วันนี้ขอสระบ้าง หลังไร้สระมามาก
เราจะมาวิเคราะห์กับว่าAK 47กับM 16ว่ากระบอกไหนดีกว่า
1.การออกแบบ
ดูจากภายนอกนะ เห็นได้แบบตรงๆเลยว่า M16ของไอ้กันนั่นน่ะ มันก็เข้าใจออกแบบทางกายภาคให้เข้ากับร่างกายมนุษย์นะ
สังเกตแนวของเส้น ระหว่างปลายปากกระบอกปืนถึงพานท้ายดิ ตรงแน่วเลย
และมีคำชมกันมาตลอดเลยว่า M16:Xนิ่งว่ะ
ก็อย่างที่ยกเหตุผลในข้างต้นแล้ว คือแนวลำกล้องของปืนมันจะไม่กระดกมากนักเมื่อทำการยิง
เพราะแรงส่วนใหญ่ได้ถูกส่งไปที่ไหล่ของผู้ทำการยิงผ่านพานท้ายของปืนไปแล้วนั่งไง |
ในทางAK47 จะมีส่วนเว้าโค้งมากกว่า เอาแบบว่าเว้ากันซื่อๆเลยนะ AK :Xสวยได้ใจเลยว่ะ แต่ไอ้ความสวยงามนั่นไม่ทำให้ผลการยิงดีขึ้นไปเลย พานท้ายองศามันจะกดต่ำกว่าปลายกระบอกปืน(สังเกตุ)
ข้อดีที่องศาต่ำกว่าเพราะอะไร แน่นอน มันสามารถยกขึ้นประทับบ่าแล้วยิงได้ไว แต่เมื่อพ่นกระสุนออกไปแล้วแรงส่งจากปากกระบอกปืนมันไม่มาเป็นเส้นตรงซิทีนี้ เมื่อยิงไปแล้วปากกระบอกปืนก็กระดกยิ่งกว่าM16ซิครับ(แนะนำให้ไปหาลองยิงเลยถ้าไม่เชื่อ)
ทั้งหมดนี้เพราะการออกแบบไม่ได้คำนึงถึงสรีระคนใช้เลย แต่เน้นในการงายต่อการผลิต ซึ่งเป็นstandardและเสน่ห์ของ อาร์ก้า ประกอบกับการเข้าประจำการที่เข้ามานานกว่าM16 ดังนั้นการออกแบบที่โบราณนั่นเอง |
2.ระบบภายใน
ง่ายๆเลย M16 ดัดแปลงระบบแก็สของ M1 แต่รู้ไหมว่าระบบแก็สของM1และM16(รุ่นแรกๆ) หนักสัดๆ ทำให้นายยูจีน สโตนเนอร์ ได้ออกแบบระบบแก็สอันพิสดาร ยังไงรู้ไหม แทนที่:Xจะเอาก้านลูกสูบขนาดใหญ่ เปลี่ยนมาเอาก้านลูกสูบออกไป คงเหลือแต่ลูกสูบลูกเล็กไว้ที่ติดกับลูกเลื่อน พี่แกทำเป็นชิ้นเดียวกันเลย -*- โดยมีท่อแก็สอลูมิเนี่ยม ทางเดินยาวเล็กๆเป็นตัวส่งพลังงานจากลำกล้องมาที่ลูกเลื่อน ทำให้ตัวปืนมีน้ำหนักเบาไปด้วย
|
|
AK47 ยังถูกออกแบบให้ใช้ ก้านลูกสูบลูกโตเหมือนเดิม โดยก้านและลูกแจะเป็นตัวเดียวกัน ยกเว้นลูกเลื่อน ทำให้ง่ายต่อการผลิตเป็นอย่างมาก ท่อนำแก็สจากลำกล้อง นั้นถูกซ่อนอยู่ในแท่งเหล็กขนาดใหญ่ที่ยกทำมุม 45องศากับแนวขนานลำกล้องสั้นกว่าM16เยอะ ทำให้ยากต่อการสะสมเขม่าดินปืน เพราะแก็สจะเข้าไปขยายตัวบริเวณห้องแก็สที่เป็นท่อใหญ่เหนือลำกล้อง ด้วยลูกสูบแบบนี่เองทำให้AK47ไม่ค่อย งึกๆงักๆ แม้จะผ่านการใช้งานอย่างหนัก ถึงแม้เขม่าดินปืนจะมากกว่าM16ก็ตาม เพราะฉะนั้นการอยู่ในสนามรบของทหารจึงเป็นไปอย่างไร้กังวล แต่ทางM16ทหารต้องคอยกังวลไม่ใปนของตัวเองโดนน้ำ และนี่แหละทำให้กลายเป็นข้อเสียในการป้องกันตัวเองในสงคราม
3.แม่นยำ
AK47 ขอบอกเลยว่าค่อนข้างต่ำ เพราะว่า มันผลิตกันหลายที่มากๆในโลก คุณภาพจึงแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่ปืนที่ทำในรัสเซียเองก็ตามก็ยังถือนะ ว่าสู้ทางฝั่งตะวันตกไม่ได้ AK47ตอนแรกมันถูกออกแบบมาให้แทนทีPPSH42 และมันยังเป็นไรเฟิลจู่โจมยุคแรกๆ ซึ่งสมัยนั้นไม่มีมาตรฐานเท่าไหร่ และตอนนั้นAKยังไปใช้อ้างอิงกับปืนกลมือเสียมากกว่า
|
|
หลักฐานที่ว่า AK ถูกผลิตโดยอิงstandardกะปืนกล มือ คือปรับโหมดจากการยิง
จากSafeเป็นAutoเเละSemi
และลำกล้องของAK47ยังสั้นกว่าไรเฟิลจู่โจมด้วยนะ แต่ความแม่นยำของAK ก็เพียงพอต่อการสู้รบแล้วล่ะ กล่าวคือ 400-500เมตร(จะเอาอะไรมาก)ถึงไม่ได้อย่างใจหวังแต่โดนก็แล้วกัน
|
ส่วนM16สามารถกำหนดเป้าหมายได้ไกลถึง700-800เมตร และมีระยะหวังผลถึง1000เมตรเลย ก็เพราะว่าการออกแบบเน้นมาตรฐานของไรเฟิลที่จะมาแทนM14 ที่เป็นปืนไรเฟิลอย่างเต็มตัว ซึ่งจะแตกต่างจากรัสเซีย ความแตกต่าง อาจจะเลยเถิดไปถึงธรรมเนียมการทำสงครามอีกต่างหาก(ขี้เกียจเล่าเดี๋ยว:Xยาว) นอกจากนี้การเข้าประจำการของM16ยังเข้าที่หลังAK47ถึง10ปี แนวคิดเรื่องมาตรฐาน มันมีมาตั้งแต่สมัยสงครามกลางเมืองของพวกมันตั้งแต่ยุค 1700-1800 แล้ว การออกแบบM16จึงเน้นความแม่นยำเป็นหลักนั่นเอง
4.ความทนทาน
อย่างที่กล่าวไปแล้วในระบบภายใน ข้างต้น สิ่งที่ต้องแลกมาคือความทนทาน กล่าวคือกระโจมมือและพานท้ายมักจะเกิดอาการแตกร้าวเมื่อพบกับการเกิดแรงกระแทกสูง หรือแม้แต่การร่วง+ล้มของปืน ถ้าเกิดบอกว่า ถ้าให้เอาช้างมาเหยียบM16นะ พูดได้คำเดียวว่าพังชัวร์ เอาง่ายๆหาอะไรก็ได้ไปตีท่อส่งแก็สให้แตกหรืองอเท่านั้นแหละ โยน:Xทิ้งเลย
|
|
ในขณะที่AK47 ได้ถูกออกแบบโดยมาตรฐานรัสเซีย เน้นความแข็แรงทนทาน เห็นได้จากการใช้วัสดุ คือ เป็นเหล็กกล้าทำโครงปืน และระบบภายใน พานท้ายและกระโจมมือทำจากไม้เนื้อแข็ง และส่วนโครงปืนก็เหล้กกล้าอีก ลองทดสอบใช้รถ10ล้อทับดู แล้วนำมายิง ไม่ต้องบอกกันเลยว่า :Xพ่นได้เป็นชุดๆ
4.อำนาจการยิง
(ชุดกระสุน5.56 ของM16)
กระสุนของAKและM16ต่างกันมากนะ การเดินทางของกระสุนและกระทบต่อเป้าหมาย และความถี่จำนวนกระสุน ถ้าเอามารวมกันหมดก็คือ อำนาจการยิง
โดยM16 ใช้5.56X45 มม. ส่วนAK 7.62X39 มม.ถ้ามองแบบผ่านๆ ก็เดาได้ว่า แบบไหนมันจะเยี่ยมกว่ากัน แต่ถ้ามองแบบเน้นๆจะเจอกันอีกเยอะ
5.56
กระสุนออกแบบมาเพื่อการยิงทะลุทะลวงสูง หัวกระสุนจะมีขนาดเล็ก เพื่อประกอบกับดนขับที่มีจำนวนเยอะทำให้ความเร็วปากลำกล้องสูงถึง3000ฟุต/วิ เมื่อทำการยิงกับM16ที่มีลำกล้องยาว20นิ้ว แล้วด้วยถึงขนาดนั้นทำให้สามารถสร้าวงความเสียหายต่อเป้าหมายสูง
ลองไปดูสภาพศพที่ถูก5.56วิ่งผ่านดู กระสุน:Xทะลุว่ะ แล้วรูที่:Xออกมา:Xขยายด้วย เพราะว่า มันมีคลื่นช็อคที่เขาเรียกว่าsonic boom ทำให้แผลเป้าหมายขยายเพิ่มเกือบ10เท่าของขนาดหัวกระสุน เอาง่ายๆนะ ถ้าถูกยิงจุดไหนก็ได้ ถึงไม่ตายแต่ก็ไปต่อไม่ได้(เป็นผมตายดีกว่า) ถ้ายิงถูกกระดูก รับรองละเอียดแน่นอน โดยไม่สามารถต่อกระดูกได้เลย น่ากลัวชัดๆ
7.62
ใหญ่กว่า5.56และน้ำหนัก ของมันก็มากกว่าด้วยและด้วยปลอกกระสุดที่มีขนาดยาวถึง39มม. แต่มีความกว้าง7.62 ถึงแม้มีดินขับพอๆกัน เมื่อทำการยิงจากลำกล้อง 18นิ้วAK47แล้วนั้น สามารถทำความเร็วจากปากลำกล้องเพียง2000ฟุตเท่านั้นเอง ถ้าเทียบกับM16หัวกระสุนไม่สามารถเจาะเป้าหมายไปได้ทันทีหลอก แต่เมื่อกระสุนจะเอ๋กับเป้าหมายแล้ว มันจะเสียการทรงตัวและเริ่มหมุนคว้างต่อเป้าหมาย และเหตุที่มันหมุนนี่เองทำให้เป้าหมายอาการหนัก-*-พอๆกับM16 5.56มันจะทะลุนะ แต่7.62จะคาอยู่กับเหยื่อ
และลองเอา7.62ไปยิงใส่แผ่นเหล็กในระยะเดียวกับ5.56 มันสามารถเจาะทะลุ แผ่นเหล็ก หนา1นิ้วอย่างสบายๆ เท่านั้นยังไม่พอยังสามารถทะลุต้นไม้ขนาดกลางแบะยังมีความเร็วเหลือพอที่สร้างความเสียหายเป้าหมายต่อไปได้อีก นี่ยังไม่รวมแท่งปูนหนา3นิ้วนะ+แผ่นเคฟล่า20ชั้นอีกตะหาก
5.การดูเเลรักษา(สำคัญ)
AK47 ไม่ต้องดูแลมาก สมบุกสมบันกว่าM4 เป็นปืนที่ดูแลง่าย AK47สามารถยิงได้โดยไม่ต้องทำความสะอาดเป็นเวลานาน (นานๆทีทำความสะอาด) แต่M4ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ(ปืนผู้ดี) ซึ่งคิดดูว่าในสนามรบที่ยืดเยื้อใครจะมีเวลาทำความสะอาดปืน AK47มีชิ้นส่วนน้อยกว่า ซับซ้อนน้อยว่า ประกอบง่้ายกว่า ส่วนM4 M16นั้น ชิ้นส่วนมากว่า ซับซ้อนกว่า จึงยากทีี่จะทำความสะอาดในสนามรบจริง
ถ้าเป็นทหารอาชีพอย่างหน่วยSEAL หรือหน่วยอื่นๆ เขามีเวลาให้กับปืนทั้งวันแถมยังมีช่างปืนโดยเฉพาะอีกด้วย งบประมาณดูแลรักษาปืนก็เยอะ ภารกิจก็เป็นภารกิจสั้นๆ ไม่ได้ยืดเยื้อยาวนาน ยิงเสร็จภารกิจก็ส่งหน่วยดูแลรักษา งบประมาณปืนก็มีให้อย่างน้อยปืนก็มีปืนคนละ2กระบอกขึ้นไป M4จึงสามารถใช้ได้
คุณลองคิดดูถ้าเป็นทหารชาวบ้าน(Militia)ตามชนเผ่าต่างๆที่อยู่ตามขุนเขา พวกเค้าคงไม่ได้มีเวลาอยู่กับปืนทั้งวัน จริงไหม พวกเขาจะต้องออกไปหาอาหารกิน ทำไร่ ทำนา กลับบ้านมาก็หมดแรงแล้ว คงไม่มีเวลาให้กับปืนแบบทหารอาชีพ AK47เหมาะสุดแล้ว AK47ยังเหมาะกับหน่วยงานที่ประจำการในป่าด้วย
AK47ยังเป็นปืนที่เน้นทำลายล้างดูได้จากโหมดการยิง
AK47 -- Safe > Auto > Semi
M16,M4A1 -- Safe > Semi > Auto
จะเห็นได้ว่าAK47ออกแบบมาเพื่อจัีบขึ้นมาแล้วยิงถล่มเลยแล้วใครจะยิงSemiก็ว่ากันทีหลัง ออกไปแนวทำลายล้างก่อน แต่M4จะให้จับขึ้นมาแล้วยิงทีละนัดซึ่งไปในทิศทางที่ยับยั้งและสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้ยิงและเป้าหมาย
ยังไงๆ AK 47ก้อที่1 (เเถมใช้ทุกเกม)
ขอบคุณที่ีอ่านคับ
เครดิตhttp://atcloud.com
กับ GOOGLE(GURU)
|
|
|
|
