เรารู้คุณก็ใช้ - -+
นานแล้วที่ภาษาแชทถูกเรียกว่าภาษาวิบัติ เพียงเพราะมันเขียนผิดจากพจนานุกรมกำหนด ( ซึ่งถ้าการเขียนผิดจากพจนานุกรมกำหนดเรียกว่าเป็นการทำภาษาวิบัติ คนที่เขียนผิดโดยไม่ตั้งใจก็ต้องเรียกว่าเป็นผู้ที่ทำให้ภาษาวิบัติเช่นกัน ) ทั้งๆที่พจนานุกรมก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ( ใครยังเขียนคำว่า มุกตลก ว่า มุขตลก อยู่ยกมือขึ้น =w=/ .... นั่นแน่ะ คุณก็เป็นหนึ่งในคนที่ทำภาษาวิบัติตามบรรทัดฐานนี้เหมือนกัน! :P )
ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วไม่เห็นด้วยสักเท่าไรนักกับความคิดนั้น ภาษาไทยเปลี่ยนแปลงจากอดีตมาก ภาษาในปัจจุบันเองก็น่าจะเป็นภาษาวิบัติในอดีต การจะให้มาขีดเส้นแบ่งว่าอะไรเป็นวิบัติอะไรเป็นวิวัฒนาการโดยอาศัยความถูกใจส่วนตนของผู้คนมันก็ดูจะตลกไปหน่อยนะ ว่าไหม?
(อาจเยอะนิดนึงน่ะ ^^ ในเนื้อหาข้างล้างน่ะ )
[hide]การสื่อสารด้วยตัวอักษรนั้นมีกันมาช้านานตั้งแต่โบราณ โดยแต่ละสถานการณ์นั้นก็มีวิธีการเขียนเพื่อสื่อสารต่างๆกันไป การเขียนบทความ การเขียนนิยาย การเขียนข่าว แม้แต่การเขียนจดหมายเหมือนๆกัน ก็ยังมีวิธีการใช้คำที่เหมาะสมแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผู้รับ
ในสังคมไซเบอร์เอง การสื่อสารด้วยตัวอักษรจัดเป็นวิธีการสื่อสารหลัก ทั้งการเขียนเว็บ เขียนบล็อก พูดคุยกันในเว็บบอร์ด MSN หรือ IRC .... พวกเราติดต่อผู้อื่นกันด้วยการพิมพ์การเขียนมากกว่าการพูดเสียอีก
ข้อจำกัดของการสื่อสารนี้คือ ในหลายๆครั้ง ไม่อาจแสดงน้ำเสียงหรือสำเนียงได้ดังเช่นภาษาพูด ทำให้การเล่าเรื่องบางอย่าง ขาดอรรถรสไปมาก จึงเริ่มมีการดัดแปลงวิธีการสะกดคำ ให้ผิดเพี้ยน เพื่อเลียนเสียงพูดขึ้นมา
ฉัน > ชั้น, ช้าน, ฉาน
ดิฉัน > ดิชั้น, ดิจั๋น, ดั๊น, ดั๋น, เดี๊ยน, เดี๋ยน
น้อง > นุ้ง
จริง > เจง, เจรง
อะไร > อาราย, อะรัย, อะร้ายยยย, อะรั้ยย์
สัตว์ > สัด, สาด, ฉาด, สราด, สุหราด, แสด, แฉด, แสรด, สุแหรด, ฯลฯ
โคตร > โครต, โคด, ค่อด, ค่อดส์
อีอ้วน > อีย์อ้วน
ฯลฯ
ถามว่าถูกต้องตามพจนานุกรมหรือไม่? คงต้องตอบว่าไม่
แต่ถ้าถามว่าอ่านแล้วสื่อสำเนียงสื่ออารมณ์กว่าเขียนปกติมั้ย? คงมีคนเห็นด้วยเกิน 50% แน่นอน
ส่วนตัวแล้วขอเรียกภาษาที่จงใจเขียนให้เพี้ยนผิดเพื่อเลียนเสียงภาษาพูด/สื่อสำเนียง/สื่ออารมณ์เหล่านี้ว่า ภาษาแชท ( เพราะว่าใช้ในการสนทนาผ่านอินเตอร์เน็ต )
ภาษาแชทนั้นไม่ได้เกิดจากการต้องการพิมพ์เลียนเสียงสำเนียงเพียงอย่างเดียว ยังมีคนอีกกลุ่มใหญ่ๆที่พิมพ์คำต่างๆผิดจากในพจนานุกรมเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการแชทเพื่อไม่ให้บทสนทนาต้องขาดตอน เช่น ละตัวอักษรที่ต้องกด shift โดยการเลี่ยงไปตัวอักษรอื่นบ้าง เลี่ยงไปใช้คำพ้องเสียงบ้าง เช่น เป้น/เปน ( เป็น ) .....ไม่ก็มาจากการพิมพ์ผิด พิมพ์พลาด ทำให้เกิดศัพท์ใหม่แปลกๆเช่น สุดยิด ( สุดยอด ) เมพขิงๆ ( เทพจิงๆ/จริงๆ )
( ทั้งนี้ไม่ขอกล่าวถึงเรื่องการสะกดไม่ถูก สะกดไม่เป็น ผันไตรยางค์ไม่เป็น เทียบอักษรแทนเสียงตามการสะกดภาษาต่างประเทศไม่เป็น แล้วเลยมั่วสะกดเพราะขี้เกียจเปิดพจนานุกรมหรือตัวอย่างอ้างอิง และพวกอีโมติค่อนสื่ออารมณ์ทั้งหลาย )
ในบรรดาผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจนช่ำชองเพื่อความบันเทิงที่จำเป็นต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น คงมีจำนวนมากที่ไม่อาจปฎิเสธได้ว่าตนเองไม่เคยใช้ภาษาแชท
แปลว่าคนส่วนใหญ่แล้วก็ใช้ภาษาแชทกันอยู่ และสามารถอ่านภาษาแชทได้เข้าใจ ( ซึ่งถือว่าภาษาแชทมีคุณสมบัติขั้นพื้นฐานต่ำสุดของการเป็นภาษาแล้ว นั่นคือ "สามารถสื่อสารให้ผู้อื่นเข้าใจ" ดังนั้นจึงสามารถเรียกมันเป็นภาษาอย่างหนึ่งได้อย่างเต็มภาคภูมิ )
ดังนั้น ส่วนตัวจึงคิดว่า ภาษาแชทนั้นไม่ใช่ภาษาวิบัติ
ไอ้ที่วิบัติน่ะ มารยาทของคนต่างหาก
สมัยนี้การรู้กาลเทศะของผู้คนห่วยแตกลงมากมาย ยกตัวอย่างให้เห็นชัดๆจากกรณีในเอนทรี่ก่อน
ถ้าคำเหล่านี้เป็นเพียงอีกบทสนทนาที่คนๆนี้กำลังพูดคุยอยู่กับเพื่อนหรือคนรู้จักที่สนิทกัน มันมีอะไรที่ไม่สมควรบ้าง? ..... คิดว่ากว่า 90% ของคอมเมนท์ที่แสดงความเห็นออกมาอย่างไม่พอใจในเอนทรี่ก่อนน่าจะงดแสดงความเห็นไป แม้อาจจะยังรู้สึกไม่ชอบใจในการใช้คำอยู่ก็ตาม
เผอิญว่ามันไม่ได้เป็นแบบนั้นอยู่เท่านั้นเอง... ดันเป็นคำสนทนาที่ใช้มาขอโทษ(?)คนที่ไม่สนิทกัน ก็เลยโดนสวดส่งสรรเสริญเสียไม่มีดี...
เพราะภาษาแชทนั้นเปรียบเหมือนภาษาเฉพาะกลุ่ม เปรียบเหมือนเป็นคำหยาบ เปรียบเหมือนเป็นภาษาเผ่าที่จะใช้กันในวงคนสนิทที่อ่านแล้วเข้าใจกัน
คุณใช้คำหยาบคุยกับเพื่อน ใครจะไปว่าคุณได้ ( นอกจากผู้ที่มีส่วนได้เสียในภาพพจน์ เช่นผู้ปกครอง, อาจารย์ทางโรงเรียน, ฯลฯ ) คุยกับเพื่อนสนิทกัน เรียกกันไอ้อีย์อะไรก็ว่าไป ตบหัวเล่นตามประสา ถ้าเพื่อนที่คุณคุยอยู่ด้วยรับได้ คนอื่นจะไปเดือดร้อนแทน ก็ดูจะเสือกเกินไป
แต่ถ้าคุณหันมาใช้กับคนนอก คนที่ไม่สนิทกัน ผู้อาวุโสกว่า ใช้ลงในรายงาน หรือจดหมายราชการปั๊บ....สังคมจะรุมประณามคุณทันที
ภาษาแชทก็แบบนั้นแหละ
ดังนั้นคนที่อยากจะตักเตือน จึงควรจะยกเรื่องมารยาท กาลเทศะ และความพอดีในการใช้ไปติติงแทนที่จะอ้างเรื่องอื่นๆ ( เช่นความทันสมัย หรือเรื่องทำภาษาวิบัติ ) เพราะเห็นความผิดถูกได้ชัดกว่ามาก และทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าตัวเองจงใจเกรียนได้ง่ายกว่ามากด้วย ( ถ้าใครสักคนบอกว่าฉันจะใช้ของฉันแบบนี้แม้มันจะเป็นเรื่องผิดมารยาท แล้วไม่คิดว่าตัวเองเกรียนแล้วล่ะก็ มันก็คงเกินจะเยียวยาแล้ว )
ตัวอย่างการโต้คำแย้ง
คำอ้าง 1 - พิมแบบนี้มันสะดวกดี ไม่ต้องยุ่งยากกดชิฟ ขี้เกียดพิมให้มันถุกๆอ่า
คำโต้แย้ง - แหม่... จะคุยกันยังขี้เกียจ เสียมารยาทไหมนี่ ฟังยังไงก็เหมือนไม่ให้เกียรติกันชัดๆ เหมือนคู่สนทนาไปอ้อนวอนขอให้คุณมาคุยด้วยทั้งๆที่คุณอยู่ในอารมณ์ไม่อยาก ขี้เกียจพิมพ์ .... งั้นรอให้หายขี้เกียจก่อนค่อยมาคุยกันดีไหม?
คำอ้าง 2 - ถ้าพิมทำมะดาแร้วมันจะดูจิงจังเกินปาย ทามให้ดูเคียดๆ ม่ายเฮฮา ม่ายสื่ออารม ม่ายจิงจาย
คำโต้แย้ง - อ๋อ...เหรอคะ... เคยอ่านหนังสือตลกขำขันบ้างไหม หนังสือของโน้สอุดมก็ได้ เอาชัดๆเน้นๆก็พวกที่เขียนเล่าการแสดงเดี่ยวฯทั้งหลาย ไม่มีได้ใช้ภาษาแชทสักแอะ อ่านแล้วเครียดไหม? อารมณ์ไม่สื่อไหม? ดูโกหกหลอกลวงตอแหลไหม? .... คือ เข้าใจนะว่าคำพวกนี้ในหลายๆครั้งมันสื่ออารมณ์ได้ดีกว่า แต่เล่นใช้มันทุกคำนี่ จะบอกว่ามีอารมณ์มากมายอะไรในใจจะสื่อหนักหนาหรือ?....แล้วรู้ไหม ใช้พร่ำเพรื่อแบบนี้มันสื่อสำเนียงออกมาเหมือนคนพิมพ์กำลังพูดไม่ชัด เสียงยานคาง เหมือนเด็กออธิสติกหัดพูด =w=" .... มันก็น่ารักนะ ถ้าคนพิมพ์เป็นแบบนั้นจริงๆ แต่ในเมื่อพิมพ์ให้ถูกๆได้ ออกเสียงให้ชัดๆแต่ไม่ยอมทำ มันก็เหมือนไม่มีใจจะมาสนทนากันดีๆนั่นเอง .... ถ้าไม่อยากคุยก็อย่าคุยเลย เสียมารยาทกับคู่สนทนาที่อุตส่าห์จะคุยด้วยอย่างตั้งใจเปล่าๆ
คำอ้าง 3 - เก๊าะแบบเน้มันสื่อสำเนียงดั้ยดีก่าเขนบั่บปกติตั้งเยอะ ดูหน้าลักงุงิอุอิ๊เดกๆเปนนุ้งน้อยดีอ่า
คำโต้แย้ง - อ่าค่ะ น่ารักมาก... สื่อสำเนียงที่ใช้ตามปกติได้ดีมาก... ( ทำเป็นเล่นไปมีคนพูดด้วยสำเนียงแบบนี้ในโลกจริงๆด้วยนะ ) แล้วเป็นยังไง? น่ารักค่ะ แบ๊วดีค่ะ แอ๊บ(นอร์มอล)ดีค่ะ .... แต่เคยเห็นใครเอาไปใช้คุยกับคนแปลกหน้าไหมคะ? คนในอินเตอร์เน็ตไม่ใช่เพื่อนสนิทหรือ "ตะเอง" ของคุณทุกคนนะคะอีย์อ้วน .... กาลเทศะรู้จักไหมคะ? มารยาทมีไหมคะ? หรือถ้าจะบอกว่าตัวเองไม่ถือสา บอกให้คนอื่นใช้ภาษาที่ใช้กับเพื่อนสนิทกับคุณได้เหมือนกัน แล้วถูกสนทนาภาษาเผ่าอุมกุ่มกุ๋ยใส่แล้วจะมาว่ากันไม่ได้นะคะจอร์จ....อยากให้ผู้อื่นเคารพในตัวคุณเอง ก็ต้องให้ความเคารพในตัวผู้อื่นด้วยเหมือนกัน เป็นหลักการเข้าสังคมพื้นฐานค่ะ
คือ ไม่เถียงนะว่ามันสื่อสำเนียง อารมณ์ และความคิดได้ดี เพราะอ่านแล้วเห็นภาพเลยจริงๆ
( ...ส่วนตัวแล้ว พอเห็นคำว่า " โทดเท " ปั๊บ ก็เห็นภาพเด็กกำลังพูดพลางเคี้ยวหมากฝรั่งจั๊บๆ เอามือเกาตูดไปด้วยในพริบตาเลยอะค่ะ )
ถ้าไม่ได้มีอารมณ์อะไรจะสื่อเป็นพิเศษก็เขียนกันธรรมดาๆ ดีกว่ามั้ย? =A="?
ฝากถึงทุกท่านที่อ่านเอนทรี่ตรงนี้เลย ว่าอย่าไปกังวลเรื่องไกลตัวอย่างภาษาจะวิบัติหรือจะวิวัฒนาการกันเลย
มาช่วยกันเป็นห่วงเรื่องที่คนในสังคมจะมี นิสัย มารยาท กาลเทศะ ที่จะค่อยๆเสื่อมโทรมลงดีกว่า
เนอะ!
ขอให้ทุกท่านได้เจอสังคมที่ดีในเร็ววัน ^^
by http://jelphyr.exteen.com/20090204/entry
[/hide]