ผมสวยด้วยวิธีธรรมชาติ
เก็บคำตอบมาจากเอกสารของสำนักงานกองทุนสนับ สนุนการ สร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ว่าด้วยการบำรุงรักษาเส้นผมด้วยผลิตผลที่มาจากธรรมชาติ ดังนี้
1. คนที่มีปัญหาผมแห้ง รวมถึงปัญหาหวีจัดทรงยาก ผมไม่มีสปริง ไม่มีน้ำหนัก ขาดชีวิตชีวา ทำให้หนังศีรษะแห้งและเกิดสะเก็ดรังแคง่าย ให้ใช้น้ำมันมะพร้าวผสมกับไข่ไก่ โดยนำน้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะตั้งไฟอ่อน ผสมกับไข่ไก่ 1 ฟอง เอาเฉพาะไข่แดง ตีให้เข้ากัน รอจนเย็นแล้วนำไปลูบให้ทั่วศีรษะ นวดด้วยปลายนิ้วให้ทั่วตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้ายทอย แล้วใช้ฝ่ามือขยำๆ ขยี้ๆ เพื่อให้ซึม เข้าสู่เส้นผม ใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กคลุมหมักไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง ล้างออกด้วยน้ำอุ่น แล้วสระด้วยแชมพูอ่อนๆ ทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ผมจะนุ่มดูมีน้ำหนักและจัดทรงง่ายขึ้น
2. คนที่ไม่ชอบกลิ่นของไข่ไก่ให้ใช้สูตรน้ำมันมะกอก โดยนำน้ำมันมะกอกอุ่นๆ 2-3 ช้อนโต๊ะ นวดหนังศีรษะ โดยหวีและชโลมเส้นผมให้ทั่ว วิธีการนวดให้นวดเป็นวงกลมเล็กๆ เมื่อนวดจนทั่วศีรษะแล้วใช้ผ้าขนหนูพันศีรษะทิ้งไว้ 15 นาที ก่อนสระด้วยแชมพูอ่อนๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น วิธีนี้ช่วยบำรุงเส้นผมให้กลับมีสภาพดีได้เหมือนกัน
3. สำหรับคนที่มีปัญหารังแค ลองใช้สูตรน้ำมะนาว หรือน้ำมะกรูด โดยคั้นน้ำมะนาวหรือน้ำมะกรูดที่ผ่านการเผาไฟแล้ว นำมานวดหนังศีรษะหลังสระผม ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ล้างออก ช่วยลดรังแคได้
4. ส่วนคนที่มีผมอ่อนแอ หลุดร่วงง่าย ลองใช้ขิง วิธีการง่ายๆ เพียงนำเหง้าขิงสดมาเผาไฟ ทุบให้แตก ผสมน้ำนำไปขยี้ให้ทั่วศีรษะ วันละ 2 ครั้ง ประมาณ 3 วัน หรือนำขิงแก่ 1 เหง้า ขนาดเท่าฝ่ามือมาตำให้ละเอียด ห่อด้วยผ้าขาวบางเป็นลูกประคบ วางบนหม้อประคบ ที่ต้มน้ำจนเดือด เมื่อลูกประคบร้อนนำไปประคบบริเวณผมร่วง ทำวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 20-30 นาที ราว 3-5 วัน จะเห็นผล
5. คนที่มีเส้นผมหยิกหยักศก ที่สำคัญยังพบอาการแห้งและฟู ให้นำน้ำกับน้ำมะนาวผสมกันให้เจือจาง ชโลมผมหลังจากล้างผมน้ำสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว ทิ้งไว้ 5 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น กรดในน้ำมะนาวจะช่วยให้ไฟเบอร์ในผมยึดเกาะกันได้แน่น ผมจะเรียบและหวีง่ายยิ่งขึ้น ที่สำคัญจะทำให้ผมดูเงางาม
6. ขณะที่ผมมันก็เป็นอีกแบบที่มักสร้างปัญหา ทั้งเป็นสะเก็ดรังแค หนังศีรษะคันง่าย การรักษาความสะอาดของเส้นผมจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด โดยเฉพาะการบำรุงรักษาด้วยไข่ขาวผสมน้ำอุ่น วิธีการคือ ใช้ไข่ขาว 1 ฟอง กับน้ำอุ่นครึ่งแก้ว ตีให้เข้ากัน ราดลงบนผมเส้น ใช้มือนวดให้ทั่วศีรษะ ทิ้งไว้ 8-10 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่นโดยไม่ต้องสระผมซ้ำ ทำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ผมจะค่อยๆ ปรับสภาพ และหายมัน
7. สำหรับคนผมแตกปลาย ใช้ไข่ไก่ผสมกับน้ำมันงาและน้ำผึ้ง โดยใช้ไข่ไก่ เฉพาะไข่แดง จำนวน 2 ฟอง น้ำมันงา 4 ช้อนโต๊ะ และน้ำผึ้ง 2 ช้อนชา ตีผสมให้เข้ากัน จากนั้นใช้น้ำอุ่นราดให้ทั่วศีรษะ แล้วค่อยๆ นำส่วนผสมที่ทำไว้เทลงไปให้ทั่วศีรษะคลุมด้วยผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น หมักทิ้งไว้ 20-30 นาที สระออกด้วยแชมพูอ่อนๆ ผมจะมีสุขภาพดีขึ้น
8. ผมทำสี ก็เช่นกันที่ต้องรักษาดูแลเป็นพิเศษ เพราะเป็นสภาพผมที่อ่อนแอที่สุด นอกจากอาการแห้งกรอบภายนอก ภายในเส้นผมจะมีรูพรุนอยู่ทั่วไป ที่สำคัญเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งผมร่วง แห้ง เสีย ให้ลองใช้สูตรน้ำมะนาว 2 ผล ใส่บริเวณโคนผม ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที จากนั้นให้เป่าผมจนแห้ง วิธีนี้จะช่วยให้สีผมที่ทำมาชัดขึ้นและบำรุงหนังศีรษะได้ด้วย
แต่ทั้งนี้เพื่อให้เส้นผมอยู่กับเราไปนานๆ การเลือกกินอาหารที่ช่วยบำรุงเส้นผมก็จำเป็น คืออาหารที่มีเบต้าแคโรทีนสูงอย่างฟักทอง มะละกอ ตำลึง แครอต จะช่วยให้ผมเงางามและมีน้ำหนักขึ้น รวมถึงการเสริมวิตามินซีและอี ธาตุสังกะสี ธาตุเหล็ก จากอาหารจำพวกข้าวไม่ขัดขาว ข้าวสาลี ไข่ ถั่ว นม ธัญพืช ผัก ผลไม้ และตับ จะทำให้ผมดูดียิ่งขึ้นได้ ที่สำคัญควรลดการดื่มน้ำอัดลม เพราะทำให้เลือดเป็นกรด ส่งผลให้เส้นผมสูญเสียแร่ธาตุไปด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก น้าชาติ รู้ไปโม้ด
ผมสวยด้วยวิธีธรรมชาติ