กริฟฟอน หรือ กริฟฟิน (อังกฤษ: griffin, gryphin, griffon หรือ gryphon) คือสัตว์ในเทพนิยายร่างกายเป็นครึ่งนกอินทรี ครึ่งสิงโต โดยส่วนหัว ขาคู่หน้าและปีก เป็นนกอินทรี ส่วนลำตัวและขาคู่หลังเป็นสิงโต และมีหางเป็นงู บางจำพวกก็มี หางของสิงโต ขนบนหลังเป็นสีดำ ขนที่อยู่ข้างหน้าเป็นสีแดง ส่วนขนปีกเป็นสีขาว อาศัยอยู่ในถ้ำตามภูเขา
ตามตำนานกรีก กริฟฟินเป็นสัตว์เทพผู้พิทักษ์เหมืองทองคำของดินแดนไฮเปอร์โบเรีย (ดินแดนในตำนานซึ่งอยู่ทางขั้วโลกเหนือ มีแสงอาทิตย์ และความอุดมสมบูรณ์ตลอดกาล), เป็นรูปจำแลงของเทพีเนเมซิส เทพแห่งความพยาบาท ซึ่งทำหน้าที่หมุนวงล้อแห่งโชคชะตา, นอกจากนี้ยังเป็นผู้ลากรถม้าของพระอาทิตย์ (เทพอพอลโล) อีกด้วย
กริฟฟินนั้นเป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจ และบางครั้งยังถือว่ากริฟฟินเป็นสัญลักษณ์ของความหยิ่งยโสอีกด้วย
ในยุคแรก กริฟฟินถูกเปรียบเทียบให้เป็นเหมือนกับซาตาน ที่คอยล่อลวงวิญญานของมนุษย์ให้ติดกับ แต่ต่อมากริฟฟินก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของทั้งทวยเทพ และมนุษย์ สำหรับพระเยซู เพราะมันเป็นเจ้าแห่งพิภพและเวหา อีกทั้งมีรังสีแห่งแสง อาทิตย์ ศัตรูของกริฟฟินคือ บาซิลิสก์ ซึ่งเปรียบได้กับรูปจำลองของซาตาน
ปัจจุบันสามารถพบเห็นกริฟฟินได้ทั่วไปจากงานศิลปะในหลาย ๆ วัฒนธรรม และพบได้ในตราประจำตระ:Xล รูปสัตว์ต่าง ๆ , ประติมากรรมเก่าแก่, โมเสกนูนต่ำ, นิทาน และในตำนานต่าง ๆ ทั่วโลก
ก็อบลิน (อังกฤษ: Goblin) เป็นโนมที่มีรูปร่างวิกลวิการ ชอบเล่นสนุก แต่บางครั้งเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมสามารถทำอันตรายแก่ผู้คน รอยยิ้มของก็อบลินทำให้เลือดหยุดไหล เสียงหัวเราะทำให้นมบูดและผลไม้หล่น ก็อบลินมีต้นกำเนิดมาจากฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในศัตรูของเกม Magicfortress และ Kingdom rus
นิลกาย (อังกฤษ: Nilgai, Blue bull, เบงกาลี: নীলগাই, ฮินดี: नीलगाय; ชื่อวิทยาศาสตร์: Boselaphus tragocamelus) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่ง ในวงศ์วัวและควาย (Bovidae)จัดเป็นเพียงสัตว์ชนิดเดียวเท่านั้นที่อยู่ในสกุล Boselaphus[2]มีรูปร่างลักษณะคล้ายวัวผสมกับม้า ตัวผู้มีลักษณะเด่น ที่ สีลำตัวเมื่อโตขึ้นจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้มขึ้นเรื่อย ๆ หรือสีเทาปนดำ อันเป็นที่มาของชื่อ ถือเป็นแอนทีโลปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย โดยมีส่วนสูงวัดถึงไหล่ประมาณ 1.2-1.5 เมตร และยาว 1.8-2 เมตร หางยาว 40-45 เซนติเมตร ตัวเต็มวัยมีน้ำหนักประมาณ 120-140 กิโลกรัม ลำตัวใหญ่ แต่มีขาเล็กเรียว ตัวผู้มีเขาเล็ก ๆ โค้งไปข้างหน้าเล็กน้อย ยาวประมาณ 21-25 เซนติเมตร มีขนแข็งยาวขึ้นจากส่วนหัวไล่ไปถึงกลางหลังทั้งสองเพศ ขณะที่ตัวเมียมีสีออกน้ำตาลแดงนิลกาย เป็นสัตว์ที่มีถิ่นกระจายพันธุ์ในราบตอนเหนือของอินเดียและทางภาคตะวันออกของปากีสถาน ชอบอยู่ตามที่ราบและเนินเขาที่มีไม้พุ่มเตี้ยมากกว่าอยู่ในป่าทึบนิลกายเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุได้ 18 เดือน ซึ่งหลังผสมพันธุ์แล้ว มีระยะเวลาตั้งท้องประมาณ 8 เดือน ออกลูกคราวละ 2 ตัวหรือมากได้ถึง 3 ตัว น้ำหนักตัวเมื่อเกิดใหม่ราว 13-16 กิโลกรัม มีอายุขัยโดยเฉลี่ย 21 ปีนิลกายเป็นสัตว์ที่ออกหากินในเวลากลางวัน และพักผ่อนในเวลากลางคืนเหมือนสัตว์ในวงศ์เดียวกันชนิดอื่น ๆ แต่กินอาหารหลากหลายกว่า เพราะกินทั้งต้นไม้, ใบหญ้า, ใบไม้ และผลไม้ทั่วไป นอกจากนี้ยังมีความสามารถพิเศษ คือ สามารถอดน้ำได้หลายวันโดยไม่มีน้ำดื่ม แต่มักจะอาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำ โดยส่วนใหญ่จะอยู่กันเป็นกลุ่มประมาณ 15 ตัว บางกลุ่มอาจมีถึง 20 ตัว ยกเว้นตัวที่อายุมากแล้วมักจะปลีกตัวไปอยู่ตามลำพัง และจะรวมตัวกันอีกทีก็ในช่วงฤดูหนาว ซึ่งอาจจะมีจำนวนถึง 30-100 ตัวปัจจุบัน นิลกายพบจำนวนมากในที่ สวนลุมพินีวัน อันเป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า และเชื่อว่าเป็นสัตว์ในป่าหิมพานต์ด้วย เป็นสัตว์ที่เชื่อว่าหากใครได้พบเห็น จะพบกับความเป็นสิริมงคล แต่นิลกายก็ถือเป็นสัตว์ที่รบกวนกินพืชผลของเกษตรกรเสียหายได้ครั้งละเป็นจำนวนมาก ทางการอินเดียจึงอนุญาตให้ล่าสัตว์ชนิดนี้ได้อย่างถูกกฎหมาย ขณะที่อีกไม่น้อยถูกรถชน นอกจากนี้ยังต้องขาดแคลนที่อยู่ซึ่งเป็นผลมาจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นทุกวัน และมีศัตรูตามธรรมชาติอีกอย่างคือเสือและสิงโต ทำให้ปัจจุบันเหลือปริมาณ นิลกายอยู่ไม่มากแล้ว ในอินเดียมีประมาณ 100,000 ตัวเท่านั้น ส่วนที่รัฐเทกซัสในสหรัฐอเมริกาถูกนำไปเลี้ยงในสวนสัตว์บ้าง ในธรรมชาติบ้าง ช่วงทศวรรษ 1920 เหลือปริมาณนิลกายประมาณ 1,500 ตัว[3]สำหรับในประเทศไทย นิลกายมีอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ซึ่งได้ตกลูกในไทยมาแล้วถึง 4 ตัว นอกจากนี้แล้วยังเป็นสัตว์ที่มีความใกล้เคียงกับซาวลา (Pseudoryx nghetinhensis) ที่พบในป่าทึบของเวียดนามอีกด้วย
เลวีอาธาน (לִוְיָתָן "ม้วน; ขด", ภาษาฮิบรูมาตรฐาน Livyatan, ภาษาฮิบรูติเบเรียน Liwyāṯān) เป็นสัตว์ร้ายในทะเล ตามความในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลในศาสนาคริสต์ อ้างไว้ในพระพันธสัญญาเดิม (เพลงสดุดี74:13-14; โยบ 41; และ อิสยาห์ 27:1)จอมปีศาจแห่งริษยาตกเป็นตำแหน่งของงูยักษ์เลวีอาธาน มันถูกกล่าวถึงทั้งในคัมภีร์ยิวและไบเบิ้ล ว่าเป็นสัตว์ทะเลขนาดยักษ์ มีหลายหัว มีฟันแหลมคมเหมือนจระเข้ มีดวงตาดั่งขนตาของตะวัน (หมายถึงมันโผล่ตาขึ้นมาเหนือน้ำเหมือนที่จระเข้ทำเวลาล่าเหยื่อ ตามันจะโผล่พ้นน้ำมาเล็กน้อย เหมือนพระอาทิตย์โผล่พ้นเหลี่ยมเขาในตอนเช้า) บางครั้งมันก็ถูกกล่าวว่าเป็นพลังแห่งความสับสนวุ่นวายเมื่อครั้งสร้างโลก คัมภีร์ปฐมกาลกล่าวว่า "ในปฐมกาลพระเจ้าทรงเนรมิตสร้างฟ้าและแผ่นดินแผ่นดินก็ว่างเปล่า ความมืดอยู่เหนือน้ำ และพระวิญญาณของพระเจ้าปกอยู่เหนือน้ำนั้น" ผืนน้ำนั่นแหละครับคือความสับสนวุ่นวาย และก็คือเลวีอาธานคำว่า "เลวีอาธาน" นั้น ยังหมายถึงสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ หรือสัตว์ขนาดใหญ่ใดๆ ก็ได้ ในภาษาฮิบรูใหม่ คำนี้มีความหมายเพียง วาฬ เท่านั้น
นิกซ์ปรากฏในปกรณัมของอียิปต์โบราณ ในฐานะของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งคู่ควรแก่การบูชา ฟีนิกซ์เกี่ยวข้องกับเทพแห่งไฟ เพราะขนของฟีนิกซ์นั้นจะออกเป็นประกายเหลืองทองคล้ายเปลวไฟ บ้างก็ว่าปกคลุมด้วยเปลวไฟทั้งตัวขนาดของฟีนิกซ์จะมีขนาดเท่านกอินทรีตัวโต จงอยปากและส่วนขาเป็นสีทอง ประกายขนสีแดงถึงเหลืองทอง มีเสียงร้องที่ไพเราะดังเสียงดนตรี รูปร่างสวยสง่างาม บางครั้งมีอุปนิสัยหยิ่งผยอง บางครั้งเปี่ยมด้วยความเป็นมิตร บางความเชื่อ เชื่อว่าว่าฟีนิกซ์สามารถชุบชีวิตผู้ตายได้ และสามารถฟื้นพลังทั้งหมดให้กลับสู่ปกติได้ เนื่องจากเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตัวหนึ่งภายใต้เทพแห่งไฟ บางครั้งจะพบว่าสามารถใช้มนตร์ไฟได้ ฟีนิกซ์เป็นสัตว์ที่นิสัยอ่อนโยน เพลงของฟีนิกซ์มีเวทมนตร์สามารถกระตุ้นความกล้าหาญ แห่งจิตใจบริสุทธิ์ และทำให้เกิดความกลัวในจิตใจที่คิดชั่วร้าย น้ำตาของฟีนิกซ์มีพลังในการรักษาบาดแผลได้ฟีนิกซ์เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นอมตะ มีชีวิตยั่งยืนนิรันดร์ เพราะสามารถฟื้นคืนชีพได้ด้วยตัวเอง เมื่อร่างกายสิ้นอายุขัย (500 ปี หรือ 1,461 ปี) ตัวจะลุกเป็นไฟ จากนั้นฟีนิกซ์ก็จะฟื้นจากกองขี้เถ้ามาเป็นนกตัวใหม่ฟีนิกซ์ของกรีกโบราณกล่าวกันว่าเรื่องราวเริ่มแรกของฟีนิกซ์มาจากวรรณกรรมกรีกโบราณที่ชื่อว่า Account of Egypt ของเฮโรโดตัส นักประวัติศาสตร์ชาวกรีกโบราณ (ประมาณ 430 ปี ก่อนคริสตกาล) ตามปกรณัมกล่าวว่า ฟีนิกซ์มีอายุ 500 ปี เมื่อถึงเวลาที่ใกล้จะหมดอายุขัย ฟีนิกซ์จะล่วงรู้ถึงชะตากรรม จะสร้างรังจากไม้เครื่องเทศที่มีกลิ่นหอม แล้วนั่งคอยที่กองฟืนไม้หอมและร้องเพลงอย่างสำราญใจ เมื่อแสงอาทิตย์แรก:Xส่อง ฟีนิกซ์จะแผดเผาตนเองกลายเป็นเถ้าถ่าน จากนั้นเถ้าถ่านกองนั้นฟีนิกซ์จะถือกำเนิดขึ้นใหม่ เป็นนกหนุ่มภารกิจแรกที่ฟีนิกซ์หนุ่มต้องกระทำก็คือ การรวบรวมเถ้าถ่านของผู้ให้กำเนิดตัวเองแล้วนำไปฝังที่วิหารเฮลิโอโปลิส หรือนครแห่งตะวันในอียิปต์ จากนั้นก็จะบินกลับมาที่อาระเบียและใช้ชีวิตอยู่จนกว่าจะเปลี่ยนร่างอีกครั้งจุดกำเนิดของฟีนิกซ์ อาจมาจากคัมภีร์แห่งเวทมนตร์เล่มหนึ่งที่ชื่อว่า Book of Dead ของอียิปต์โบราณ ซึ่งกล่าวถึงนกยักษ์ลักษณะคล้ายฟีนิกซ์ นกยักษ์ตัวนี้เป็นต้นแบบของวิญญาณอิสระที่ลุกขึ้นมาจากกองเพลิง และบินไปยังเฮลิโอโปลิสเพื่อประกาศยุคใหม่ เนื่องจากดวงอาทิตย์ได้:Xแสงไล่หลังนกที่บินจากตะวันออกไปยังตะวันตก นกจึงปรากฏตัวพร้อมกับเช้าวันใหม่จนกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งไฟและดวงอาทิตย์ ไปในที่สุดจากการที่ฟีนิกซ์สามารถเกิดใหม่ได้จากเถ้าถ่านของตัวเอง จึงกลายเป็นตัวแทนของการฟื้นคืนจากความตาย ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้แก่กวีและนักประพันธ์ในชั้่นหลังหลายต่อหลายคน จนเรื่องราวแห่งฟีนิกซ์แทรกซึมเข้าไปอยู่ในวรรณกรรมของทวีปยุโรปหลายต่อหลายเรื่องนอกจากนี้แล้วยังมีอีกปกรณัมที่เล่าว่า อพอลโล เทพแห่งดวงอาทิตย์ ได้เห็นความงดงามของฟีนิกซ์ จึงได้ขอให้มาเป็นนกข้างกายพระองค์ พร้อมกับให้พรวิเศษคือ ชีวิตอมตะ แก่ฟีนิกซ์เป็นการตอบแทน ซึ่งฟีนิกซ์ก็ยินดีและขับร้องเพลงสรรเสริญอพอลโลนอกจากนี้แล้ว ในปกรณัมกรีกอีกแห่งเล่าอีกว่า ฟีนิกซ์จะอาศัยอยู่ในแถบอาระเบีย โดยจะอาศัยอยู่ในบริเวณแหล่งน้ำที่มีอากาศเย็น ทุก ๆ เช้าที่ดวงอาทิตย์เริ่มส่องแสง อพอลโลจะต้องหยุดเพื่อฟังเสียงร้องอันแสนไพเราะของฟีนิกซ์ อาหารโปรดของฟีนิกซ์ ได้แก่ สายลมอ่อน ๆ, น้ำอมฤต, น้ำค้าง หรือหมอกบริสุทธิ์ที่ลอยขึ้นมาจากแม่น้ำและทะเลฟีนิกซ์เป็นสัตว์ที่มีนิสัยอ่อนโยน สามารถหายตัวและปรากฏตัวใหม่ตามใจนึกเช่นเดียวกับดิริคอว์ล เสียงร้องของฟีนิกซ์มีเวทมนตร์ สามารถกระตุ้นความกล้าหาญแห่งจิตใจที่บริสุทธิ์ และทำให้เกิดความกลัวในจิตใจที่คิดร้าย และน้ำตาของฟีนิกซ์ก็เป็นดังโอสถทิพย์แห่งสวรรค์ที่มีพลังในการรักษาบาดแผลและชุบชีวิตได้ แต่ถึงกระนั้นนกฟีนิกซ์ก็ยากจะหลั่งน้ำตาให้แก่ผู้ใด ยกเว้นเสียแต่ว่าคนผู้นั้นจะมีคุณงามความดีมากพอที่จะกลับมามีชีวิตใหม่อีก ครั้งจากความเชื่อทั้งหมดของฟีนิกซ์นี้เอง ที่ทำให้ในปกรณัมของกรีกและโรมันเชื่อว่า ฟีนิกซ์เป็นสัญลักษณ์ของการมีชีวิตเป็นอมตะ การฟื้นคืนชีพ และเกี่ยวข้องกับเทพแห่งดวงอาทิตย์ หรือแม้กระทั่งในช่วงต้นของคริสต์ศาสนาก็ได้มีการนำเอารูปฟีนิกซ์มาสลัก เป็นลวดลายบนหินปิดหลุมฝังศพ ซึ่งหมายถึงผู้ที่จากไปจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งนั่นเอง
การเทียบเคียง
ประัติมากรรมฟีนิกซ์ที่ยอดหลังคาวัดคิงกะกุ เมืองเกียวโตประเทศญี่ปุ่น
อีกาสามขา หรือ ยะตะกะระสุ ตามปกรณัมของญี่ปุ่น
อีกาสามขาในปกรณัมของจีน, ญี่ปุ่น และเกาหลี อีกาสามขา (ญี่ปุ่น: 八咫烏) เป็นนกแห่งดวงอาทิตย์ ที่แรกเริ่มสร้างโลก โลกมนุษย์มีดวงอาทิตย์ปรากฏพร้อมกันถึง 10 ดวง แต่ได้ถูกโฮวอี้ยิงตกจนเหลือแค่ดวงเดียว [2] [3]หงส์ไฟหงส์ไฟ (จีน: 朱雀) ในปกรณัมของจีน หงส์ไฟมีลักษณะคล้ายฟีนิกซ์มากจนเชื่อว่าน่าจะเป็นตัวเดียวกัน แต่แยกออกไปตามความเชื่อของแต่ละท้องถิ่น หงส์ไฟมีขนสีแดงชาดเหมือนไฟ เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ประจำทิศใต้ และเป็นสัญลักษณ์ของฤดูร้อน[2] [4]วายุภักษ์วายุภักษ์ หรือ นกการเวก เป็นนกที่กินลมเป็นอาหาร และมีเสียงร้องที่ไพเราะ เป็นนกในป่าหิมพานต์ บินสูงเทียมเมฆ เมื่อสรรพสัตว์ใด ๆ ได้ยินเสียงของนกการเวกก็จะหยุดชะงักไปจากเสียงอันไพเราะ ก็มีลักษณะคล้ายกับฟีนิกซ์ในปกรณัมกรีก[5] [6]ในวัฒนธรรมร่วมสมัยฟีนิกซ์ เป็นตัวละครสำคัญตัวหนึ่งในวรรณกรรมเยาวชนชุด แฮรี่ พอตเตอร์ ในภาค Harry Potter and the Chamber of Secrets และ Harry Potter and the Order of the Phoenix[7] และเป็นตัวละครในมังงะของญี่ปุ่น เรื่องเซนต์เซย่า คือ ฟินิกซ์ อิคคิ ที่เป็นชายหนุ่้มที่อยู่โดดเดี่ยว ไม่รวมกลุ่มกับคนอื่น แต่จะปรากฏตัวพร้อมกับไฟและความแค้น[8]
การเทียบเคียง
ประัติมากรรมฟีนิกซ์ที่ยอดหลังคาวัดคิงกะกุ เมืองเกียวโตประเทศญี่ปุ่น
อีกาสามขา หรือ ยะตะกะระสุ ตามปกรณัมของญี่ปุ่น
อีกาสามขาในปกรณัมของจีน, ญี่ปุ่น และเกาหลี อีกาสามขา (ญี่ปุ่น: 八咫烏) เป็นนกแห่งดวงอาทิตย์ ที่แรกเริ่มสร้างโลก โลกมนุษย์มีดวงอาทิตย์ปรากฏพร้อมกันถึง 10 ดวง แต่ได้ถูกโฮวอี้ยิงตกจนเหลือแค่ดวงเดียว [2] [3]หงส์ไฟหงส์ไฟ (จีน: 朱雀) ในปกรณัมของจีน หงส์ไฟมีลักษณะคล้ายฟีนิกซ์มากจนเชื่อว่าน่าจะเป็นตัวเดียวกัน แต่แยกออกไปตามความเชื่อของแต่ละท้องถิ่น หงส์ไฟมีขนสีแดงชาดเหมือนไฟ เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ประจำทิศใต้ และเป็นสัญลักษณ์ของฤดูร้อน[2] [4]วายุภักษ์วายุภักษ์ หรือ นกการเวก เป็นนกที่กินลมเป็นอาหาร และมีเสียงร้องที่ไพเราะ เป็นนกในป่าหิมพานต์ บินสูงเทียมเมฆ เมื่อสรรพสัตว์ใด ๆ ได้ยินเสียงของนกการเวกก็จะหยุดชะงักไปจากเสียงอันไพเราะ ก็มีลักษณะคล้ายกับฟีนิกซ์ในปกรณัมกรีก[5] [6]ในวัฒนธรรมร่วมสมัยฟีนิกซ์ เป็นตัวละครสำคัญตัวหนึ่งในวรรณกรรมเยาวชนชุด แฮรี่ พอตเตอร์ ในภาค Harry Potter and the Chamber of Secrets และ Harry Potter and the Order of the Phoenix[7] และเป็นตัวละครในมังงะของญี่ปุ่น เรื่องเซนต์เซย่า คือ ฟินิกซ์ อิคคิ ที่เป็นชายหนุ่้มที่อยู่โดดเดี่ยว ไม่รวมกลุ่มกับคนอื่น แต่จะปรากฏตัวพร้อมกับไฟและความแค้น[8]
สัตว์ในเทพนิยาย(สำหรับคนที่ยังไม่รู้นะ)
[img]
[IMG]
[/img]