ชอบเกมใหนรองหาโหลดนะ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ หลายๆ คนคงจัดอันดับเกมในดวงใจของแต่ละคนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเกมที่ดีที่สุดหรือเกมที่มีอิทธิพลต่อวงการที่สุดก็ตาม…
แต่เราลองมาดูหัวข้อเล็กๆ แต่เร้าใจอย่าง “เกมที่เล่นแล้ว อินกับบรรยากาศที่สุด” กันบ้าง รายชื่อของเกมที่ท่านจะได้เห็นต่อไปนี้ เป็นเกมที่ประสบความสำเร็จในการดึงเราเข้าไปอยู่ในเกม ทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นตัวละครในโลกนั้นจริงๆ และจะอินต่อไปจนกระทั่งเกมจบไปแล้วเลยทีเดียว!
10. Half-Life 2
สุดยอดเกม FPS จาก Valve เกมนี้ ไม่เพียงแต่ปฏิวัติวงการเกมในวงกว้างเท่านั้น แต่ยังนำเสนอโลกที่มีชีวิตและเสมือนจริงอีกด้วย! นานๆ ทีที่จะมีเกมที่สร้างโลก Sci-fi ออกมาได้ดีเยี่ยมถึงขนาดนี้ และไม่แน่ อาจจะดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในวงการเกมเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะในฉากเริ่มแรกที่ผู้เล่นก้าวออกมาจากชานชาลารถไฟครั้งแรกนั้น ช่วยเสริมความรู้สึก ‘โลกที่กว้างใหญ่’ ที่ ‘เ้ปลี่ยนแปลงไปแล้ว’ ได้อย่างเยี่ยมยอด ช่วยชูเกมที่ได้รับคำยกย่องว่า “ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา” เกมหนึ่ง ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
9. F.E.A.R.
ถึงแม้เนื้อเรื่องและวิธีการเล่นจะซ้ำซากไปบ้าง บรรยากาศของเกมนั้นนับว่าหาคู่เปรียบได้ยาก (ในสมัยนั้น) เลยทีเดียว และการนำภาพกราฟิกล้ำยุค (ในสมัยนั้น) ผสมผสานอย่างกลมกลืนกับบรรยากาศหลอนๆ รวมไปถึงโหมด ‘สโลว์โมชั่น’ นั้น เป็นจุดเด่นที่ทำให้ F.E.A.R. แตกต่างไปจากเกมเดินหน้ายิงอื่นๆ และชิงรางวัล Action Game of the Year จากหลายสำนักอย่างไม่ต้องสงสัย
8. Fallout 3
ไม่ธรรมดาจริงๆ สำหรับการกลับมา ‘อย่างแตกต่าง’ ของซีรีย์ Fallout จนนำไปสู่กระแสดราม่าตามเว็บบอร์ดต่างประเทศมากมายในปี 2007 ถึงแม้ตัวเกมจะเป็นที่ถกเถียงกันมากก็ตาม (บั้กเพียบ, สิ่งดีๆ ใน Fallout ภาคเก่าๆ หายไปหมด, ความเป็น RPG ที่มีน้อยมาก, และอื่นๆ อีกมากมาย) สิ่งที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันก็คือ บรรยากาศของเกมนี้มันสุดยอดจริงๆ, เกมนี้นำเสนอภาพของเมืองหลวง Washington DC ที่ถูกทำลายในสงครามนิวเคลียร์ออกมาได้ดีอย่างน่าขนลุก จนกระทั่งหนังสือพิมพ์ The Daily Mail แห่งเมืองผู้ดีถึงกับเข้าใจผิดว่า ภาพ Concept Art ของ Fallout 3 เป็นภาพที่ศิลปินของกลุ่มก่อการร้าย ‘อัลกออิดะฮ์’ ร่างขึ้นมาให้เห็นภาพของอเมริกาที่ถูกนิวเคลียร์โจมตีเลยทีเดียว!
เสียงบรรยากาศของเกมนี้ก็ใช่ย่อย เสียงลมหวิวๆ เสียงเหล็กเก่าๆ ในเมืองร้าง ช่วยเสริมบรรยากาศได้ดีเยี่ยมอย่างที่ไม่เคยมีเกมใดทำมาก่อน อ้อ ในเกมนี้คุณสามารถเปิดวิทยุฟังได้ด้วย ซึ่งเพลงบนวิทยุก็จะเป็นเพลงเก่าๆ สุดคลาสสิคจากยุค 1950… ลองนึกภาพของคุณที่กำลังเดินอย่างโดดเดี่ยวในเมืองร้างที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้า เคียงคู่ไปกับสุนัขคู่ใจ พร้อมกับเปิดเพลงเก่าๆ ให้ก้องเมืองไปด้วยสิครับ สุดยอดมั้ยล่ะ… ยังกับ I Am Legend ไม่มีผิด
7. Grand Theft Auto: Vice City
ในตอนแรก GTA IV จะได้มาอยู่ในอันดับนี้แล้ว แต่พอขุดภาค Vice City มาเล่นใหม่ก็ยังอึ้งไม่หายอยู่ดี… เมือง Vice City อันสดใสและมีชีวิตชีวานี่แหละสุดยอดแล้วล่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างในเกมนี้มันเป๊ะไปหมด ตั้งแต่เมืองในยุค 1980 ไปจนถึงภาษาที่คนเดินเท้าใช้ืทักทายกัน เพียงแค่ขับรถท่องเมืองก็ทำให้คุณอินกับบรรยากาศได้ดียิ่งกว่าทั้งเกมของเกมบางเกมเสียอีก และไม่เพียงแต่สร้างเมืองออกมาอย่างสมจริงเท่านั้น ผู้พัฒนา Rockstar Games ยังนำเอาบรรยากาศและเนื้อเรื่องบางส่วน จากหนังสุดคลาสสิค Scarface และ Dirty Harry เพื่อเสริมให้บรรยากาศมันเจ๋งยิ่งไปกว่าเดิมเสียอีก.. ไอ้รายละเอียดหยิบย่อยนี่แหละที่ทำให้ Rockstar เทพเหลือเกิน
6. Doom 3
Doom ภาคแรกสุด เป็นเกมแรกของโลกเลยก็ว่าได้ที่มีคำว่า ‘บรรยากาศ’ อยู่ในเกม และใน Doom 3 ตัวเกมยังเต็มอิ่มไปด้วยบรรยากาศเช่นเดิม…และยิ่งพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น! ในช่วงเวลา 30 นาทีแรกของ Doom 3 เป็นอะไรที่สุดยอดและเป็นที่กล่าวขานมาก ด้วยเพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร มันก็ยังคงชวนให้ขนลุกทุกครั้งที่เล่น แต่ช่วงหลังๆ บรรยากาศกลับลดน้อยลงไปเพราะเกมเพลย์ ‘ยิงแมงทีละตัวจนจบด่าน’ ที่ละลายความตื่นตระหนกตกใจไปทีละนิดๆ ซึ่งมีให้เห็นตั้งแต่ต้นจนจบเกม
ถึงตัวเกมอาจจะไม่ถึงขั้นเทพอย่างที่ใครๆ หวังไว้ในตอนนั้น (บั้กค่อนข้างเยอะ, โมเดลตัวละครที่เห็นรอยต่อชัดเจน, และอื่นๆ) แต่ ‘บรรยากาศ’ นี่แหละที่เป็นจุดเด่นของ Doom 3 อย่างแท้จริง ซึ่งนำหน้าเกมในยุคนั้นและเกมบางเกมในยุคนี้ไปไกลเลยทีเีดียว
ของแถมสำหรับแฟนๆ Doom 3 ครับ เฮีย John Carmack สุดยอด Programmer แห่งวงการเกม กล่าวออกสื่อว่า “เพราะ Doom 3 มีโปรแกรมเมอร์ทำงานกันอยู่ 4 คน งานจึงออกมาได้ไม่ดีเท่าใดนัก…. ถ้าผมเขียนคนเดียวมันจะสุดยอดกว่านี้อีก” …ป๊าด! เฮียแกไม่ได้คุยเบ่งนะครับ เกมเก่าๆ ของเฮียอย่าง Doom, Quake เฮียแกก็เขียนระบบขึ้นมาเองด้วยตัวคนเดียว (เขาบอกว่า เขียนคนเดียวถนัดกว่า ไม่วุ่นวายดี) ซึ่งเกมดังอย่าง Call of Duty ก็ยังใช้ระบบของ Quake อยู่ด้วยนะ! ระบบอายุเกิน 5 ปียังคงใช้มาถึงตอนนี้ก็นับว่าเทพแล้วล่ะ
5. Left 4 Dead
เกมที่ 2 ของ Valve แล้วที่มาโผล่ในลิสต์นี้ และยิ่งแสดงให้เห็นว่า Valve เป็นเทพพระเจ้าด้านการดีไซน์เกมอย่างแท้จริง ความรู้สึกที่เหมือนหลุดเข้ามาอยู่ในหนังซอมบี้ชั้นยอดของเกมนี้ ไม่ใช่เพราะภาพและเสียงเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะ Gameplay ของมันด้วย! ความรู้สึกนั้นหลังจากที่ฆ่า Tank ไอ้บักอึ้ดกล้ามโตได้เป็นตัวแรก… ความรู้สึกนั้นหลังจากที่เพื่อนคนนึงดันไปสะกิดผีสาวขี้โมโห Witch เข้าให้… เป็นเกม Co-op ที่ถึงแม้จะเล่นกับเพื่อนก็ไม่ทำให้บรรยากาศเสียไปด้วย สุดยอดจริงๆ
4. Bioshock
เกมหลายเกมอาจจะโฆษณาด้วยการยิงกันสุดมันส์ ฉากแอ็คชั่นโหดเลือดสาด หรือฉากผู้หญิงนมตู้ม(…ก็ใช่ว่าจะไม่ดีนะ ว้าวๆๆๆ) แต่ Bioshock นับเป็นเกมแรกที่โฆษณาด้วย ‘บรรยากาศ’ ของเกม! เมืองใต้น้ำสุดสวยชวนสยอง ‘Rapture’ ของเกมนี้ยังคงได้รับยกย่องว่า เป็นสถานที่ภายในเกมที่สุดยอดที่สุดเท่าที่เคยมีมา …บรรยากาศของเมืองใต้น้ำที่เจริญถึงขีดสุด สวยงามถึงขีดสุด แต่ถูกปล่อยร้าง ตามกำแพงมีเลือดเปรอะ คนโรคจิตเดินไปมาในเมือง.. ไอ้ความรู้สึกแปลกๆ ที่ “ทั้งสวยและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน” นี่แหละที่ทำให้ Bioshock ชนะเลิศด้านการสร้างบรรยากาศไปเต็มๆ
3. S.T.A.L.K.E.R. Shadow of Chernobyl
ถ้าเกมนี้ไม่มีบั้กจำนวนมหาศาลจนทำให้เล่นเกมนี้แทบไม่ได้แล้วละก็ เกมนี้คงเป็นเกมคลาสสิคขึ้นหิ้งไปแล้ว ระบบสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาทำให้เกมนี้บรรยากาศชวนขนลุกแบบโคตรๆ เดี๋ยวก็ฝนตก เดี๋ยวก็หมอกลงจัด… โดยเฉพาะเวลาที่หมอกลงจัดจนมองอะไรแทบไม่เห็น แล้วมีเสียงของสัตว์ประหลาดเดินวนรอบคุณ… คุณจะรู้สึกประสาทกินว่าจะมีสัตว์ประหลาดอะไรซ่อนตัวอยู่ในหมอกบ้าง มันจะมาไม้ไหน มาจากทางไหน จนยืนนิ่งอยู่กับที่เลยทีเดียว… บรรยากาศของเกมนี้ชวนให้อินมากๆ และทำให้คุณรู้สึกถึงอันตรายที่ย่างกรายเข้าหาคุณได้ตลอดเวลาจริงๆ
2. Call of Cthulhu: Dark Corners of the Earth
เกมนี้ไม่ค่อยดังและขายไม่ค่อยออก ด้วยเพราะภาพกราฟิกที่ตกยุคแม้ในสมัยนั้นและบั้กจำนวนมหาศาล แต่เมื่อมองข้ามข้อเสียไปแล้ว จะพบว่าเกมนี้บรรยากาศมันสุดๆ จริงๆ ในช่วงแรกของเกมคุณจะไม่มีอาวุธอะไรติดตัวเลย และต้องเอาตัวรอดจากคนโรคจิตทั้งหมู่บ้านที่ออกตามล่าคุณ บวกกับภาพมืดๆ เสียงหลอนๆ และบรรยากาศแบบ “ลัทธินอกรีต”…แค่ผมอธิบายผมก็กลัวแล้วครับ สุดๆ จริงๆ นะเกมนี้ บรื๊อ…
1. Max Payne
Max Payne เป็นเกมที่สร้างบรรยากาศออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว ตั้งแต่การเล่าเนื้อเรื่องด้วยภาพ Graphic Novel, โทนเรื่องแบบหนัง Film Noir (ฟิลม์ นัวร์: โทนเรื่องแบบดาร์กๆ และส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม) และตัวเอกที่เป็นตำรวจออกไล่ล่ากลุ่มอาชญากรที่ฆ่าภรรยาของตนเอง เพียงแค่นี้ก็ทำให้เกมนี้ชนะเลิศด้านการสร้างบรรยากาศแล้ว และ Max Payne ยังเป็นเกมแรกที่นำ ‘สโลว์โมชั่น’ เข้ามาใช้ในเกมด้วย! และภาคแรกที่ว่ายอดแล้ว ภาค 2 ของเกมนี้ยังยอดเยี่ยมยิ่งไปกว่าเดิมในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะเนื้อเรื่องที่ดาร์กแล้วดาร์กอีก จนรู้สึกว่าอนาคตมันช่างมืดมัวเหลือเกิน
http://www.noob.in.th/blog/2011/03/30/top-10-most-atmospheric/
ส่วนตัวต้อง H game นี่เเหละ อินสุดละ 555
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kaijo เมื่อ 2012-5-5 23:38
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย deadraiderzx เมื่อ 2012-5-5 23:39
10 อันดับ game ที่อินกับบรรยากาศมากที่สุด
><
[IMG]
><