เป็นกระทู้แรกของผมครับ หากซำ้หรือผิดพลาดประการใดขออภัย
เอเจนซี - ผืนป่า “อาโอกิกาฮาระ” อันโดดเดี่ยว เป็นสถานที่ซึ่งชาวญี่ปุ่นจำนวนมากเลือกจบชีวิตตนเอง
ผืนป่าหนาทึบซึ่งตั้งอยู่เชิงภูเขาไฟฟูจิแห่งนี้ เป็นที่ซึ่งหลายคนอาจหลบหายเข้าไปในหมู่แมกไม้เขียวครึ้ม... และไม่กลับออกมาอีกเลย
ทุกๆ ปีทางการญี่ปุ่นจะพบศพอย่างน้อย 100 ศพผูกคาอยู่กับต้นไม้ ขณะที่อีกหลายศพอาจนอนเป็นผีเฝ้าป่าอยู่หลายปีโดยไม่มีใครหาเจอ
เหตุผลที่คนจำนวนมากเลือกฆ่าตัวตายในป่าอาโอกิกาฮาระยังคงเป็นปริศนา แม้จะมีบางคนสันนิษฐานว่า ผู้ที่เลือกมาตายที่นี่กลุ่มแรกๆ น่าจะได้แรงบันดาลใจจากนวนิยายเรื่องหนึ่ง ซึ่งใช้ป่าแห่งนี้เป็นฉากของเรื่อง
อาซูสะ ฮายาโนะ ซึ่งศึกษาและดูแลผืนป่าอาโอกิกาฮาระมานานกว่า 30 ปี บอกว่า แม้ตัวเขาเองก็ยังไม่เข้าใจว่ากระแสนิยมเช่นนี้มีที่มาอย่างไร
หน้าที่ประจำอย่างหนึ่งของเขาก็คือ ค้นหาศพคนที่ฆ่าตัวตายในป่า หรือเข้าไปห้ามปรามหากยังไม่สายเกินไป ซึ่งตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เฉพาะตัวเขาคนเดียวก็พบศพมาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ศพ
นักธรณีวิทยาวัยกลางคนผู้นี้นำทีมถ่ายทำสารคดีจาก Vice World เข้าไปยังสถานที่ซึ่งชื่อว่า “จูไก” เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ที่พบเจอมา
เขาชี้ให้ทีมงานดูร่องรอยบางอย่างบนต้นไม้ ซึ่งแสดงให้เห็นสภาพจิตใจของคนที่กำลังจะฆ่าตัวตาย หรือแม้แต่บางคนที่เปลี่ยนใจขอมีชีวิตอยู่ต่อ
บางคนอาจนึกสงสัยว่า ฮายาโนะ มีสภาพจิตไม่ปกติ จึงสนใจเรื่องความตายมากเช่นนี้ แต่เมื่อรับชมสารคดีต่อไปเรื่อยๆ ก็จะพบว่าหนุ่มใหญ่เสียงนุ่มและช่างครุ่นคิดคนนี้เพียงปรารถนาจะเข้าใจ และป้องกันมิให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นอีกเท่านั้น
สารคดีดังกล่าวยังเผยภาพชวนสยองในป่ามรณะ ไม่ว่าจะเป็นร่างไร้วิญญาณที่ห้อยอยู่บนต้นไม้ รวมถึงทรัพย์สินของผู้ตาย และร่องรอยของความโศกเศร้าหรือลังเลก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจลาโลก
ป้ายเตือนสติถูกปักไว้ทรงจุดเชื่อมระหว่างทางเดินชมธรรมชาติกับพื้นที่ห้ามเข้า เพื่อให้คนที่คิดจะฆ่าตัวตายทบทวนใหม่ให้ดี เพราะเมื่อก้าวออกจากจุดนี้ไป หลายคนไม่มีวันได้ย้อนกลับมาอีก
บางคนที่ยังตัดสินใจไม่เด็ดขาดว่าจะฆ่าตัวตายหรือไม่ ใช้สายเทปโยงตามเส้นทางที่ตนเองเดินมา เพื่อจะย้อนกลับไปสู่โลกภายนอกได้อีกหากเปลี่ยนใจ
“แต่ส่วนใหญ่แล้ว ถ้าคุณเดินตามเทปพวกนั้นไปก็จะพบอะไรบางอย่างเสมอ” เขาบอก
“อาจจะพบศพ หรือไม่ก็ร่องรอยว่าเคยมีคนไปถึงที่นั่น”
credit:http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9550000044841
อาซูสะ ฮายาโนะ นักธรณีวิทยาผู้ดูแลผืนป่าอาโอกิกาฮาระ ชี้ให้ดูตุ๊กตาสาปแช่งที่ผูกห้อยหัวอยู่กับต้นไม้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นความเกลียดชังกันในสังคม |
เอเจนซี - ผืนป่า “อาโอกิกาฮาระ” อันโดดเดี่ยว เป็นสถานที่ซึ่งชาวญี่ปุ่นจำนวนมากเลือกจบชีวิตตนเอง
ผืนป่าหนาทึบซึ่งตั้งอยู่เชิงภูเขาไฟฟูจิแห่งนี้ เป็นที่ซึ่งหลายคนอาจหลบหายเข้าไปในหมู่แมกไม้เขียวครึ้ม... และไม่กลับออกมาอีกเลย
ทุกๆ ปีทางการญี่ปุ่นจะพบศพอย่างน้อย 100 ศพผูกคาอยู่กับต้นไม้ ขณะที่อีกหลายศพอาจนอนเป็นผีเฝ้าป่าอยู่หลายปีโดยไม่มีใครหาเจอ
เหตุผลที่คนจำนวนมากเลือกฆ่าตัวตายในป่าอาโอกิกาฮาระยังคงเป็นปริศนา แม้จะมีบางคนสันนิษฐานว่า ผู้ที่เลือกมาตายที่นี่กลุ่มแรกๆ น่าจะได้แรงบันดาลใจจากนวนิยายเรื่องหนึ่ง ซึ่งใช้ป่าแห่งนี้เป็นฉากของเรื่อง
อาซูสะ ฮายาโนะ ซึ่งศึกษาและดูแลผืนป่าอาโอกิกาฮาระมานานกว่า 30 ปี บอกว่า แม้ตัวเขาเองก็ยังไม่เข้าใจว่ากระแสนิยมเช่นนี้มีที่มาอย่างไร
หน้าที่ประจำอย่างหนึ่งของเขาก็คือ ค้นหาศพคนที่ฆ่าตัวตายในป่า หรือเข้าไปห้ามปรามหากยังไม่สายเกินไป ซึ่งตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เฉพาะตัวเขาคนเดียวก็พบศพมาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ศพ
นักธรณีวิทยาวัยกลางคนผู้นี้นำทีมถ่ายทำสารคดีจาก Vice World เข้าไปยังสถานที่ซึ่งชื่อว่า “จูไก” เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ที่พบเจอมา
เขาชี้ให้ทีมงานดูร่องรอยบางอย่างบนต้นไม้ ซึ่งแสดงให้เห็นสภาพจิตใจของคนที่กำลังจะฆ่าตัวตาย หรือแม้แต่บางคนที่เปลี่ยนใจขอมีชีวิตอยู่ต่อ
บางคนอาจนึกสงสัยว่า ฮายาโนะ มีสภาพจิตไม่ปกติ จึงสนใจเรื่องความตายมากเช่นนี้ แต่เมื่อรับชมสารคดีต่อไปเรื่อยๆ ก็จะพบว่าหนุ่มใหญ่เสียงนุ่มและช่างครุ่นคิดคนนี้เพียงปรารถนาจะเข้าใจ และป้องกันมิให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นอีกเท่านั้น
สารคดีดังกล่าวยังเผยภาพชวนสยองในป่ามรณะ ไม่ว่าจะเป็นร่างไร้วิญญาณที่ห้อยอยู่บนต้นไม้ รวมถึงทรัพย์สินของผู้ตาย และร่องรอยของความโศกเศร้าหรือลังเลก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจลาโลก
ป้ายเตือนสติถูกปักไว้ทรงจุดเชื่อมระหว่างทางเดินชมธรรมชาติกับพื้นที่ห้ามเข้า เพื่อให้คนที่คิดจะฆ่าตัวตายทบทวนใหม่ให้ดี เพราะเมื่อก้าวออกจากจุดนี้ไป หลายคนไม่มีวันได้ย้อนกลับมาอีก
บางคนที่ยังตัดสินใจไม่เด็ดขาดว่าจะฆ่าตัวตายหรือไม่ ใช้สายเทปโยงตามเส้นทางที่ตนเองเดินมา เพื่อจะย้อนกลับไปสู่โลกภายนอกได้อีกหากเปลี่ยนใจ
“แต่ส่วนใหญ่แล้ว ถ้าคุณเดินตามเทปพวกนั้นไปก็จะพบอะไรบางอย่างเสมอ” เขาบอก
“อาจจะพบศพ หรือไม่ก็ร่องรอยว่าเคยมีคนไปถึงที่นั่น”
credit:http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9550000044841
ป่าฆ่าตัวตาย