รายงานการวิจัยไวรัสปริศนาจากบลาซิล
ลักษณะของไวรัส : เป็นของเหลวข้นสีแดงม่วงบรรจุอยู่ในหลอดปิดผนึกขนาด2cm.
ยาว15cm. จำนวน10หลอด ใส่มาในกล่องกันกระแทกแบบควบคุมอุณหภูมิ
บันทึกการทดลอง
20.20 เตรียมอุปกรณ์และใส่ชุดป้องกันป้องกันเชื้อโรค
20.24 D-Classที่ร้องขอไว้มาถึงในสภาพย้ำแย่
20.25 เริ่มทำการทดลอง ตัดปลายหลอดทดลองและจำนวน2หลอด
หลอดแรกตั้งไว้ในกล่องปิดผลึกใสเฉยๆรอดูการเปลี่ยนแปลง
หลอดที่สองใช้เข็มฉีดยาดูดออกมาและฉีดเข้าไปให้ตัวทดลองที่1
20.30 ตัวทดลองที่1เริ่มมีอากาศตัวกระตุก หายใจติดขัด แล้วอาการก็กลับมาทรงตัวเหมือนเดิม
20.35 ตัวทดลองที่1สามารถใช้แรงกระตุกเชือกที่มัดแขนและขาออกได้ด้วยแรงมหาศาล
และวิ่งตรงไปทางตัวทดลองที่เหลือ แล้วร่างของตัวทดลองที่1ก็ระเบิดออกกลายเป็นเศษเนื้อ
เละเต็มตัวตัวทดลองที่2และ3 ทดลองที่เหลือร้องออกมาด้วยความตกใจและหวาดกลัว
20.39 สังเกตเห็นว่าซากตัวทดลองที่1ค่อยเจาะลงไปในร่างของตัวทดลองที่2และ3
และพบว่าอากาศที่ถูกขังไว้ในกล่องกลายเป็นสีม่วงแดงจางๆและปริมาณไวรัสในหลอดลดลงเล็กน้อย
จึงประกาศให้ทุกคนในศูนย์ใส่ชุดป้องกันเชื้อโรคเพื่อกันไว้ก่อน
แม้ห้องนี้จะปิดตายไม่ให้อากาศเข้าออกแล้วก็ตาม
20.45ตัวทดลองที่2และ3มีอาการกระตุก หายใจติดขัด แล้วอาการก็กลับมาทรงตัว
เหมือนกับตัวทดลองที่1ที่มีอาการเดี่ยวกันก่อนหน้า แต่ไม่มีเชื้อไวรัสปนอยู่ในอากาศในห้อง
สังเกตยาในกล่องปิดผนึก มีสีเข้มขึ้นมาก และตัวไวรัสลดลงไปจนเห็นได้ชัด
20.50ตัวทดลองที่2และ3ดึงเชือกจนขาดแล้ววิ่งมาทางผู้ทำการทดลอง แล้วทำการระเบิดตัวเอง
ผู้ทดลองทำการทำความสะอาดชุดป้องกันให้ไม่เหลือเศษเนื้อติดอยู่และสะอาดที่สุด
จึงสรุปผลการแพร่กระจายของเชื้อได้ว่า
1 แพร่กระจายโดยการระเหยไปในอากาศปนไปกับอ็อคซิเจ็นที่สิ่งมีชีวิตหายใจหรือ
2 จากสิ่งมีชีวิตที่ติดเชื้อ โดยการควบคุมร่างของสิ่งมีชีวิตที่ติดเชื้อให้พุ่งไปหาสิ่งมีชีวิต
ที่ใกล้ที่สุด แล้วระเบิดตัวเองให้เศษเนื้อที่ติดเชื้อกระจายไปติดร่างของสิ่งมีชีวิตอื่น
แล้วทำการค่อยๆเจาะเข้าไปในตัวสิ่งมีชีวิตนั้นๆ แล้วทำให้ติดเชื้อในที่สุด
และทำการประกาศว่าสามารถเข้าใจวิธีการแพร่เชื่้อแล้ว
21.00เปิดหลอดเชื้อไวรัสหลอดใหม่แล้วทำการวิจัยหายาฆ่าเชื้อจากนั้น
และได้สังเกตเห็นว่าไวรัสที่อยู่ในชิ้นเนื้อของตัวทดลองที่2และ3ได้สิ้นอายุไข
จึงได้นำไวรัสที่ตายแล้วนั้นมาทดลองทำยาฆ่าเชื้อ
21.05ทำยาฆ่าเชื้อสำเร็จและลองยาฆ่าเชื้อไปทั่วห้องซึ่งตอนนี้มีเชื้อไวรัสกระจายอยู่เต็มห้อง
21.08หลังจากฉีดพ่นไปสักพักเชื้อไวรัสในอากาศก็หายไปจนหมดจึงประกาศบอกสถานการณ์
และเริ่มทดลองทำยาแก้พิษ
21.12เตรียมทดลองยาแก้พิษเนื่องตัวทดลองหมดจึงได้ใช้ตัวเองเป็นตัวทดลองที่4
โดยเริ่มจากฉีดไวรัสเข้าไปที่แขนแล้วรอไวรัสออกอาการ
21.17เริ่มมีอาการกระตุก และหายใจไม่ออก แล้วอาการก็กลับมาคงที่
เมื่อมีอาการของเชื้อจึงได้ฉีดยาแก้พิษใส่ที่ตรงจุดที่ฉีดเชื้อโรคเข้าไปและรอดูอาการ
21.22ไม่มีอาการของเชื้อแล้ว ผลปรากฎว่ายาแก้พิษสำเร็จ
จึงได้ประกาศผลให้ทุกคนทราบแล้วเริ่มทำการฆ่าเชื้อศูนย์ทั้งศูนย์ให้ปลอดเชื้อไวรัส
21.31ประกาศว่าทั้งศูนย์ปลอดเชื้อและรายงานกับเจ้าหน้าที่ระดับ4เคออส
จบรายงานการวิจัย
ลักษณะของไวรัส : เป็นของเหลวข้นสีแดงม่วงบรรจุอยู่ในหลอดปิดผนึกขนาด2cm.
ยาว15cm. จำนวน10หลอด ใส่มาในกล่องกันกระแทกแบบควบคุมอุณหภูมิ
บันทึกการทดลอง
20.20 เตรียมอุปกรณ์และใส่ชุดป้องกันป้องกันเชื้อโรค
20.24 D-Classที่ร้องขอไว้มาถึงในสภาพย้ำแย่
20.25 เริ่มทำการทดลอง ตัดปลายหลอดทดลองและจำนวน2หลอด
หลอดแรกตั้งไว้ในกล่องปิดผลึกใสเฉยๆรอดูการเปลี่ยนแปลง
หลอดที่สองใช้เข็มฉีดยาดูดออกมาและฉีดเข้าไปให้ตัวทดลองที่1
20.30 ตัวทดลองที่1เริ่มมีอากาศตัวกระตุก หายใจติดขัด แล้วอาการก็กลับมาทรงตัวเหมือนเดิม
20.35 ตัวทดลองที่1สามารถใช้แรงกระตุกเชือกที่มัดแขนและขาออกได้ด้วยแรงมหาศาล
และวิ่งตรงไปทางตัวทดลองที่เหลือ แล้วร่างของตัวทดลองที่1ก็ระเบิดออกกลายเป็นเศษเนื้อ
เละเต็มตัวตัวทดลองที่2และ3 ทดลองที่เหลือร้องออกมาด้วยความตกใจและหวาดกลัว
20.39 สังเกตเห็นว่าซากตัวทดลองที่1ค่อยเจาะลงไปในร่างของตัวทดลองที่2และ3
และพบว่าอากาศที่ถูกขังไว้ในกล่องกลายเป็นสีม่วงแดงจางๆและปริมาณไวรัสในหลอดลดลงเล็กน้อย
จึงประกาศให้ทุกคนในศูนย์ใส่ชุดป้องกันเชื้อโรคเพื่อกันไว้ก่อน
แม้ห้องนี้จะปิดตายไม่ให้อากาศเข้าออกแล้วก็ตาม
20.45ตัวทดลองที่2และ3มีอาการกระตุก หายใจติดขัด แล้วอาการก็กลับมาทรงตัว
เหมือนกับตัวทดลองที่1ที่มีอาการเดี่ยวกันก่อนหน้า แต่ไม่มีเชื้อไวรัสปนอยู่ในอากาศในห้อง
สังเกตยาในกล่องปิดผนึก มีสีเข้มขึ้นมาก และตัวไวรัสลดลงไปจนเห็นได้ชัด
20.50ตัวทดลองที่2และ3ดึงเชือกจนขาดแล้ววิ่งมาทางผู้ทำการทดลอง แล้วทำการระเบิดตัวเอง
ผู้ทดลองทำการทำความสะอาดชุดป้องกันให้ไม่เหลือเศษเนื้อติดอยู่และสะอาดที่สุด
จึงสรุปผลการแพร่กระจายของเชื้อได้ว่า
1 แพร่กระจายโดยการระเหยไปในอากาศปนไปกับอ็อคซิเจ็นที่สิ่งมีชีวิตหายใจหรือ
2 จากสิ่งมีชีวิตที่ติดเชื้อ โดยการควบคุมร่างของสิ่งมีชีวิตที่ติดเชื้อให้พุ่งไปหาสิ่งมีชีวิต
ที่ใกล้ที่สุด แล้วระเบิดตัวเองให้เศษเนื้อที่ติดเชื้อกระจายไปติดร่างของสิ่งมีชีวิตอื่น
แล้วทำการค่อยๆเจาะเข้าไปในตัวสิ่งมีชีวิตนั้นๆ แล้วทำให้ติดเชื้อในที่สุด
และทำการประกาศว่าสามารถเข้าใจวิธีการแพร่เชื่้อแล้ว
21.00เปิดหลอดเชื้อไวรัสหลอดใหม่แล้วทำการวิจัยหายาฆ่าเชื้อจากนั้น
และได้สังเกตเห็นว่าไวรัสที่อยู่ในชิ้นเนื้อของตัวทดลองที่2และ3ได้สิ้นอายุไข
จึงได้นำไวรัสที่ตายแล้วนั้นมาทดลองทำยาฆ่าเชื้อ
21.05ทำยาฆ่าเชื้อสำเร็จและลองยาฆ่าเชื้อไปทั่วห้องซึ่งตอนนี้มีเชื้อไวรัสกระจายอยู่เต็มห้อง
21.08หลังจากฉีดพ่นไปสักพักเชื้อไวรัสในอากาศก็หายไปจนหมดจึงประกาศบอกสถานการณ์
และเริ่มทดลองทำยาแก้พิษ
21.12เตรียมทดลองยาแก้พิษเนื่องตัวทดลองหมดจึงได้ใช้ตัวเองเป็นตัวทดลองที่4
โดยเริ่มจากฉีดไวรัสเข้าไปที่แขนแล้วรอไวรัสออกอาการ
21.17เริ่มมีอาการกระตุก และหายใจไม่ออก แล้วอาการก็กลับมาคงที่
เมื่อมีอาการของเชื้อจึงได้ฉีดยาแก้พิษใส่ที่ตรงจุดที่ฉีดเชื้อโรคเข้าไปและรอดูอาการ
21.22ไม่มีอาการของเชื้อแล้ว ผลปรากฎว่ายาแก้พิษสำเร็จ
จึงได้ประกาศผลให้ทุกคนทราบแล้วเริ่มทำการฆ่าเชื้อศูนย์ทั้งศูนย์ให้ปลอดเชื้อไวรัส
21.31ประกาศว่าทั้งศูนย์ปลอดเชื้อและรายงานกับเจ้าหน้าที่ระดับ4เคออส
จบรายงานการวิจัย
ผลการวิจัยไวรัสปริศนาจากบลาซิล(ไม่เกี่ยวกับเว็บหลัก)