความเชื่อแล้วการาสุเทนกุมีแต่เพศผู้ จะอาศัยอยู่ในป่าลึก เป็นผีที่คาดเดาไม่ได้ ตามเรื่องเล่ามักจะพฤติกรรมที่คาดเดาได้ยากบางครั้งมันจะลักพาตัวเด็กๆ ไปทิ้งไว้ในป่า แล้วเฝ้ามองเด็กที่หลงทางอยู่ในป่า แต่บางเรื่องเล่าผู้คนก็บอกว่าเมื่อใดที่หลงป่าให้ขอร้องให้การาสุเทนกุช่วยแล้วมันจะนำทางออกจากป่าให้ได้ การาสุเทนกุยังชอบปล่อยข่าวลือสร้างความวุ่นวายให้มนุษย์ แต่บางคนกลับเชื่อว่าการาสุเทนกุชอบสงคราม อีกทั้งมันยังเชื่อว่ามนุษย์ไม่ควรมีอำนาจมากเกินไปเหตุการณ์การประท้วงหรือสงครามในสมัยก่อน จึงมักโทษว่าเป็นฝีมือของการาสุเทนกุที่ปล่อยข่าวลือ
การาสุเทนกุสามารถเรียกพายุได้เชี่ยวชาญมนต์มายา และวิชาแปลงกาย มีพละกำลังมากทั้งยังเจนจัดการรบเป็นสมุนที่พึ่งพาได้ของไดเทนกุ ซึ่งเป็นเทนกุที่มีลำดับชั้นสูงกว่าลักษณะของการาสุเทนกุคล้ายกับมนุษย์นก ซึ่งมักไปไหนมาไหนด้วยการบินแต่ว่าไดเทนกุจะใช้วิธีเคลื่อนย้ายในพริบตา มากกว่าการบินถ้าเป็นระยะทางสั้นๆ
การาสุเทนกุชื่นชมผู้กล้าที่กล้าต่อกรกับผู้นำทรราชการาสุเทนกุจะช่วยเหลือเหล่าผู้กล้า ให้สามารถสู้เพื่อความยุติธรรมได้ จึงมีคนเชื่อว่าการที่ชื่อเสียงของการาสุเทนกุเสียหายเป็นเพราะเหล่าผู้นำทรราชที่สูญเสียอำนาจใส่ความการาสุเทนกุ ดังนั้นแม้ว่าในยุคปัจจุบันมนุษย์จึงมีความยำเกรงการาสุเทนกุบางครั้งถึงกับเรียกว่าเป็น “เทพพยาบาท” เมื่อใดที่มนุษย์ลุ่มหลงในอำนาจ หรือ “ผิดคำสาบาน”การาสุเทนกุจะออกมาจากเขาแล้วทำลายผู้นั้นให้สิ้นซาก
มีเรื่องเล่าหนึ่งเล่าว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งที่สายตาย่ำแย่มาก เล็งอะไรไม่เคยแม่นยำเลยแต่ถูกการาสุเทนกุเข้าสิง และในฝันการาสุเทนกุได้สอนวิชาดาบให้กับเด็กผู้หญิงคนนั้นจนเธอกลายเป็นนักดาบที่ร้ายกาจและมีชื่อเสียง บางข่าวลือก็เล่าว่า เหล่า “ชิโนบิ” หรือนินจาคือเหล่าผู้ที่ได้รับการฝึกฝนวิชาจากการาสุเทนกุ
เรื่องเล่าที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการาสุเทนกุคือ เรื่องราวของ มินาโมโตะ โนะ โยชิซึเนะ (Minamoto noYoshitsune) ซึ่งเดิมชื่อว่า“อุชิวากะมารุ”เป็นลูกชายของ “โยริโทโมะ”ซึ่งเป็นเจ้าเมืองที่ถูกลอบสังหาร แต่อุชิวากะมารุได้รับการไว้ชีวิตอุชิวากะมารุจึงออกบวช และเร้นกายอยู่ในวัดแถบ “หุบเขาคุรามะ” 「くらま山」 มีอยู่วันหนึ่ง อุชิวากะมารุได้ไปพบกับการาสุเทนกุเข้าการาสุเทนกุรู้สึกถูกชะตากับอุชิวากะมารุ จึงสอนเพลงดาบให้ จนอุชิวากะมารุเป็นนักดาบที่เก่งกาจและสามารถรวบรวมกองกำลัง ชิงอำนาจกลับคืนมาได้เป็นผลสำเร็จ และได้เป็น “มินาโมโตะโน โยชิซึเนะ”
นกสามขาที่มีลักษณะคล้ายกับการาสุเทนกุก็คืออีกาสามขา“ยะตะกะระสุ” 「やたからす」ซึ่งเป็นนกประจำตัวของ “เทพีสุริยาอะมะเตะระสุ” 「あまてらす」 และเป็นสัญลักษณ์ของสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นในปัจจุบัน
----------------------------------------------------------------------------------------
「ざしきわらし」(Zashikiwarashi) ซะชิกิวะระชิ
ตามความเชื่อของญี่ปุ่นส่วนมากมักจะอยู่ในรูปเป็นเด็กผู้หญิงที่อายุน้อยๆ ราวๆ 5-14 ปี อาศัยอยู่ตามห้องของบ้านที่เก่าๆและตามอาคารต่างๆ บางครั้งจะวิ่งเล่นจนผู้อาศัยได้ยินเสียงบางครั้งจะออกมาเล่นกับเด็กๆ ซึ่งผู้ใหญ่จะมองไม่เห็น ซะชิกิวะระชิยังช่วยปกป้องเจ้าของบ้านจากภยันตรายต่างๆรวมไปถึงสิ่งอัปมงคลที่จะมาย่างกรายเข้ามา ภายในบ้านที่ซะชิกิวะระชิอาศัยอยู่
เนื่องจากซะชิกิวะระชิจัดว่าเป็นผีประเภทหนึ่งและมีพลังที่น่ากลัวของ “เทพอารักษ์” ซึ่งมีทั้งคุณและโทษ มีเรื่องเล่าว่าหากซะชิกิวะระชิไปอาศัยอยู่ที่บ้านของใคร จะนำโชคลาภมหาศาล และความมั่งคั่งมาสู่บ้านหลังนั้นแต่เมื่อใดซะชิกิวะระชิจากบ้านนั้นไป ทรัพย์สมบัติและความเจริญรุ่งเรืองที่ซะชิกิวะระชินำมาจะมลายหายไปจนสิ้น และความพินาศจะมาเยือน
เนื่องจากซะชิกิวะระชิจัดว่าเป็นผีประเภทหนึ่งและมีพลังที่น่ากลัวของ “เทพอารักษ์” ซึ่งมีทั้งคุณและโทษ มีเรื่องเล่าว่าหากซะชิกิวะระชิไปอาศัยอยู่ที่บ้านของใคร จะนำโชคลาภมหาศาล และความมั่งคั่งมาสู่บ้านหลังนั้นแต่เมื่อใดซะชิกิวะระชิจากบ้านนั้นไป ทรัพย์สมบัติและความเจริญรุ่งเรืองที่ซะชิกิวะระชินำมาจะมลายหายไปจนสิ้น และความพินาศจะมาเยือน
การที่ซะชิกิวะระชิจะเลือกอาศัยบ้านหลังไหนนั้นไม่ทราบแน่ชัด แต่จะชอบเลือกบ้านที่ค่อนข้างเก่ามากกว่า สำหรับบ้านสมัยใหม่ซะชิกิวะระชิอาจจะเลือกเข้าอยู่บ้างแต่ต้องไม่มีสำนักงานในตัวบ้าน เพราะซะชิกิวะระชิไม่ชอบกิจวัตรประจำวันที่อึกทึก ผู้คนพยายามที่จะสร้างห้องไว้ให้สำหรับซะชิกิวะระชิโดยเฉพาะอย่างยิ่งตามโรงแรมและสำนักงานโดยจะเป็นห้องที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาและของเล่น แต่ความพยายามดังกล่าวมักสูญเปล่า
การจะให้ซะชิกิวะระชิอยู่กับบ้านใดบ้านหนึ่งนานๆต้องการการดูแลที่เหมาะสม ซะชิกิวะระชิไม่ชอบการเอาใจที่มากเกินไป เพราะว่าซะชิกิวะระชิมีนิสัยเหมือนเด็กบางครั้งก็สร้างปัญหาให้ได้เหมือนกัน การพูดคุยอย่างสุภาพเป็นวิธีที่ดีกว่าการแสดงอารมณ์โกรธเพราะความโกรธจะขับไล่ซะชิกิวะระชิไปเหมือนกัน
3เรื่องสุดท้าย Credit :Wikipedia ค่ะ
ขอบคุณที่คอยติดตามกันนะคะ
จะรีบมาอัพให้เร็วๆเรื่อยๆ นะคะ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kil159357 เมื่อ 2012-3-26 09:18
ตำนานผีญี่ปุ่น (4)
[IMG]