ผมก็โลลิน้า<ganauou
แนวทางของโลลิค่อนและผู้สนิทพึงปฏิบัติ
1. ผู้สนิทกับโลลิค่อนไม่ควรแยกหรือปิดกั้นโลลิค่อนออกจากเด็ก เพราะอาจทำให้เกิดการอดอยากเด็กขึ้นมา
แล้วจะมีอาการกระหายเด็ก-A-" ทำให้เด็กที่โลลิค่อนดังกล่าวพบเห็นเกิดอันตรายได้หากปล่อยให้เด็กและโลลิค่อยผู้นั้นอยู่เพียงลำพัง
2. การชอบเด็กนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก
3. ใครๆก็รักเด็ก แม้แต่นางงาม-A-"
4. พยายามอย่าให้โลลิค่อนอยู่คนเดียว
5. ไม่แนะนำให้อยู่กับโลลิค่อนเป็นสายหลัก แนะนำให้ไปอยู่ทางสายอื่นมากกว่า
(อาจมีการอัพเดดเข้ามาเรื่อยๆ)
__________________
ทีนี้... หลังจากรู้จักโลลิค่อนกันพอสมควร
บางคนอาจจะมองทันทีเลยว่า
"พวกโรคจิต" ไม่ก็.. "พวกกินเด็ก"
เรามาดูกันที่คำว่า "กินเด็ก" ก่อนก็แล้วกันนะครับ
__________________
คำว่า"กินเด็ก" ในความหมายของหลายๆคน หมายถึง พวกชอบหรือรักๆใคร่ๆเด็กแบบเป็นแฟน
จึงนำมาเปรียบเทียบกับโลลิค่อน
ในกรณีนี้
โลลิค่อนนั้นชอบเด็กโดยเปรียบเสมือนการหลงไหลในตัวการ์ตูนหรืออนิเม
ไม่ก็การบ้าดารา นักร้อง ตามปกติเหมือนคนทั่วไป
เพียงแค่ความชอบของเขาคือ 'เด็ก' เท่านั้นครับ...
หาได้ชอบหรือรักใคร่เด็กในมุมมองนั้น
*ถึงอย่างนั้นก็ขึ้นอยู่กับโลลิค่อนแต่ละคนด้วย
__________________
ต่อมา...
สำหรับการมองโลลิค่อนว่าเป็นพวก "โรคจิต"
โรคจิตในความหมายของหลายๆคนเมื่อพูดถึงโลลิค่อน
ก็คือพวกที่คิดไม่ดีไม่ร้ายกับเยาวชน ทั้งๆทีไม่มีอะไรที่น่าจะทำให้คิดได้
อย่างเช่นหน้าอกเป็นต้น
คือต้องบอกไว้ก่อนว่า....
ในสายตาของโลลิค่อน เด็กมีอะไรมากกว่าความแบนครับ-[]-...
ไม่ว่าจะเป็น ความน่ารักแบบใสๆ ความซึน ความเรียบร้อย ฯลฯ
ในสายตาของโลลิค่อนนะครับ เด็กก็ไม่ต่างอะไรกับตัวการ์ตูน
หรือตุ๊กตาน่ารักๆที่ขยับไปมาได้
แต่ไม่ได้หมายความว่า.... 'โรคจิต' ที่ว่า ไม่มีอยู่ในสังคมหรอกนะ...
__________________
*ควรใช้วิจารณญาณในการอ่านบทความต่อไปนี้...
อย่างที่ได้เตือนไว้จากข้างบนๆ
เรื่องการไม่ควรยึดโลลิค่อนไว้เป็นหลัก
ควรจะไปเน้นทางอื่นเสียมากกว่า แล้วแกมโลลิค่อนเล็กน้อย
อย่างเช่น ยูริ (หญิง-หญิง)
เพราะหากอยู่กับโลลิค่อนไปมากๆ คุณอาจไม่ทันรู้ตัว
แต่คุณไม่ใช่โลลิค่อนเสียแล้ว....
ความชอบเด็กในแบบเดิมๆจะเริ่มหายไป
แล้วจะก่อให้เกิดอาการทางประสาท
ที่เรียกว่าโรค พีโดฟีเลีย (Pedophilia)
สำหรับกลุ่มคนที่เป็นโรคพีโดฟีเลียนั้น เรียกได้ว่าเข้าสู่ระยะอันตรายเสียแล้ว
แล้วการจะแยกผู้ป่วยกับคนปกตินั้นค่อนข้างจะยากพอสมควร
แต่ก็พอมีวิธีสังเกตอย่างง่ายอยู่..
สำหรับผู้ป่วยนั้น มักจะมีงานหรืออาชีพที่ใกล้ชิดกับเด็ก
อย่างเช่น ครู อาจารย์ ฯลฯ
ผู้ป่วยนั้นจะมีลักษณะที่ชอบการมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก
ไม่ชอบการรักษา และรักษาไม่หาย เพราะต่อให้รักษาอย่างไร
มันก็ยังคงเป็นความชอบอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ
ผู้ป่วยจะใช้ผลประโยชน์ทางอาชีพ หรือสิ่งของมาหลอกล่อ
เพื่อให้ตัวเองนั้นสนิทกับเด็ก และยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เด็กรัก
ในกรณีนี้ เคยมีข่าวของผู้ป่วยคนนึงแต่งงานกับแม่หม้ายที่มีลูกสาวติดมาด้วย
เพื่อให้ตัวเองได้ใกล้ชิดกับเด็กผู้เป็นลูกเลี้ยงของตน