มาแล้วจ้าาาาาา
รอบนี้ 5 ตัว มีรูปหมด 555555
ไปกันเล๊ยยยยย ><
รอบนี้ 5 ตัว มีรูปหมด 555555
ไปกันเล๊ยยยยย ><
「きゅうびのようこ」(Kyoubinoyouko) คิวบิโนะโยโกะ หรือ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง
ปีศาจในตำนานญี่ปุ่น คำว่า คิว 「きゅう【九】」หมายถึง เก้า ,บิ หมายถึง หาง และ โยโกะ หมายถึงปีศาจจิ้งจอก
คิทซึเนะ 「きつね」- จิ้งจอกในนิทานพื้นบ้านของญี่ปุ่นมีพลังพิเศษต่างๆตามตำนาน ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางมีที่มาจากอินเดีย ,จีน และญี่ปุ่นซึ่งนัยว่าเป็นปีศาจตนเดียวกัน คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องของการสืบทอดวัฒนธรรมจากอินเดียไปยังจีนตามเส้นทางสายไหมและไปยังญี่ปุ่นโดยการเผยแพร่ทางวัฒนธรรม
ในตำนานของญี่ปุ่นได้กล่าวถึงจิ้งจอกเก้าหางว่าเป็นปีศาจที่หลบหนีมาแฝงตัวอยู่ในราชสำนักของญี่ปุ่นในรัชสมัยของจักรพรรดิโทบะหลังจากที่หลบหนีมาจากอินเดียและจีนมาแล้ว โดยแฝงตัวมาในร่างของหญิงงามนามว่าทามาโมะ มาเอะ พระสนมของจักรพรรดิโทบะนางทำให้จักรพรรดิโทบะลุ่มหลงในความงามของนางและสุขภาพของจักรพรรดิโทบะก็ทรุดโทรมลงทุกวันจึงได้มีการอัญเชิญนักพรตจากหอองเมียวมาทำพิธีปัดรังควานพบว่าในวังมีจิ้งจอกเก้าหางสีทองแฝงตัวอยู่ เมื่อความแตก ทามาโมะ มาเอะ จึงได้คืนร่างเป็นจิ้งจอกสีทองตัวมหึมามีเก้าหาง เหาะหลบหนีไปบนท้องฟ้ากองทหารของจักรพรรดิโทบะได้ไลตามไปจนถึงที่ราบสูงนาสุและต่อสู้กับปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง และสามารถสยบจิ้งจอกเก้าหางลงได้กลายเป็นหินเซ็ทโชเซกิ ซึ่งกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบันอนึ่งมักเกิดความสับสนในผู้ที่เริ่มต้นศึกษาซึ่งเอาตำนานของปีศาจจิ้งจอกเก้าหางมารวมกับตำนานของเทพเจ้าแห่งจิ้งจอกอินาริซึ่งแท้จริงเป็นคนละอย่างกันเลย อินารินั้นเป็น คามิ หรือก็คือ เทพเจ้าองค์หนึ่งตามตำนานของศาสนาชินโตซึ่งเป็นศาสนาดั้งเดิมของญี่ปุ่น
--------------------------------------------------------------------------------------
「てんく」 (Tenku) เท็นกุหรือ เท็งกุ หรือ มนุษย์นก
「てんく」 (Tenku) เท็นกุหรือ เท็งกุ หรือ มนุษย์นก
คนญี่ปุ่นยกย่องว่าเป็นพรายภูเขา คงทำนองกับเทพอารักษ์ป่าเขา เพราะอยู่ในรูปลักษณ์ของนกกึ่งมนุษย์โดยมีลักษณะเป็นนกและมีปากนก แต่ต่อมากลายลักษณะของมนุษย์มากขึ้นแปลกที่มีจมูกยาวเท่านั้น (มีปีศาจบางตนที่ถูกยกย่องเป็นเทพ เช่น ดาการะปีศาจขาเดียวที่ยกย่องเป็นเทพแห่งภูเขาเช่นกัน)
เท็นกุ ถึงจะได้รับการเคารพนับถือในฐานะเทพแห่งธรรมชาติแต่ก็ยังคงมีด้านมืดเป็นผีร้ายที่กลั่นแกล้งมนุษย์เหมือนกันโดยบางตำนานความเชื่อกล่าวว่า เท็นกุจะร้ายก็ต่อเมื่อไม่พอใจถ้าเกลียดใครครนั้นเท่ากับว่า...โคตรซวย คือ เท็นกุจะทำทุกอย่างให้คนๆ นั้นพินาศเช่น เผาบ้าน ขโมยลักของที่เป็นของรัก เช่น เคยมีการขโมยเด็กทารกไปทิ้งในป่าก็มีถึงจะร้ายแต่ถ้าเขาพอใจใครก็จะดีกับคนนั้นเอามาๆ เลยทีเดียวมีนิทานตำนานเรื่องเล่ากันมาว่า
ชายคนหนึ่งนามว่า มังโซ เกิดมีปากเสียงกับภรรยาของตนจึงออกจากบ้านด้วยความโมโหและน้อยใจ และเกิดอารมณ์ที่หงุดหงิดระหว่างที่เขาเดินไปอยู่นั้น เท็นกุก็ปรากฏตัวขึ้นและเกาะที่หลังเขาพาบินขึ้นฟ้าไปและพาไปยังบ้านในหุบเขาที่สวยงามด้วยธรรมชาติที่งดงาม เท็นกุเลี้ยงเหล้าแก่มังโซและยังพามังโซกลับมาส่งยังหมู่บ้านอีก
เป็นตำนานที่เล่ากันมาถึงความเชื่อในเท็นกุที่ว่า“ดีก็ดีจนใจหาย ร้ายก็ร้ายจนชิบหาย”--------------------------------------------------------------------------------------
「じきにんき」 (Jikininki) จิกินินกิหรือ เปรตกินศพ
「じきにんき」 (Jikininki) จิกินินกิหรือ เปรตกินศพ
จากการศึกษาแล้วผีญี่ปุ่นตนนี้มาพร้อมกับความเชื่อทางพระพุทธศาสนาซึ่งไม่เคยคิดเลยว่าญี่ปุ่นเขาจะมีเหมือนกัน “เปรต” บ้านเราก็เชื่อกันว่าด่าพ่อแม่ ตีพ่อแม่ เมื่อตายไปจะเกิดเป็นเปรตซึ่งหากลองคิดดูแล้วที่ญี่ปุ่นจะมีเปรตก็ดูจะไม่ผิดเพราะที่ประเทศจีนสมัยก่อนก็เคยมีความเชื่อเรื่องผีเปรตเช่นกันในช่วงราชวงศ์ถังที่เป็นช่วงพระพุทธศาสนารุ่งเรืองที่สุดซึ่งเป็นไปได้ว่าผีตนนี้เกิดด้วยเหตุที่มาทางพระพุทธศาสนาเพราะในตำนานเรื่องเล่าหรือนิทานของพระพุทธศาสนามักจะเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม“ใครทำสิ่งใดไว ทำดีย่อมสนอง ทำชั่วกรรมสนอง”
--------------------------------------------------------------------------------------
ปีศาจซาซาเอะ
ปีศาจซาซาเอะ
ยามค่ำคืนเมื่อดวงจันทร์เต็มดวงวันเพ็ญ แสงจันทร์สาดส่องกระทบผิวน้ำทะเล เมื่อเจอเงาของคนร่ายรำเหนือผิวน้ำจงรู้ไว้ว่ามันคือ “ซาซาเอะ”
ซาซาเอะ เป็นปีศาจที่กลายมาจากหอยนมสาวที่มีอายุ 30 ปี จนสามารถมีแขนมีขางอกออกมาซึ่งปีศาจตนนี้จะซ่อนตัวอยู่ใต้ทะเล และเวลาถึงเดือนเพ็ญก็จะขึ้นมาร่ายรำเป็นความชอบส่วนตัวนั้นเอง ผู้คนที่สัญจรและพบเข้าก็จะไม่ยุ่งกับมันเป็นอันขาดเพราะถ้าเกิดเข้าไปยุ่งกับมันเข้าเท่ากับขัดความสุขของเขาและเจ้าซาซาเอะอาจจะทำร้ายถึงตายได้เขาว่าบริเวณที่เจ้าซาซาเอะมักจะปรากฏตัวคือ บริเวณจังหวัดวาคายามะเป็นต้นกำเนิดของปีศาจตนนี้และมีทะเลในย่ายคินคิที่เคยพบเจ้าซาซาเอะ
ซาซาเอะยังสามารถแปลงร่างเป็นอะไรก็ได้และถ้าหากมีคนมาทำร้ายมัน มันจะพ้นหมอกใส่เป็นการป้องกันตัวแต่มันไม่ได้กินคนเป็นอาหารนะ มันชอบปลามากกว่า...--------------------------------------------------------------------------------------
ปีศาจเงือกทะเล
เงือกทะเล ถูกจัดเป็นปีศาจที่ไม่ได้ให้โทษกับมนุษย์ก็จริงแต่ถ้าหากไปยุ่งกับนางหรือทำร้ายนาง...ชีวิตของคุณอาจจะสั้นโดยไม่รู้ตัวก็ได้ ^^ เพราะมันจะตามมาด้วยความหายนะ ตามระบุของเรื่องเล่าว่าเงือกทะเลมีรูปลักษณ์ที่งดงาม เป็นหญิงที่งดงาม ผิวพรรณขาวราวลูกแก้วที่ผ่องใสและนิสัยอ่อนน้อมต่อมนุษย์มาก เคยมีเรื่องเล่าว่าถึงกับขนาดไว้ใจมนุษย์เลยทีเดียว คือ ให้ทำผมให้ด้วยด้วยเป็นปีศาจที่มีความรักสวยรักงาม ว่าได้ว่าเป็นภูติผู้งดงามจากท้องทะเลแต่ตามที่มีหลักฐานเป็นภาพวาด ก็มีความคล้ายกับอามาปิเอะ (เป็นเทพนำความสุขค่ะ)แต่ดูแล้วอาจเป็นประเภทเดียวกัน แต่มีความแตกต่างคืออามาปิเอะปรากฏตัวขึ้นเพื่อมาแจ้งข่าวแต่เงือกทะเลกลับปรากฏตัวบ้างในบางครั้งและกลับอยู่กับมนุษย์อย่างคุ้นเคยจนสามารถรับประทานของมนุษย์ได้ทุกอย่าง
มีตำนานเล่าขานมาถึงพลังอันเร้นลับของเงือกทะเล มีหญิงสาวคนหนึ่งเธอเดินเล่นตามหาดทรายเธอก็พบเข้ากับสิ่งประหลาดที่นอนอยู่ในช่องแคบของโขดหิน นั่นคือ...เงือกทะเลเธอเห็นเงือกทะเลกำลังแห้งด้วยแสงแดด เธอจึงช่วยอุ้มเงือกออกจากโขดหินและปล่อยสู่ท้องทะเลเงือกได้ตอบแทนคุณของหญิงสาวด้วยเลือดของตน แต่หลังจากที่หญิงสาวได้กินเลือดของเงือกทะเลนั้น...กลับทำให้เธอมีร่างกายแข็งแรงไม่มีโรคภัยไข้เจ็บอีกเลย...นั่นเป็นผลดีของมัน แต่เธอได้โตมีครอบครัววันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว พ่อแม่ของเธอสิ้นบุญไปตามสังขารสามีที่เคยหนุ่มก็แก่เป็นตาเฒ่า ญาติพี่น้องที่เคยเห็นมาแต่เด็กก็ตายจากไปลูกของเธอก็มีครอบครัวมีหลาน เธอมีความสุขที่ได้เห็นลูกหลานแต่พอลูกของเธอแก่ชราลง และรุ่นหลานก็เข้ามาแทนที่เธอมองเห็นความเปลี่ยนแปลงของคนรอบข้าง จากเพื่อนที่เคยรักและรู้จักและการอยู่โดยปราศจากคนที่รักอยู่เคียงข้าง เธอมองตนเองในกระจกเงาของเธอกลับสะท้อนกลับมาเป็นภาพเธอในวัยสาวหลังจากที่เธอได้กินเลือดนางเงือกทำให้เธอไม่เจ็บไม่ไข้ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา...ใช่แล้วค่ะ!!! เลือดนางเงือก ฤทธิ์ของมันคือ “อมตะ”...เธอต้องนั่งมองดูลูกหลานของเธอตายจากไปคนแล้วคนเล่าคนเก่าไปคนใหม่มา จนเธอถูกเรียกว่า ทวด เธอทนต่อความเป็นไปไม่ได้ จึงหนีจากสิ่งเหล่านั้นโดยอาศัยร่มเงาของพระพุทธศาสนาเป็นที่พึ่งเธอบวชเป็นชีไปตลอดกาล
และเรื่องราวของหญิงสาวผู้ที่ได้กินเลือดของเงือกทะเลแล้วเป็นอมตะก็ได้หายไปตามกาลเวลาเธออาจอยู่ที่ไหนสักแห่งที่เธออาจมองดูท้องทะเลและอาจตามหาเงือกผู้ตอบแทนเธอแล้วบอกว่า “หากเป็นไปได้...ข้าน่าจะปล่อยให้เจ้าตายไปซะตั้งแต่วันนั้นข้าจะได้ไม่ต้องมานั่งทนทุกข์ทรมานกับการมีชีวิตอยู่โดยที่ไม่มีวันตายอย่างนี้...”
--------------------------------------------------------------------------------------
Credit : Dek-D
ขอบคุณที่สละเวลาอ่านกันนะค่ะ
และเช่นเคยค่ะ...พิมพ์เอง ถ้าผิดตรงไหนก็ขออภัยค่ะ
ยังไงก็ช่วยซักนิดก็ยังดีค่ะ...ขอบคุณมากค่ะ
ขอบคุณที่สละเวลาอ่านกันนะค่ะ
และเช่นเคยค่ะ...พิมพ์เอง ถ้าผิดตรงไหนก็ขออภัยค่ะ
ยังไงก็ช่วยซักนิดก็ยังดีค่ะ...ขอบคุณมากค่ะ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kil159357 เมื่อ 2012-4-30 15:47
ตำนานผีญี่ปุ่น (13)
[IMG]