MMD [Miku Miku Dance] Basic 3

Views 16.24K30 Replies5 Points

MMD basic บทที่ 3 ว่าด้วยมุมกล้อง แสง และ ระบบ เรนเดอร์

เอาละหลายคนเรียนจากบทที่ 2 จนทำการเต้นและ เข้าใจระบบเฟรมและโมชั่นได้แล้วบทนี้จะมาเรียนวิธีการทำมิวสิกวีดีโอ การเต้นแบบสมบรูณ์

ใครไม่เคยอ่าน บท 1 บท 2 ไปอ่านก่อนนะเดี๋ยวจะงงเป็นไก่ตาแตก

http://2th.me/thread-54404-1-1.html

http://2th.me/thread-54956-1-1.html

ก่อนอื่นจะเต้นได้จะต้องมีเพลง (หลายคนสงสัยแหละว่าใส่เพลงยังไง)มาดูกันเลยดีกว่า

ในวงกลมสีแดง

จะมี load WAVfile คือการนำเพลงมาใสในงานของเรา โดยเพลงที่นำมาใส่ต้องไฟล์สกุล .WAVเท่านั้น(เพราะตัวโปรแกรมจะอ่านwave จากตัวเพลง) โดยจะแปลง จาก MP3 ไปเป็น WAVก้อได้โดยใช้ FF (Format Factory)

Play WAVwith frame คือให้มีการเล่นเพลงขณะเราย้ายเฟรม (ด้วยการกดปุ่มลูกศร ซ้าย บนคีย์บอร์ดเฟรมจะเลื่อนไปเรื่อยๆ)

Notplay WAV file คือไม่ต้องเล่นเพลงขณะทำการเล่นทดสอบ ปุ่ม play (สำหรับคนสเปกคอมต่ำ)

เอาละหลังโหลดไปเพลงจะได้หน้าตาประมาณนี้

จะมี wave ขึ้นบนหัวของเฟรม (ใครไม่มีไม่ต้องตกใจ เพราะเพลงบางเพลงขึ้นช้าอาจจะอยู่ปริเวณเฟรมที่ 80 – 150 (ลองเลื่อนๆหาดู)

เอาละ wave บนจะเป็นตัวบอกว่าช่วงไหนมีเสียงช่วงไหนไม่มี โดยเราจะค่อยๆ ใส่ motionเข้าไปที่ละส่วนโดยเราจะใช้ตัวช่วย Play WAV with frame เพื่อเล่นเสียงไปพร้อมกับกำหนดท่าทางก็ได้หรือจะทำแบบผมนั่งจำว่าเฟรมไหนถึงไหนร้องอะไรแล้วนั่งทำท่าเต้นที่ละช่วงก้อได้(เคยทำหนุมิกคุเต้นเพลงบ้านในค่ายของลาดกระบังอยู่ก็ใช้วิธีนี้)

เอาละพอจัดท่าเต้นเสร็จแล้ว

ไม่ต้องตกใจกับโมชั่นอันนี้เพราะใช้ Kinect จับนะครับ (ใช้ระบบจับการเคลื่อนไหวโดยใช้Kinect ในการจับท่าเต้นของเพลงโดยเราเต้นจริงแล้ว Kinect จะจับข้องมูลแปลงเป็นข้อมูลการเคลื่อนไหวให้อธิบายในบท adept นะครับอันนี้ basic)

ต่อเราจะจัดการเรื่องกล้องกับแสงที่ใช้กันต่อนะครับ

ไปที่ส่วนควบคุมด้านมุมกล้อง แสง และเครื่องประดับ (camera/light/accessoryเคยให้ใช้แบบง่ายๆแล้วในบทที่2 )

หน้าต่างจะเปลี่ยนไป

โดยลิสต์ในส่วนของเฟรมจะเหลือ 3 อย่างคือ

Camera - มุมกล้อง

Light – ระบบแสง

S shadow –ระบบเงา(ตัวนี้ไม่ต้องไปยุ่งกับมัน)

มาดูเรื่องมุมกล้อง พระเองของเราดีกว่า ใช้ระบบเดียวกับ โมชั่นในการกำหนดกระดูกแต่เรากำหนดโดยใช้สายตาเอาได้เลยไม่ต้องเลือกกระดูกดูตัวอย่างเลย

ในการเปลี่ยนมุมกล้องแบบพื้นฐานเราจะใช้อยู่ 2 แบบ คือแบบ Moveกับshift

มาดูแบบmove ก่อนดีกว่า

ก่อนอื่นในเฟรมองผมเฟรมที่ 765 ผมได้เลือกใช้มุมกล้องเริ่มต้น ของเพื่อนๆอาจจะจะเป็นเฟรมที่ 0 หรือเฟรมที่ ต้องการ

ในอีก 15 เฟรมถัดมาผมจะเปลี่ยนมุมกล้องโดยจะหมุนมันให้เห็นหน้ามิกคุ

โดยเวลาเราหมุนให้ใช้เครื่องมือทางขวา

เหมือนเดิม แถวบนใช้หมุนกล้อง (เพื่อนๆอาจแค่คลกขวาบนจอแสดงแล้วหมุนก็ได้ค่าเท่ากัน)

แถวล่าง สำคัญ คือการเลือนกล้องไปตามแนว (ไม่มีทางลัดต้องใช้อันนี้เท่านั้นนะครับ)โดย x เลื่อนซ้าย-ขวา y เลื่อนขึ้นลง

Z เลื่อน เข้า –ออก (ซูมนั้นแหละ)

เอาละหมุนกันเลย ไปเฟรมที่ต้องการ ของผม 780 แล้วหมุน

โดยเมื่อหมุนเสร็จให้กดปุ่ม reg ในกรอบสีเขียว

จะมีจุดแดงขึ้นมา (แบบเดียวกับที่ทำกระดูกเลย)

เวลาเรากด play มีเคล็ดลับนิดหน่อย คือ ข้างล่างปุ่ม playจะมีกรอบให้ใส่ตัวเลขได้2 กรอบ กรอบแรกคือเฟรมเริ่มต้นที่เราอยากให้โปรแกรมเล่นให้ดู กรอบสองคือให้หยุดเล่นเฟรมตอนไหน (มีประโยชน์ตอนทำเพลงจริง)

กรณีของผม อยากให้มันเล่น เฉพาะตอน เฟรมที่ 760 –800 ผมก็ใส่ 760 ในกรอบแรก (กรอบซ้ายมือ) และ 800 ในกรอบขวามือ(ของเพื่อนๆก็ให้ใส่ในเฟรมที่ต้องการได้เลย)

ลองplay ดูมุมกล้องจะค่อยๆ หมุนหรือเลื่อนไว้

ต่อไปมาดูแบบ shift กันบ้างคือการสลับมุมกล้องอย่างรวดเร็วมันเป็นยังไงมาดูกันเลยดีกว่า

ของผม ณ เฟรม 780 ตองการเปลี่ยนมุมกล้องอย่างฉับพลังใน 15 เฟรม ถัดมา(ของเพื่อนๆ อาจจะเป็นเฟรมอื่นนะ แล้ว อาจจะใช้เวลาไม่เท่ากันก็ได้)หรือเฟรมที่ 795 นั้นเอง

จำง่ายๆถ้าจะ shift ที่เฟรม ไหน ให้เอาเฟรมนั้นลบ 1 เช่น ของผม 795 –1 ได้ 794 ไปที่เฟรม 794 ก่อน

reg มุมกล้องเลย ไม่ต้องทำอะไร(เราจะคงมุมกล้องเดิมไว้ตามหลัก motion ไปดูที่บท 2 นะ)

จากนั้นไปที่เฟรม 795

เปลี่ยนเป็นมุมกล้องที่ต้องการ แล้ว reg จากนั้นลอง playดูจะพบว่ากล้องมันจะสลับจากมุมกล้องหนึงไปยังอีกมุมกล้อง 1 ทันที

เอาละพื้นฐานมุมกล้องเอาคราวๆ เท่านี้พอ (ปรกติใช้กันเท่านี้แหละ)ในเรื่องวิวเองเกิลนั้นไม่ขออธิบาย (เก็บไว้ในบท adept)

เรื่องแสงขั้นพื้นฐาน (ไม่ยุ่งกับเงาโดยเราจะให้โปรแกรมจัดการเรื่องเงาให้)

เอาละการควบคุมแสงมี 2 ประเภท คือ สีของ แสง และ จุดกำเนิดแสง

เอาละมาลองกันเลย

ดูเรื่องสีก่อน

โดยเริ่มแรกผมจะให้เฟรมเริ่มต้นของผม 765 เป็นเฟรมที่มีแสงสีขาวก่อนและเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินในเฟรมที่ 780

ผมได้ reg ค่าแสงสีข่าว (ค่าเริ่มต้น R 154 G 154 B 154)ในเฟรมที่ 765

โดยค่าแถมสีจะอยู่ในวงกลม สีเหลือง มีตัว R G B นำหน้าแถบเลื่อน

ขั้นต่อไป

ไปที่เฟรมที่ต้องการ ของ ผมเฟรม 780 แล้วเลื่อนแถบสี ซะให้เรียบร้อย(ของผมใช้วิธีกำหนดค่าบริเวณกรอบด้านข้างแทน เพื่อนๆที่ไม่เคยใช้ โฟโต้ซ้อปแนะนำว่าให้ใช้แถบเลื่อนหาสีเอาดีที่สุดของผมค่าสี R 120 G 154 B 255 สีออกน้ำเงินเข้ม)

จอแสดงผลจะแสดงตัวหนูมิกคุออกสีน้ำเงินนิดๆ(ออกฟ้า)เนื่องจากแสที่มากระทบหนูมิกคุสีน้ำเงิน และงาจะออกสีน้ำเงิน

ลองกด play ดูจะเห็นว่า สีของแสงค่อยๆ เปลี่ยนจะสีขาวไปเป็นสีน้ำเงิน

โดยถ้าเพื่อนๆอยากให้มีการเปลี่ยนสีแบบทันที ลองใช้เทคนิค shiftแบบมุมกล้องดู(ใช้ได้เหมือนกัน)

เอาละมาถึงเรื่องการย้ายจุดกำเนิดแสงแล้ว

ผมได้ reg จุดกำเนิดแสงให้อยู่ในตำแหน่งฉายจากหน้ามิกคุ สังเกตจากเงา ในเฟรม 780 ผมจะให้แสงเปลี่ยนทิศทางให้ส่องจากด้านหลังของเธอแทน)โดยยึดเส้นสีแดงที่แกนตารางเป็นหน้านะครับโดยให้ย้ายแสงในเฟรมที่ 794

ไปที่เฟรม 794 นะครับ แล้วแถบเลื่อนแกน x (อยุ่ถัดจากแถบกำหนดสีของแสง) (ลองเลื่อนในแกนอื่นๆดูด้วยนะเพื่อจะได้มุมแสงที่เพื่อนๆต้องการ)แล้ว reg ซะ

แล้วลองกด play ดู มุมของเงาก็จะเปลี่ยน(เพราะมุมของแสงจะเปลี่ยน) แน่นอนใช้เทคนิค Shift ได้เช่นกัน

Ok น่าจะพอได้กันแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำให้จบเพลง(ต้องอดทนมากเพราะเพลงหนึ่งอาจมีถึง 3000 – 12000 เฟรม)

เอาละเต้นบนฉากขาวๆก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาฉะนั้นเรามาใส่ฉากกันดีกว่า(เอาพื้นฐานพอนะ)

เลือกตามรูปเลย stage 01 ใครโหลดตัวโปรแกรมจากผมไปจะมีนะครับ กด Openก็จะมีเวทีโพล่มา

ทำตามรูปต่อไปเลยนะ

เอาละเวทีเต้นของเราเปิดแล้ว

จากนั้นเราเอาพื้นสมมุติ (ตารางขาวๆออกไป) เอาติ๊กออก

เรามา render หรืออัดเป็นวีดีโอกันเลยดีกว่า

ตามรูปเลย จากนั้นมันจะให้เราเลือกว่าจะเซฟที่ไหนชื่ออะไร เซฟ โลด

แล้วจะมีหน้าต่างแบบนี้ในบทที่ 2 ผมไม่ได้อธิบายละเอียดแต่บทนี้จะอธิบายละเอียดกันเลย

อันแรก คือ AVIsize อันนี้ใช้ค่าของโปรแกรมไป

Frame rate ให้ใช้ 30เท่านั้นครับ

Wave ถ้าติ๊กถูกไว้เวลาเรนเดอร์เสร็จไฟล์VDO จะมีเสียงเพลง(ให้ติ๊กเอาไว้นะครับถ้าไม่ได้ต้องการจะดัดแปลงเสียงนอกโปรแกรม MMD )

ค่าสุดท้าย video compressor

คือการบีบอัดไฟล์ตามรูปแบบการเข้ารหัสให้เลือก 2 แบบพอนะครับสำหรับมือใหม่ คือ AVI RAW สำหรับใช้ในสื่อทั่วไป(ใช้ตัวนี้ดีสุด) กับ MJPEGCompressor ใช้ในงานขนาดเล็ก ย้ำว่าเล็ก จำพวกไฟล์ที่ใช้ดูในมือถือเก่าๆ หรือเอาไปทำไฟล์ .GIF ต่อโดยให้เลือก AVI ครับในเคสนี้

โดย ไฟล์ AVI ขนาดจะใหญ่มากๆ ควรเตรียมพื้นที่ฮารด์ดิสไว้สักหน่อย(ผมเคยเรนเดอร์เต็มเพลง กินไปเต็มๆ 15 G แต่ผลลัพธ์ออกมาดีมากเพราะคุณภาพ HD ทีเดียว)

กด Ok รอจนเสร็จ ก็เป็นอันจบบริบรูณ์ครับ

ในที่สุดก็จบบทของ Basic สักที ในบท adept คงรอกันอีกนานหน่อยนะครับ(เพราะยากมากเพราะจะมีเรื่องการกำหนดจุดเชิงพิกัดแบบละเอียดซึ่งจะทำให้งานของเราเฟอร์เฟ็กมากขึ้น)