Boy A
10 กุมภาพันธ์ 1997 เวลา 4 โมงเย็น เด็กนักเรียนหญิงชั้นประถมในจังหวัดฮามาโกะ เมืองโกเบ ถูกเด็กชายคนหนึ่งเข้าทำร้ายด้วยฆ้อน หนึ่งในสองบาดเจ็บสาหัส จากคำให้การของเด็กหญิงเกี่ยวกับเครื่องแบบและกระเป๋า พ่อของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายคิดว่าคนร้ายน่าจะเป็นเด็กนักเรียนในโรงเรียนมัธยมต้นใกล้ๆและได้สอบถามขอรูปถ่ายนักเรียนจากทางโรงเรียนมาเพื่อหาตัวคนร้ายซึ่งทางโรงเรียนก็ได้ทำการปฏิเสธไปทั้งหมด (ในขณะนี้ ยังไม่ทราบว่าคดีนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีของซากากิบาระ) ภายหลังเมื่อทำการจับกุมเด็กชาย A (นามสมมติของคนร้าย) ได้ ก็มีเสียงวิพากษณ์วิจารณ์ว่าทางโรงเรียนปกป้องคนร้ายขึ้นมา
9 มีนาคม เด็กชาย A ผลักเด็กเล็กตกจากบันไดของแฟลต
16 มีนาคม เวลาประมาณเที่ยงครึ่ง เด็กชาย A ได้ถามเด็กหญิงชั้นประถมว่ามีที่ล้างมืออยู่ที่ไหน เมื่อเด็กหญิงนำทางไปให้ก็บอกให้อีกฝ่ายหันมาเพื่อจะได้ขอบคุณ เมื่อเด็กหญิงหันมา เด็กชาย A ก็ทุบหัวของเธอด้วยฆ้อนและหนีไป เด็กหญิงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หากก็เสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 มีนาคมระหว่างกำลังหนีไปนี้เอง เด็กชาย A พบเด็กนักเรียนหญิงชั้นประถมอีกคนและใช้มีดแทงที่ท้องจนเด็กหญิงได้รับบาดเจ็บ
บันทึกของเด็กชาย A ในวันนี้มีเขียนไว้ว่า "ท่านเทพบาโมอิโดโอกิที่รักยิ่ง วันนี้ผมได้ทำ"การทดลองอันศักดิ์"เพื่อพิสูจน์ความเปราะบางของชีวิตมนุษย์แล้ว"
ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม เด็กชาย A ทำร้ายเพื่อนร่วมชั้นจนฟันหัก 3 ซี่และกวัดแกว่งมีดไปมาใส่คนอื่น อาจารย์จึงดุเขาว่าไม่ต้องมาโรงเรียนอีกแล้ว หลังจากเหตุการณ์นี้เด็กชาย A ก็ไม่ไปโรงเรียน มีคำให้การว่ามีคนเห็นเขาสูบบุหรี่อยู่ที่สวนสาธารณะบ่อยๆ
24 พฤษภาคม ฮาเซะ ริว(ในเว็บที่ผมไปดูเขียนว่า Jun Hase) ซึ่งขณะนั้นเรียนอยู่ประถม 6 ออกจากบ้านไปโดยบอกกับพ่อว่าจะไปหาปู่แล้วก็หายสาปสูญไป
27 พฤษภาคม ตอนเช้าตรู่ ส่วนหัวของริวคุงซึ่งถูกกรีดเป็นแผลนับไม่ถ้วนบนใบหน้าถูกพบวางอยู่หน้าโรงเรียนมัธยมต้นในเมือง พร้อมกับศีรษะนี้ เด็กชาย A ได้ทิ้งจดหมายไว้ด้วยซึ่งแปลได้ใจความดังนี้
"เอาล่ะ เกมได้เริ่มขึ้นแล้วตำรวจที่โง่เขลาทั้งหลายลองหยุดผมให้ได้สิผมสนุกกับฆ่ายิ่งกว่าอะไรอยากจะเห็นคนตายจนแทบทนไม่ได้ขอให้การพิพากษาแห่งความตายมีแก่พวกผักโสโครกขอให้โทษแห่งเลือดมีแก่ความแค้นนับนานปี SHOOLL KILL"
สังเกตได้ว่า SCHOOL เขียนผิด ในตอนแรก มีการวิจารณ์ว่าคนร้ายต้องการจะเขียนคำนี้ถูกแล้วจริงๆหรือไม่ หรือคนร้ายต้องการจะเขียนว่า SHOOLL KILL หรือ SHOOL KILL หรือ SKOOL KILL กันแน่ แต่ถ้าดูจากตัวญี่ปุ่น แล้วน่าจะเป็น SCHOOL KILL มากกว่า
ในภายหลังเด็กชาย A ได้ให้การว่า เขาไม่อยากเหลือรอยนิ้วมือไว้ที่หัวจึงใส่ถุงมือ ในตอนแรกตั้งใจว่าจะบีบคอให้ตาย หากริวคุงก็ไม่ตายเสียที จึงใช้เชือกผูกรองเท้ารัดคอของริวคุงซึ่งนอนคว่ำอยู่กับพื้นจนริวคุงไม่หายใจ จากนั้นก็ผูกปลายเชือกข้างหนึ่งกับกรงรั้วและดึงอีกข้างหนึ่งให้แน่น เมื่อเอาหูแนบกับอกของริวคุงจึงรู้ว่าอีกฝ่ายเสียชีวิตแล้ว
ศพส่วนอื่นนอกจากศีรษะซึ่งถูกยัดจดหมายไว้ในปาก ถูกพบอีกหลายวันให้หลังที่เ:X่งสัญญาณโทรทัศน์บนภูเขา และจากบันทึกแล้ว ในช่วงที่เกิดคดี (ทั้งก่อนและหลัง) มีผู้พบศพนกพิราบและแมวถูกฆ่าทิ้งไว้เป็นจำนวนไม่น้อยใกล้ที่พบศพ และหลายวันก่อนที่จะพบศรีษะของริวคุง คนส่งหนังสือพิมพ์ยังพบศพแมวซึ่งถูกตัดขาทิ้งไว้หน้าโรงเรียนอีกด้วย ที่จริงแล้ว นี่อาจจะเป็นสัญญาณที่เด็กชาย A ส่งให้กับคนรอบตัวก็เป็นได้
4 มิถุนายน เด็กชาย A ส่งจดหมายอีกฉบับให้กับหนังสือพิมพ์โกเบ มีใจความแปลได้ดังนี้
"ถึงหนังสือพิมพ์โกเบ ก่อนหน้านี้ตอนที่ผมออกอยู่ ทีวีเปิดอยู่พอดี เท่าที่ได้ดูนักข่าวอ่านชื่อของผมผิดเป็น"โอนิบาร่า" การอ่านชื่อคนผิดนี้เป็นการกระทำที่โง่เขลามาก ตัวอักษรที่เขียนอยู่บนหน้ากระดาษไม่ได้เป็นรหัสหรือปริศนาอะไร เป็นใจจริงของผมที่ไม่ปะปนคำหลอกลวง ผมมีชื่อนี้ตั้งแต่วินาทีที่ผมเริ่มการคงอยู่ และสิ่งที่ผมอยากกระทำก็ได้กำหนดไว้แล้ว แต่น่าเศร้าที่ผมไม่มีสัญชาติ จนปัจจุบันนี้ ยังไม่มีใครเคยเรียกชื่อของผม หากผมเป็นตัวผมตั้งแต่ตอนที่เกิดมา ผมคงไม่มีความจำเป็นต้องเอาส่วนหัวที่ตัดมาไปวางทิ้งไว้ที่หน้าโรงเรียนหรอก ผมสามารถสนุกกับการฆ่าอย่างเงียบๆโดยที่ไม่มีใครรู้ก็ได้ถ้าผมอยากจะทำ แต่ที่ผมจงใจรวบรวมความสนใจจากสังคมนี้เพียงแต่อยากให้พวกคุณรับรู้ว่าตัวผมซึ่งเป็นเหมือนมนุษย์ล่องหนทั้งแต่ก่อนและจากนี้ไปนี้ เป็นมนุษย์ที่มีตัวตนอยู่จริงแม้จะเป็นเพียงในจินตนาการของพวกคุณก็ตาม และในขณะเดียวกันก็อย่าได้ลืมถึงการศึกษาภาคบังคับที่สร้างมนุษย์ล่องหนอย่างผมขึ้นมาและการล้างแค้นซึ่งมีต่อการศึกษาภาคบังคับนั้นด้วย
ถ้าแค่การล้างแค้นอย่างเดียว นั่นก็เป็นเพียงการทิ้งสัมภาระที่แบกรับมาตลอด ไม่มีอะไรที่จะได้มา ผมจึงได้ปรึกษาเพื่อนเพียงคนเดียวของผมซึ่งเป็นมนุษย์ล่องหนเหมือนกัน ซึ่งเขาตอบว่า"ถ้าเธอต้องการจะล้างแค้นอย่างไม่น่าสมเพชและมีค่าแล้วล่ะก็ จงใช้การฆ่าซึ่งเป็นงานอดิเรกและเหตุผลในการคงอยู่ของเธอมาประกอบเพื่อเธอจะได้สนุกสนานกับเกมนี้ และใช้งานอดิเรกนี้เปลี่ยนการฆ่าให้กลายเป็นการล้างแค้นสิ แล้วเธอก็คิดseo่าไม่มีทั้งสิ่งที่ได้มาหรือเสียไป เป็นการสร้างโลกใหม่ของเธอเท่านั้นซึ่งไม่ได้เป็นสิ่งใดมากหรือน้อยไปกว่านั้นเลย"
ผมเริ่มเกมฆาตกรรมนี้ราวกับถูกผลักดันด้วยคำพูดเหล่านั้น แต่มาถึงตอนนี้ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงได้ชอบการฆ่า อาจจะเรียกว่าเป็นสัญชาติญาณโดยกำเนิดก็เป็นได้ มีแต่เวลาที่ผมฆ่าเท่านั้นที่ผมจะถูกปลดปล่อยจากความเคียดแค้นในยามปกติและรู้สึกสงบใจลงได้ ความเจ็บปวดของคนอื่นสามารถบรรเทาความเจ็บปวดของผมลงได้
ท้ายนี้คาดว่าคงจะสามารถเข้าใจได้จากข้อความที่เขียนลงในจดหมายฉบับนี้ ผมมีความผูกพันในการคงอยู่ของตัวเองมากกว่าคนทั่วไป ดังนั้นจึงไม่สามารถทนการอ่านชื่อผิดซึ่งเป็นการทำให้การคงอยู่ของตัวเองแปดเปื้อนได้ เมื่อดูการเคลื่อนไหวของตำรวจในตอนนี้แล้ว ดูยังไงก็รู้ว่าพวกเขาใจจริงแล้วกำลังรำคาญแต่ก็แค่แสร้งทำไปเรื่อยๆเท่านั้นเอง คงไม่ใช่ว่าคิดจะปกปิดการคงอยู่ของผมหรอกนะ ผมเอาชีวิตเป็นเดิมพันกับเกมนี้ ถ้าถูกจับได้ผมคงจะถูกแขวนคอกระมัง ผมไม่คิดจะให้ตำรวจมาเอาชีวิตเดิมพันด้วยหรอก แค่ต้องการให้พวกเขาติดตามผมมาด้วยความโกรธและใส่ใจให้มากกว่านี้ จากนี้ไปหากมีการอ่านชื่อของผมผิดหรือทำเป็นไม่สนใจอีกล่ะก็ผมจะทำลายผักสามต้นต่ออาทิตย์ หากคิดว่าผมได้แต่ก่อคดีอ่อนหัดแค่ฆ่าเด็กล่ะก็ พวกคุณกำลังคิดผิดอย่างใหญ่หลวง ---ผมมีความสามารถฆ่ามนุษย์หนึ่งคนได้สองครั้ง----"
พร้อมกับจดหมายฉบับนี้ เด็กชาย A ได้แนบจดหมายซึ่งมีข้อความเดียวกับฉบับแรกมาด้วยโดยให้เหตุผลว่าฉบับแรกโดนน้ำซึมจนอ่านลำบาก แต่เนื่องจากการเข้ามาเกี่ยวข้องคดีเช่นนี้เอง ทำให้ตำรวจได้เบาะแสในการจับกุมคนร้าย
28 มิถุนายน เด็กชาย A ถูกจับกุมในคดีของฮาเซะ ริว เขาถูกตัดสินโดยศาลครอบครัวลงโทษจำคุก 13 ปีพร้อมกับรับการรักษาทางจิต
เด็กชาย A เติบโตในครอบครัวซึ่งประกอบด้วยบิดามารดาและน้องชาย 2 คน พ่อของเขาทำงานในบริษัทสายการช่างในเมืองโกเบ เป็นคนมีนิสัยอ่อนโยนหากไม่ได้มีส่วนร่วมในการเลี้ยงดูบุตร แม่เป็นผู้ดูแลบ้าน เป็นสมาชิกของสมาคมผู้ปกครอง ค่อนข้างเข้มงวดในการเลี้ยงลูก เพื่อนบ้านกล่าวว่าครอบครัวของเด็กชาย A มีการไปเที่ยวทั้งครอบครัวและเล่นกีฬาบ่อยๆ ไม่มีทีท่าว่ามีปัญหาครอบครัวใดๆ
หลังจากมีข่าวการจำกุม นิตยสาร FOCUS ได้ลงรูปและชื่อจริงของเด็กชาย A จนเกิดเป็นปัญหาถกเถียงทางสังคมกันอย่างใหญ่โต ซึ่งทางกระทรวงยุติธรรมได้ทำเรื่องให้ทางนิตยสารดังกล่าวทำการลบบทความแล้วก็จริง หากข้อมูลนี้ได้ถูกเผยแพร่ไปทางอินเตอร์เน็ตแล้วจึงยากต่อการควบคุมได้
ในขณะเดียวกัน ก็มีเสียงส่วนหนึ่งจากทางตำรวจชี้ว่าเด็กชาย A อาจจะไม่ใช่คนร้ายตัวจริงก็เป็นได้ หากความเห็นนี้ก็ไม่ถูกยอมรับเท่าใดนัก
ปัจจุบันการบำบัดทางจิตของเขาเป็นไปได้ด้วยดี และเด็กชายAจะถูกปล่อยตัวออกมาเมื่อเขาอายุ26ปีในปี2010และเราก็ไม่ทราบข่าวของเขานับตั้งแต่นั้นมาเช่นกัน
Boy A ฆาตกรญี่ปุ่น
[img]
[IMG]
[/img]