ขอโทษที่ให้รอค่าาาาาาาาา
รอบนี้เป็นตำนานนะคะ
อยากจะบอกว่า...แค่เรื่องเดียวก็ล่อไปเกือบชั่วโมงเลยละค่ะ เพราะพิมพ์เองนิเน้อะ
ก็เลยเอามาให้แค่ 2 เรื่องเองน่ะค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะถ้ามันน้อยไป
เพราะเวลาเรามีไม่มากเลยก็เลยได้แค่นี้
งั้นเรามาเริ่มกันเลย...
รอบนี้เป็นตำนานนะคะ
อยากจะบอกว่า...แค่เรื่องเดียวก็ล่อไปเกือบชั่วโมงเลยละค่ะ เพราะพิมพ์เองนิเน้อะ
ก็เลยเอามาให้แค่ 2 เรื่องเองน่ะค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะถ้ามันน้อยไป
เพราะเวลาเรามีไม่มากเลยก็เลยได้แค่นี้
งั้นเรามาเริ่มกันเลย...
ตำนานคู่รัก 500 ปี
ในสมัยโบราณมาแล้ว ที่ปราสาทมัตซึไดระมีตำนานเรื่องเล่าแสนประทับใจอยู่ว่า องค์หญิงมัตซึอิผู้ผู้งามสง่าแห่งปราสาทไปหลงรักกับนายผู้รักษาประตูหนุ่มเข้า ด้วยความรักอันมาจากใจจริงหลายครั้งที่ขบวนองค์หญิงเสด็จ นายผู้รักษาประตูจะเอาดอกไม้มาต้อนรับเป็นประจำ ทั้งคู่มีความสุขกันมากและเรื่องราวซึ้งกินใจจนน้ำตาไหลเกิดขึ้นบ่อยครั้งแต่แล้วความทราบไปถึงเจ้าของปราสาทผู้เป็นพ่อ พระราชานั่นเอง ท่านโกรธมากและได้สั่งให้ประหารองค์หญิงทั้งคู่ร้องไห้จับมือกันไว้แน่นและองหน้ากันเป็นครั้งสุดท้าย องค์หญิงถูกประหารและนำศพไปฝังไว้ที่ใด...ไม่มีใครทราบส่วนนายผู้รักษาประตูโดนทรมานต่างๆ นานาเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน ก่อนนำตัวไปประหารอย่างน่าสมเพช ด้วยความรักที่ทั้งคู่ยอมสละชีวิตให้กันและกัน จึงเกิดเป็นเรื่องเล่าสืบต่อกันมาและแล้วตำนานนี้ก็ลายเป็นเรื่องขวัญผวา!!! เมื่อมีคนพบเหตุการณ์ประหลาดในคืนจันทร์เต็มดวงหรือข้างขึ้นจะพบวิญญาณผู้รักษาประตูคนนั้นออกมาจากหลุมและขุดคุ้ยหาศพองค์หญิงผู้เป็นที่รักด้วยเสียงร้องอันโหยหวนทรมานแต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ทุกๆ ครั้งที่มีการกลบหลุมไปก็จะมีรอยขุดขึ้นมาใหม่ในคืนจันทร์เต็มดวง...หลายชั่วอายุคนผ่านไป มีเด็กวัดกลุ่มหนึ่งต้องการพิสูจน์ตำนานนี้ว่าเป็นจริงหรือไม่พวกเขาจึงพากันไปที่วัดมัตซึมุชินโต (ซึ่งสมัยก่อนเคยเป็นปราสาทและที่เกิดเหตุ) และตอนนั้นเป็นยามเย็นมากแล้วท้องฟ้ามืดสลัวมีเมฆครึ้มไปหมด คืนนี้เป็นคืนข้างขึ้นแต่เมฆกลับบังแสงจันทร์หมด เด็กๆพากันมาหยุดตรงต้นสนอายุหลายร้อยปีที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าและพากันปีนขึ้นไปเพื่อสังเกตการณ์ว่ามีอะไรเกิดขึ้นตามตำนานหรือเปล่าและแล้วเวลาผ่านไปจนถึงเที่ยงคืน เด็กๆ พากันถอดใจและกำลังลงมาจากต้นสน แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์พิศวงขึ้นเมื่อลมพัดพาเมฆลอยออกไปจนหมด แสงจันทร์ข้างขึ้นสาดส่องปรากฏไปทั่วลานวัด และแล้วก็มีเสียงกระดิ่งดังแว่วมาแต่ไกลเด็กๆ มองหน้ากันอย่างฉงน ทันใดนั้น...เบื้องล่างก็มีกลุ่มคนประหลาดกำลังแบกถังไม้หรืออะไรซักอย่างที่ดูคล้ายโลงมาวางตั้งไว้และคนกลุ่มนั้นก็...วูบหายไป...เด็กๆเริ่มเกิดความกลัวแต่แล้วความกลัวนั้นก็ยิ่งพุ่งกระฉูดขึ้นมาอีกเมื่อสิ่งที่ออกมาจากโลงนั้นคือ...ผู้รักษาประตู!!! เขาคลานซัดเซออกมาจากโลงไม้ด้วยสภาพที่แสนอุจาดตาสมดังที่ถูกทรมาน ใบหน้าที่ถูกลอกหนังออกจนเห็นกล้ามเนื้อหน้าแดงๆและมีตะปูตอกอยู่หลายเข็ม ไม่ว่าจะที่หน้าผาก ขมับ หรือแม้กระทั่งดวงตา มีเลือดไหลเยิ้มออกมา และนิ้วที่ถูกดึงเล็บออกและบางนิ้วขาดหายไป เขาคลานออกมาแล้วก็เริ่มขุดคุ้ยดินหาศพองค์หญิงผู้เป็นที่รักอย่างเวทนาแต่ก็หาไม่พบซักที เด็กๆ พากันกลัวจนหัวโกร๋นและเด็กเจ้ากรรมคนหนึ่งดันจามออกมา“ฮักชิ้ว!!!” วิญญาณตนนั้นหันควับมาที่พวกเด็กและรีบปีนขึ้นมาหาอย่างรวดเร็วเด็กๆ ต่างขวัญผวาไปตามๆ กัน เลยพากันเขยิบปีนหนีขึ้นไปเรื่อยๆ ในขณะที่ผีตนนั้นเริ่มปีนขึ้นมาประชิดและแล้วก็ถึงยอดต้นสน...ไม่มีทางหนีอีกแล้ว!!! แต่แล้วบังเอิญ...เด็กคนหนึ่งลื่นตกจากกิ่งไม้ที่หักเขาร้องลั่นตกใจสุดขีด!!! เปลือกไม้ถูกเปิดออก และพบสิ่งหนึ่งในนั้น...ที่เก็บศพองค์หญิง!!! ศพขององค์หญิงหลุดออกมาในขณะที่เด็กคนนั้นช็อกเป็นลมไป และแล้ววิญาณของทั้งคู่ก็ได้พบกัน!!! พลางโผเข้ากอดกันอย่างน่าสงสารและเวทนายิ่งนัก วิญญาณทั้งสองเมื่อได้สมหวังแล้วก็พากันลอยขึ้นฟ้าหายไปเด็กๆ พากันเผ่นหนีกลับไปโดยเร็วที่สุด ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีเรื่องเล่าของวิญญาณคู่นี้ออกมาอาละวาดอีกเลยและเรื่องเล่านี้ก็ตกทอดมาในวัดมัตซึมุชินโตจนปัจจุบัน
-------------------------------------------------------------------------------------------
นางไม้ที่ปรารถนาจะมีรัก
นางไม้ที่ปรารถนาจะมีรัก
เรื่องต่อมาที่จะเสนอต่อไปนี้เป็นตำนานที่ไม่ต่างจาดเรื่องเล่าก่อนหน้านี้ ยังคงเป็นตำนานความรักระหว่างปีศาจกับมนุษย์ อย่างเรื่อง “ยูกิอนนะ” ที่เล่าถึงความรักของปีศาจหิมะกับมนุษย์หนุ่มแต่เรื่องนี้เป็นตำนานความรักของ “ปีศาจสาวงามที่สถิตในต้นหลิวที่มาหลงรักกับมนุษย์”
ทุกคนคงเคยได้ยินเรื่องของปีศาจ“โคะดะมะ”{ ปล. อยู่ใน “ตำนานผีญี่ปุ่น (4)”ค่ะ } ที่เป็นความเชื่อของคนญี่ปุ่นว่า“ในต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่และอายุนับมากกว่า 100 ปี จะมีวิญญาณสถิตอยู่” ซึ่งความเชื่อของเขาและเราก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้จะมิใช่ปีศาจเต็มร้อย น่าจะเป็นภูติเทพธิดาผู้พิทักษ์ต้นหลิวอย่างบ้านเราคงไม่พ้นที่จะเรียกว่า “นางไม้“ อย่างบ้านเรานางไม้เท่ากับเทพธิดาที่มีวิมานสถิตในต้นไม้ที่มีอายุมากกว่า100 ปีขึ้นไป
ในสมัยบุมเม มีซามุไรหนุ่มรูปงามนามว่า “โทะโมะทะดะ” เขามีเจ้านายเป็นเจ้าเมืองโนะโตและเป็นคนที่เจ้าเมืองรักและเอ็นดูอย่างมาก ส่งให้เขาเรียนหนังสือทั้งวิชาการและการทหาร พอเขาเรียนจบก็มีความสามารถเฉลียวฉลาดและมีฝีมือในทางอาวุธต่างๆเป็นที่โปรดปรานของเจ้าเมือง ต่อมาเขาได้รับมอบหมายไปติดต่อราชการลับกับเจ้าเมืองโตเกียวซึ่งเป็นญาติกับเจ้าเมืองโนะโต
ขณะที่โทะโมะทะดะเดินทางไปยังเมืองโตเกียวและช่วงนั้นเป็นฤดูหนาวมีหิมะตกหนัก จึงลำบากต่อการเดินทางกลับเมืองโนะโต เขาเดินทางใช้เวลา3 วัน โทะโมะทะดะเดินทางด้วยม้า พายุหิมะก็พัดแรงขึ้น เขาเริ่มอ่อนแรงและเหน็ดเหนื่อยและระหว่างทางเขาเดินทางมาถึงกระท่อมหลังหนึ่ง มีต้นหลิวต้นใหญ่ 2 ต้น และต้นเล็กสูงไม่ถึงเข่า โทะโมะทะดะลงจากหลังม้าและเดินเข้าไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าของกระท่อมซึ่งมีหญิงชราและชายชราออกมาดู
“พ่อคุณ!!!...มาทำอะไรกลางพายุหิมะนี่ห๊ะดูๆ หนาวตายเลยเข้ามาซิ เข้ามา!!!”
“อาอุยะกิ!!! นำน้ำร้อนมาให้พ่อหนุ่มเขาหน่อยลูก”
“ค่ะ...ท่านแม่”
ชายหนุ่มนั่งบนเบาะ ชายชรานำผ้าห่มผืนหนามาให้
“ห่มซะ จะช่วยให้บรรเทาความหนาวได้”
เปลวไฟที่ก่อเพื่อให้ความอบอุ่นโทะโมะทะดะมองผ่านเปลวไฟตรงหน้า เขาเอามือผิงไฟ
“น้ำร้อนได้แล้วค่า!!!”
โทะโมะทะดะแหงนหน้ามองไปตามเสียงของหญิงสาวเขาสะดุดที่ใบหน้าอันสวยงามของหญิงสาว
“ดีเลย...อ่ะ พ่อหนุ่มดื่มซะหน่อยเดี๋ยวยายใส่ชาให้มันหอมๆนะ”
โทะโมะทะดะรับถ้วยชาและยกถ้วยดื่ม
“ฮะ...อุ่น...อุ่นดีจังขอบพระคุณท่านตาและท่านยายมากนะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกพ่อหนุ่มดีแล้ว...”
โทะโมะทะดะมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆหญิงชรา นางอายจึงหลบหน้าหันไปทางอื่น
“พ่อหนุ่ม...ฮ่าๆๆ...นี่อาอุยะกิลูกสาวข้า”
“อาอุยะกิหรอ...”
โทะโมะทะดะมองเธอไม่ขาดสายตาและเขาจึงเอ๋ยบทโคลงขึ้นว่า
“ระหว่างเดินทางไปหามารดาได้พบเยาว์มาลย์ที่งามประดุจบุพผางามกลางพนาวัลย์เพื่อนางแล้วจึงได้พักค้างในเรือนนาง แม้นดวงสุริยาจะขึ้นแสดงถึงอรุณใหม่ ข้าก็มิอาจอยากจากนางไป” โทะโมะทะดะกล่าวแล้วจ้องนางอย่างไม่ละสายตา
อาอุยะกิมองมาและยิ้มด้วยแก้มสีชมพูอ่อนงามและแววตาที่สดใสเหมือนดวงดาวบนทางช้างเผือกนางจึงตอบเป็นโคลงว่า
“หากแม้นชายแขนอาภรณ์เข้าเร้นประดับด้วยสีสันแห่งดวงสุริยาหวังยิ่งว่าพี่ยาจะไม่จากน้องไป...”
โทะโมะทะดะได้ยินดังนั้นตาตื่นลุกด้วยความยินดี ใจเต้นดีใจ อาอุยะกิรับความรู้สึกที่เขารักต่อเธอแล้ว...
“ข้าแต่ท่านตาท่านยายข้าทนมิไหวแล้ว ข้ารักบุตรสาวท่าน ข้าขอนางเป็นภรรยาได้หรือไม่ข้าจะเลี้ยงนางเป็นอย่างดี”
และแล้วโทะโมะทะดะก็บอกกล่าวว่าตนเป็นใครมีที่มาอย่างไร พอหญิงและชายชราทราบว่าเขาเป็นซามุไรจึงยินยอมยกอาอุยะกิให้แก่เขาอาอุยะกิก็ยินดีที่จะเป็นภรรยา วันต่อมาโทะโมะทะดะก็พาอาอุยะกิขึ้นม้าและมุ่งหน้าไปยังโตเกียว
โทะโมะทะดะได้สาวงามมาเขาก็คิดหนักเกรงกลัวว่านางจะไม่ปลอดภัยเพราะความงามของนาง และก็เป็นจริง!!! นางถูกจับไปเป็นนางกำนัลในวังของเจ้าเมืองโตเกียวจริงๆ โทะโมะทะดะไม่รู้จะทำอย่างไรจึงส่งจดหมายลับให้นางหนีออกจากวังและทั้งสองจะหนีอาญาไปอาศัยในหมู่บ้านชนบทที่ห่างไกล แต่จดหมายนั้นกลับไปอยู่ในมือของเจ้าเมืองเจ้าเมืองอ่านและเกิดความประทับใจในความรักของเขาทั้งสองจึงจัดพิธีแต่งงานให้อย่างยิ่งใหญ่ โทะโมะทะดะและอาอุยะกิก็ได้เป็นสามีภรรยาได้สมดั่งใจปรารถนา
5ปีต่อมาของความสุขและความสัมพันธ์ ในขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งชมสวนและบ่อน้ำที่ดอกบัวกำลังบานสะพรั่งอาอุยะกิในขณะที่กำลังจะอยู่ในอ้อมกอดของโทะโมะทะดะ อยู่ๆนางก็ร้องขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด
“โอ๊ย!!!...”
“อาอุยะกิเป็นอะไรไป!!!”
อาอุยะกิน้ำตาไหลแสดงถึงความเจ็บปวดอย่างมาก
“ท่านพี่...เรามาเป็นสามีภรรยากันได้เพราะผลแห่งบุญที่เราสร้างกันมาแต่...น้องช่างมีบุญน้อยเสียจริงๆ...ฟ้าให้เรามาพบกันและฟ้ายังมาพรากน้องจากท่านพี่อีก...”
“อาอุยะกิ...น้องพูดอะไร....ใครก็ได้ไปตามหมอมาที เร็ว!!!”
พวกคนรับใช้วิ่งกันวุ่นวาย
“ไม่นะ...อาอุยะกิ น้องต้องไม่เป็นอะไรเดี๋ยวหมอก็มาแล้ว...เจ้าต้องหาย”
“ท่านพี่...เวลาของน้องมาถึงแล้ว...พญามัจจุราชท่านย่อมต้องการชีวิตใครท่านย่อมต้องได้...”
อาอุยะกิ...สิ้นลมเสียแล้ว
“อาอุยะกิ!!!..............................................................”
โทะโมะทะดะอยู่ในความโศกเศร้าเจ้าเมืองพยายามจะหาสาวงามมาแต่งงานกับเขา แต่เขารักอาอุยะกิเพียงนางเดียวเขาจึงสละทางโลกมุ่งสู่ทางธรรม เขาบวชเป็นพระและออกธุดงค์ไปตามที่ต่างๆและเขาก็เดินทางผ่านมาบริเวณกระท่อมที่เป็นสถานที่ที่เขากับอาอุยะกิพบกันและเขาหวังจะเข้าไปเยี่ยมเยือนผู้เป็นพ่อตา แม่ยายเสียด้วยแต่เขาไม่พบกระท่อมเขาพบเพียงต้นหลิวใหญ่ 2 ต้น และต้นเล็ก 1 ต้นที่ถูกตัดโคนต้น นี่มิใช่โรคร้ายหรือวิชามนต์ดำอันใดเลย...และเขายังคงอาลัยและส่งอุทิศส่วนบุญกุศลให้แก่...อาอุยะกิ...นางไม้ต้นหลิวอันเป็นที่รักของเขาตลอดไป...-------------------------------------------------------------------------------------------
Credit : Dek-D
คือ...รอบนี้ไม่ได้อยากจะเรียกร้องไรหรอกนะคะ
แต่เท่าที่ดูในสถิติเข้าชมในแต่ละepแล้วน่ะค่ะ
อยากให้ช่วยโพสหรือคะแนนซักนิดน่ะค่ะ
เพราะที่ดู...อย่างเช่น เข้า 196 โพส 9 หรือ เข้า 315 โพส 20 อย่างนี้น่ะค่ะ
ก็เลยอยากขอให้โพสกันซักนิดน่ะค่ะถ้าไม่เป็นการขอร้องมากเกินไป
คือ...รอบนี้ไม่ได้อยากจะเรียกร้องไรหรอกนะคะ
แต่เท่าที่ดูในสถิติเข้าชมในแต่ละepแล้วน่ะค่ะ
อยากให้ช่วยโพสหรือคะแนนซักนิดน่ะค่ะ
เพราะที่ดู...อย่างเช่น เข้า 196 โพส 9 หรือ เข้า 315 โพส 20 อย่างนี้น่ะค่ะ
ก็เลยอยากขอให้โพสกันซักนิดน่ะค่ะถ้าไม่เป็นการขอร้องมากเกินไป
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kil159357 เมื่อ 2012-4-30 09:21
ตำนานผีญี่ปุ่น (12)
[IMG]