ตอนก่อนๆ
ปฐมบทแห่งการเริ่มต้น - The Evil Kid [นิยาย-00]
ปฐมบทแห่งการเริ่มต้น - The Evil Kid [นิยาย-01
ปฐมบทแห่งการเริ่มต้น - The Evil Kid [นิยาย-02]
ปฐมบทแห่งการเริ่มต้น - The Evil Kid [นิยาย-03]
ปฐมบทแห่งการเริ่มต้น - The Evil Kid [นิยาย-04]
ปฐมบทแห่งการเริ่มต้น - The Evil Kid [นิยาย-05]
ปฐมบทแห่งการเริ่มต้น - The Evil Kid [นิยาย-00]
ปฐมบทแห่งการเริ่มต้น - The Evil Kid [นิยาย-01
ปฐมบทแห่งการเริ่มต้น - The Evil Kid [นิยาย-02]
ปฐมบทแห่งการเริ่มต้น - The Evil Kid [นิยาย-03]
ปฐมบทแห่งการเริ่มต้น - The Evil Kid [นิยาย-04]
ปฐมบทแห่งการเริ่มต้น - The Evil Kid [นิยาย-05]
ก่อนอ่านขอบอกก่อนว่าผมลงที่ละไม่ยาวมากนะเพื่อความไม่คี่เกียด55ความเดิมตอนที่แล้ว: เซโร่ได้ช่วยอลิสไว้จากพวกโจรรีดค่าไถ่และอลิสได้ชวนเซโร่มาอยู่ด้วยกัน
เมื่อทั้ง2เดินทางมาถึงคฤหาสน์ของอลิสซึ่งมีขนาดเล็กกว่าคฤหาสน์ของลิซ่าไม่มากนัก
อลิสเดินไปเคาะประตูคฤหาสน์หลังใหญ่ และไม่นานก็มีคนมาเปิดประตูให้ “อ๊ะคุณหนูอลิส!....นายท่านคะ! คุณหนูอลิสกลับมาแล้วค่ะ!” แม่บ้านเดินมาเปิดประตูแล้วเธอก็ตกใจเมื่อเห็นว่าคุณหนูของบ้านได้กลับมาแล้วพร้อมทั้งเรียกเจ้าของบ้านซึ่งก็คงจะเป็นพ่อของอลิส“อลิส! อลิส! ลูกกลับมาแล้วเหรอ โอ้ว พระเจ้าคุ้มครอง” ขุนนางเจ้าของบ้านวิ่งออกมาอย่างร้อนรนมากอดลูกสาวพร้อมทั้งขอบคุณพระเจ้าที่ช่วยลูกสาวของตนไว้ทั้งๆที่จริงๆแล้ว เซโร่เป็นคนช่วยไว้ต่างหาก
“แล้ว...เจ้าเด็กน้อยนี้เป้นใคร เหรออลิส” ท่านขุนนางถ้ามอลิสด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและหันมามองคนที่อยู่ข้างหลังลูกสาวซึ่งก็คือเซโร่นั่นเอง “อ๋อ นี่คือเซโร่ค่ะท่านพ่อ เค้าได้ช่วยข้าไว้ตอนถูกโจรจับเรียกค่าไถ่”เมื่อผู้เป็นพ่อได้ฟังคำตอบของลูกสาว ก็เกิดความฉงนสนเท่ว่า เด็กตัวเล็กๆแค่นี้ทำไมถึงช่วยลูกสาวของตนไว้ได้ แต่เขาก็ไม่คิดอะไรมากเพราะเด็กๆยุคนี้อาจจะเก่งกว่าเด็กๆยุคของเขาก็ได้ จากนั้น ท่านขุนนางจึงได้พูดกับเซโร่ว่า“ขอบคุณเจ้ามากนะที่ช่วยลูกสาวข้าไว้”
“ครับผม ไม่เป็นอะไรครับ” เซโร่รับคำขอบคุณตามมารยาท “แล้วเจ้าทำอย่างไรล่ะถึงช่วยลูกสาวข้าไว้ได้”
เซโร่อ้ำอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับไปว่า “พอดีข้าใช้เวทย์มนต์ได้นิดหน่อยน่ะก็เลย...” “นี่เจ้าใช้เวทย์มนต์ได้งั้นรึ อย่างนั้นเจ้าก็น่าจะเป็นลูกของพวกขุนนางหรือไม่ก็คนในเมืองหลวงน่ะสิ!” พ่อของอลิสถามเซโร่ด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่มีพลังเวทย์ ถึงได้มาเร่ร่อนอยู่อย่างนี้ “เปล่าครับเปล่าผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อแม่ที่แท้จริงเป็นใคร ข้าถูกเลี้ยงโดยครอบครัวๆหนึ่งที่เมืองซาราทิสเลี้ยงดูข้าน่ะ แต่เพราะเหตุผลบางประการ จึงทำให้ข้าต้องเอ้อระเหยจนมาถึงนี่นี่ล่ะ”
เซโร่พยายามเลี่ยงเหตุผลที่ว่าตัวเองแหกคุกออกมา “อืมๆ งั้นรึงั้นตอนนี้เจ้าก็ไม่มีที่ไปสินะ มาอยู่กับข้าสิ เพราะถึงยังไงเจ้าก็ได้ช่วยชีวิตลูกสาวข้าไว้”ท่านขุนนางพ่อของอลิสเชิญชวนให้เซโร่มาอยู่ด้วยและดูเหมือนว่าอลิสจะดีใจมากด้วยที่พ่อของเธอชวนเซโร่มาอยู่ด้วยโดยที่ตัวเองไม่ต้องเป็นคนขอ“ค-ครับ!” เซโร่ตอบหนักแน่นและดูเหมือนว่าชีวิตของเซโร่จะเริ่มมีความหวังขึ้นและอีกไม่นาน เขาอาจจะได้ไปเรียนที่โรงเรียนเวทย์มนต์ของเมืองหลวงก็ได้และเขาก็อาจจะได้พบลิซ่าอีกครั้ง...
1ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก เซโร่และอลิสอาศัยอยู่ด้วยกันจนเซโร่อายุได้อายุ13ปีและท่านขุนนางก็รักเซโร่เหมือนลูกคนหนึ่งเลยทีเดียวเซโร่ได้รับการศึกษาการเรียนรู้ในหลายๆด้าน เพื่อเตรียมที่จะสอบเข้าไปยังโรงเรียนเวทย์มนต์สาขาแม่ซึ่งก็คือที่ๆลิซ่าจะไปเรียนนั่นเอง และมีชื่อเต็มว่า‘สถาบันเวทย์มนต์มาจิคาปิทอล’ตามชื่อเมืองหลวงซึ่งทั้งอลิสและเซโร่ต้องไปสอบเข้าให้ได้ เพื่ออนาคตที่ดีของทั้งสองโดยเฉพาะ....เซโร่
เมื่อถึงวันสมัครเพื่อเตรียมสอบเข้าท่านขุนนางหรือพ่อของอลิสนั้นได้พาทั้งสองไปยังสถาบันเวทย์มนต์มาจิคาปิทอลซึ่งตั้งอยู่เมืองหลวงเพื่อไปสมัครสอบเซโร่นั้น เพิ่งจะเคยมาเมืองหลวงเป็นครั้งแรก เห็นอะไรก็ดูน่าตื่นตาตื่นใจไปหมดที่นี่นั้น มียานพาหนะที่แปลกแตกต่างจากแถวบ้านนอกที่เขาเคยอยู่ เพราะที่บ้านนอกนั้นใช้รถม้าและเดินเท้าเปล่าแต่ที่นี่โดยทั่วไปแล้ว เขาจะขี่พวกสัตว์ประหลาด มังกรบ้าง เหาะบ้าง เดินบ้างจึงทำให้ที่นี่ดูแปลกประหลาดหาที่อื่นเสมอเหมือน ทั้งอาคารบ้านช่องก็ดูคล้ายๆกันหมดเป็นทรงสี่เหลี่ยมสูงขึ้นไปยาวเหยียด และมีเห็นได้แทบทุกที่ ถนนก็เป็นหินสีดำสนิทดูแล้วอลังมากและตรงกลางเมืองนั้นจะมีปราสาทลอยฟ้าตั้งตระหง่านดูเด่นกว่าสิ่งก่อสร้างอื่นๆในเมืองเซโร่มองทุกอย่างดูแปลกตาไปหมดจึงแสดงอาการออกนอกหน้าอลิสซึ่งคอยแอบดูเซโร่อยู่ก็หัวเราะคิกกับอาการของเซโร่
“ก็ข้าไม่เคยเข้าเมืองนี่นา เจ้าอย่ามาหัวเราะข้าสิ” เซโร่หันขวับไปทางอลิสและพูดกับเธอเพราะอายที่อลิสหัวเราะตน
“ข้าก็ไม่ได้ว่าอะไรเจ้านี่ แค่เห็นเจ้าแล้วตลกดี” อลิสพูดตามความจริง
เมื่อทั้งสองกำลังเถียงกันดีๆนั้น ก็มีเสียงคนขับรถบอกว่า “ถึงที่หมายแล้วครับ”เมื่อได้ยินดังนั้นทั้งสองก็เดินลงจากรถ
เซโร่เป็นคนลงคนแรกที่ลงและตามด้วยอลิสอลิสเห็นเซโร่กำลังยืนอึ้งตัวแข็งและอ้าปากหวออลิสก็หัวเราะคิกๆอีกครั้งกับอาการของเซโร่ เธอจึงมองบ้างว่าโรงเรียนเป็นอย่างไรเพราะเธอเคยมาเมืองหลวงแล้ว แต่ไม่เคยเจอโรงเรียนเลย
เมื่ออลิสหันหน้าไปมองทางโรงเรียน อลิสก็มีอาการแบบเดียวกับเซโร่ ที่จริงก็ไม่ใช่แค่ทั้งสองหรอกนะที่เกิดอาการแบบนี้ เพราะรอบๆตัวพวกเซโร่ต่างก็เกิดอาการเดียวกันหมด ก็เพราะว่าโรงเรียนที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้นั้น มันใหญ่มว๊าก
โดยรอบๆนั้น ประดับประดาไปด้วยดอกไม้สีสันสดใสนานาชนิด ประตูทางเข้าสีทองน้ำพุตรงใจกลางทางเข้าก็พ่นน้ำพุสีรุ้งออกมา อาคารจำนวนไม่มากแต่ขนาดใหญ่ มังกรจำนวนนานาชนิดซึ่งมีคนขี่คอมันคาดว่าน่าจะเป็นนักเรียนของที่นี่เพราะพ่อของอลิสเคยบอกว่า ที่นี่มีวิชามังกรด้วยเมื่อพวกเซโร่ได้เข้าไปสมัครสอบแล้วและออกมาข้างนอก พ่อของอลิสจึงพาเซโร่และอลิสไปหาอะไรทานในเมืองซึ่งอาหารของที่นี่ขึ้นชื่อมาก ไม่ว่าจะเป็นประเภทไหนก็ล้วนแล้วแต่อร่อยทั้งสิ้น
เมื่อพ่ออลิสพาเซโร่และอลิสมาถึงร้านๆหนึ่งเพื่อทานอะไรรองท้องเล่นพ่อของอลิสได้สั่งของว่างขนิดหนึ่งจำนวน3ถ้วย มันมีลักษณะเป็นก้อนกลมๆทับกัน3ชั้นราดด้วยครีมสีแดง และส่วนหัวปักด้วยสตรอเบอร์รี่เซโร่ได้ทานคำแรกนั้นก็รู้สึกติดใจมาก เพราะมันทั้งหอมหวานนุ่มลิ้นและยังเย็นอีกด้วย เมื่อทานหมดแล้วพวกเขาก็ไปพักที่โรงแรมโรงแรมหนึ่งในตัวเมือง เพื่อรอสอบในวันรุ่งขี้นซึ่งเนื้อหาที่จะใช้ในการสอบนั้นจะเกี่ยวกับการใช้เวทย์มนต์และรายละเอียดทางสนามสอบจะแจ้งอีกครั้งเซโร่และอลิสนอนเกือบไม่หลับเพราะตื่นเต้นที่วันสอบนั้นจะถึงในวันพรุ่งนี้นี่เอง จนพ่อของอลิสต้องดุทั้งคู่เอาทั้งสองถึงนอนหลับ.........
วันรุ่งขึ้น เซโร่และอลิสได้ไปทำการลงทะเบียนเข้าสอบเพื่อเตรียมสอบในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าทั้งสองใจเต้นมากเพราะไม่รู้ว่าตนเองจะสอบติดมั้ย เพราะเค้าว่าตอนสอบนั้นยากมากกเมื่อลงทะเบียนเสร็จแล้วทั้งคู่ก็ไปนั่งเล่นรอที่ม้านั่งเพื่อเตรียมสอบ “นี่เซโร่เจ้าคิดว่าพวกเราจะสอบติดทั้งคู่มั้ย” อลิสเอ่ยถามเซโร่ “ข้าคิดว่าคงแล้งแต่เวนแต่กรรมล่ะมั้งนะ”เซโร่ตอบอย่างไม่คิดอะไรมาก“หนอย..ใช่ซี้ เจ้ามันเก่งนี่ไม่เหมือนข้าข้าน่ะทำอะไรก็ซุ่มซ่ามไม่เก่งเลยคงได้แต่เวทย์ธาตุดินนี่ล่ะมั้งที่ข้าจะพอไปวัดไปวากับเค้าได้” อลิสพูดแกมประชดเซโร่นิดๆ“น่าๆเอาน่า เดี๋ยวถ้าเจ้าเป็นอะไรข้าจะปกป้องเจ้าเองนะเพราะยังไงๆข้าก็เก่งอยู่แล้วนี่ข้าก็ใช้เวทย์ได้ทุกธาตุแล้วล่ะนะถ้าไม่นับธาตุแสง” เซโร่พูดแกมอวดตัวเองนิดๆ อลิสก้มหน้าเขินเล็กน้อยทันทีที่เซโร่พูดว่าจะปกป้องตนเองแต่เธอก็อดแปลกใจนิดๆไม่ได้จึงเอ่ยไปว่า
“ธาตุความมืดด้วยไม่ใช่เหรอ เจ้าลืมนับนะมีแต่ปีศาจเท่านั้นล่ะที่จะใช้ได้” อลิสพูดแย้งเซโร่เมื่อเห็นว่าเซโร่ลืมนับธาตุมืด“อ้อ อ๊ะใช่ๆ ธาตุความมืดด้วย แหะๆข้าลืมได้ไงเนี่ย”เซโร่หัวเราะเล็กๆเพื่อให้มันดูว่าเขาลืมนับจริงๆทั้งๆที่มันไม่ใช่! เมื่อใกล้ถึงเวลาสอบก็มีเสียงประกาศดังขึ้นโดยเรียกให้ผู้เข้าสอบแต่ละคนเอามือประกบกันแล้วชูขึ้นฟ้า เซโร่อลิสและคนรอบๆข้างก็ทำตามกันหมดซักพักเซโร่ก็รู้สึกเหมือนมีลมอยู่ข้างในมือที่ประกบกันไว้แล้วทันใดนั้นลมก็หยุดเมื่อเซโร่แบมือขึ้นก็พบกับกระดาษแผ่นหนึ่งซึ่งมีรูปเซโร่ติดไว้และมันยังบอกถึงห้องที่เขาจะใช้ในการสอบรวมทั้งรายละเอียดต่างๆเมื่อเซโร่อ่านทำความเข้าใจแล้วจึงไปหาอลิสเพื่อดูว่าห้องของตนกับอลิสนั้นอยู่ห้องเดียวกันรึเปล่า“นี่อลิส ข้าขอดูหน่อยสิว่าเจ้ากับข้าอยู่ห้องสอบเดียวกันรึเปล่า”เซโร่เอ่ยถามอลิส“เอาของเจ้ามาดูก่อนสิ=w=” อลิสพูดกับเซโร่และดูเหมือนต่างฝ่ายต่างจะไม่ยอมกัน“อ่าเอางี้ดีกว่า มาดูพร้อมกันเลยจะได้ไปห้องสอบซักที” เซโร่พูดซึ่งทั้งคู่ก็เห็นด้วยเมื่อทั้งสองเห็นห้องสอบของตนก็พบว่าทั้งคู่อยู่ห้องสอบด้วยกันทั้งสองจึงดีใจมากและกำลังเดินไปห้องสอบในระหว่างที่เดินอยู่นั้น เซโร่ก็ได้เดินสวนกับลิซ่า...เซโร่นั้นเห็นแวบๆจึงฝ่าฝูงคนเพื่อจะไปหาลิซ่า“เซโร่ นี่เจ้าจะไปไหนน่ะ การสอบใกล้เริ่มแล้วนะ!”อลิสร้องไล่หลัง “เดี๋ยวข้ามาแปบนึง” เซโร่ตอบกลับอลิสพร้อมทั้งวิ่งหายไปกับฝูงชนเพื่อไปหาลิซ่า...
โปรดติดตามตอนต่อไป เม้นด่าเม้นว่าวิจารณ์ได้เลยนะเพื่อผมจะได้เอามาปรับใช้กับนิยาย
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ganauou เมื่อ 2013-1-18 18:18
ปฐมบทแห่งการเริ่มต้น - The Evil Kid [นิยาย-08]