สู้ดีไหม? ชายญี่ปุ่นวัย 46 ขอกำลังใจจากชาวเน็ต ก่อนไปสารภาพรักกับสาวร้านสะดวกซื้อ…..วัย 19 ปี
เมื่อชายหนุ่มร้างรักมาหลายปีจะขึ้นสังเวียนอีกครั้งจึงมาขอคำแนะนำ ความเห็นระหว่างชายหญิงที่ได้รับกลับแตกต่างปะปนผสมกัน
เอาตรง ๆ มันก็ไม่ง่ายเลย เวลาที่เราจะหาเส้นทางที่ถูกต้องบนหนทางอันแสนคดเคี้ยว ที่เราเรียกมันว่า “ความรัก” โดยเฉพาะเมื่อมีประเด็นความห่างของอายุเข้ามาเกี่ยวข้อง ที่ฝ่ายหนึ่งมักจะเริ่มคิดว่าตัวเองหมดวัยที่จะลงไปวาดลวดลายในสนามรัก สวนทางกับอีกฝ่ายที่ยังมีโอกาสอีกมากมายอยู่ตรงหน้า
เรื่องมันมีอยู่ว่า มีชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งวัย 46 ปี เพิ่งได้รู้ใจตัวเองหลังจากเป็นโสดมานาน 20 ปี ได้มาขอคำแนะนำจากชาวเน็ต เมื่อเขาได้พบกับสาวสวยน่ารักที่ทำงานเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ ซึ่งเธอเป็นคนส่งซิกมาว่าเธอนั้นมีใจ และต้องการจะคบหาดูใจกับเขา โดยชายวัย 46 ปีได้เขียนบอกเล่าเรื่องราวลงในบอร์ดชุมชนคนหางานทำ มีใจความดังนี้
“ผม ชายโสดอายุ 46 ปี มีรายได้ต่อปีอยู่ที่ 4.5 ล้านเยน (ราว 1.2 ล้านบาท) ไม่มีแฟนมาแล้ว 20 ปี ผมเคยชอบผู้หญิงมาหลายคน แต่มันก็ไปได้ไม่ดีเท่าไร เพราะผมไม่รู้วิธีการเข้าหา หรือวิธีการจีบ สิ่งที่เกิดคือผมไปบอกตรง ๆ ว่าผมชอบพวกเธอ แต่ก็จบลงที่ไม่มีใครตอบรับผมเลย”
โอ เรื่องแบบนี้มันช่วยไม่ได้ มันไม่ง่ายเลยที่เราจะรู้ว่าเมื่อไรควรจะอ่อน เมื่อไรควรจะแข็ง ในการแสดงออกเพื่อเอาชนะใจสาวในฝัน มันขึ้นอยู่กับโอกาสด้วยส่วนหนึ่ง
กระนั้น มันก็ยังมีเรื่องดีจากชายคนนึ้อยู่ จากที่เขาได้บอกว่ามีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น! เป็นเหมือนแสงสว่างแห่งความหวังที่ส่องมาหาเขา จากหญิงสาวที่ทำงานอยู่ ณ ร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน
จากการวิเคราะห์ การเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อนั้นมีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าจะมีบุคลิกที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย เพราะต้องพบปะกับลูกค้าที่แวะเวียนไปมาเสมอ แต่กับชายวัย 46 คนนี้ เธอผู้เป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อกลับคอยถามเขาว่าอยู่คนเดียวหรือเปล่า? มีแฟนหรือยัง? วันหยุดมีทำอะไรบ้างไหม? เป็นต้น
และนั่นเป็นสะพานให้ชายวัย 46 ได้ชวนเธอออกไปกินข้าวร้านอร่อยใกล้บ้าน และเธอก็ตอบรับคำชวนนั้นทันที มีการแลก Line กันเรียบร้อย
อะไรก็เหมือนจะดูดีไปหมด แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าสาวพนักงานร้านสะดวกซื้อคนนั้น เธอมีอายุแค่ 19 ปี! และนี่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้นาย 46 ต้องมากุมขมับคิดไม่ตกอยู่ในตอนนี้
“ในชีวิตผมไม่เคยมีเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย มันจึงอดสงสัยไม่ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เธออาจจะไม่มีความรู้สึกโรแมนติกอะไรกับผมก็ได้ แต่เธอบอกว่าผมควรจะทำตัวชิลล์ ๆ ไว้ แต่ลึก ๆ ผมก็ยังกลัว ไม่ว่าเธอจะชอบผมจริง ๆ หรือจะแค่มองผมเป็นไอ้โง่หลอกง่ายก็ตาม”
ด้วยระยะห่างของอายุกว่า 27 ปี จึงเป็นที่เข้าใจได้ง่ายว่าทำไมนาย 46 ถึงมากังวลแบบนี้ แม้ในความเป็นจริงที่ว่าทั้งคู่ยังคงติดต่อกันทาง Line ก็แปลว่าเธอมองเขาเป็นเพื่อนในระดับหนึ่งแล้ว และคำแนะนำจากชุมชนคนหางานก็บอกว่าเขาควรจะเป็นเพื่อนไปก่อน แล้วค่อยพัฒนาความสัมพันธ์กันไปจากตรงนั้นอย่างช้า ๆ
หลังจากที่ผู้อ่านกระทู้กว่า 230 รายได้ร่วมวิเคราะห์วิจารณ์เพื่อหาคำตอบว่านาย 46 คนนี้ควรจะไปต่อหรือไม่ คำตอบกลับออกมาไม่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง ร้อยละ 69.7 บอกว่าเขาควรจะอยู่เฉย ๆ ค่อนไปทางถอย แต่กับอีกร้อยละ 30.3 บอกว่าเขาควรจะบุกด้วยทุกอย่างที่มี ทะลวงมันให้ทะลุ อย่างไม่หยุดยั้ง
ในกลุ่มคนที่บอกว่าเขาควรจะไปต่อ ร้อยละ 45 เป็นผู้ชาย และร้อยละ 12.1 เป็นผู้หญิง ซึ่งมีความเห็นทำนองว่า
“หากไม่ลองสักตั้ง ระวังจะเสียใจทีหลัง”
“เวลาแห่งความโดดเดี่ยวของนายมันควรจะสิ้นสุด ถึงเวลาที่ฤดูใบไม้ผลิจะมาแล้ว”
“อย่าคิดเยอะ ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ”
“น่าจะลองลุยดูนะ ถึงความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จมันต่ำก็เถอะ”
“ขอให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับนายนะ!”
ส่วนความเห็นของอีกฝั่ง ที่ไม่แนะนำให้ไปต่อ เช่น
“แค่เลี้ยงข้าวน่ะเธอไม่ปฏิเสธหรอก!”
“อายุ 19 นี่มันเด็กเกินไป แถมอ่อนต่อโลก สุดท้ายเธอก็จะทำให้นายเจ็บปวดเพราะเธอยังไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เธอต้องการจริง ๆ กันแน่”
“บางทีที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่ออยากจะเอาไปคุยอวดกับเพื่อนว่ามีคนเลี้ยงข้าวก็ได้”
“อายุนายเกือบจะเท่าพ่อเธอแล้ว ยาก ถ้าจะมองแบบโรแมนติก”
“เรื่องแบบนี้มันมีแต่ในนิยาย การ์ตูน อนิเม หรือละครเท่านั้นแหละ”
หากมองตามสถานการณ์ที่เป็นอยู่แล้ว มีผู้อ่านหลายคนที่เชียร์ให้รักต่างวัยของคู่นี้เกิดขึ้นได้จริง ถึงจะมองว่ามันแปลก แต่ก็มีหลายคู่ที่เป็นแบบนี้ อย่างคู่ของคุณ Piko Taro กับภรรยายที่อายุห่างกว่า 15 ปี
กระนั้น การคบกับเด็กอายุ 19 ปี ก็อาจทำให้เกิดข้อครหาเรื่องศีลธรรมเกิดขึ้นได้เช่นกัน เพราะมากหมอก็มากความ แล้วคุณล่ะอยู่ฝั่งไหน ระหว่างเชียร์ให้นาย 46 ลุยเต็มที่กับสาวร้านสะดวกซื้อรุ่นลูก หรือจะให้ถอยแล้วรอดูสถานการณ์ หรือแม้แต่ให้ตัดใจแล้วมองว่าเป็นแค่เพียงสีสันหนึ่งของชีวิตที่โผล่เข้ามาในช่วงเวลาสั้น ๆ แม้เทรนด์หนุ่มชอบสาวรุ่นพี่กำลังจะมาแรงในหมู่พนักงานออฟฟิศก็ตามที