หลายคนกลัวว่า มันจะ Casual เกินไป จนขา Hardcore Fighting ไม่สนุกรึเปล่า?
กลัวว่า มันจะเป็นเกมส์สไตล์นารุโตะ ที่ เอามาปล่อยท่าให้ครบทุกตัว แล้วก็เลิกเล่นรึเปล่า?
กลัวว่า คนเล่นเยอะจริงตอนแรกๆ แต่จะไม่มีใครเล่นมันเป็นหลายๆปีรึเปล่า?
คำตอบอยู่ที่นี่แล้วครับ
(ข้อมูลจากเพจ FB "JOJO ASB THAILAND" )
https://www.facebook.com/JOJOASBTHAILAND
( มีกลุ่มสำหรับแชท และนัดเล่น online กันจริงจังที่ "JOJO ASB Thai Live Chat" ด้วยนะเออ ที่
https://www.facebook.com/groups/JOJOASBTHAILAND )
รายละเอียดหน้าจอ
A : จำนวนเวลาในรอบที่เล่น
B : แถบเลือด
C : แถบการ์ด หากเราป้องกันก็จะเสียค่าการ์ดไปเรื่อยๆ เมื่อหมดจะอยู่ใส่สถนะชะงัก ไม่สามารถป้องกัน และเคลื่อนไหวได้ขณะหนึ่ง
D : จำนวนรอบที่ชนะ
E : แถบความสามารถพิเศษ มีเฉพาะแค่บางตัวละคร เช่น ระดับพลังคลื่นมนต์ตรา, จำนวนกระสุน, จำนวนลูกบอล, จำนวนครั้งที่ใช้ในการอัพเกรด White Snake
F : แถบ Heart Heat เอาไว้ใช้ท่าพิเศษ และสามารถสะสมได้มากสุดที่ 3 หลอด
ฺButtons
Battle Systems
- Throws (จับทุ่ม)
เหมือนเกมส์ fighting ทั่วไป กดปุ่มโจมตี M+H พร้อมกัน ไม่สามารถป้องกันได้
- OTGs (โจมตีที่พื้น Off the ground หรือ on the ground attack)
ตัวละครบางตัวจะมีท่าโจมตีศัตรูที่นอนอยู่ อาทิเช่น ค้อนของโจเซฟ , ป้ายจราจรของดีโอ
- Ukemi (ลุกจากพื้นอย่างว่องไว)
เมื่อล้มลง สามารถกดปุ่มโจมตีหรือเคลื่อนไหว ทันทีที่กระทบพื้น เพื่อลุกอย่างว่องไว เพื่อหลีกเลี่ยงการโดน ยั่วยุ (taunt) จากศัตรู เวลาที่ล้ม
- Taunts (ยั่วยุ)
กดปุ่ม Select เพื่อใช้ท่ายั่วยุ เกมส์นี้มีการใช้ท่ายั่วยุที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเมื่อกดใช้ จะสามารถลดเกจ Heart Heat ของศัตรูได้เล็กน้อย และเมื่อใช้ตอนศัตรูล้ม จะแสดงท่ายั่วยุที่พิเศษกว่าปกติอีกด้วย
- Stage Gimmicks หรือ Stage Hazard
ในเกือบทุกฉากของ ASB จะมีอันตรายจากสเตจ ที่มาจากเนื้อเรื่องตรงตามการ์ตูน ซึ่งก่อนอันตรายจะปรากฎ จะมีอักษรและเสียงเตือนออกมาก่อน โดยจะมีเห็นพื้นที่สีแดง ที่เป็นเป้าหมายของอันตรายนั้น ถ้าไม่หลบให้พ้นจากพื้นที่ในเวลาที่กำหนด ก็จะเสียพลังชีวิตจากอันตรายเหล่านั้นได้
- Situation Finish
ทุกฉากของ ASB จะมีการปลดล้อกเหตุการณ์พิเศษในตอนจบ ด้วยเงื่อนไขอาทิ เช่น การใช้ HHA หรือ GHA ในการจัดการศัตรู cutscene นี้ก็จะปรากฎให้เห็น
- Rush Mode
คล้ายกับ ภาคเก่าของ Capcom เมื่อตัวละครโจมตีด้วยท่าโจมตีรัวปะทะกัน จะเข้าสู่ Rush Mode ใครกดรัวปุ่มต่อยเบา ได้มากกว่า ฝ่ายนั้นชนะ จะโจมตีอีกฝ่ายกระเด็น
- Chain Beat
คือการ Chain Combo เหมือนภาคเก่า (ระบบเดียวกับเกมส์ Guilty Gear, BlazBlue, Persona 4 Arena , Darkstalkers series , MVC , etc.) เป็นการคอมโบด้วยการกดปุ่มโจมตีต่อเนื่องง่ายๆ จาก เบา > กลาง > หนัก โดยยกตัวอย่างคอมโบที่สามารถกดได้ เช่น L,L,L,M,H
นอกจากนี้ หลายตัวละครยังมี chain combo หลายแบบ เฉพาะตัวของตัวเอง ต้องทดลองด้วยตัวเองถึงจะรู้ว่าแบบไหนดีที่สุด
- Easy Beat
เป็นคอมโบที่กดง่ายๆ สำหรับผู้เล่น ฉasual วิธีใช้แค่กด L รัวๆ จะเกิดคอมโบอย่างอัตโนมัติ และปิดท้ายด้วย HHA ในกรณีที่มีเกจเพียงพอ
- Stylish Mode
มันคือการหลบ ด้วยการกดปุ่ม หลบ (ในที่นี้คือปุ่ม X) เมื่อกดใช้ในจังหวะที่ถูกต้อง จะหลบศัตรูไปข้างๆ ด้านหน้าจอ หรือด้านหลังจอ ในขณะที่โพสต์ท่าแอ่นไปด้วย (ฮา) ระหว่างที่หลบ ตัวละครจะเป็นอมตะ และสามารถช่วงชิงความได้เปรียบจากศัตรูได้ แต่จะเสีย Guard Gauge ไปประมาณ 20%
- Puttsun Cancel (PC)
การแคนเซิลท่าเดิมที่ยังไม่จบดีเลย์ท่า เพื่อใส่คำสั่งโจมตีอีกท่าหนึ่งเข้าไป เพื่อเชื่อมการโจมตีให้ต่อกันเป็นคอมโบ โดยที่ปกติแล้ว ท่าบางท่าจะแคนเซิลไม่ได้ แต่ Puttsun คือการทำลายข้อจำกัดตรงนั้น ให้ต่อคอมโบโหดๆได้ โดยแลกกับ เกจ HH 1 เกจ (ระบบนี้มีในเกมส์จำพวก kof , street อยู่มาก ผู้เล่นแคชชวลอาจจะงง) เมื่อใช้ Puttsun สำเร็จ จะมีตัวอักษร Effect ปรากฎขึ้น
- Heart Heat Attack (HHA)
ท่าไม้ตาย เสีย 1 เกจ แต่ละตัวมีคนละ 1 ท่าเป็นอย่างต่ำ วิธีกดง่ายกว่าเกมส์อื่นๆมาก ส่วนมากจะเป็น ฮาโดเคน + โจมตี พร้อมกัน 2 ปุ่ม
- Great Heat Attack (GHA)
ท่าไม้ตายใหญ่ เสีย 2 เกจ วิธีกดคือ ฮาโดเคน + โจมตี พร้อมกัน 3 ปุ่ม (หรือง่ายกว่านั้นคือ L1 สำหรับผู้เล่นแคชชวล)
- โหมดพิเศษ เมื่อพลังเหลือน้อย
1. Rumbling Mode (โหมดโกรธ)
เมื่อเลือดใกล้หมด แถบเลือดจะเปลี่ยนเป็นสีแดง พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้น และจะได้แถบ Heart Heat มากขึ้นจากการโจมตี (มีใช้ทุกตัวยกเว้น โจรูโน่, มิตซูต้า, บูจาราตี้ และ เฮอร์เมส)
2. Resolve Mode (โหมดมุ่งมั่น)
เมื่อเลือดใกล้หมด แถบเลือดจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง พลังป้องกันจะเพิ่มขึ้น และจะได้แถบ Heart Heat มากขึ้นจากการถูกโจมตี (มีใช้เฉพาะ โจรูโน่, มิตซูต้า, บูจาราตี้ และ เฮอร์เมส)
Styles
Ripple (Hamon หรือ พลังคลื่นมนตรา) : [เฉพาะโจนาธาน , วิล เอ เซปเปลี่ , โจเซฟ และ ซีซ่า]
- เมื่อกดปุ่ม Style ค้าง จะเป็นการ "ชาร์จ" HH เกจ (หายใจแบบพลังคลื่นมนตรา)
- ขณะป้องกันการโจมตี สามารถกดปุ่ม Style ค้างไว้ เพื่อป้องกันความเสียหายเล็กน้อยที่เกิดจากการ์ดได้
Mode : [เฉพาะบุรุษเสาหิน คาร์ซ , วามู และ เอซิดิซ]
- เมื่อกดปุ่ม Style จะเป็นการ "เปิด Mode" เฉพาะตัวของตัวละครตัวนั้น โดยตัวละครจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่จะแลกกับเกจ HH ที่ค่อยๆลดลงเรื่อยๆ โดยสามารถกดอีกทีเพื่อ ปิด Mode ได้
Stands
- กดปุ่ม Style เพื่อเปิดหรือปิดสแตนด์ โดยท่าโจมตีจะเปลี่ยนไป และท่าไม้ตายบางท่าจะมีทั้งสองโหมด ส่วนบางท่าจะมีแค่โหมดเดียว
- Stand Rush : ท่าบางท่าจะเขียนว่า สามารถทำ Stand Rush ได้ หมายความว่า เมื่อกดใช้ท่าดังกล่าว สามารถกด ปุ่ม Style เพื่อทำการ "un-link" ตัวสแตนด์กับร่างต้นได้ นั่นคือ ในระหว่างที่ตัวสแตนด์โจมตีไป ร่างต้นเคลื่อนไหวเป็นอิสระในช่วงเวลาสั้นๆนั้นได้ด้วย ซึ่งมีประสิทธิภาพในการผสมผสานคอมโบอย่างมาก แต่จะมีการใช้เกจ HH นิดหน่อย
(ตรงนี้จะเห็นได้ว่า เป็นระบบที่ดัดแปลงจากภาคเก่าของ Capcom ที่สามารถทำแบบนี้ได้อิสระกว่านี้ โดยภาค ASB จะถูกจำกัดให้ใช้ได้แค่บางท่า และต้องแลกกับเกจ ทำให้ระบบการคอมโบของเกมส์จะต้องซับซ้อน และคิดเยอะขึ้นอย่างแน่นอน)
Horseback : [เฉพาะ ไจโร และโจนี่]
- เมื่อกดปุ่ม Style ตัวละครจะโดดขึ้นไปบนหลังม้า ทำให้สูงขึ้น การโจมตีเปลี่ยนท่าไป และท่าบางท่าสามารถใช้บนหลังม้าได้เช่นกัน เมื่อกดปุ่มอีกครั้ง ก็จะกลับมาบนพื้นได้
Vampire : [เฉพาะ ผีดิบดีโอ]
- มีข้อมูลบางส่วนว่า แวมไพร์จะฟื้นพลังชีวิตตัวเองได้ตลอดเวลา แต่จะแพ้พลังคลื่นมนตรา โดยการโจมตีจากพลังคลื่นมนตราจะทำให้แถบพลังลดอย่างถาวร ไม่สามารถฟื้นคืนได้
- ข้อมูลส่วนอื่นๆ ยังไม่มี
(ที่มา https://www.facebook.com/notes/j ... sb/1409373195943582 )
จากเท่าที่ดู มันน่าจะโอเคนะครับ ผู้เล่น Casual ก็เล่นได้ และระบบก็ยังมีความลึกพอสำหรับผู้เล่น Hardcore
ท่านอื่นคิดว่ายังไงบ้างครับ?
กลัวว่า มันจะเป็นเกมส์สไตล์นารุโตะ ที่ เอามาปล่อยท่าให้ครบทุกตัว แล้วก็เลิกเล่นรึเปล่า?
กลัวว่า คนเล่นเยอะจริงตอนแรกๆ แต่จะไม่มีใครเล่นมันเป็นหลายๆปีรึเปล่า?
คำตอบอยู่ที่นี่แล้วครับ
(ข้อมูลจากเพจ FB "JOJO ASB THAILAND" )
https://www.facebook.com/JOJOASBTHAILAND
( มีกลุ่มสำหรับแชท และนัดเล่น online กันจริงจังที่ "JOJO ASB Thai Live Chat" ด้วยนะเออ ที่
https://www.facebook.com/groups/JOJOASBTHAILAND )
รายละเอียดหน้าจอ
A : จำนวนเวลาในรอบที่เล่น
B : แถบเลือด
C : แถบการ์ด หากเราป้องกันก็จะเสียค่าการ์ดไปเรื่อยๆ เมื่อหมดจะอยู่ใส่สถนะชะงัก ไม่สามารถป้องกัน และเคลื่อนไหวได้ขณะหนึ่ง
D : จำนวนรอบที่ชนะ
E : แถบความสามารถพิเศษ มีเฉพาะแค่บางตัวละคร เช่น ระดับพลังคลื่นมนต์ตรา, จำนวนกระสุน, จำนวนลูกบอล, จำนวนครั้งที่ใช้ในการอัพเกรด White Snake
F : แถบ Heart Heat เอาไว้ใช้ท่าพิเศษ และสามารถสะสมได้มากสุดที่ 3 หลอด
ฺButtons
Battle Systems
- Throws (จับทุ่ม)
เหมือนเกมส์ fighting ทั่วไป กดปุ่มโจมตี M+H พร้อมกัน ไม่สามารถป้องกันได้
- OTGs (โจมตีที่พื้น Off the ground หรือ on the ground attack)
ตัวละครบางตัวจะมีท่าโจมตีศัตรูที่นอนอยู่ อาทิเช่น ค้อนของโจเซฟ , ป้ายจราจรของดีโอ
- Ukemi (ลุกจากพื้นอย่างว่องไว)
เมื่อล้มลง สามารถกดปุ่มโจมตีหรือเคลื่อนไหว ทันทีที่กระทบพื้น เพื่อลุกอย่างว่องไว เพื่อหลีกเลี่ยงการโดน ยั่วยุ (taunt) จากศัตรู เวลาที่ล้ม
- Taunts (ยั่วยุ)
กดปุ่ม Select เพื่อใช้ท่ายั่วยุ เกมส์นี้มีการใช้ท่ายั่วยุที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเมื่อกดใช้ จะสามารถลดเกจ Heart Heat ของศัตรูได้เล็กน้อย และเมื่อใช้ตอนศัตรูล้ม จะแสดงท่ายั่วยุที่พิเศษกว่าปกติอีกด้วย
- Stage Gimmicks หรือ Stage Hazard
ในเกือบทุกฉากของ ASB จะมีอันตรายจากสเตจ ที่มาจากเนื้อเรื่องตรงตามการ์ตูน ซึ่งก่อนอันตรายจะปรากฎ จะมีอักษรและเสียงเตือนออกมาก่อน โดยจะมีเห็นพื้นที่สีแดง ที่เป็นเป้าหมายของอันตรายนั้น ถ้าไม่หลบให้พ้นจากพื้นที่ในเวลาที่กำหนด ก็จะเสียพลังชีวิตจากอันตรายเหล่านั้นได้
- Situation Finish
ทุกฉากของ ASB จะมีการปลดล้อกเหตุการณ์พิเศษในตอนจบ ด้วยเงื่อนไขอาทิ เช่น การใช้ HHA หรือ GHA ในการจัดการศัตรู cutscene นี้ก็จะปรากฎให้เห็น
- Rush Mode
คล้ายกับ ภาคเก่าของ Capcom เมื่อตัวละครโจมตีด้วยท่าโจมตีรัวปะทะกัน จะเข้าสู่ Rush Mode ใครกดรัวปุ่มต่อยเบา ได้มากกว่า ฝ่ายนั้นชนะ จะโจมตีอีกฝ่ายกระเด็น
- Chain Beat
คือการ Chain Combo เหมือนภาคเก่า (ระบบเดียวกับเกมส์ Guilty Gear, BlazBlue, Persona 4 Arena , Darkstalkers series , MVC , etc.) เป็นการคอมโบด้วยการกดปุ่มโจมตีต่อเนื่องง่ายๆ จาก เบา > กลาง > หนัก โดยยกตัวอย่างคอมโบที่สามารถกดได้ เช่น L,L,L,M,H
นอกจากนี้ หลายตัวละครยังมี chain combo หลายแบบ เฉพาะตัวของตัวเอง ต้องทดลองด้วยตัวเองถึงจะรู้ว่าแบบไหนดีที่สุด
- Easy Beat
เป็นคอมโบที่กดง่ายๆ สำหรับผู้เล่น ฉasual วิธีใช้แค่กด L รัวๆ จะเกิดคอมโบอย่างอัตโนมัติ และปิดท้ายด้วย HHA ในกรณีที่มีเกจเพียงพอ
- Stylish Mode
มันคือการหลบ ด้วยการกดปุ่ม หลบ (ในที่นี้คือปุ่ม X) เมื่อกดใช้ในจังหวะที่ถูกต้อง จะหลบศัตรูไปข้างๆ ด้านหน้าจอ หรือด้านหลังจอ ในขณะที่โพสต์ท่าแอ่นไปด้วย (ฮา) ระหว่างที่หลบ ตัวละครจะเป็นอมตะ และสามารถช่วงชิงความได้เปรียบจากศัตรูได้ แต่จะเสีย Guard Gauge ไปประมาณ 20%
- Puttsun Cancel (PC)
การแคนเซิลท่าเดิมที่ยังไม่จบดีเลย์ท่า เพื่อใส่คำสั่งโจมตีอีกท่าหนึ่งเข้าไป เพื่อเชื่อมการโจมตีให้ต่อกันเป็นคอมโบ โดยที่ปกติแล้ว ท่าบางท่าจะแคนเซิลไม่ได้ แต่ Puttsun คือการทำลายข้อจำกัดตรงนั้น ให้ต่อคอมโบโหดๆได้ โดยแลกกับ เกจ HH 1 เกจ (ระบบนี้มีในเกมส์จำพวก kof , street อยู่มาก ผู้เล่นแคชชวลอาจจะงง) เมื่อใช้ Puttsun สำเร็จ จะมีตัวอักษร Effect ปรากฎขึ้น
- Heart Heat Attack (HHA)
ท่าไม้ตาย เสีย 1 เกจ แต่ละตัวมีคนละ 1 ท่าเป็นอย่างต่ำ วิธีกดง่ายกว่าเกมส์อื่นๆมาก ส่วนมากจะเป็น ฮาโดเคน + โจมตี พร้อมกัน 2 ปุ่ม
- Great Heat Attack (GHA)
ท่าไม้ตายใหญ่ เสีย 2 เกจ วิธีกดคือ ฮาโดเคน + โจมตี พร้อมกัน 3 ปุ่ม (หรือง่ายกว่านั้นคือ L1 สำหรับผู้เล่นแคชชวล)
- โหมดพิเศษ เมื่อพลังเหลือน้อย
1. Rumbling Mode (โหมดโกรธ)
เมื่อเลือดใกล้หมด แถบเลือดจะเปลี่ยนเป็นสีแดง พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้น และจะได้แถบ Heart Heat มากขึ้นจากการโจมตี (มีใช้ทุกตัวยกเว้น โจรูโน่, มิตซูต้า, บูจาราตี้ และ เฮอร์เมส)
2. Resolve Mode (โหมดมุ่งมั่น)
เมื่อเลือดใกล้หมด แถบเลือดจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง พลังป้องกันจะเพิ่มขึ้น และจะได้แถบ Heart Heat มากขึ้นจากการถูกโจมตี (มีใช้เฉพาะ โจรูโน่, มิตซูต้า, บูจาราตี้ และ เฮอร์เมส)
Styles
Ripple (Hamon หรือ พลังคลื่นมนตรา) : [เฉพาะโจนาธาน , วิล เอ เซปเปลี่ , โจเซฟ และ ซีซ่า]
- เมื่อกดปุ่ม Style ค้าง จะเป็นการ "ชาร์จ" HH เกจ (หายใจแบบพลังคลื่นมนตรา)
- ขณะป้องกันการโจมตี สามารถกดปุ่ม Style ค้างไว้ เพื่อป้องกันความเสียหายเล็กน้อยที่เกิดจากการ์ดได้
Mode : [เฉพาะบุรุษเสาหิน คาร์ซ , วามู และ เอซิดิซ]
- เมื่อกดปุ่ม Style จะเป็นการ "เปิด Mode" เฉพาะตัวของตัวละครตัวนั้น โดยตัวละครจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่จะแลกกับเกจ HH ที่ค่อยๆลดลงเรื่อยๆ โดยสามารถกดอีกทีเพื่อ ปิด Mode ได้
Stands
- กดปุ่ม Style เพื่อเปิดหรือปิดสแตนด์ โดยท่าโจมตีจะเปลี่ยนไป และท่าไม้ตายบางท่าจะมีทั้งสองโหมด ส่วนบางท่าจะมีแค่โหมดเดียว
- Stand Rush : ท่าบางท่าจะเขียนว่า สามารถทำ Stand Rush ได้ หมายความว่า เมื่อกดใช้ท่าดังกล่าว สามารถกด ปุ่ม Style เพื่อทำการ "un-link" ตัวสแตนด์กับร่างต้นได้ นั่นคือ ในระหว่างที่ตัวสแตนด์โจมตีไป ร่างต้นเคลื่อนไหวเป็นอิสระในช่วงเวลาสั้นๆนั้นได้ด้วย ซึ่งมีประสิทธิภาพในการผสมผสานคอมโบอย่างมาก แต่จะมีการใช้เกจ HH นิดหน่อย
(ตรงนี้จะเห็นได้ว่า เป็นระบบที่ดัดแปลงจากภาคเก่าของ Capcom ที่สามารถทำแบบนี้ได้อิสระกว่านี้ โดยภาค ASB จะถูกจำกัดให้ใช้ได้แค่บางท่า และต้องแลกกับเกจ ทำให้ระบบการคอมโบของเกมส์จะต้องซับซ้อน และคิดเยอะขึ้นอย่างแน่นอน)
Horseback : [เฉพาะ ไจโร และโจนี่]
- เมื่อกดปุ่ม Style ตัวละครจะโดดขึ้นไปบนหลังม้า ทำให้สูงขึ้น การโจมตีเปลี่ยนท่าไป และท่าบางท่าสามารถใช้บนหลังม้าได้เช่นกัน เมื่อกดปุ่มอีกครั้ง ก็จะกลับมาบนพื้นได้
Vampire : [เฉพาะ ผีดิบดีโอ]
- มีข้อมูลบางส่วนว่า แวมไพร์จะฟื้นพลังชีวิตตัวเองได้ตลอดเวลา แต่จะแพ้พลังคลื่นมนตรา โดยการโจมตีจากพลังคลื่นมนตราจะทำให้แถบพลังลดอย่างถาวร ไม่สามารถฟื้นคืนได้
- ข้อมูลส่วนอื่นๆ ยังไม่มี
(ที่มา https://www.facebook.com/notes/j ... sb/1409373195943582 )
จากเท่าที่ดู มันน่าจะโอเคนะครับ ผู้เล่น Casual ก็เล่นได้ และระบบก็ยังมีความลึกพอสำหรับผู้เล่น Hardcore
ท่านอื่นคิดว่ายังไงบ้างครับ?
[สำหรับแฟน JOJO]เอาระบบเกมส์ JOJO All-Star Battle มาฝากครับ