"อันตัวข้านั้นคือนักพเนจร ร่อนเร่รอนแรมทุกแห่งหน กล่าวร้อยเรียงเรื่องเล่าตำนานกลอน ให้ทุกท่านได้สดับและรับฟัง"เสียงร้องเล่นบทเพลงดังขึ้นจากร่างเล็กๆในชุดคลุมสีเทาหม่นเหมือนผ้าขีริ้วที่ปกคลุมอย่างมิดชิดจนมีเพียงดวงตาสีซีดที่โผล่พ้นออกมา เมื่อร่างนั้นได้ก้าวย่างสู่หมู่บ้านตรงหน้าเสียงเพลงของเขาก็ชักชวนให้เหล่าเด็กๆออกมามองกันอย่างสนใจ นักพเนจรหยุดพักที่เนินเล็กๆแห่งหนึ่งซึ่งมีต้นไม้ต้นหนึ่งยืนต้นตั้งตระหง่านอยู่เพียงต้นเดียวโดยรอบๆนั้นเป็นทุ่งหญ้าสีเหลืองก่อนจะปลดกระเป๋าหนังที่แบกมาไว้ใกล้ๆตัวและหยิบกระบอกไม้ซึ่งบรรจุน้ำเอาไว้ขึ้นมาดื่มดับร้อน"ท่านลุงๆ ท่านคือนักเล่านิทานงั้นหรือ ?"เสียงเล็กๆเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นเรียกให้ชายร่างเล็กเบือนไปมอง กลุ่มเด็กชายหญิงอายุประมาณ 6-7 ขวบหลายสิบคนในชุดมอซอในตอนนี้นั้นกำลังพากันมองมาที่เขาอย่างสนใจ
"อ่า...ใช่แล้ว อึก...ข้าคือนักเล่านิทาน..."ไม่ทันที่ชายร่างเล็กจะพูดจบเสียงเจี๊ยวจ๊าวของฝูงเด็กก็พากันดังไปทั่ว เด็กๆเหล่านั้นต่างยิ่งให้ความสนใจชายร่างเล็กมากยิ่งขึ้น จนทำเอาเขานั้นถึงกับผงะอย่างตกใจก่อนจะรีบสะบัดมือห้ามเสียงที่กำลังจะทำให้เขาปวดหัว "ใจเย็นๆๆ อย่าส่งเสียงจ๊อกแจ๊กเป็นลูกลิงได้ไหม ข้าปวดหัว!!"
"ท่านลุงๆๆ เล่านิทานให้พวกเราฟังหน่อยสิ!!"เสียงของเด็กคนเดิมดังขึ้นก่อนที่เสียงสนับสนุนของเด็กคนอื่นๆจะดังตามมา ชายร่างเล็กที่ไม่เคยได้รับความสนใจขนาดนี้มาก่อนถึงกับกระดากอาย เขาใช้เวลาสักพักก่อนจะไอดังๆเพื่อส่งสัญญาณให้เด็กๆเงียบและเป็นโชคดีที่เด็กทุกคนต่างทำตามจนเหลือเพียงเสียงของลมที่พัดผ่านทุ่งหญ้าที่แห้งกรอบ
"พวกเจ้าเชื่อในเรื่องโลกคู่ขนานไหม ?"ชายร่างเล็กกล่าวขึ้นเรียบๆและคราวนี้ก็เป็นเด็กหญิงผมสั้นบ๊อบเสมอหูยกมือขึ้นเป็นคนแรก
"เชื่อค่ะ"
"ทำไมล่ะ ?"ชายร่างเล็กถามอย่างสนใจ
"เพราะว่าหนูเชื่อแบบนั้นค่ะ!!"คำตอบของเธอเรียกเสียงหัวเราะฮาครืนจากกลุ่มเด็กๆได้อย่างดีแต่แม้ว่าจะถูกหัวเราะเยาะอย่างไรเด็กหญิงคนนั้นก็ยังคงยิ้มบริสุทธิ์
"ชื่ออะไรล่ะ เจ้าน่ะ ?"ชายร่างเล็กถามดวงตาสีซีดทอประกายประหลาด
"หนูชื่อ เมอา ค่ะ"เด็กหญิงตอบเสียงใสพร้อมรอยยิ้ม นักพนเจรจ้องมองเด็กหญิงตรงหน้าอย่างพินิจอยู่ชั่ววูบหนึ่งก่อนจะแย้มยิ้มออกมา
"เป็นชื่อที่ดีนะ ข้ามองเห็นบางสิ่งในตัวเจ้า ในภายภาคหน้าตัวเจ้าจะได้เจอกับทางเลือกที่สำคัญ ข้าเชื่อเช่นนั้น"
"แต่ข้าไม่เชื่อ"คราวนี้นั้นเป็นเสียงของเด็กชายอีกคนที่มีเส้นผมสีเดียวกับเมอา แต่ใบหน้านั้นช่างเย่อหยิ่งเกินวัย "โลกคู่ขนานที่มองไม่เห็น สัมผัสไม่ได้ เรื่องงี่เง่าแบบนั้นข้าไม่เชื่อหรอก"
"เมอร์!!? เรายังเห็นเจ้าเข้าไปเล่นอีกฝากบ่อยๆยังจะมาปฏิเสธ..."เมอาเถียงก่อนจะโดนเด็กชายฝาแฝดเอามือปิดปากจนเด็กหญิงดิ้นพล่านเพราะหายใจไม่ออกเนื่องจากจมูกก็โดนปิดไปด้วย เด็กคนอื่นๆส่ายหน้าอย่างระอาใจพวกเขาเห็นสองคนนี้ทะเลาะกันมาจนชิน แต่นักพเนจรนั้นดวงตาสีซีดกลับยิ่งทอประกายประหลาดราวกับแสดงออกถึงโทสะที่ซ่อนเร้นภายใน
"เอาล่ะๆๆ ข้าจะเล่าต่อแล้ว จะฟังไหม ?"เมื่อเขากล่าวต่อเสียงโวยวายทั้งหลายก็เงียบสงัดลงอีกครั้ง "ในจักรวาลนั้นเเห่งนี้นั้นเต็มไปด้วย มิติที่ทับซ้อนกันมากมายนับหมื่นล้านซึ่งทั้งหมดได้เชื่อมโยงกันด้วยสายใยที่มองไม่เห็นซึ่งผู้ควบคุมสายใยเหล่านั้นคือนามธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่มีชื่อว่า เลดี้ฮาร์ท..."
"เลดี้ฮาร์ทคืออะไรคะ"เด็กหญิงคนหนึ่งในกลุ่มยกมือถาม
"เลดี้ฮาร์ท คือ สิ่งที่บริสุทธิ์ยิ่งกว่าสิ่งที่บริสุทธิ์ที่สุดในเอกภพ งดงามยิ่งกว่าดวงดาราทอประกายดวงใดในสามภพยังไงล่ะ"นักพเนจรกล่าวยิ้มๆ
"เมอา พวกเรากลับบ้านกันเถอะ ข้าไม่คิดอยากเสียเวลาฟังเรื่องเล่าที่ดีแต่ยกยอปอปั้นผู้ใดอื่น"เมอร์กล่าวก่อนดึงแขนเมอาให้ตามเขาไป เมอาทำเพียงเดินตามไปอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
"เมอร์ เป็นนี้เสมอ"เด็กหญิงที่ยกมือถามเรื่องเลดี้ฮาร์ทกล่าวอย่างรังเกียจ "อวดเก่ง เอาแต่ใจและเห็นแก่ตัว"
"เอาน่าๆเขาไม่อยากฟังก็ปล่อยเขาไป เอาล่ะพวกเรามาฟังกันต่อดีกว่า"เด็กชายอีกคนพูดขึ้นซึ่งได้รับเสียงสนันสนุนจากคนอื่นๆ
"เอาล่ะ ในเมื่อพวกเจ้ามีความตั้งใจงั้นข้าก็จะเล่าต่อล่ะนะ...แม้เลดี้ฮาร์ทนั้นจะคอยปกป้องและดูแลเหล่ามิติเหล่านั้นแต่ทุกสิ่งก็ไม่เคยง่ายดายในความเป็นจริง เลเดี้ยน ฮาร์ท ผู้มีศักดิ์ในฐานะน้องสาวซึ่งมีความคิดที่จะกำจัดเลดี้และครอบครองทุกสิ่งไว้ในมือของตนเองได้ซ่องสุมกำลังจากความเชื่อของสิ่งมีชีวิตที่ทั้งหลายในมิติและสร้างความเดือดร้อนไปทั่วทั้งมิติ ทำให้เลดี้ได้บาดเจ็บสาหัสจนต้องไปหลบรักษาตัวในห้วงมิติพิเศษซึ่งอยู่ภายในระหว่างช่องว่างระหว่างมิติทั้งหลาย นามของมันนั้นคือ โลกแห่งเส้นเวลา..."ในระหว่างที่เขาเล่าไปเด็กๆหลายคนก็แสดงสีหน้าที่เบื่อหน่ายออกมา บางคนก็หลับบางคนก็เลิกฟังและเปลี่ยนไปเล่นกับเพื่อนของเขาแทนเพราะพวกเขาไม่สามารถตีความของสิ่งที่ได้ยินได้ เหลือเพียงเด็กหญิงชายยี่สิบห้าคนที่ยังคงนั่งฟังอย่างใจจดใจจ่อราวกลับตกอยู่ในภวังค์
"แม้ถึงจะหลบอยู่ในโลกแห่งเส้นเวลา เลเดี้ยนก็ไม่ละความพยาบาทเพื่อกำจัดให้สิ้นรากโคน นางจึงได้ส่งกองทัพของนางเข้ามาผ่านช่องว่างในช่วงเวลาต่างๆ เลดี้ที่ต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวจึงอ่อนแอลงๆ..."
"ถ้าเลดี้ตายจะเกิดอะไรขึ้นคับ ?"เด็กชายคนหนึ่งยกมือถาม
"ถ้าหากเลดี้ตาย มิติทั้งหมดก็จะกลายเป้นของเลเดี้ยนและทุกสิ่งก็คงจะต้องถูกทำลายด้วยมือของนาง"นักพเนจรกล่าวเสียงเศร้า
"ไม่มีหนทางจะช่วยเลดี้เลยเหรอคะ ?"เด็กหญิงผมสีเงินที่ดูเงียบๆกล่าวถาม
"หนทางมันจะมีก็ว่ามีจะไม่มีก็ว่าไม่มี สิ่งที่เลดี้ขาดคือคนที่จะมาเป็นมือเป็นเท้าให้กับนางเพื่อต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอมที่เกิดจากความเชื่อเหล่านั้น"นักพเนจรตอบ
"ผมจะช่วยเลดี้เองคับ"เมื่อเสียงหนึ่งในกลุ่มกล่าวขึ้นเด้กๆที่เหลือก็ร่ำร้องในความคิดเดียวกัน
"พวกเธอแน่ใจรึ?!"นักพเนจรเลิกคิ้วสูง "ถ้าหากพวกเธอเข้าสู่โลกของเส้นเวลาแล้ว ตัวตนของพวกเธอในทุกยุคทุกสมัยก็จะถูกลบเลือนหายไปเลยนะ"
"เรื่องนั้นน่ะ ช่างมันเถอะ ยังไงพวกเราเองก็ไม่มีอะไรเหลืออยู่อยู่แล้ว"เด็กคนหนึ่งกล่าวขึ้น
"ทำไมกันล่ะ ?"นักพเนจรถามอย่างสนใจ ไม่มีใครได้สังเกตเลยว่ารอบๆนั้นทุกสิ่งได้แปลกไป
"เพราะความเชื่อที่ต่างกัน ทางการเลยพาคนไปรบที่ชายแดน ครอบครัวของพวกเราตายหมดแล้วเพราะสงคราม เด็กคนอื่นๆในหมู่บ้านก็เหมือนกัน คนที่โชคดีหน่อยก็มีปู่ย่าคอยเลี้ยงดู"เด็กหญิงที่ไมชอบหน้าเมอร์กล่าวเศร้าๆ
"เป็นเช่นนั้นเอง เราเข้าใจพวกเธอ"เสียงของสตรีที่มีน้ำเสียงที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความอารีเรียกให้เด็กๆทั้งหมดหันไปมองที่ต้นเสียงอย่างตกใจ ภาพตรงหน้าของพวกเขาคือหญิงสาวสะคราญโฉมยิ่งกว่าเทพสตรีองค์ใดในจิตกรรมที่วาดผ่าน ผิวสีขาวนวลดุจไข่มุกซึ่งถูกคลุมทับด้วยชุดกระโปรงสีฟ้าใสดั่งท้องฟ้า ดวงตาสีเขียวมรกตที่ทอประกายแห่งความรอบรู้ทุกสรรพสิ่งจ้องมองเด็กๆอย่างเอ็นดูระคนเห็นใจและเส้นผมสีน้ำตาลเปลือกไม้ที่ถูกรวบไว้เป็นหางม้าซึ่งยาวจรดกลางหลัง ในมือซ้ายของนางนั้นกุมไม้เท้าสีขาวพิสุทธิ์ซึ่งหัวคทานั้นมีลูกแก้วสีเงินที่ล้อมด้วยปีกเล็กๆสิบแปดปีกหมุนวนรอบลูกแก้วนั้น เด็กคนหนึ่งหันกลับไปมองที่จุดซึ่งนักพเนจรเคยอยู่แต่ไม่มีใครอีกแล้วและรอบๆนั้นทุกอย่างดูหยุดนิ่ง กาลเวลาทั้งหมดได้หยุดเดินแล้ว
"ท่านคือ?!"เด็กหญิงคนที่ไม่ชอบเมอร์ดวงตาเบิกกว้าง
"เป็นอย่างที่เธอคิด เราคือเลดี้ฮาร์ท นักพนเจรที่พวกเธอเห็นนั้นคือผู้ส่งสารขอความช่วยเหลือของเรา และพวกเธอคือผู้เลือกเคียงข้างเรา"เลดี้ฮาร์ทกล่าวยิ้มๆ
"ได้โปรดให้ฉันได้ช่วยท่านด้วยเถอะค่ะ!!"เด็กหญิงคนเดิมคุกเข่าให้กับหญฺงสาวตรงหน้าราวกับได้พบจุดมุ่งหมายของชีวิตของเธอ ท่ามกลางความตกใจของเด็กคนอื่นๆ
"เธอแน่ใจแล้วนะ"เทพสตรีถามอย่างห่วงใย แม้นางจะรู้คำตอบของอีกฝ่ายดี เมื่อไม่ได้รับคำตอบใดๆนอกจากดวงที่มุ่งมั่น เทพสตรีจึงถอนหายใจเบาๆก่อนชูด้ามคทาขึ้นสูงพร้อมประกาศก้อง "ในนามแห่งเรา เลดี้ฮาร์ท ขอรับรองสิทธิแห่งนักท่องเวลาให้แก่เด็กคนนี้ จากนี้เธอจงเป็นกำลังให้แก่เรา ถวายชีวิตเพื่อเรา เธอคือนักท่องเวลา!!"
สิ้นเสียงประกาศร่างของเด็กหญิงก็เลือนหายไปจากตรงนั้น แต่ก่อนนั้นเพียงวูบอึดใจดวงตาของเธอก็หันไปมองเด็กคนหนึ่งที่มีเส้นผมสีดำดุจดังราตรีกาลราวกับเชื้อเชิญ
เด็กคนอื่นๆต่างหันมองหน้ากันอย่างตัดสินใจก่อนที่จะพากันทำตามอย่างที่เด็กหญิงคนแรกทำ ร่างของพวกเขาทั้งชายหญิงก็ต่างมลายหายไปจนสิ้น เหลือเพียงเด็กคนสุดท้ายที่มีเส้นผมสีดำดุจราตรีที่ยังไม่ตัดสินใจ
"หนูเชื่อใจคุณได้แน่นะ ?"เด็กน้อยเงยหน้ามองเทพสตรีด้วยดวงตาแห่งความสงสัย
"นั้นคือทางเลือกของเธอ หากเธอไม่ เธอก็จะได้กลับไปที่ที่เธอจากมา"เลดี้ฮาร์ทกล่าวยิ้มๆ
"งั้นหนูก็ไม่มีทางเลือกอีกแล้ว"เด็กน้อยตอบเสียงเศร้า
"เราทั้งสองล้วนรู้แก่ใจ"เทพสตรีกล่าวก่อนชูด้ามคทาขึ้นสู่ฟ้าอีกครั้ง....
"อ่า...ใช่แล้ว อึก...ข้าคือนักเล่านิทาน..."ไม่ทันที่ชายร่างเล็กจะพูดจบเสียงเจี๊ยวจ๊าวของฝูงเด็กก็พากันดังไปทั่ว เด็กๆเหล่านั้นต่างยิ่งให้ความสนใจชายร่างเล็กมากยิ่งขึ้น จนทำเอาเขานั้นถึงกับผงะอย่างตกใจก่อนจะรีบสะบัดมือห้ามเสียงที่กำลังจะทำให้เขาปวดหัว "ใจเย็นๆๆ อย่าส่งเสียงจ๊อกแจ๊กเป็นลูกลิงได้ไหม ข้าปวดหัว!!"
"ท่านลุงๆๆ เล่านิทานให้พวกเราฟังหน่อยสิ!!"เสียงของเด็กคนเดิมดังขึ้นก่อนที่เสียงสนับสนุนของเด็กคนอื่นๆจะดังตามมา ชายร่างเล็กที่ไม่เคยได้รับความสนใจขนาดนี้มาก่อนถึงกับกระดากอาย เขาใช้เวลาสักพักก่อนจะไอดังๆเพื่อส่งสัญญาณให้เด็กๆเงียบและเป็นโชคดีที่เด็กทุกคนต่างทำตามจนเหลือเพียงเสียงของลมที่พัดผ่านทุ่งหญ้าที่แห้งกรอบ
"พวกเจ้าเชื่อในเรื่องโลกคู่ขนานไหม ?"ชายร่างเล็กกล่าวขึ้นเรียบๆและคราวนี้ก็เป็นเด็กหญิงผมสั้นบ๊อบเสมอหูยกมือขึ้นเป็นคนแรก
"เชื่อค่ะ"
"ทำไมล่ะ ?"ชายร่างเล็กถามอย่างสนใจ
"เพราะว่าหนูเชื่อแบบนั้นค่ะ!!"คำตอบของเธอเรียกเสียงหัวเราะฮาครืนจากกลุ่มเด็กๆได้อย่างดีแต่แม้ว่าจะถูกหัวเราะเยาะอย่างไรเด็กหญิงคนนั้นก็ยังคงยิ้มบริสุทธิ์
"ชื่ออะไรล่ะ เจ้าน่ะ ?"ชายร่างเล็กถามดวงตาสีซีดทอประกายประหลาด
"หนูชื่อ เมอา ค่ะ"เด็กหญิงตอบเสียงใสพร้อมรอยยิ้ม นักพนเจรจ้องมองเด็กหญิงตรงหน้าอย่างพินิจอยู่ชั่ววูบหนึ่งก่อนจะแย้มยิ้มออกมา
"เป็นชื่อที่ดีนะ ข้ามองเห็นบางสิ่งในตัวเจ้า ในภายภาคหน้าตัวเจ้าจะได้เจอกับทางเลือกที่สำคัญ ข้าเชื่อเช่นนั้น"
"แต่ข้าไม่เชื่อ"คราวนี้นั้นเป็นเสียงของเด็กชายอีกคนที่มีเส้นผมสีเดียวกับเมอา แต่ใบหน้านั้นช่างเย่อหยิ่งเกินวัย "โลกคู่ขนานที่มองไม่เห็น สัมผัสไม่ได้ เรื่องงี่เง่าแบบนั้นข้าไม่เชื่อหรอก"
"เมอร์!!? เรายังเห็นเจ้าเข้าไปเล่นอีกฝากบ่อยๆยังจะมาปฏิเสธ..."เมอาเถียงก่อนจะโดนเด็กชายฝาแฝดเอามือปิดปากจนเด็กหญิงดิ้นพล่านเพราะหายใจไม่ออกเนื่องจากจมูกก็โดนปิดไปด้วย เด็กคนอื่นๆส่ายหน้าอย่างระอาใจพวกเขาเห็นสองคนนี้ทะเลาะกันมาจนชิน แต่นักพเนจรนั้นดวงตาสีซีดกลับยิ่งทอประกายประหลาดราวกับแสดงออกถึงโทสะที่ซ่อนเร้นภายใน
"เอาล่ะๆๆ ข้าจะเล่าต่อแล้ว จะฟังไหม ?"เมื่อเขากล่าวต่อเสียงโวยวายทั้งหลายก็เงียบสงัดลงอีกครั้ง "ในจักรวาลนั้นเเห่งนี้นั้นเต็มไปด้วย มิติที่ทับซ้อนกันมากมายนับหมื่นล้านซึ่งทั้งหมดได้เชื่อมโยงกันด้วยสายใยที่มองไม่เห็นซึ่งผู้ควบคุมสายใยเหล่านั้นคือนามธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่มีชื่อว่า เลดี้ฮาร์ท..."
"เลดี้ฮาร์ทคืออะไรคะ"เด็กหญิงคนหนึ่งในกลุ่มยกมือถาม
"เลดี้ฮาร์ท คือ สิ่งที่บริสุทธิ์ยิ่งกว่าสิ่งที่บริสุทธิ์ที่สุดในเอกภพ งดงามยิ่งกว่าดวงดาราทอประกายดวงใดในสามภพยังไงล่ะ"นักพเนจรกล่าวยิ้มๆ
"เมอา พวกเรากลับบ้านกันเถอะ ข้าไม่คิดอยากเสียเวลาฟังเรื่องเล่าที่ดีแต่ยกยอปอปั้นผู้ใดอื่น"เมอร์กล่าวก่อนดึงแขนเมอาให้ตามเขาไป เมอาทำเพียงเดินตามไปอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
"เมอร์ เป็นนี้เสมอ"เด็กหญิงที่ยกมือถามเรื่องเลดี้ฮาร์ทกล่าวอย่างรังเกียจ "อวดเก่ง เอาแต่ใจและเห็นแก่ตัว"
"เอาน่าๆเขาไม่อยากฟังก็ปล่อยเขาไป เอาล่ะพวกเรามาฟังกันต่อดีกว่า"เด็กชายอีกคนพูดขึ้นซึ่งได้รับเสียงสนันสนุนจากคนอื่นๆ
"เอาล่ะ ในเมื่อพวกเจ้ามีความตั้งใจงั้นข้าก็จะเล่าต่อล่ะนะ...แม้เลดี้ฮาร์ทนั้นจะคอยปกป้องและดูแลเหล่ามิติเหล่านั้นแต่ทุกสิ่งก็ไม่เคยง่ายดายในความเป็นจริง เลเดี้ยน ฮาร์ท ผู้มีศักดิ์ในฐานะน้องสาวซึ่งมีความคิดที่จะกำจัดเลดี้และครอบครองทุกสิ่งไว้ในมือของตนเองได้ซ่องสุมกำลังจากความเชื่อของสิ่งมีชีวิตที่ทั้งหลายในมิติและสร้างความเดือดร้อนไปทั่วทั้งมิติ ทำให้เลดี้ได้บาดเจ็บสาหัสจนต้องไปหลบรักษาตัวในห้วงมิติพิเศษซึ่งอยู่ภายในระหว่างช่องว่างระหว่างมิติทั้งหลาย นามของมันนั้นคือ โลกแห่งเส้นเวลา..."ในระหว่างที่เขาเล่าไปเด็กๆหลายคนก็แสดงสีหน้าที่เบื่อหน่ายออกมา บางคนก็หลับบางคนก็เลิกฟังและเปลี่ยนไปเล่นกับเพื่อนของเขาแทนเพราะพวกเขาไม่สามารถตีความของสิ่งที่ได้ยินได้ เหลือเพียงเด็กหญิงชายยี่สิบห้าคนที่ยังคงนั่งฟังอย่างใจจดใจจ่อราวกลับตกอยู่ในภวังค์
"แม้ถึงจะหลบอยู่ในโลกแห่งเส้นเวลา เลเดี้ยนก็ไม่ละความพยาบาทเพื่อกำจัดให้สิ้นรากโคน นางจึงได้ส่งกองทัพของนางเข้ามาผ่านช่องว่างในช่วงเวลาต่างๆ เลดี้ที่ต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวจึงอ่อนแอลงๆ..."
"ถ้าเลดี้ตายจะเกิดอะไรขึ้นคับ ?"เด็กชายคนหนึ่งยกมือถาม
"ถ้าหากเลดี้ตาย มิติทั้งหมดก็จะกลายเป้นของเลเดี้ยนและทุกสิ่งก็คงจะต้องถูกทำลายด้วยมือของนาง"นักพเนจรกล่าวเสียงเศร้า
"ไม่มีหนทางจะช่วยเลดี้เลยเหรอคะ ?"เด็กหญิงผมสีเงินที่ดูเงียบๆกล่าวถาม
"หนทางมันจะมีก็ว่ามีจะไม่มีก็ว่าไม่มี สิ่งที่เลดี้ขาดคือคนที่จะมาเป็นมือเป็นเท้าให้กับนางเพื่อต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอมที่เกิดจากความเชื่อเหล่านั้น"นักพเนจรตอบ
"ผมจะช่วยเลดี้เองคับ"เมื่อเสียงหนึ่งในกลุ่มกล่าวขึ้นเด้กๆที่เหลือก็ร่ำร้องในความคิดเดียวกัน
"พวกเธอแน่ใจรึ?!"นักพเนจรเลิกคิ้วสูง "ถ้าหากพวกเธอเข้าสู่โลกของเส้นเวลาแล้ว ตัวตนของพวกเธอในทุกยุคทุกสมัยก็จะถูกลบเลือนหายไปเลยนะ"
"เรื่องนั้นน่ะ ช่างมันเถอะ ยังไงพวกเราเองก็ไม่มีอะไรเหลืออยู่อยู่แล้ว"เด็กคนหนึ่งกล่าวขึ้น
"ทำไมกันล่ะ ?"นักพเนจรถามอย่างสนใจ ไม่มีใครได้สังเกตเลยว่ารอบๆนั้นทุกสิ่งได้แปลกไป
"เพราะความเชื่อที่ต่างกัน ทางการเลยพาคนไปรบที่ชายแดน ครอบครัวของพวกเราตายหมดแล้วเพราะสงคราม เด็กคนอื่นๆในหมู่บ้านก็เหมือนกัน คนที่โชคดีหน่อยก็มีปู่ย่าคอยเลี้ยงดู"เด็กหญิงที่ไมชอบหน้าเมอร์กล่าวเศร้าๆ
"เป็นเช่นนั้นเอง เราเข้าใจพวกเธอ"เสียงของสตรีที่มีน้ำเสียงที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความอารีเรียกให้เด็กๆทั้งหมดหันไปมองที่ต้นเสียงอย่างตกใจ ภาพตรงหน้าของพวกเขาคือหญิงสาวสะคราญโฉมยิ่งกว่าเทพสตรีองค์ใดในจิตกรรมที่วาดผ่าน ผิวสีขาวนวลดุจไข่มุกซึ่งถูกคลุมทับด้วยชุดกระโปรงสีฟ้าใสดั่งท้องฟ้า ดวงตาสีเขียวมรกตที่ทอประกายแห่งความรอบรู้ทุกสรรพสิ่งจ้องมองเด็กๆอย่างเอ็นดูระคนเห็นใจและเส้นผมสีน้ำตาลเปลือกไม้ที่ถูกรวบไว้เป็นหางม้าซึ่งยาวจรดกลางหลัง ในมือซ้ายของนางนั้นกุมไม้เท้าสีขาวพิสุทธิ์ซึ่งหัวคทานั้นมีลูกแก้วสีเงินที่ล้อมด้วยปีกเล็กๆสิบแปดปีกหมุนวนรอบลูกแก้วนั้น เด็กคนหนึ่งหันกลับไปมองที่จุดซึ่งนักพเนจรเคยอยู่แต่ไม่มีใครอีกแล้วและรอบๆนั้นทุกอย่างดูหยุดนิ่ง กาลเวลาทั้งหมดได้หยุดเดินแล้ว
"ท่านคือ?!"เด็กหญิงคนที่ไม่ชอบเมอร์ดวงตาเบิกกว้าง
"เป็นอย่างที่เธอคิด เราคือเลดี้ฮาร์ท นักพนเจรที่พวกเธอเห็นนั้นคือผู้ส่งสารขอความช่วยเหลือของเรา และพวกเธอคือผู้เลือกเคียงข้างเรา"เลดี้ฮาร์ทกล่าวยิ้มๆ
"ได้โปรดให้ฉันได้ช่วยท่านด้วยเถอะค่ะ!!"เด็กหญิงคนเดิมคุกเข่าให้กับหญฺงสาวตรงหน้าราวกับได้พบจุดมุ่งหมายของชีวิตของเธอ ท่ามกลางความตกใจของเด็กคนอื่นๆ
"เธอแน่ใจแล้วนะ"เทพสตรีถามอย่างห่วงใย แม้นางจะรู้คำตอบของอีกฝ่ายดี เมื่อไม่ได้รับคำตอบใดๆนอกจากดวงที่มุ่งมั่น เทพสตรีจึงถอนหายใจเบาๆก่อนชูด้ามคทาขึ้นสูงพร้อมประกาศก้อง "ในนามแห่งเรา เลดี้ฮาร์ท ขอรับรองสิทธิแห่งนักท่องเวลาให้แก่เด็กคนนี้ จากนี้เธอจงเป็นกำลังให้แก่เรา ถวายชีวิตเพื่อเรา เธอคือนักท่องเวลา!!"
สิ้นเสียงประกาศร่างของเด็กหญิงก็เลือนหายไปจากตรงนั้น แต่ก่อนนั้นเพียงวูบอึดใจดวงตาของเธอก็หันไปมองเด็กคนหนึ่งที่มีเส้นผมสีดำดุจดังราตรีกาลราวกับเชื้อเชิญ
เด็กคนอื่นๆต่างหันมองหน้ากันอย่างตัดสินใจก่อนที่จะพากันทำตามอย่างที่เด็กหญิงคนแรกทำ ร่างของพวกเขาทั้งชายหญิงก็ต่างมลายหายไปจนสิ้น เหลือเพียงเด็กคนสุดท้ายที่มีเส้นผมสีดำดุจราตรีที่ยังไม่ตัดสินใจ
"หนูเชื่อใจคุณได้แน่นะ ?"เด็กน้อยเงยหน้ามองเทพสตรีด้วยดวงตาแห่งความสงสัย
"นั้นคือทางเลือกของเธอ หากเธอไม่ เธอก็จะได้กลับไปที่ที่เธอจากมา"เลดี้ฮาร์ทกล่าวยิ้มๆ
"งั้นหนูก็ไม่มีทางเลือกอีกแล้ว"เด็กน้อยตอบเสียงเศร้า
"เราทั้งสองล้วนรู้แก่ใจ"เทพสตรีกล่าวก่อนชูด้ามคทาขึ้นสู่ฟ้าอีกครั้ง....
"จงเข้ามาเถอะเพื่อนเอ๋ย...ไม่ว่าเจ้าจะมีกองทัพที่ยิ่งใหญ่หรือเกรียงไกรเพียงใดก็จงแสดงมันออกมาให้หมด เลดี้ฮาร์ทคนนี้จะทำให้เจ้าได้เห็นเองถึงความแตกต่างกันของเราสอง..."เทพสตรีกล่าวยิ้มๆก่อนที่จะเลือนลางไปในความเงียบของกาลเวลา และทุกสิ่งก็กลับมาเดินอีกครั้ง
"ต้องรายงานเลเดี้ยนไหม ?"เมอาถามขึ้นหลังจากทุกสิ่งจบลง
"ต้องสิ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ อย่างลืมสิว่าพวกเราคือใคร"เมอร์ตอบ เมื่อฝาแฝดของเธอว่าแบบนั้นเมอาก็ทำเพียงยักไหล่และตอบรับคำของอีกฝ่าย ท่ามกลางเปลวเพลิงที่แผดผาหมู่บ้านในตอนนี้จนมอดไหม้รอบๆนั้นรายล้อมด้วยซากศพของทหารหลายร้อยคนที่กองสูงยิ่งกว่าเนินเขา...
"พวกเราก็เป็นผู้สังเกตการณ์ยังไงล่ะ"
โลกแห่งเส้นเวลา
(Time's World)
โลกแห่งเส้นเวลาคือสถานที่ที่อยู่ตรงกลางระหว่างโลกคู่ขนานซึ่งอยู่นอกเหนือกฏเกณฑ์และความเข้าใจของสิ่งต่างๆจึงไม่สามารถรับรู้ได้ โดยภายในโลกแห่งเส้นเวลานั้นจะมีความแปรปรวณของเวลาอย่างรุนแรง ซึ่งเวลาต่างๆในนั้นจะถูกเรียกแทนด้วย 'เขตเวลา' และแต่ละเขตเวลามีอีก 300 เส้นเวลาภายในนั้น (1 เส้นเวลาจะมีความกว้างประมาณ 10 เมตร และในแต่ละเส้นนั้นความแปรปรวณของเวลาจะมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง) โดยความแปรปรวณของเวลานั้นจะมีได้สูงสุดถึง 1ุ69.74 ชั่วโมง : 1 นาที ซึ่งการเดินทางผ่านเส้นเวลาแต่ละเส้นนั้นจะต้องมีอุปกรณ์สำหรับเดินทางซึ่งเป็นนาฬิกาพกที่เรียกกันว่า "เทมาท่า" โดยนอกจากจะเป็นอุปกรณ์สำหรับเดินทางแล้ว เทมาท่า เองก็ยังเป้นอุปกรณ์สำหรับการต่อสู้ซึ่งจะเปลี่ยนไปได้ตามสิ่งที่เจ้าของมันเคยได้พบเห็นแต่จะไม่สามารถใช้ของแบบเดียวกันจากการมองเห็นนักท่องเวลาด้วยกันได้
นักท่องเวลา
(Time traveler)
กล่าวคือนักรบของเลดี้ฮาร์ทซึ่งประจำอยู่ในแต่ละเขตแดนของตัวเองโดยปกติจะไม่ก้าวก่ายหน้าที่ของกันและกัน เพราะความแตกต่างกันของที่เติบโตจึงทำให้พวกเขาจะไม่ถูกกันสักเท่าใดนัก โดยศัตรูของพวกเขานั้นเรียกกันว่า สิ่งแปลกปลอม และเหนืออื่นใดนั้นพวกเขาเองก็ยังต่อสู้กันเองเพื่อแย่งชิงเขตแดนปกติอีกด้วย นักท่องเวลาจะมีกฏหลายข้อที่ต้องปฏิบัติตามเพื่อรักษาความลับของโลกเส้นเวลาเอาไว้
กฏของนักท่องเวลา
1.ออกไปแค่ไหนจะต้องกลับมาแค่นั้น - เมื่อนักท่องเวลาหลุดออกจากเส้นเวลาแล้วมาปรากฏตัวในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งและได้สร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้คนในยุคสมัยนั้น เมื่อถึงเวลาที่ต้องกลับโลกเส้นเวลา(ไม่มีการกำหนดตายตัวว่านานแค่ไหน) สิ่งที่เป็นนามธรรม(ความทรงจำ)ของนักท่องเวลาจะถูกลบทิ้งไปทั้งหมดให้เหลือแค่เฉพาะความทรงจำก่อนที่จะออกจากโลกแห่งเส้นเวลาเท่านั้นและในกรณีสิ่งของที่เป็นรูปธรรมข้อมูลความทรงจำที่ได้รับของจะถูกลบทิ้งเเละเขียนข้อมูลปลอมแทรกทับเข้าไปแทน
2.ต้องไม่มีใครรู้เกี่ยวกับเรา - ในกรณีเดียวกับกฏข้อที่หนึ่ง ผู้คนที่สร้างปฏิสัมพันธ์กับนักท่องเวลาเมื่อนักท่องเวลาคนนั้นกลับสู่โลกแห่งเส้นเวลาสิ่งที่เป็นนามธรรมเกี่ยวกับนักท่องเวลาคนนั้นจะถูกลบทิ้งทั้งหมด และในกรณีของที่เป็นนามธรรมจะถูกเขียนข้อมูลปลอมทับลงเเทนของเดิม
3.ทุกสิ่งที่เข้ามาในเขตเวลาคือศัตรู - กล่าวคือไม่ว่าใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแปลกปลอมหรือนักท่องเวลา ที่หลุดเข้ามาในเขตเวลาที่ดูแลต้องถือว่าเป็นศัตรูและกำจัดทิ้ง แต่ก็มีนักท่องเวลาหลายคนที่ละเลยกฏข้อนี้
นักท่องเวลาทั้ง 25 คน
ไทม์ ซีโร่ (จุดแรกเริ่มของกาลเวลา) ถือครองเทมาท่า 'อีเดน'
ดิ วัน (กาลเวลาที่ก้าวเดิน) ถือครองเทมาท่า 'เคออส'
ทู เวย์ (เส้นทางที่แตกต่าง) ถือครองเทมาท่า 'กินนันกาแน็บ'
ทรี เนฟเวอร์[เสียชีวิต] (สามสิ่งที่แท้จริง) ถือครองเทมาท่า 'ภารตะ'
โฟว์ กาเด้น (ฤดูกาลที่หมุนเวียน) ถือครองเทมาท่า 'อิกดราซิล'
ไฟว์ การ์ด (บัญญัติแห่งความชั่วและความดี) ถือครองเทมาท่า 'ยูโทเปีย'
ซิก เซ้นท์ (สัมผัสสวรรค์) ถือครองเทมาท่า 'ผาน:X่'
เซเว่น ซิน (บาปทั้งเจ็ดประการ) ถือครองเทมาท่า '666'
อิเฟอร์นิตี้ เอ๊กซ์ (มิติเวลาที่ไร้จุดสุดสิ้น) ถือครองเทมาท่า 'โอโรโบรอส'
ไนท์ ไลฟ์ (เก้าชีวิต) ถือครองเทมาท่า 'โอลิมปัส'
เท็น รูน (บัญญัติแห่งพระเจ้าทั้งสิบ) ถือครองเทมาท่า 'อามาเกดอน'
อีเลฟเว่น (กาลเวลาที่หยุดพัก) ถือครองเทมาท่า 'เฮล'
ทเวล (จุดกึ่งกลางของกาลเวลา) ถือครองเทมาท่า 'ก็อด'
เทอร์ทีน (บทบรรเลงแห่งโชคร้าย) ถือครองเทมาท่า 'ยามาตะโนะ โอโรจิ'
โฟว์ทีน (กาลเวลาที่ผุพัง) ถือครองเทมาท่า 'สี่จตุอาชาแห่งโลกาวินาศ'
ฟิฟทีน (กาลเวลาที่พังทลาย) ถือครองเทมาท่า 'เซท'
ซิกทีน (กาลเวลาที่กลับมา) ถือครองเทมาท่า 'โนอาห์'
เซเว่นทีน (กาลเวลาที่ฟื้นฟู) ถือครองเทมาท่า 'ทาคามากาฮารา'
เอ๊กทีน (จุดด่างพร้อยของกาลเวลา) ถือครองเทมาท่า 'อาคามาสึ มิคาโบสึ'
ไนท์ทีน (เงาของกาลเวลา) ถือครองเทมาท่า 'แพนดอร่า'
ทเวนตี้ (การครบรอบของพระเจ้าทั้งสิบ) ถือครองเทมาท่า 'เออา'
ทเวนตี้ วัน (กาลเวลาที่เสื่อมชรา) ถือครองเทมาท่า 'มุสเปลไฮม์'
ทเวนตี้ ทู (กาลเวลาที่เจ็บป่วย) ถือครองเทมาท่า 'แร็กนาร็อค'
ทเวนตี้ ทรี (กาลเวลาที่บาดเจ็บ) ถือครองเทมาท่า 'ไกอา'
ทเวนตี้ โฟว์ (จุดสิ้นสุดของกาลเวลา) ถือครองเทมาท่า 'ดิ เอ็น'
Little Story
[IMG]