เบื้องหลังลิขสิทธิ์ฮีโร่ค่าย Marvel: ตัวละครของ Marvel ที่ถูกถือลิขสิทธิ์โดยค่ายอื่น
จะมีโอกาสโผล่ในหนัง The Avengers หรือไม่
บทความน่ารู้ มาแบ่งปันกัน สำหรับที่ผู้รัก อเมริกันฮีโร่ ครับ ^^
แม้เราจะเคยเห็นโลโก้ Marvel
ที่เป็นหนังสือการ์ตูนหลายๆ หน้า
บนพื้นสีแดงก่อนหนังฉาย
แต่จริงๆ แล้วคำว่า “หนัง Marvel”
ก่อนที่ Marvel จะมีสตูดิโอสร้างหนังของตัวเองนั้น
ต่างหมายถึงหนังเกี่ยวกับตัวละครจากโลกของ Marvel
ที่ถูกสร้างขึ้นโดยสตูดิโออื่นๆ ทั้งนั้น
Marvel เริ่มสร้างหนังด้วยตัวเองในปี 2008
ผลงานแทบทุกเรื่อง
ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าทีมงานของ Marvel นั้น
สามารถสร้างฝันของพวกเขาให้เป็นจริงได้
หนัง 4 จาก 5 เรื่องทั้งหมดที่ผ่านมา
ซึ่งได้แก่ Iron Man (2008), Iron Man 2 (2010),
Thor (2011) และ
Captain America: The First Avenger (2011)
นั้นนอกจากจะประสบความสำเร็จในแง่ของรายได้แล้ว
ยังได้รับคำวิจารณ์โดยมีแนวโน้มไปในทางบวกทุกเรื่อง
มาในปีนี้ The Avengers
ที่ถือเป็นความฝันอันทะเยอทะยานสูงสุดของสตูดิโอ
ได้กลายเป็นความจริงแล้ว และเมื่อดูจากรายได้เปิดตัว
และกระแสตอบรับล่าสุด ดูท่า The Avengers
มีแนวโน้มจะกลายเป็นหนัง Marvel ที่ดีที่สุด
นับตั้งแต่ที่เหล่าฮีโร่ของพวกเขา
ได้ออกจากกระดาษมาโลดแล่นบนแผ่นฟิล์ม
แต่ก่อนที่ Marvel จะมีสตูดิโอสร้างหนังเป็นของตัวเอง
มีค่ายหนังหลายแห่งได้ซื้อลิขสิทธิ์
ในการสร้างหนังเกี่ยวกับฮีโร่หรือแฟรนไชส์ไปแล้ว
ทำให้ปัจจุบัน การจะให้ฮีโร่แต่ละตัวของ Marvel
ไปปรากฎตัวร่วมกัน ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนในฉบับการ์ตูน
เพราะกรณีของ The Avengers นั้น
ไอร่อนแมน, ธอร์,
กัปตัน อเมริกาและฮัลค์ นั้น
ลิขสิทธิ์ต่างตกอยู่ในมือของ Marvel ทั้งหมด
ซึ่งต่างจากเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ X-Men,
สไปเดอร์แมน หรือ Fantastic Four
ที่ยังถือว่าเป็น “ทรัพย์สิน” ของสตูดิโออื่นๆ
วันนี้ผมจึงอยากนำเสนอข้อมูล
เกี่ยวกับลิขสิทธิ์ของเหล่าฮีโร่ของ Marvel
ว่าปัจจุบัน ใคร “อยู่” ที่ไหนกันบ้าง
ซึ่งจะนำพาเราไปสู่คำตอบของคำถาม
ที่แฟนๆ คอมมิคของ Marvel น่าจะอยากรู้ว่า
วูลฟ์เวอรีน และ สไปเดอร์แมน
(หรือฮีโร่คนอื่นๆ)
ที่เคยปรากฎตัวเป็นสมาชิกทีม Avengers ในฉบับคอมมิค
แล้วมันจะเป็นไปได้ในฉบับหนังหรือไม่?
20th Century Fox
20th Century Fox หรือขอเรียกสั้นๆ ว่า Fox นั้น
ได้ถือลิขสิทธิ์ของแฟรนไชส์ X-Men ทั้งหมด
และมีสิทธิ์ในการสร้างหนังเกี่ยวกับตัวละครใดก็ตาม
ที่มักจะปรากฎตัวในโลกของ X-Men ฉบับคอมมิค
โดยหนัง X-Men เรื่องแรกนั้นออกฉายในปี 2000
ใช้ชื่อง่ายๆ ว่า X-Men
ตามมาด้วย X2 (2003),
X-Men: The Last Stand (2006),
X-Men Origins: Wolverine (2009)
(จำ "แกมบิท" ในเรื่องได้ไหม?
ล่าสุดกับบทนักแสดงนำ
เรื่อง Battleship
อย่าง เทย์เลอร์ คิทช์
และที่เพิ่งรับบทพระเอกในหนังฟอร์มยักษ์อย่าง John Carter)
และล่าสุดที่ถือเป็นการยกเครื่องใหม่ใน
X-Men: First Class เมื่อปี 2011
Fox ยังคงเดินหน้าต่อไม่หยุดกับ X-Men
โดยได้เริ่มถ่ายทำ The Wolverine
หนังเดี่ยวภาคต่อของวูลฟ์เวอรีนไปแล้ว
และจะเริ่มถ่ายทำ
X-Men: First Class 2 ต้นปีหน้า
นอกจากนี้ Fox ยังถือสิทธิ์สร้างหนัง
จากตัวละครและแฟรนไชส์อื่นๆ ของ Marvel
ซึ่งได้แก่ Daredevil, Fantastic Four
และ Silver Surfer
โดยทั้งสามตัวละคร/แฟรนไชส์นี้
ได้ถูกสร้างเป็นหนังไปแล้ว
Daredevil นั้นออกฉายในปี 2003
นำแสดงโดย เบน แอฟเฟล็ค
และ ตัวละคร ญ จากเรื่องนี้ ยังถูกสร้างเป็นหนัง
แยกต่างหากออกมาอีก 1ภาค ในปี 2005
นั่นก็คือ Elektra นั่นเองครับ
รับบทโดย เจนิเฟอร์ การ์เนอร์
ส่วน Fantastic Four นั้น
สร้างเป็นหนังไป 2 ภาคในปี 2005 และ 2007
โดยภาคสองเป็นภาคที่ Silver Surfer ปรากฎตัว
(คุ้นหน้ามนุษย์ไฟ หรือ ฮิวแมนทอร์ซ กันไหม )
New Line Cinema
Blade เป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์
ที่เคยโด่งดังบนแผ่นฟิล์ม ซึ่งเคยเป็นของ
New Line Cinema และเคยเป็นหนังมาแล้ว 3 ภาค
ได้แก่ Blade (1998),
Blade II(2002)
และ Blade: Trinity (2004)
แต่หลังจากที่มีปัญหาเรื่องกฎหมาย
ระหว่างนักแสดงนำ เวสลีย์ สไนป์ กับสตูดิโอ
จึงไม่เคยมีหนังภาคต่ออีกเลยนับจากนั้น
และล่าสุด เพราะข้อจำกัดในสัญญา
ระหว่าง New Line Cinema กับ Marvel
ทำให้แฟรนไชส์ของ Blade
กลับมาอยู่ในมือของ Marvel แล้ว
Columbia Pictures (Sony)
Columbia Pictures ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Sony Pictures
ถือสิทธิ์สร้างหนังของ Spider-Man และ Ghost Rider
ซึ่งแฟรนไชส์แรก คือ Spider-Man
ถูกสร้างเป็นหนังไปแล้ว 3 ภาค
และประสบความสำเร็จอย่างสูงในด้านรายได้
Spider-Man ฉายครั้งแรกในปี 2002
ตามด้วย Spider-Man 2 (2004)
และ Spider-Man 3 (2007)
โดยมี โทบี้ แม็กไกวร์ รับบทนำ
แต่ทาง Columbia Pictures ก็ตัดสินใจยกเครื่องใหม่
ซึ่งเป็นข่าวฮือฮาทั้งวงการ
เพราะแม้ Spider-Man 3 จะได้รับคำวิจารณ์ไม่ดีนัก
แต่ก็ถือว่าหนังประสบความสำเร็จด้านรายได้
แต่จะมีการยกเครื่องหนังทั้งที่หนังเพิ่งฉายไปในปี 2007
อย่างไรก็ตาม The Amazing Spider-Man
พร้อมกับสไปเดอร์แมนคนใหม่
รับบทโดย แอนดรูว์ การ์ฟิลด์
จะออกฉายในปีนี้เดือนกรกฎาคม
ส่วน Ghost Rider นั้นเป็นหนังมาแล้ว 2 ภาค
ภาคแรกในปี 2007
ส่วนภาคที่สองคือ
Ghost Rider: Spirit of Vengeance
ที่เพิ่งเข้าฉายไปเมื่อต้นปีนี้
ทั้งสองภาคนำแสดงโดย นิโคลัส เคจ
และหนังทั้งสองภาคได้รับคำวิจารณ์ไม่ดีนัก
อีกแฟรนไชส์สุดท้าย
ที่เคยสร้างเป็นหนังนอกสตูดิโอของ Marvel ก็คือ
Punisher
ซึ่งเคยเป็นลิขสิทธิ์ของ Lionsgate Entertainment
มีหนัง 2 เรื่องที่ถูกสร้าง ได้แก่
The Punisher (2004)
และ Punisher: Warzone (2008)
ซึ่งทั้งสองเรื่องไม่ประสบความสำเร็จ
โดยเฉพาะ Warzone ที่ขาดทุนย่อยยับ
ปัจจุบันสิทธิ์ในการสร้างหนัง
ได้กลับมาอยู่ในมือของ Marvel แล้ว
Universal
Universal นั้นเคยถือสิทธิ์สร้างหนังของ
Hulk
ไว้และสร้างหนังไปเพียงเรื่องเดียวในปี 2003
ซึ่งกำกับโดย อั้งลี่ และนำแสดงโดย เอริค บาน่า
โดยหนังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
Universal เองก็ไม่ได้สร้างภาคต่อ
ลิขสิทธิ์จึงกลับมาอยู่ในมือของ Marvel
โดย Marvel ก็ได้สร้างหนังเรื่องใหม่ของ Hulk
โดยใช้ชื่อว่า The Incredible Hulk
ทั้งยังเปลี่ยนนักแสดงนำเป็น เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน
และใน The Avengers
ก็ได้เปลี่ยนผู้รับบท Hulk
ไปเป็น มาร์ค รัฟฟาโล่
(ส่วนตัวผมยังไงก็ยังชอบ เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน นะ
ผมว่าเค้าแสดงได้ถึงว่า มาร์ค รัฟฟาโล่ เยอะเลย)
Marvel Studios
และในปี 2008 เมื่อ Marvel Entertainment
เริ่มมีสตูดิโอสร้างหนังเป็นของตัวเอง Marvel
ได้รับทุนในการสร้างหนังก้อนแรกมาทั้งหมด
525 ล้านดอลลาร์
เพื่อสร้างหนังทั้งหมด 10 เรื่อง
จาก “ทรัพย์สิน” ทั้งหมดที่มี
ในฉบับคอมมิคภายใน 7 ปี
โดยมีเงื่อนไขว่า Marvel
ไม่สามารถถอนกำไรออกมา
จนกว่าหนังเรื่องที่สามจะออกฉาย
และไม่ผิดเงื่อนไขด้านการเงิน
โดยสิ่งที่ Marvel เคยประกาศ
จะใช้สำหรับสร้างหนัง 10 เรื่องแรกนั้น
มี Captain America
(สร้างไปแล้ว) ,
Nick Fury
วันๆ นึงนิคฟิวรี่ทำอะไร ลองหาคลิ๊ปดู(ไม่ใช่แระ) ,
The Avengers
(สร้างไปแล้ว),
Black Panther
(เป็นอีก 1 ฮีโร่ที่ยังไม่ได้รู้จักกันเท่าที่ควรในบ้านเรา),
Ant-Man
(เหมือนข้างบน แต่เหล่าแฟนๆ ส่วนใหญ่ จะรู้จักกันดีอยู่แล้ว),
Cloak & Dagger
(ส่วนตัวแล้วอยากดูเรื่องนี้มากที่สุด ),
Dr. Strange
(บางคนอาจจะรู้จักเค้าจากในเกมของแคปคอม
แต่ไม่ได้รู้ว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร),
Hawkeye
(อยากให้สร้างเป็นภาคที่ก่อนจะมารวมเป็นอเวนเจอร์ส),
Power Pack
(เรื่องนี้ต้องเจาะตลาดเด็ก ครับ),
และ Shang-Chi
(ปรมาจารย์กังฟู เรียก บรู๊ซลี ก็ไม่แปลก
หากเค้าเกิดมาถูกยุค ถูกสมัย
รับรองได้ว่า ดารานำต้องเป็นเค้าแน่นอน )
นอกจากนี้ Marvel ยังไม่สามารถสร้างหนัง
ที่ได้รับเรตเข้มงวดกว่า PG-13 ได้
และเพดานงบประมาณหนังเบื้องต้นอยู่ที่
165 ล้านดอลลาร์
ซึ่งอธิบายได้ว่าทำไมหนังเรื่องแรกๆ ของ Marvel
เช่น Iron Man และ The Incredible Hulk
ใช้งบประมาณเพียง 140
และ 150 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ
Iron Man เป็นหนังเรื่องแรกที่ Marvel สร้างเองในปี 2008
ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง
และได้รับคำวิจารณ์ส่วนใหญ่ในทางที่ดี
และมี Iron Man 2 ตามมาในปี 2010
ซึ่งได้กลายเป็นหนังที่ทำรายได้สูงสุดของ Marvel ในปัจจุบัน
ปี 2009 Marvel ไม่ได้สร้างหนังออกมาเลย
แต่กลับมาพร้อมกัน 2 เรื่องในปี 2010
ได้แก่ Thor
และ Captain America: The First Avenger
โดยทั้งสองเรื่อง
ก็ประสบความสำเร็จทั้งด้านรายได้และคำวิจารณ์อีกเช่นกัน
ปีนี้ Marvel ได้ปล่อยของใน The Avengers
ซึ่งเป็นการรวมตัวของฮีโร่จาก
Iron Man, Thor,
Captain America และ Hulk
ไว้ในเรื่องเดียวโดยใช้นักแสดงนำคนเดิม
ยกเว้น ฮัลค์ ที่ได้ มาร์ค รัฟฟาโล่
มาแทน เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน
ซึ่งกำลังกวาดรายได้ทั่วโลก
และคาดว่าจะสามารถลบสถิติที่ Iron Man 2 ทำไว้
สำหรับโครงการในอนาคตของ Marvel
ทาง Marvel ได้เริ่มถ่ายทำ Iron Man 3 ไปแล้ว
พร้อมกับจะเริ่มถ่ายทำ Thor 2 ภายในปลายปีนี้
โดยทั้งสองเรื่องมีกำหนดฉายปี 2013
และ Captain America 2
ก็มีกำหนดฉายตามมาในปี 2014
นอกจากนี้ยังมีข่าวลืออีกว่า
จะมีหนัง Hulk เรื่องใหม่ที่อาจฉายในปี 2015
ณ จุดนี้
เมื่อเรากลับไปที่คำถามที่ว่า จะเป็นไปได้ไหม
ที่ตัวละครที่ลิขสิทธิ์ไม่ได้อยู่ที่ Marvel
อย่าง วูลฟเวอรีน หรือ สไปเดอร์แมน
จะปรากฎตัวในหนัง
The Avengers ภาคต่อในอนาคต
หรือตัวละครของ Marvel ที่อยู่ต่างสตูดิโอ
จะปรากฎตัวในหนังเรื่องเดียวกันได้หรือไม่?
คำตอบก็คือ
เป็นไปได้
แต่ก็เป็นไปได้ยากมาก เพราะแต่ละสตูดิโอ
ก็ต่างเห็นผลประโยชน์จากรายได้ของหนังเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
และการจับมือร่วมมือกันระหว่างสตูดิโอ
จะเป็นเรื่องซับซ้อนมาก
นอกเสียจากว่าสิทธิ์ในการสร้างหนังของ X-Men
และสไปเดอร์แมนจะกลับมาอยู่ในมือของ Marvel
ซึ่งก็ดูเป็นไปได้ยากเช่นกัน
เพราะทั้งสองแฟรนไชส์ถือเป็น “ทรัพย์สิน”
ที่ทำเงินจำนวนมากให้กับ Fox และ Sony
และทั้งสองสตูดิโอ
คงไม่ปล่อยให้หลุดมือไปเร็วๆ นี้แน่นอน
Marvel สามารถซื้อสิทธิ์เหล่านี้กลับมาได้
แต่ก็จะต้องใช้เงินมหาศาล
หรือหากสตูดิโออื่นๆ อย่าง Fox และ Columbia
ไม่สามารถสร้างหนังได้ตามกำหนดเวลา
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาระหว่างสตูดิโอเหล่านี้กับ Marvel
ก็สามารถทำให้สิทธิ์สร้างหนังถูกยกเลิก
และกลับมาอยู่กับ Marvel ได้เช่นกัน
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมหนังซูเปอร์ฮีโร่เหล่านี้
(ที่ประสบความสำเร็จ) ถูกสร้างใหม่เรื่อยๆ
และน่าจะอธิบายเหตุผลของการยกเครื่องใหม่
ของทั้ง X-Men และ สไปเดอร์แมนอีกด้วย
(พอจะรู้เหตุผลแล้วใช่ไหมครับ
ว่าทำไมสองเรื่องนี้ถึงต้องโดนรีบู๊ท )
อย่างไรก็ตาม การที่ Marvel Entertainment
มี Marvel Studios เป็นผู้สร้างหนังของตัวเอง
เป็นเพียงจุดเริ่มต้น โดยวันใดสักวันหนึ่งในอนาคต
Marvel จะกลับมาครอบครองสิทธิ์แฟรนไชส์
และตัวละครทั้งหมดของพวกเขาอย่างแน่นอน
จะมีโอกาสโผล่ในหนัง The Avengers หรือไม่
บทความน่ารู้ มาแบ่งปันกัน สำหรับที่ผู้รัก อเมริกันฮีโร่ ครับ ^^
แม้เราจะเคยเห็นโลโก้ Marvel
ที่เป็นหนังสือการ์ตูนหลายๆ หน้า
บนพื้นสีแดงก่อนหนังฉาย
แต่จริงๆ แล้วคำว่า “หนัง Marvel”
ก่อนที่ Marvel จะมีสตูดิโอสร้างหนังของตัวเองนั้น
ต่างหมายถึงหนังเกี่ยวกับตัวละครจากโลกของ Marvel
ที่ถูกสร้างขึ้นโดยสตูดิโออื่นๆ ทั้งนั้น
Marvel เริ่มสร้างหนังด้วยตัวเองในปี 2008
ผลงานแทบทุกเรื่อง
ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าทีมงานของ Marvel นั้น
สามารถสร้างฝันของพวกเขาให้เป็นจริงได้
หนัง 4 จาก 5 เรื่องทั้งหมดที่ผ่านมา
ซึ่งได้แก่ Iron Man (2008), Iron Man 2 (2010),
Thor (2011) และ
Captain America: The First Avenger (2011)
นั้นนอกจากจะประสบความสำเร็จในแง่ของรายได้แล้ว
ยังได้รับคำวิจารณ์โดยมีแนวโน้มไปในทางบวกทุกเรื่อง
มาในปีนี้ The Avengers
ที่ถือเป็นความฝันอันทะเยอทะยานสูงสุดของสตูดิโอ
ได้กลายเป็นความจริงแล้ว และเมื่อดูจากรายได้เปิดตัว
และกระแสตอบรับล่าสุด ดูท่า The Avengers
มีแนวโน้มจะกลายเป็นหนัง Marvel ที่ดีที่สุด
นับตั้งแต่ที่เหล่าฮีโร่ของพวกเขา
ได้ออกจากกระดาษมาโลดแล่นบนแผ่นฟิล์ม
แต่ก่อนที่ Marvel จะมีสตูดิโอสร้างหนังเป็นของตัวเอง
มีค่ายหนังหลายแห่งได้ซื้อลิขสิทธิ์
ในการสร้างหนังเกี่ยวกับฮีโร่หรือแฟรนไชส์ไปแล้ว
ทำให้ปัจจุบัน การจะให้ฮีโร่แต่ละตัวของ Marvel
ไปปรากฎตัวร่วมกัน ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนในฉบับการ์ตูน
เพราะกรณีของ The Avengers นั้น
ไอร่อนแมน, ธอร์,
กัปตัน อเมริกาและฮัลค์ นั้น
ลิขสิทธิ์ต่างตกอยู่ในมือของ Marvel ทั้งหมด
ซึ่งต่างจากเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ X-Men,
สไปเดอร์แมน หรือ Fantastic Four
ที่ยังถือว่าเป็น “ทรัพย์สิน” ของสตูดิโออื่นๆ
วันนี้ผมจึงอยากนำเสนอข้อมูล
เกี่ยวกับลิขสิทธิ์ของเหล่าฮีโร่ของ Marvel
ว่าปัจจุบัน ใคร “อยู่” ที่ไหนกันบ้าง
ซึ่งจะนำพาเราไปสู่คำตอบของคำถาม
ที่แฟนๆ คอมมิคของ Marvel น่าจะอยากรู้ว่า
วูลฟ์เวอรีน และ สไปเดอร์แมน
(หรือฮีโร่คนอื่นๆ)
ที่เคยปรากฎตัวเป็นสมาชิกทีม Avengers ในฉบับคอมมิค
แล้วมันจะเป็นไปได้ในฉบับหนังหรือไม่?
20th Century Fox
20th Century Fox หรือขอเรียกสั้นๆ ว่า Fox นั้น
ได้ถือลิขสิทธิ์ของแฟรนไชส์ X-Men ทั้งหมด
และมีสิทธิ์ในการสร้างหนังเกี่ยวกับตัวละครใดก็ตาม
ที่มักจะปรากฎตัวในโลกของ X-Men ฉบับคอมมิค
โดยหนัง X-Men เรื่องแรกนั้นออกฉายในปี 2000
ใช้ชื่อง่ายๆ ว่า X-Men
ตามมาด้วย X2 (2003),
X-Men: The Last Stand (2006),
X-Men Origins: Wolverine (2009)
(จำ "แกมบิท" ในเรื่องได้ไหม?
ล่าสุดกับบทนักแสดงนำ
เรื่อง Battleship
อย่าง เทย์เลอร์ คิทช์
และที่เพิ่งรับบทพระเอกในหนังฟอร์มยักษ์อย่าง John Carter)
และล่าสุดที่ถือเป็นการยกเครื่องใหม่ใน
X-Men: First Class เมื่อปี 2011
Fox ยังคงเดินหน้าต่อไม่หยุดกับ X-Men
โดยได้เริ่มถ่ายทำ The Wolverine
หนังเดี่ยวภาคต่อของวูลฟ์เวอรีนไปแล้ว
และจะเริ่มถ่ายทำ
X-Men: First Class 2 ต้นปีหน้า
นอกจากนี้ Fox ยังถือสิทธิ์สร้างหนัง
จากตัวละครและแฟรนไชส์อื่นๆ ของ Marvel
ซึ่งได้แก่ Daredevil, Fantastic Four
และ Silver Surfer
โดยทั้งสามตัวละคร/แฟรนไชส์นี้
ได้ถูกสร้างเป็นหนังไปแล้ว
Daredevil นั้นออกฉายในปี 2003
นำแสดงโดย เบน แอฟเฟล็ค
และ ตัวละคร ญ จากเรื่องนี้ ยังถูกสร้างเป็นหนัง
แยกต่างหากออกมาอีก 1ภาค ในปี 2005
นั่นก็คือ Elektra นั่นเองครับ
รับบทโดย เจนิเฟอร์ การ์เนอร์
ส่วน Fantastic Four นั้น
สร้างเป็นหนังไป 2 ภาคในปี 2005 และ 2007
โดยภาคสองเป็นภาคที่ Silver Surfer ปรากฎตัว
(คุ้นหน้ามนุษย์ไฟ หรือ ฮิวแมนทอร์ซ กันไหม )
New Line Cinema
Blade เป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์
ที่เคยโด่งดังบนแผ่นฟิล์ม ซึ่งเคยเป็นของ
New Line Cinema และเคยเป็นหนังมาแล้ว 3 ภาค
ได้แก่ Blade (1998),
Blade II(2002)
และ Blade: Trinity (2004)
แต่หลังจากที่มีปัญหาเรื่องกฎหมาย
ระหว่างนักแสดงนำ เวสลีย์ สไนป์ กับสตูดิโอ
จึงไม่เคยมีหนังภาคต่ออีกเลยนับจากนั้น
และล่าสุด เพราะข้อจำกัดในสัญญา
ระหว่าง New Line Cinema กับ Marvel
ทำให้แฟรนไชส์ของ Blade
กลับมาอยู่ในมือของ Marvel แล้ว
Columbia Pictures (Sony)
Columbia Pictures ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Sony Pictures
ถือสิทธิ์สร้างหนังของ Spider-Man และ Ghost Rider
ซึ่งแฟรนไชส์แรก คือ Spider-Man
ถูกสร้างเป็นหนังไปแล้ว 3 ภาค
และประสบความสำเร็จอย่างสูงในด้านรายได้
Spider-Man ฉายครั้งแรกในปี 2002
ตามด้วย Spider-Man 2 (2004)
และ Spider-Man 3 (2007)
โดยมี โทบี้ แม็กไกวร์ รับบทนำ
แต่ทาง Columbia Pictures ก็ตัดสินใจยกเครื่องใหม่
ซึ่งเป็นข่าวฮือฮาทั้งวงการ
เพราะแม้ Spider-Man 3 จะได้รับคำวิจารณ์ไม่ดีนัก
แต่ก็ถือว่าหนังประสบความสำเร็จด้านรายได้
แต่จะมีการยกเครื่องหนังทั้งที่หนังเพิ่งฉายไปในปี 2007
อย่างไรก็ตาม The Amazing Spider-Man
พร้อมกับสไปเดอร์แมนคนใหม่
รับบทโดย แอนดรูว์ การ์ฟิลด์
จะออกฉายในปีนี้เดือนกรกฎาคม
ส่วน Ghost Rider นั้นเป็นหนังมาแล้ว 2 ภาค
ภาคแรกในปี 2007
ส่วนภาคที่สองคือ
Ghost Rider: Spirit of Vengeance
ที่เพิ่งเข้าฉายไปเมื่อต้นปีนี้
ทั้งสองภาคนำแสดงโดย นิโคลัส เคจ
และหนังทั้งสองภาคได้รับคำวิจารณ์ไม่ดีนัก
อีกแฟรนไชส์สุดท้าย
ที่เคยสร้างเป็นหนังนอกสตูดิโอของ Marvel ก็คือ
Punisher
ซึ่งเคยเป็นลิขสิทธิ์ของ Lionsgate Entertainment
มีหนัง 2 เรื่องที่ถูกสร้าง ได้แก่
The Punisher (2004)
และ Punisher: Warzone (2008)
ซึ่งทั้งสองเรื่องไม่ประสบความสำเร็จ
โดยเฉพาะ Warzone ที่ขาดทุนย่อยยับ
ปัจจุบันสิทธิ์ในการสร้างหนัง
ได้กลับมาอยู่ในมือของ Marvel แล้ว
Universal
Universal นั้นเคยถือสิทธิ์สร้างหนังของ
Hulk
ไว้และสร้างหนังไปเพียงเรื่องเดียวในปี 2003
ซึ่งกำกับโดย อั้งลี่ และนำแสดงโดย เอริค บาน่า
โดยหนังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
Universal เองก็ไม่ได้สร้างภาคต่อ
ลิขสิทธิ์จึงกลับมาอยู่ในมือของ Marvel
โดย Marvel ก็ได้สร้างหนังเรื่องใหม่ของ Hulk
โดยใช้ชื่อว่า The Incredible Hulk
ทั้งยังเปลี่ยนนักแสดงนำเป็น เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน
และใน The Avengers
ก็ได้เปลี่ยนผู้รับบท Hulk
ไปเป็น มาร์ค รัฟฟาโล่
(ส่วนตัวผมยังไงก็ยังชอบ เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน นะ
ผมว่าเค้าแสดงได้ถึงว่า มาร์ค รัฟฟาโล่ เยอะเลย)
Marvel Studios
และในปี 2008 เมื่อ Marvel Entertainment
เริ่มมีสตูดิโอสร้างหนังเป็นของตัวเอง Marvel
ได้รับทุนในการสร้างหนังก้อนแรกมาทั้งหมด
525 ล้านดอลลาร์
เพื่อสร้างหนังทั้งหมด 10 เรื่อง
จาก “ทรัพย์สิน” ทั้งหมดที่มี
ในฉบับคอมมิคภายใน 7 ปี
โดยมีเงื่อนไขว่า Marvel
ไม่สามารถถอนกำไรออกมา
จนกว่าหนังเรื่องที่สามจะออกฉาย
และไม่ผิดเงื่อนไขด้านการเงิน
โดยสิ่งที่ Marvel เคยประกาศ
จะใช้สำหรับสร้างหนัง 10 เรื่องแรกนั้น
มี Captain America
(สร้างไปแล้ว) ,
Nick Fury
วันๆ นึงนิคฟิวรี่ทำอะไร ลองหาคลิ๊ปดู(ไม่ใช่แระ) ,
The Avengers
(สร้างไปแล้ว),
Black Panther
(เป็นอีก 1 ฮีโร่ที่ยังไม่ได้รู้จักกันเท่าที่ควรในบ้านเรา),
Ant-Man
(เหมือนข้างบน แต่เหล่าแฟนๆ ส่วนใหญ่ จะรู้จักกันดีอยู่แล้ว),
Cloak & Dagger
(ส่วนตัวแล้วอยากดูเรื่องนี้มากที่สุด ),
Dr. Strange
(บางคนอาจจะรู้จักเค้าจากในเกมของแคปคอม
แต่ไม่ได้รู้ว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร),
Hawkeye
(อยากให้สร้างเป็นภาคที่ก่อนจะมารวมเป็นอเวนเจอร์ส),
Power Pack
(เรื่องนี้ต้องเจาะตลาดเด็ก ครับ),
และ Shang-Chi
(ปรมาจารย์กังฟู เรียก บรู๊ซลี ก็ไม่แปลก
หากเค้าเกิดมาถูกยุค ถูกสมัย
รับรองได้ว่า ดารานำต้องเป็นเค้าแน่นอน )
นอกจากนี้ Marvel ยังไม่สามารถสร้างหนัง
ที่ได้รับเรตเข้มงวดกว่า PG-13 ได้
และเพดานงบประมาณหนังเบื้องต้นอยู่ที่
165 ล้านดอลลาร์
ซึ่งอธิบายได้ว่าทำไมหนังเรื่องแรกๆ ของ Marvel
เช่น Iron Man และ The Incredible Hulk
ใช้งบประมาณเพียง 140
และ 150 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ
Iron Man เป็นหนังเรื่องแรกที่ Marvel สร้างเองในปี 2008
ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง
และได้รับคำวิจารณ์ส่วนใหญ่ในทางที่ดี
และมี Iron Man 2 ตามมาในปี 2010
ซึ่งได้กลายเป็นหนังที่ทำรายได้สูงสุดของ Marvel ในปัจจุบัน
ปี 2009 Marvel ไม่ได้สร้างหนังออกมาเลย
แต่กลับมาพร้อมกัน 2 เรื่องในปี 2010
ได้แก่ Thor
และ Captain America: The First Avenger
โดยทั้งสองเรื่อง
ก็ประสบความสำเร็จทั้งด้านรายได้และคำวิจารณ์อีกเช่นกัน
ปีนี้ Marvel ได้ปล่อยของใน The Avengers
ซึ่งเป็นการรวมตัวของฮีโร่จาก
Iron Man, Thor,
Captain America และ Hulk
ไว้ในเรื่องเดียวโดยใช้นักแสดงนำคนเดิม
ยกเว้น ฮัลค์ ที่ได้ มาร์ค รัฟฟาโล่
มาแทน เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน
ซึ่งกำลังกวาดรายได้ทั่วโลก
และคาดว่าจะสามารถลบสถิติที่ Iron Man 2 ทำไว้
สำหรับโครงการในอนาคตของ Marvel
ทาง Marvel ได้เริ่มถ่ายทำ Iron Man 3 ไปแล้ว
พร้อมกับจะเริ่มถ่ายทำ Thor 2 ภายในปลายปีนี้
โดยทั้งสองเรื่องมีกำหนดฉายปี 2013
และ Captain America 2
ก็มีกำหนดฉายตามมาในปี 2014
นอกจากนี้ยังมีข่าวลืออีกว่า
จะมีหนัง Hulk เรื่องใหม่ที่อาจฉายในปี 2015
ณ จุดนี้
เมื่อเรากลับไปที่คำถามที่ว่า จะเป็นไปได้ไหม
ที่ตัวละครที่ลิขสิทธิ์ไม่ได้อยู่ที่ Marvel
อย่าง วูลฟเวอรีน หรือ สไปเดอร์แมน
จะปรากฎตัวในหนัง
The Avengers ภาคต่อในอนาคต
หรือตัวละครของ Marvel ที่อยู่ต่างสตูดิโอ
จะปรากฎตัวในหนังเรื่องเดียวกันได้หรือไม่?
คำตอบก็คือ
เป็นไปได้
แต่ก็เป็นไปได้ยากมาก เพราะแต่ละสตูดิโอ
ก็ต่างเห็นผลประโยชน์จากรายได้ของหนังเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
และการจับมือร่วมมือกันระหว่างสตูดิโอ
จะเป็นเรื่องซับซ้อนมาก
นอกเสียจากว่าสิทธิ์ในการสร้างหนังของ X-Men
และสไปเดอร์แมนจะกลับมาอยู่ในมือของ Marvel
ซึ่งก็ดูเป็นไปได้ยากเช่นกัน
เพราะทั้งสองแฟรนไชส์ถือเป็น “ทรัพย์สิน”
ที่ทำเงินจำนวนมากให้กับ Fox และ Sony
และทั้งสองสตูดิโอ
คงไม่ปล่อยให้หลุดมือไปเร็วๆ นี้แน่นอน
Marvel สามารถซื้อสิทธิ์เหล่านี้กลับมาได้
แต่ก็จะต้องใช้เงินมหาศาล
หรือหากสตูดิโออื่นๆ อย่าง Fox และ Columbia
ไม่สามารถสร้างหนังได้ตามกำหนดเวลา
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาระหว่างสตูดิโอเหล่านี้กับ Marvel
ก็สามารถทำให้สิทธิ์สร้างหนังถูกยกเลิก
และกลับมาอยู่กับ Marvel ได้เช่นกัน
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมหนังซูเปอร์ฮีโร่เหล่านี้
(ที่ประสบความสำเร็จ) ถูกสร้างใหม่เรื่อยๆ
และน่าจะอธิบายเหตุผลของการยกเครื่องใหม่
ของทั้ง X-Men และ สไปเดอร์แมนอีกด้วย
(พอจะรู้เหตุผลแล้วใช่ไหมครับ
ว่าทำไมสองเรื่องนี้ถึงต้องโดนรีบู๊ท )
อย่างไรก็ตาม การที่ Marvel Entertainment
มี Marvel Studios เป็นผู้สร้างหนังของตัวเอง
เป็นเพียงจุดเริ่มต้น โดยวันใดสักวันหนึ่งในอนาคต
Marvel จะกลับมาครอบครองสิทธิ์แฟรนไชส์
และตัวละครทั้งหมดของพวกเขาอย่างแน่นอน
อยากรู้ไหมทำไม สไปเดอร์แมน ไม่ได้ร่วมทีม The Avengers อยากรู้คลิกอ่าน ละเอียดมาก เเละยาวมากครับ