มาเรียนรู้กฏหรือทฤษฏีต่างๆในเรื่อง Index และ เรลกันกันเถอะ

หวัดดีจ้ะ เพื่อนๆ ทั้งหลายที่ติดตามดูเรื่องอินเด็กส์และเรลกันจะพบว่ามีกฏหรือทฤษฏีต่างๆมากมาย

กฏหรือทฤษฏีเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องยกเมฆกันนะจ๊ะ

วันนี้ อ.โคโมเอะ เลยเอามาบอกเล่าให้เพื่อนๆฟังกันเพื่อเพิ่มความเข้าใจในกาตูนสองเรื่องนี้มากขึ้น

ทฤษฏีนี้เป็นรากฐานสำคัญในวิทยาศาสตร์ระดับนาโนในปัจจุบัน โดยจะทำการศึกษาถึงระดับอิเล็กตรอน

ทฤษฏีนี้เกิดขึ้นเพราะกฏของนิวตันไม่สามารถอธิบายความจริงบางประการในระดับนาโนได้

ดังนั้น ถ้าเพื่อนๆเข้าใจทฤษฏีควอนตั้ม ก็จะรู้ถึงคุณประโยชน์ในสิ่งเล็กจิ๋วในระดับอิเล็กตรอนได้เอนกอนันต์ทีเดียว

(สิ่งเล็กจิ๋วนั้นไม่ได้หมายถึงตัว อ.โคโมะเอะ นะจ๊ะ ตัวอาจารย์เล็กเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว)

สำหรับคนที่รักแมวทั้งหลายอย่าเพิ่งยี้อย่างสยดสยองนะจ๊ะ

อีตาชโรดิงเจอร์แกตั้งคำถามถึงทฤษฏีควอนตั้ม โดยสมมติเรื่องราวดังนี้

บางทีเราบอกไม่ได้ว่าสภาวะสิ่งหนึ่งเป็นอย่างไร

เขาจึงยกตัวอย่างว่า สมมติว่ามีแมวอยู่ตัวหนึ่ง มันถูกขังไว้ในกล่องที่ปิดสนิท

โดยมีโถแก้วบรรจุแก๊สพิษไซยานายที่ปิดจุกไว้หนึ่งใบ บนโถแก้วใบนี้มีค้อนที่ตั้งรออยู่

และมีแหล่งกำเนิดกัมมันตรังสีอยู่ด้วย ชโรดิงเจอร์บอกว่าเมื่อนิวเคลียสหนึ่งจากแหล่งกำเนิดสลายตัว

มันจะปล่อยอนุภาคอัลฟาตัวหนึ่งซึ่งจะไปทำให้ค้อนหล่นลงมากระทบโถแก้วแตกแล้วปล่อยแก๊สพิษไปฆ่าแมวจนตาย

คำถามก็คือว่า เราจะรู้ได้ยังไงว่าแมวตาย

ถ้าเราเปิดกล่องดู การเปิดกล่องนี้ก็อาจรบกวนสภาวะของแมวตัวนั้น

ซึ่งจริงๆมันอาจจะตายแล้วแต่การเปิดกล่องอาจทำให้มันรอดไปก็ได้

แต่ถ้าไม่เปิดกล่องก็ไม่รู้นี่เนอะ ว่ามันตายหรือไม่ตาย

(ยกตัวอย่างได้ทรมานสัตว์ชิบเป๋งเลย)

ขาไม่ถึงแหะ..

หลักการนี้จะสอดคล้องกับทฤษฏีของตาชโรดิงเจอร์เช่นกัน

กล่าวคือ เราไม่สามารถวัดตำแหน่งหรือพลังงานเล็กๆเช่นอิเล็กตรอนในเวลาเดียวกันได้

ถ้าเราวัดมันเราก็ต้องใส่พลังงานบางอย่างลงไปซึ่งเป็นการรบกวนมัน

ผลก็คือค่าการตรวจวัดนั้นปราศจากความแม่นยำร้อยเปอร์เซ็นต์

แต่ถ้าเราพยายามวัดให้มันแม่นยำ โดยวัดจากภาพรวมของพลังงานทั้งหมด

เราก็ไม่รู้จุดที่แน่นอนของอิเล็กตรอนว่ามันอยู่จุดไหนนั่นเอง

(บอกแล้วว่าอิเล็กตรอนมันเล็กเหมือนตัว อ.โคโมเอะ นั่นแหละ มันก็เลยผลุบๆโผล่ๆไม่รู้อยู่จุดไหนกันแน่)

ต่อไป อ.คิยาม่า จะอธิบาย "ความเป็นจริงเฉพาะบุคคล" นะคะ

จริงๆแล้ว มนุษย์ทุกคน มีพลังพิเศษที่ซ่อนเร้นอยู่ อย่างเช่นพรสวรรค์นั่นแหละ เป็นต้น

สังเกตุว่าบางคนร้องเพลงเก่ง บางคนเล่นกีฬาเก่ง

แต่ ความเป็นจริงเฉพาะบุคคล ในฐานะของการศึกษาด้านพลังจิตนั้นลึกมากกว่านั้น

ก่อนที่พัฒนาพลังจิตของใครคนใดคนหนึ่ง ต้องบอกให้ได้ก่อนว่า

พลังพิเศษที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวบุคคลนั้นคืออะไร

สมมติเช่น คุณมิซากะ มิโคโตะ มีพลังพิเศษซ่อนเร้นคือพลังไฟฟ้า

แต่ถ้าไปพัฒนาให้มีพลังทางด้านอื่นเช่นเทเลพอร์ตแบบ คุณชิราอิ

คุณมิโคโตะ ก็ไม่อาจพัฒนาพลังนั้นขึ้นมาได้

ลักษณะพิเศษที่ซ่อนเร้นนี้ จึงถูกเรียกว่า "ความเป็นจริงเฉพาะบุคคล" นั่นเอง

(พูดจบก็ถอดเสื้อโชว์บราเซีย อยู่ตรงนั้นเอง)