วันนี้ขอนำเสนอเรื่องจริงสุดช็อคทางไปพัทยา น่ากลัววุ้ย
เรียบเรียง: กะลาตาเดียว
ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต(ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา)
วันก่อนผมเดินทางไปชลบุรี แล้วมีโอกาสผ่านโค้งโค้งหนึ่งบนถนนสุขุมวิทสายเก่า ทำให้นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ วันนี้จึงอยากจะนำมาเล่าให้ฟัง เรื่องนี้คุณจอร์ช เล่าไว้ในรายการวิทยุ 90 Shock เป็นประสบการณ์ไม่คิดไม่ฝันที่คุณจอร์ชเจอมากับตัวเองและเพื่อนอีก 2 คน ระหว่างขับรถไปพัทยา และผ่านโค้งนี้
คุณจอร์ชเล่าว่า ตนมักจะเดินทางไปเที่ยวพัทยาอยู่เป็นประจำ และในวันที่เกิดเรื่องก็กำลังขับรถไปกับเพื่อนอีก 2 คน โดยตนเองเป็นคนขับ มีเพื่อนนั่งข้างๆ และนั่งเบาะหลัง เดินทางออกจากกรุงเทพฯ เวลาประมาณตี 2 ครึ่ง และขับรถไปด้วยความเร็วสูง ทั้ง 3 คนเป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องผี ไม่กลัวอะไรง่ายๆ และในใจก็คิดว่าเดี๋ยวจะได้ไปเที่ยวสนุกกัน ก็คุยกันเฮฮาตามประสาหนุ่มวัยรุ่น
จนช่วงตี 3 กว่าๆ ก็มาถึงโค้งดังกล่าว ถนนช่วงนั้นมืดมาก เพื่อนคนหนึ่งก็บอกให้ผ่อนคันเร่งและบีบแตรขอผ่านทาง ซึ่งคุณจอร์ชก็ได้บีบแตรไป 3 ครั้ง และพอมาถึงช่วงโค้งลงเนินเขา ทุกคนก็เห็นเหมือนกันว่า มีหญิงสาวคนหนึ่ง หน้าตาสวย ผิวขาว ผมยาว สวมเสื้อยืดสีขาว และกางเกงยีนส์ ยืนอยู่ริมถนน รถเธอเสียจอดอยู่ข้างทาง...
ด้วยนิสัยผู้ชาย เพื่อนคนหนึ่งก็เลยบอกว่า
“เฮ้ย! จอดๆ ผู้หญิงๆ”
คุณจอร์ชก็เลยเลี้ยวรถเข้าไปจอด
“จะไปไหนครับ”
ผู้หญิงคนนั้นตอบมาว่า
“กำลังจะไปพัทยา”
เสียงของเธอช้ากว่าปกติ แต่ไม่ได้เยือกเย็น ออกจะหวานๆ เสียด้วยซ้ำ เพื่อนคนหนึ่งถามต่อไปว่า
“ไม่กลัวเหรอครับ มาอยู่ตรงนี้”
เธอตอบกลับมา
“อยู่หลายวันแล้ว ไม่เห็นเป็นไร... จะให้ไปด้วยรึป่าวล่ะ”
3 หนุ่มเกิดอาการกระหยิ่มใจ ที่ทริปนี้จู่ๆ ก็มีสาวสวยขออาศัยร่วมทางมาด้วย
“ไปดิ เดี๋ยวไปส่ง”
เธอขึ้นนั่งเบาะหลัง
ทั้ง 3 พลัดกันพูดคุยกับสาวสวย ถามบ้าง แซวบ้าง หยอดบ้าง ...
“คุณตัวหอมมาก ใช้น้ำหอมอะไร”
“ไม่ใช่น้ำหอม ตัวหอมอยู่แล้ว”
ระหว่างนั้น คุณจอร์ชโทร.หาพี่ที่กำลังจะขับรถตามมาสมทบที่พัทยา และบอกไปด้วยว่าแวะรับสาวสวยมาด้วย พีที่คุยสายอยู่เตือนมาว่า
“เฮ้ย! ระวังนะ ตรงนั้นนะเจอกันเยอะนะ”
แต่คุณจอร์ชก็ไม่ได้เอะใจอะไร
เพื่อนที่นั่งเบาะหลังก็คุยกับเธอไปเรื่อยๆ จนเริ่มจับไม้จับมือ แล้วก็ทักขึ้นว่า
“ทำไมตัวคุณเย็นจัง”
เธอตอบว่า
“ก็ยืนตรงนั้นนานแล้ว ทำไมจะไม่เย็นล่ะ”
“ไปอยู่ตรงนั้นคนเดียว เดี๋ยวก็โดนข่มขืนหรอก”
“ทำไมต้องกลัว ก็คุ้นอยู่แล้ว”
คุณจอร์ชขับรถไปอีกไกลพอสมควร ฟังเพื่อนแทะโลมหญิงสาวอยู่เบาะหลังไปตลอดทาง ก็เลยลองมองกระจกหลัง เพราะอยากเห็นหน้าสวยๆ ของเธอคนนั้นชัดๆ อีกสักที
แล้วคุณจอร์ชก็มองไปที่กระจกหลังแต่ไม่เห็นเธอคนนั้นในกระจก ลองบิดกระจกลงมาเผื่อว่าองศาจะไม่ได้ แต่ก็ยังไม่เห็น! จนคุณจอร์ชถึงกับต้องขยี้ตา แต่เมื่อหันหลังกลับไปมองด้วยตา ก็เห็นว่าเธอยังนั่งอยู่! แต่เธอไม่มีเงาในกระจกจริงๆ!!
ความกลัวพุ่งขึ้นถึงขีดสุด แต่ทำอะไรไม่ถูก หน้าซีด และฝืนขับรถต่อไป ใจเต้นแรงจนแทบจะหยุดเต้น คุณจอร์ชสะกิดเพื่อนที่นั่งข้างๆ คนขับให้ลองดูกระจกหลัง แล้วก็ลักษณะเดียวกันเลย เธอไม่มีเงาในกระจก แต่หันไปดูเธอยังนั่งอยู่ ทั้งคู่หน้าซีด ทำอะไรไม่ถูก ปิดปากเงียบสนิทกันทั้งสองคน
เหลือแต่เพื่อนคนที่นั่งเบาะหลังนี่แหละ ที่ยังไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร ยังจับไม้จับมือล่วงเกินเธออย่างกระหยิ่มใจ
คุณจอร์ชนั้นเกร็งไปทั้งตัว ใจสั่นเต็มที่จนรู้สึกคลื่นไส้ ตอนนี้ขับอย่างเดียว พูดอะไรไม่ออก ไม่กล้าทำอะไร เพราะกลัวว่าถ้าโวยวายอะไรออกมา เหตุการณ์อาจจะยิ่งเลวร้ายไปกว่านี้ ถนนก็มืด พัทยาก็ยังอีกไกล
ขับมาอีกประมาณ 5 นาที เพื่อนคนที่นั่งข้างๆ คุณจอร์ชก็ตะโกนขึ้น
“เฮ้ยวัดอยู่ข้างหน้า!”
คุณจอร์ชหักพวงมาลัยเลี้ยวรถเข้าวัด และเพียงแค่ลอดใต้ซุ้มประตูทางเข้าวัด เธอคนนั้นก็หายวั๊บไปทันที!!
เพื่อนคนที่นั่งเบาะหลังช็อคไปเลย! ตาค้าง ตัวแข็งนิ่ง เพื่อนคนที่นั่งหน้าเปิดประตูวิ่งลงไปจากรถทันที มุ่งหน้าไปที่กุฏิวัด หวังว่าจะมีพระสักรูปออกมาช่วย ส่วนคุณจอร์ชก็จะลุกออกจากรถ แต่ลุกไม่ขึ้น ร่างกายขยับได้เพราะมันเกร็งไปหมด ปัสสาวะราดไปแล้ว
พอคุณจอร์จรวบรวมสติได้แล้ว ก็เดินไปพยายามเขย่าตัวเพื่อนที่เบาะหลัง แต่เพื่อนสติไม่มีแล้วเพราะตกใจสุดขีด แต่ก็พยายามพาเพื่อนลงมาจากรถให้ได้ แล้วก็พยุงพาไปที่กุฏิ
แล้วพระรูปหนึ่งก็ออกมาถามว่า
“มีอะไรกันหรือโยม”
คุณจอร์ชและเพื่อนๆ ก็บอกว่าโดนผีหลอกตรงโค้ง ท่านก็พูดขึ้นว่า
“โอ้ยเป็นเรื่องปกติน่ะโยม”
คุณจอร์ชและเพื่อนก็งงว่าปกติยังไง พระท่านก็ถามกลับมาว่า
“แล้วคราวนี้โดนใครหลอกล่ะ ลักษณะเป็นยังไง”
พอเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง พระท่านบอกว่า
“อ่อ... นางพยาบาล”
แล้วพระท่านก็เล่าให้ฟังว่า เมื่ออาทิตย์กว่าๆ มานี้ มีพยาบาลคนหนึ่งขับรถมา แล้วมาประสบอุบัติเหตุชนกับรถสิบล้อ สภาพรถพังยับเยิน รถยังจอดอยู่ตรงข้างทางอยู่เลย
ซึ่งก็คือรถที่คุณจอร์ชและเพื่อนเห็นจอดอยู่ข้างทางคันนั่นเอง
..........
ขอขอบคุณดวงวิญญาณที่เรานำเอาเรื่องของท่านมาเล่าสู่กันฟัง สู่สุคติ เทอญ
Credit by : http://www.chillpainai.com
เรียบเรียง: กะลาตาเดียว
ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต(ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา)
http://www.youtube.com/watch?feature=player_detailpage&v=CHtwrOAa0lo
วันก่อนผมเดินทางไปชลบุรี แล้วมีโอกาสผ่านโค้งโค้งหนึ่งบนถนนสุขุมวิทสายเก่า ทำให้นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ วันนี้จึงอยากจะนำมาเล่าให้ฟัง เรื่องนี้คุณจอร์ช เล่าไว้ในรายการวิทยุ 90 Shock เป็นประสบการณ์ไม่คิดไม่ฝันที่คุณจอร์ชเจอมากับตัวเองและเพื่อนอีก 2 คน ระหว่างขับรถไปพัทยา และผ่านโค้งนี้
คุณจอร์ชเล่าว่า ตนมักจะเดินทางไปเที่ยวพัทยาอยู่เป็นประจำ และในวันที่เกิดเรื่องก็กำลังขับรถไปกับเพื่อนอีก 2 คน โดยตนเองเป็นคนขับ มีเพื่อนนั่งข้างๆ และนั่งเบาะหลัง เดินทางออกจากกรุงเทพฯ เวลาประมาณตี 2 ครึ่ง และขับรถไปด้วยความเร็วสูง ทั้ง 3 คนเป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องผี ไม่กลัวอะไรง่ายๆ และในใจก็คิดว่าเดี๋ยวจะได้ไปเที่ยวสนุกกัน ก็คุยกันเฮฮาตามประสาหนุ่มวัยรุ่น
จนช่วงตี 3 กว่าๆ ก็มาถึงโค้งดังกล่าว ถนนช่วงนั้นมืดมาก เพื่อนคนหนึ่งก็บอกให้ผ่อนคันเร่งและบีบแตรขอผ่านทาง ซึ่งคุณจอร์ชก็ได้บีบแตรไป 3 ครั้ง และพอมาถึงช่วงโค้งลงเนินเขา ทุกคนก็เห็นเหมือนกันว่า มีหญิงสาวคนหนึ่ง หน้าตาสวย ผิวขาว ผมยาว สวมเสื้อยืดสีขาว และกางเกงยีนส์ ยืนอยู่ริมถนน รถเธอเสียจอดอยู่ข้างทาง...
ด้วยนิสัยผู้ชาย เพื่อนคนหนึ่งก็เลยบอกว่า
“เฮ้ย! จอดๆ ผู้หญิงๆ”
คุณจอร์ชก็เลยเลี้ยวรถเข้าไปจอด
“จะไปไหนครับ”
ผู้หญิงคนนั้นตอบมาว่า
“กำลังจะไปพัทยา”
เสียงของเธอช้ากว่าปกติ แต่ไม่ได้เยือกเย็น ออกจะหวานๆ เสียด้วยซ้ำ เพื่อนคนหนึ่งถามต่อไปว่า
“ไม่กลัวเหรอครับ มาอยู่ตรงนี้”
เธอตอบกลับมา
“อยู่หลายวันแล้ว ไม่เห็นเป็นไร... จะให้ไปด้วยรึป่าวล่ะ”
3 หนุ่มเกิดอาการกระหยิ่มใจ ที่ทริปนี้จู่ๆ ก็มีสาวสวยขออาศัยร่วมทางมาด้วย
“ไปดิ เดี๋ยวไปส่ง”
เธอขึ้นนั่งเบาะหลัง
ทั้ง 3 พลัดกันพูดคุยกับสาวสวย ถามบ้าง แซวบ้าง หยอดบ้าง ...
“คุณตัวหอมมาก ใช้น้ำหอมอะไร”
“ไม่ใช่น้ำหอม ตัวหอมอยู่แล้ว”
ระหว่างนั้น คุณจอร์ชโทร.หาพี่ที่กำลังจะขับรถตามมาสมทบที่พัทยา และบอกไปด้วยว่าแวะรับสาวสวยมาด้วย พีที่คุยสายอยู่เตือนมาว่า
“เฮ้ย! ระวังนะ ตรงนั้นนะเจอกันเยอะนะ”
แต่คุณจอร์ชก็ไม่ได้เอะใจอะไร
เพื่อนที่นั่งเบาะหลังก็คุยกับเธอไปเรื่อยๆ จนเริ่มจับไม้จับมือ แล้วก็ทักขึ้นว่า
“ทำไมตัวคุณเย็นจัง”
เธอตอบว่า
“ก็ยืนตรงนั้นนานแล้ว ทำไมจะไม่เย็นล่ะ”
“ไปอยู่ตรงนั้นคนเดียว เดี๋ยวก็โดนข่มขืนหรอก”
“ทำไมต้องกลัว ก็คุ้นอยู่แล้ว”
คุณจอร์ชขับรถไปอีกไกลพอสมควร ฟังเพื่อนแทะโลมหญิงสาวอยู่เบาะหลังไปตลอดทาง ก็เลยลองมองกระจกหลัง เพราะอยากเห็นหน้าสวยๆ ของเธอคนนั้นชัดๆ อีกสักที
แล้วคุณจอร์ชก็มองไปที่กระจกหลังแต่ไม่เห็นเธอคนนั้นในกระจก ลองบิดกระจกลงมาเผื่อว่าองศาจะไม่ได้ แต่ก็ยังไม่เห็น! จนคุณจอร์ชถึงกับต้องขยี้ตา แต่เมื่อหันหลังกลับไปมองด้วยตา ก็เห็นว่าเธอยังนั่งอยู่! แต่เธอไม่มีเงาในกระจกจริงๆ!!
ความกลัวพุ่งขึ้นถึงขีดสุด แต่ทำอะไรไม่ถูก หน้าซีด และฝืนขับรถต่อไป ใจเต้นแรงจนแทบจะหยุดเต้น คุณจอร์ชสะกิดเพื่อนที่นั่งข้างๆ คนขับให้ลองดูกระจกหลัง แล้วก็ลักษณะเดียวกันเลย เธอไม่มีเงาในกระจก แต่หันไปดูเธอยังนั่งอยู่ ทั้งคู่หน้าซีด ทำอะไรไม่ถูก ปิดปากเงียบสนิทกันทั้งสองคน
เหลือแต่เพื่อนคนที่นั่งเบาะหลังนี่แหละ ที่ยังไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร ยังจับไม้จับมือล่วงเกินเธออย่างกระหยิ่มใจ
คุณจอร์ชนั้นเกร็งไปทั้งตัว ใจสั่นเต็มที่จนรู้สึกคลื่นไส้ ตอนนี้ขับอย่างเดียว พูดอะไรไม่ออก ไม่กล้าทำอะไร เพราะกลัวว่าถ้าโวยวายอะไรออกมา เหตุการณ์อาจจะยิ่งเลวร้ายไปกว่านี้ ถนนก็มืด พัทยาก็ยังอีกไกล
ขับมาอีกประมาณ 5 นาที เพื่อนคนที่นั่งข้างๆ คุณจอร์ชก็ตะโกนขึ้น
“เฮ้ยวัดอยู่ข้างหน้า!”
คุณจอร์ชหักพวงมาลัยเลี้ยวรถเข้าวัด และเพียงแค่ลอดใต้ซุ้มประตูทางเข้าวัด เธอคนนั้นก็หายวั๊บไปทันที!!
เพื่อนคนที่นั่งเบาะหลังช็อคไปเลย! ตาค้าง ตัวแข็งนิ่ง เพื่อนคนที่นั่งหน้าเปิดประตูวิ่งลงไปจากรถทันที มุ่งหน้าไปที่กุฏิวัด หวังว่าจะมีพระสักรูปออกมาช่วย ส่วนคุณจอร์ชก็จะลุกออกจากรถ แต่ลุกไม่ขึ้น ร่างกายขยับได้เพราะมันเกร็งไปหมด ปัสสาวะราดไปแล้ว
พอคุณจอร์จรวบรวมสติได้แล้ว ก็เดินไปพยายามเขย่าตัวเพื่อนที่เบาะหลัง แต่เพื่อนสติไม่มีแล้วเพราะตกใจสุดขีด แต่ก็พยายามพาเพื่อนลงมาจากรถให้ได้ แล้วก็พยุงพาไปที่กุฏิ
แล้วพระรูปหนึ่งก็ออกมาถามว่า
“มีอะไรกันหรือโยม”
คุณจอร์ชและเพื่อนๆ ก็บอกว่าโดนผีหลอกตรงโค้ง ท่านก็พูดขึ้นว่า
“โอ้ยเป็นเรื่องปกติน่ะโยม”
คุณจอร์ชและเพื่อนก็งงว่าปกติยังไง พระท่านก็ถามกลับมาว่า
“แล้วคราวนี้โดนใครหลอกล่ะ ลักษณะเป็นยังไง”
พอเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง พระท่านบอกว่า
“อ่อ... นางพยาบาล”
แล้วพระท่านก็เล่าให้ฟังว่า เมื่ออาทิตย์กว่าๆ มานี้ มีพยาบาลคนหนึ่งขับรถมา แล้วมาประสบอุบัติเหตุชนกับรถสิบล้อ สภาพรถพังยับเยิน รถยังจอดอยู่ตรงข้างทางอยู่เลย
ซึ่งก็คือรถที่คุณจอร์ชและเพื่อนเห็นจอดอยู่ข้างทางคันนั่นเอง
..........
ขอขอบคุณดวงวิญญาณที่เรานำเอาเรื่องของท่านมาเล่าสู่กันฟัง สู่สุคติ เทอญ
Credit by : http://www.chillpainai.com
โค้งทางไปพัทยา (น่ากลัว)
[IMG]