สถาบันครอบครัว (ควรเรียนรู้)
10 อันดับสิ่งที่พ่อแม่ชอบทำให้ลูกเสียใจโดยไม่รู้ตัว ???
ปัจจุบันปัญหาสังคมเกิดขึ้นมากมายในประเทศไทย หลายฝ่ายหลายภาคส่วนรณรงค์ช่วยกันแก้ไข แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่าจากการสำรวจ สถาบันที่ควรมีส่วนเกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาสังคมมากที่สุด กับนิ่งเฉยมาก นั่นก็คือสถาบันครอบครัว สถาบันที่เป็นรากฐานของสถาบันระดับอื่นๆ ปัจจุบันจะพบว่านอกจากสถาบันครอบครัวจะไม่ได้ช่วยลดและแบ่งเบาปัญหาสังคมแล้ว สถาบันครอบครัวยังเป็นสถาบันหลักที่ก่อให้เกิดปัญหาสังคมได้ดีเป็นอย่างยิ่ง (ไม่ได้กล่าวว่าก่อมากที่สุดนะ) จากการสำรวจพบว่าในครอบครัวส่วนใหญ่จะมีการมีงกันอย่างต่ำ 3 - 4 ครั้งต่ออาทิตย์ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่มากเลยทีเดียว และปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากการมีงของผู้ใหญ่ในครอบครัวกับเด็ก และร้อยละ 80 เป็นเรื่องการใช้ชีวิตของเด็ก
เรามาดูกันดีกว่าว่า 10 สิ่งที่ทำร้ายจิตใจเด็กได้มากที่สุดคืออะไร
อันดับ 10 ... เมื่อเด็กทำความดีผู้ใหญ่กับเมินเฉย หรือมีความรู้สึกยินดีเพียงชั่วขณะ
ผู้ใหญ่หลายท่านมักคิดเสมอว่ามันเป็นเรื่องน่ายินดีที่ลูกของคุณประสบความสำเร็จอะไรสักอย่าง คุณแสดงความยินดีเก็บเด็กเพียงเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นคุณก็แทบจะลืมมันออกไปจากสมองโดยทันที สิ่งที่ทำให้คุณจะนึกถึงเรื่องของเด็กขึ้นมาได้ก็ต่อเมื่อคุณอยากโอ้อวดสิ่งนั้นกับบุคคลอื่น ซึ่งการกระทำเช่นนี้จะทำให้เด็กมีความรู้สึกที่ไม่ภาคภูมิใจกับสิ่งที่ได้มา
อันดับ 09 ... สิทธิของเด็กในสถาบันครอบครัว การแสดงความคิดเห็นของเด็ก
ผู้ใหญ่หลายท่านในประเทศไทยมักจะจำกัดสิทธิของเด็กโดยสิ้นเชิง (รวมไปถึงหลายๆ สถาบัน) พ่อ แม่ ครู สามารถไม่พอใจกับสิ่งที่เด็กประพฤติไม่ดีได้ แต่เด็กร้อยละ 90 ไม่สามารถแสดงอาการไม่พอใจออกมาได้เมื่อผู้ใหญ่ประพฤติผิด เพราะอะไร... เมื่อเด็กแสดงอาการออกมาเด็กจะถูกว่า ถูกดุ ว่าทำตัวไม่เหมาะสม ทำไมผู้ใหญ่ถึงดุเมื่อเด็กแสดงอาการอย่างนั้นเนื่องจากในใจลึกๆ ผู้ใหญ่ก็ไม่ชอบให้ใครมาติเตียนแสดงอาการไม่พอใจใส่ แล้วเด็กละ...??? เด็กก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกันแต่เด็กห้ามทำ ข้อสังเกตเมื่อเด็กเบื่อหน่ายที่จะแสดงความคิดเห็น คือเด็กจะพูดน้อยลง เมื่อคุณถามสิ่งที่ต้องเลือก เด็กจะตอบกลับมาว่า \"แล้วแต่\"
อันดับ 08 ... การรื้อฟื้นเรื่องเก่าๆ ขึ้นมาพูด หรือนำมาว่ากล่าวซ้ำ
ผู้ใหญ่ส่วนมากเวลาเด็กทำผิดแล้วจะว่ากล่าวนั้น น้อยคนมากที่จะดุเฉพาะเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น หรือเรื่องที่ทำผิด เมื่อเริ่มว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจบไป ผู้ใหญ่ก็จะใส่อารมณ์มากขึ้นราวกับได้ระบายอารมณ์ ผู้ใหญ่ส่วนมากจะรื้อฟื้นเรื่องเก่าๆ ที่เด็กทำผิดมาว่าซ้ำ ซ้ำเติม และพูดได้เลยว่าผู้ใหญ่ร้อยละ 50 ที่แสดงอาการแบบนี้จะหยุดก็ต่อเมื่อเด็กเกิดอาการเสียใจ ถ้าเด็กยังแสดงอาการเฉยๆ หรือต่อต้านไม่มีทางหยุดง่ายๆ แน่นอน ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้เด็กเกิดความรู้สึกเจ็บใจ โกรธ แต่ไม่สำนึกอย่างแน่นอน
อันดับ 07 ... การเป็นที่ปรึกษาที่ไม่ดี เปิดเผยความลับของเด็กแก่คนอื่น
ทุกวันนี้ในสังคมไทยเด็กจะเลือกปรึกษาปัญหากับเพื่อนก่อนเป็นอันดับแรก อันดับสองคือพี่น้อง อันดับสามคือบุคคลในอินเตอร์เน็ต ส่วนอันดับสี่ถึงจะเป็น พ่อ แม่ ทำไมผู้ใหญ่ในสถาบันครอบครัวถึงกลายเป็นอันดับสี่ไปได้ทั้งๆ ที่ควรจะเป็นอันดับหนึ่ง หรือสองนั่นก็เพราะคำว่า แก้ปัญหาไม่เป็น ไม่ได้ช่วยอะไร และ สามี-ภรรยา ไม่มีความลับต่อกัน - - - แก้ปัญหาให้ลูกไม่เป็น คือก็ไม่รู้จะช่วยยังไง - - - ไม่ได้ช่วยอะไร คือ การที่บอกวิธีในการแก้ปัญหามาแต่เมื่อทำไปแล้วไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลง - - - สามี-ภรรยา ไม่มีความลับต่อกัน อันนี้คือสาเหตุหลักความลับคือสิ่งที่เด็กไม่อยากให้คนจำนวนมากรู้ ถ้าเด็กเลือที่จะบอกแม่ ร้อยละ 80 ของครอบครัวชาวไทย พ่อต้องรู้ด้วยแต่เป็นการรู้จากการที่แม่เป็นคนไปบอกอะไรทำนองนี้ การทำแบบนี้จะทำให้เด็กเกิดความรู้สึกไม่ไหววางใจ ไม่เชื้อใจพ่อและแม่
อันดับ 06 ... อารมณ์เสียใส่เด็ก เหวี่ยงใส่เด็ก หาเรื่องว่าเด็ก
ผู้ใหญ่มักจะไม่รู้ตัวเมื่ออารมณ์เสียแล้วชอบหาเรื่องว่าคนอื่น โดยเป๋าหมายส่วนใหญ่จะเป็นเด็กเนื่องจากมีการตอบโต้ที่น้อย จากเรื่องเล็กที่เป็นข้อผิดพลาดนิดหน่อยจะกล่าวเป็นความผิดร้ายแรงได้ทันที อย่างเช่น ลืมล้างจาน โดนว่าพอว่าเสร็จก็จะวกไปเข้าอันดับ 08 รื้อฟื้นเรื่องเก่ามาว่าต่อ การกระทำแบบนี้จะทำให้เด็กรู้สึกว่า พ่อแม่ไม่มีเหตุผล จึงไม่จำเป็นที่จะต้องเชื้อถือ
อันดับ 05 ... ด่าเด็ก พูดจารุนแรง
ผู้ใหญ่มักเถียงว่าสิ่งที่พวกเขากระทำคือการดุ ว่ากล่าวตักเตือน ไม่ใช่การด่า แต่ลองมาทำความเข้าใจกันสะใหม่ การว่ากล่าวตักเตือนคือ ก็อธิบายผลเสีย และอธิบายแนวทางแก้ไขให้ การดุ คือ การอธิบายถึงผลเสียอย่างเดียว แต่การด่า คือ การใช้ถ่อยคำหยาบคาย \"\" \"กู\" ใช้วาจาส่อเสียดประชดประชัน \"คิดว่าตัวเองเป็นเทวดารึไง\" ทำนองนี้ พิจรณาตัวเองแล้วกันว่าเข้าค่ายหรือไม่ เพราะการทำอย่างนี้จะทำให้เด็กฝังใจ เด็กจะไม่มีความสำนึกผิด หรือจะไม่ทำอีกแล้วนะ แต่เด็กจะคิดว่าในครั้งต่อไปจะต้องทำโดยห้ามโดนจับได้
อันดับ 04 ... การทำร้ายความมั่นใจของเด็ก
ผู้ใหญ่หลายคนมักทำลายความมั่นใจของเด็กโดยไม่รู้ตัว พูดถึงข้อด้อยของเด็กในที่สาธรณะหรือต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก การไม่เตรียมพร้อมของผู้ใหญ่ก็อาจจะทำให้เด็กเสียความมั่นใจได้ เช่น พาเด็กไปยังสถานที่เรียนพิเศษ แห่งหนึ่งแล้วก็ปล่อยเด็กไว้กับครูและเด็กคนอื่นๆ ส่วนตัวเองก็กลับไปทำธุระของตน ในสถานะผู้ใหญ่คุณอาจจะคิดว่ามีเด็กตั้งเยอะแยะลูกเราไม่ได้อยู่คนเดียว แต่ในความคิดของเด็กคนที่ไม่รู้จักเท่ากับเขาไม่มีตัวตน การกระทำแบบนี้จะทำให้เด็กกลายเป็นคนขาดความมั่นใจ
อันดับ 03 ... การตอกย้ำซ้ำเติมความผิดพลาด
พ่อแม่จำนวนมากมักคิดว่าการดุ การด่า พูดจาซ้ำเติม คือวิธีของการที่จะทำเห็นเด็กจดจำและเรียนรู้ความผิดพลาด แต่ไม่ใช่เลยวิธีที่ถูกต้องที่สุดคือ การปลอบเมื่อเขาทำผิดพลาด แล้วค่อยอธิบายข้อผิดพลาดว่าเกิดจากอะไร มีผลเสียยังไง มีวิธีการแก้ไขแบบไหน เพราะการตอกย้ำนั้นจะทำให้เด็กรู้สึกฝังใจ กลัวต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ กลัวความผิดพลาดจนกลายเป็นคนขี้ระแวงได้
อันดับ 02 ... การใช้ความรุนแรง
เชื่อเถอะมันหมดยุคของ ไม้เรียวสร้างคนแล้ว ตีให้ตายเด็กสมัยนี้ก็ไม่เปลี่ยนแปลงหรอก แต่จะเป็นการซ้ำเติมให้เด็กมีปมภายในใจหนักขึ้นไปอีก ความรุนแรงที่พ่อแม่ทำกันเอง หรือความรุนแรงที่พ่อแม่ทำต่อเด็กล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ไม่ดีทั้งสิ้น การทำแบบนี้จะยิ่งทำให้เด็กเิกิดอาการต่อต้านหนักขึ้นไปอีก และในอนาคตเด็กอาจจะเป็นบุคคลที่ใช้ความรุนแรงก็เป็นได้
อันดับ 01 ... คิดเอง เออเอง และไม่เข้าใจลูกของตัวเอง
ผู้ใหญ่หลายท่านมีบททดสอบง่ายๆ เลยที่จะให้ทุกท่านทำ หยิบกระดาษขึ้นมาแผ่นหนึ่งแล้วหาคำตอบต่อไปนี้ 1.ลูกมีเพื่อนสนิทชื่ออะไร 2.ลูกชอบกินอะไร 3.ลูกไม่ชอบกินอะไร 4. สีโปรดของลูก 5.ลูกไปเที่ยวกับครอบครัวครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ 6.เบอร์โทรศัพท์ของลูก 7.ลูกไม่อชบสิ่งมีชีวิตอะไรมากที่สุด 8.ของขวัญชิ้นล่าสุดที่ซื้อให้ลูกคือ 9.ลูกเกิดวันไหนเดือนอะไรปีไหน 10.โตขึ้นลูกอยากเป็นอะไร ตอบคำถาม 10 ข้อต้องถูก 8 ข้อขึ้นไปคุณถึงจะเป็นพ่อแม่ที่รู้จักลูกตัวเองจริง
แต่ถ้าจะทดสอบว่าเข้าใจลูกตัวเองรึเปล่า ตอบคำถามแค่ข้อเดียว 1.ทำไมคุณถึงเลือกคำตอบเหล่านั้นมาตอบ 10 ข้อแรก ถ้าคุณบอกได้แปลว่าคุณเข้าใจลูกของคุณแต่ถ้าไม่ได้ คุณก็แค่เอาใจใส่เขามากขึ้น สังเกตุเวลาลูกของคุณยิ้ม สังเกตเวลาลูกของคุณร้องไห้ สังเกตเวลาลูกของคุณอยู่กับความเงียบแล้วคุณจะรู้จักลูกของคุณมากขึ้น
ข้อมูลทั้งหมด 10 อันดับที่ให้ไปนั้นเป็นเพียงแนวทางในการเลี้ยงลูก
การเลี้ยงลูกที่ดีไม่ได้หมายความว่าห้ามตี ห้ามดุ ห้ามว่านะ สามารถทำสิ่งเหล่านั้นได้แต่ต้องเพียงแค่พอดีไม่มากเกินไป ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ ใช้ความจำเป็นให้มากกว่าความต้องการ
ข้อมูลนี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะว่า หรือทำร้ายใครทั้งสิ้นเป็นเพียงข้อมูลที่เอาไว้เป็นแนวทางในการเลี้ยงลูกเท่านั้นนะค่ะ
ที่มาจากเด็กดีจ้า
10 อันดับสิ่งที่พ่อแม่ชอบทำให้ลูกเสียใจโดยไม่รู้ตัว ???
ปัจจุบันปัญหาสังคมเกิดขึ้นมากมายในประเทศไทย หลายฝ่ายหลายภาคส่วนรณรงค์ช่วยกันแก้ไข แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่าจากการสำรวจ สถาบันที่ควรมีส่วนเกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาสังคมมากที่สุด กับนิ่งเฉยมาก นั่นก็คือสถาบันครอบครัว สถาบันที่เป็นรากฐานของสถาบันระดับอื่นๆ ปัจจุบันจะพบว่านอกจากสถาบันครอบครัวจะไม่ได้ช่วยลดและแบ่งเบาปัญหาสังคมแล้ว สถาบันครอบครัวยังเป็นสถาบันหลักที่ก่อให้เกิดปัญหาสังคมได้ดีเป็นอย่างยิ่ง (ไม่ได้กล่าวว่าก่อมากที่สุดนะ) จากการสำรวจพบว่าในครอบครัวส่วนใหญ่จะมีการมีงกันอย่างต่ำ 3 - 4 ครั้งต่ออาทิตย์ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่มากเลยทีเดียว และปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากการมีงของผู้ใหญ่ในครอบครัวกับเด็ก และร้อยละ 80 เป็นเรื่องการใช้ชีวิตของเด็ก
เรามาดูกันดีกว่าว่า 10 สิ่งที่ทำร้ายจิตใจเด็กได้มากที่สุดคืออะไร
อันดับ 10 ... เมื่อเด็กทำความดีผู้ใหญ่กับเมินเฉย หรือมีความรู้สึกยินดีเพียงชั่วขณะ
ผู้ใหญ่หลายท่านมักคิดเสมอว่ามันเป็นเรื่องน่ายินดีที่ลูกของคุณประสบความสำเร็จอะไรสักอย่าง คุณแสดงความยินดีเก็บเด็กเพียงเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นคุณก็แทบจะลืมมันออกไปจากสมองโดยทันที สิ่งที่ทำให้คุณจะนึกถึงเรื่องของเด็กขึ้นมาได้ก็ต่อเมื่อคุณอยากโอ้อวดสิ่งนั้นกับบุคคลอื่น ซึ่งการกระทำเช่นนี้จะทำให้เด็กมีความรู้สึกที่ไม่ภาคภูมิใจกับสิ่งที่ได้มา
อันดับ 09 ... สิทธิของเด็กในสถาบันครอบครัว การแสดงความคิดเห็นของเด็ก
ผู้ใหญ่หลายท่านในประเทศไทยมักจะจำกัดสิทธิของเด็กโดยสิ้นเชิง (รวมไปถึงหลายๆ สถาบัน) พ่อ แม่ ครู สามารถไม่พอใจกับสิ่งที่เด็กประพฤติไม่ดีได้ แต่เด็กร้อยละ 90 ไม่สามารถแสดงอาการไม่พอใจออกมาได้เมื่อผู้ใหญ่ประพฤติผิด เพราะอะไร... เมื่อเด็กแสดงอาการออกมาเด็กจะถูกว่า ถูกดุ ว่าทำตัวไม่เหมาะสม ทำไมผู้ใหญ่ถึงดุเมื่อเด็กแสดงอาการอย่างนั้นเนื่องจากในใจลึกๆ ผู้ใหญ่ก็ไม่ชอบให้ใครมาติเตียนแสดงอาการไม่พอใจใส่ แล้วเด็กละ...??? เด็กก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกันแต่เด็กห้ามทำ ข้อสังเกตเมื่อเด็กเบื่อหน่ายที่จะแสดงความคิดเห็น คือเด็กจะพูดน้อยลง เมื่อคุณถามสิ่งที่ต้องเลือก เด็กจะตอบกลับมาว่า \"แล้วแต่\"
อันดับ 08 ... การรื้อฟื้นเรื่องเก่าๆ ขึ้นมาพูด หรือนำมาว่ากล่าวซ้ำ
ผู้ใหญ่ส่วนมากเวลาเด็กทำผิดแล้วจะว่ากล่าวนั้น น้อยคนมากที่จะดุเฉพาะเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น หรือเรื่องที่ทำผิด เมื่อเริ่มว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจบไป ผู้ใหญ่ก็จะใส่อารมณ์มากขึ้นราวกับได้ระบายอารมณ์ ผู้ใหญ่ส่วนมากจะรื้อฟื้นเรื่องเก่าๆ ที่เด็กทำผิดมาว่าซ้ำ ซ้ำเติม และพูดได้เลยว่าผู้ใหญ่ร้อยละ 50 ที่แสดงอาการแบบนี้จะหยุดก็ต่อเมื่อเด็กเกิดอาการเสียใจ ถ้าเด็กยังแสดงอาการเฉยๆ หรือต่อต้านไม่มีทางหยุดง่ายๆ แน่นอน ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้เด็กเกิดความรู้สึกเจ็บใจ โกรธ แต่ไม่สำนึกอย่างแน่นอน
อันดับ 07 ... การเป็นที่ปรึกษาที่ไม่ดี เปิดเผยความลับของเด็กแก่คนอื่น
ทุกวันนี้ในสังคมไทยเด็กจะเลือกปรึกษาปัญหากับเพื่อนก่อนเป็นอันดับแรก อันดับสองคือพี่น้อง อันดับสามคือบุคคลในอินเตอร์เน็ต ส่วนอันดับสี่ถึงจะเป็น พ่อ แม่ ทำไมผู้ใหญ่ในสถาบันครอบครัวถึงกลายเป็นอันดับสี่ไปได้ทั้งๆ ที่ควรจะเป็นอันดับหนึ่ง หรือสองนั่นก็เพราะคำว่า แก้ปัญหาไม่เป็น ไม่ได้ช่วยอะไร และ สามี-ภรรยา ไม่มีความลับต่อกัน - - - แก้ปัญหาให้ลูกไม่เป็น คือก็ไม่รู้จะช่วยยังไง - - - ไม่ได้ช่วยอะไร คือ การที่บอกวิธีในการแก้ปัญหามาแต่เมื่อทำไปแล้วไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลง - - - สามี-ภรรยา ไม่มีความลับต่อกัน อันนี้คือสาเหตุหลักความลับคือสิ่งที่เด็กไม่อยากให้คนจำนวนมากรู้ ถ้าเด็กเลือที่จะบอกแม่ ร้อยละ 80 ของครอบครัวชาวไทย พ่อต้องรู้ด้วยแต่เป็นการรู้จากการที่แม่เป็นคนไปบอกอะไรทำนองนี้ การทำแบบนี้จะทำให้เด็กเกิดความรู้สึกไม่ไหววางใจ ไม่เชื้อใจพ่อและแม่
อันดับ 06 ... อารมณ์เสียใส่เด็ก เหวี่ยงใส่เด็ก หาเรื่องว่าเด็ก
ผู้ใหญ่มักจะไม่รู้ตัวเมื่ออารมณ์เสียแล้วชอบหาเรื่องว่าคนอื่น โดยเป๋าหมายส่วนใหญ่จะเป็นเด็กเนื่องจากมีการตอบโต้ที่น้อย จากเรื่องเล็กที่เป็นข้อผิดพลาดนิดหน่อยจะกล่าวเป็นความผิดร้ายแรงได้ทันที อย่างเช่น ลืมล้างจาน โดนว่าพอว่าเสร็จก็จะวกไปเข้าอันดับ 08 รื้อฟื้นเรื่องเก่ามาว่าต่อ การกระทำแบบนี้จะทำให้เด็กรู้สึกว่า พ่อแม่ไม่มีเหตุผล จึงไม่จำเป็นที่จะต้องเชื้อถือ
อันดับ 05 ... ด่าเด็ก พูดจารุนแรง
ผู้ใหญ่มักเถียงว่าสิ่งที่พวกเขากระทำคือการดุ ว่ากล่าวตักเตือน ไม่ใช่การด่า แต่ลองมาทำความเข้าใจกันสะใหม่ การว่ากล่าวตักเตือนคือ ก็อธิบายผลเสีย และอธิบายแนวทางแก้ไขให้ การดุ คือ การอธิบายถึงผลเสียอย่างเดียว แต่การด่า คือ การใช้ถ่อยคำหยาบคาย \"\" \"กู\" ใช้วาจาส่อเสียดประชดประชัน \"คิดว่าตัวเองเป็นเทวดารึไง\" ทำนองนี้ พิจรณาตัวเองแล้วกันว่าเข้าค่ายหรือไม่ เพราะการทำอย่างนี้จะทำให้เด็กฝังใจ เด็กจะไม่มีความสำนึกผิด หรือจะไม่ทำอีกแล้วนะ แต่เด็กจะคิดว่าในครั้งต่อไปจะต้องทำโดยห้ามโดนจับได้
อันดับ 04 ... การทำร้ายความมั่นใจของเด็ก
ผู้ใหญ่หลายคนมักทำลายความมั่นใจของเด็กโดยไม่รู้ตัว พูดถึงข้อด้อยของเด็กในที่สาธรณะหรือต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก การไม่เตรียมพร้อมของผู้ใหญ่ก็อาจจะทำให้เด็กเสียความมั่นใจได้ เช่น พาเด็กไปยังสถานที่เรียนพิเศษ แห่งหนึ่งแล้วก็ปล่อยเด็กไว้กับครูและเด็กคนอื่นๆ ส่วนตัวเองก็กลับไปทำธุระของตน ในสถานะผู้ใหญ่คุณอาจจะคิดว่ามีเด็กตั้งเยอะแยะลูกเราไม่ได้อยู่คนเดียว แต่ในความคิดของเด็กคนที่ไม่รู้จักเท่ากับเขาไม่มีตัวตน การกระทำแบบนี้จะทำให้เด็กกลายเป็นคนขาดความมั่นใจ
อันดับ 03 ... การตอกย้ำซ้ำเติมความผิดพลาด
พ่อแม่จำนวนมากมักคิดว่าการดุ การด่า พูดจาซ้ำเติม คือวิธีของการที่จะทำเห็นเด็กจดจำและเรียนรู้ความผิดพลาด แต่ไม่ใช่เลยวิธีที่ถูกต้องที่สุดคือ การปลอบเมื่อเขาทำผิดพลาด แล้วค่อยอธิบายข้อผิดพลาดว่าเกิดจากอะไร มีผลเสียยังไง มีวิธีการแก้ไขแบบไหน เพราะการตอกย้ำนั้นจะทำให้เด็กรู้สึกฝังใจ กลัวต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ กลัวความผิดพลาดจนกลายเป็นคนขี้ระแวงได้
อันดับ 02 ... การใช้ความรุนแรง
เชื่อเถอะมันหมดยุคของ ไม้เรียวสร้างคนแล้ว ตีให้ตายเด็กสมัยนี้ก็ไม่เปลี่ยนแปลงหรอก แต่จะเป็นการซ้ำเติมให้เด็กมีปมภายในใจหนักขึ้นไปอีก ความรุนแรงที่พ่อแม่ทำกันเอง หรือความรุนแรงที่พ่อแม่ทำต่อเด็กล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ไม่ดีทั้งสิ้น การทำแบบนี้จะยิ่งทำให้เด็กเิกิดอาการต่อต้านหนักขึ้นไปอีก และในอนาคตเด็กอาจจะเป็นบุคคลที่ใช้ความรุนแรงก็เป็นได้
อันดับ 01 ... คิดเอง เออเอง และไม่เข้าใจลูกของตัวเอง
ผู้ใหญ่หลายท่านมีบททดสอบง่ายๆ เลยที่จะให้ทุกท่านทำ หยิบกระดาษขึ้นมาแผ่นหนึ่งแล้วหาคำตอบต่อไปนี้ 1.ลูกมีเพื่อนสนิทชื่ออะไร 2.ลูกชอบกินอะไร 3.ลูกไม่ชอบกินอะไร 4. สีโปรดของลูก 5.ลูกไปเที่ยวกับครอบครัวครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ 6.เบอร์โทรศัพท์ของลูก 7.ลูกไม่อชบสิ่งมีชีวิตอะไรมากที่สุด 8.ของขวัญชิ้นล่าสุดที่ซื้อให้ลูกคือ 9.ลูกเกิดวันไหนเดือนอะไรปีไหน 10.โตขึ้นลูกอยากเป็นอะไร ตอบคำถาม 10 ข้อต้องถูก 8 ข้อขึ้นไปคุณถึงจะเป็นพ่อแม่ที่รู้จักลูกตัวเองจริง
แต่ถ้าจะทดสอบว่าเข้าใจลูกตัวเองรึเปล่า ตอบคำถามแค่ข้อเดียว 1.ทำไมคุณถึงเลือกคำตอบเหล่านั้นมาตอบ 10 ข้อแรก ถ้าคุณบอกได้แปลว่าคุณเข้าใจลูกของคุณแต่ถ้าไม่ได้ คุณก็แค่เอาใจใส่เขามากขึ้น สังเกตุเวลาลูกของคุณยิ้ม สังเกตเวลาลูกของคุณร้องไห้ สังเกตเวลาลูกของคุณอยู่กับความเงียบแล้วคุณจะรู้จักลูกของคุณมากขึ้น
ข้อมูลทั้งหมด 10 อันดับที่ให้ไปนั้นเป็นเพียงแนวทางในการเลี้ยงลูก
การเลี้ยงลูกที่ดีไม่ได้หมายความว่าห้ามตี ห้ามดุ ห้ามว่านะ สามารถทำสิ่งเหล่านั้นได้แต่ต้องเพียงแค่พอดีไม่มากเกินไป ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ ใช้ความจำเป็นให้มากกว่าความต้องการ
ข้อมูลนี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะว่า หรือทำร้ายใครทั้งสิ้นเป็นเพียงข้อมูลที่เอาไว้เป็นแนวทางในการเลี้ยงลูกเท่านั้นนะค่ะ
ที่มาจากเด็กดีจ้า
10 อันดับสิ่งที่พ่อแม่ชอบทำให้ลูกเสียใจโดยไม่รู้ตัว
[IMG]