นานๆ ทีผมจะได้หาอนิเมที่มันไม่เอา Fanservice บ้างเนี่ยมันไม่ง่ายเลยครับ บอกตรงๆ
เมื่อวานผมเพิ่งดูจบเรื่องนี้ไป และผมเองก็ดูไปเรื่อยๆ นี่แหละครับ อันที่จริงผมไม่ค่อยรู้จักสตูดิโอที่ทำอนิเมนี้เท่าไหร่
สำหรับเรื่องนี้คือ วันอาทิตย์ที่ไม่มีพระเจ้า หรือ Kamisama no Inai Nichiyoubi ของทางสตูดิโอ Madhouse และ Starchild Records ครับ
เรื่องราวจะเป็นเรื่องที่พระเจ้าได้ทอดทิ้งโลกไปในวันอาทิตย์นั่นเองครับ
และมันก็เป็นการส่งผลกระทบให้โลกไม่สามารถให้กำเนิด หรือตายได้ทั้งสิ้น
แต่ทว่า โลกยังไม่ได้ถูกทิ้งไปหมด ยังมีคนฝังหลุมศพเป็นผู้ที่ช่วยโลกหลังพระเจ้าทอดทิ้งโลกไป
ดูๆ แล้วเหมือนจะธรรมดา แต่ไอ้ความธรรมดานี่แหละ มันทำให้ผมสนใจเรื่องนี้อย่างมาก
จะเป็นไงกัน ติดตามอ่านได้เลยครับ
เมื่อวานผมเพิ่งดูจบเรื่องนี้ไป และผมเองก็ดูไปเรื่อยๆ นี่แหละครับ อันที่จริงผมไม่ค่อยรู้จักสตูดิโอที่ทำอนิเมนี้เท่าไหร่
สำหรับเรื่องนี้คือ วันอาทิตย์ที่ไม่มีพระเจ้า หรือ Kamisama no Inai Nichiyoubi ของทางสตูดิโอ Madhouse และ Starchild Records ครับ
เรื่องราวจะเป็นเรื่องที่พระเจ้าได้ทอดทิ้งโลกไปในวันอาทิตย์นั่นเองครับ
และมันก็เป็นการส่งผลกระทบให้โลกไม่สามารถให้กำเนิด หรือตายได้ทั้งสิ้น
แต่ทว่า โลกยังไม่ได้ถูกทิ้งไปหมด ยังมีคนฝังหลุมศพเป็นผู้ที่ช่วยโลกหลังพระเจ้าทอดทิ้งโลกไป
ดูๆ แล้วเหมือนจะธรรมดา แต่ไอ้ความธรรมดานี่แหละ มันทำให้ผมสนใจเรื่องนี้อย่างมาก
จะเป็นไงกัน ติดตามอ่านได้เลยครับ
เนื้อเรื่อง และตัวละคร:
อย่างที่ผมว่าไปแล้ว ผมก็ไม่กล้าใส่สปอยเท่าไหร่
แต่ขอบอกตามตรงว่าแทบจะอึ้งไปกับช่วงแรกๆ คือ แรกๆ พ่อของนางเอกโหดได้เรื่อง และเดี๋ยวผ่านไปสักพักก็ไม่รู้จะเป็นไงต่อไป
แต่เอาตามตรง พี่แกดันมาตายในตอนที่ 3 ไปแบบง่ายๆ ซึ่งทำผมแทบไม่คาดคิดไปเลยครับ
เนื้อเรื่องมันชวนงงก็จริงในความคิดผม แต่เอามาดูอีกทีใน 3 ตอนแรกๆ ผมรู้เลยว่ามันทำมาดีจริงๆ
ซึ่งเรื่องนี้ใครดูตอนที่พ่อของนางเอก ใครกลั้นน้ำตาไหลจากตาได้ คุณมันทรหดครับ
ตอนที่นางเอกร้องให้ตอนที่พ่อของนางเอกตาย ผมเกือบทนน้ำตาไหลไม่ได้เลย ถือเป็น Plot Twist อย่างดีเลยครับ
และพอไปตอนหลังๆ แล้วเนื้อเรื่องก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ ส่วนใหญ่เขียนเกี่ยวกับความตาย และการเกิดทั้งหลายอยู่เยอะ
ซึ่งในบรรดาเนื้อเรื่อง ไม่อยากพูดอะไรตรงๆ นะ แต่มันสูสีกับไททันได้เลยครับ
นอกจากตัวเนื้อเรื่องที่ชวนลึกลับแล้ว บางส่วนที่ผมดูไปก็แทบพลิกกระดานแบบไม่คาดคิดด้วย
สำหรับทางตัวละคร ก็ไม่มีอะไรมากนัก ยังไม่ดีอะไรขนากนั้น แต่อยู่ในระดับไม่ได้แย่อย่างที่คิด
ทางตัวประกอบก็ใช่ว่าจะไม่มีบทเล่น ซึ่งเรื่องนี้ยังออกมาให้มีบทมีบาทแบบพอโอเคได้ครับ
แต่ที่ผมชอบใจสุดคือ พ่อของนางเอกตายโดยที่ผมแทบอึ้งไปเลยว่าไม่ควรจะตายเลยสักนิด
การพัฒนาของตัวละคร แรกๆ รำคาญนางเอกนิดหน่อย แต่ไปสักพัก นางเอกพัฒนาได้ดีขึ้นเยอะครับ
อย่างที่ผมว่าไปแล้ว ผมก็ไม่กล้าใส่สปอยเท่าไหร่
แต่ขอบอกตามตรงว่าแทบจะอึ้งไปกับช่วงแรกๆ คือ แรกๆ พ่อของนางเอกโหดได้เรื่อง และเดี๋ยวผ่านไปสักพักก็ไม่รู้จะเป็นไงต่อไป
แต่เอาตามตรง พี่แกดันมาตายในตอนที่ 3 ไปแบบง่ายๆ ซึ่งทำผมแทบไม่คาดคิดไปเลยครับ
เนื้อเรื่องมันชวนงงก็จริงในความคิดผม แต่เอามาดูอีกทีใน 3 ตอนแรกๆ ผมรู้เลยว่ามันทำมาดีจริงๆ
ซึ่งเรื่องนี้ใครดูตอนที่พ่อของนางเอก ใครกลั้นน้ำตาไหลจากตาได้ คุณมันทรหดครับ
ตอนที่นางเอกร้องให้ตอนที่พ่อของนางเอกตาย ผมเกือบทนน้ำตาไหลไม่ได้เลย ถือเป็น Plot Twist อย่างดีเลยครับ
และพอไปตอนหลังๆ แล้วเนื้อเรื่องก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ ส่วนใหญ่เขียนเกี่ยวกับความตาย และการเกิดทั้งหลายอยู่เยอะ
ซึ่งในบรรดาเนื้อเรื่อง ไม่อยากพูดอะไรตรงๆ นะ แต่มันสูสีกับไททันได้เลยครับ
นอกจากตัวเนื้อเรื่องที่ชวนลึกลับแล้ว บางส่วนที่ผมดูไปก็แทบพลิกกระดานแบบไม่คาดคิดด้วย
สำหรับทางตัวละคร ก็ไม่มีอะไรมากนัก ยังไม่ดีอะไรขนากนั้น แต่อยู่ในระดับไม่ได้แย่อย่างที่คิด
ทางตัวประกอบก็ใช่ว่าจะไม่มีบทเล่น ซึ่งเรื่องนี้ยังออกมาให้มีบทมีบาทแบบพอโอเคได้ครับ
แต่ที่ผมชอบใจสุดคือ พ่อของนางเอกตายโดยที่ผมแทบอึ้งไปเลยว่าไม่ควรจะตายเลยสักนิด
การพัฒนาของตัวละคร แรกๆ รำคาญนางเอกนิดหน่อย แต่ไปสักพัก นางเอกพัฒนาได้ดีขึ้นเยอะครับ
เสียง:
ให้ตายสิ นอกจากเรื่องมันออกแนวเศร้า และลึกลับได้ดีอยู่แล้ว เพลงเปิด และปิดก็โคตรฟิตอย่างยิ่งกับเรื่องนี้
เพลงเปิดออกแนว Rock แต่มันมาทางความเศร้าโศก เกี่ยวกับความตายได้โดยตรง
เพลงปิดออกแนว Pop ผสม Blues ซึ่งมันก็ค่อนข้างมีความหมายที่ดีได้อีก และก็ให้ความรู้สึกมีความสุขเกี่ยวกับความตายได้เลย
เพลงประกอบสามารถทำออกมาให้ตรงกับ Plot รวมทั้ง Narrative อย่างเต็มปากเต็มตากับวินาทีที่เสียไปอย่างคุ้มค่า
ส่วน Effect ก็สามารถทำให้เข้ากับเหตุการณ์ และรวมทั้งเสียงพลังพิเศษให้ออกมาตระการตาจริงๆ ครับ
และรวมทั้งเสียงพากย์ก็สามารถเข้ากับตัวละครในเรื่องนี้ได้อย่างดีเป็นเท่าตัวอีก เพลินเสียงเลยครับ แบบนี้
ให้ตายสิ นอกจากเรื่องมันออกแนวเศร้า และลึกลับได้ดีอยู่แล้ว เพลงเปิด และปิดก็โคตรฟิตอย่างยิ่งกับเรื่องนี้
เพลงเปิดออกแนว Rock แต่มันมาทางความเศร้าโศก เกี่ยวกับความตายได้โดยตรง
เพลงปิดออกแนว Pop ผสม Blues ซึ่งมันก็ค่อนข้างมีความหมายที่ดีได้อีก และก็ให้ความรู้สึกมีความสุขเกี่ยวกับความตายได้เลย
เพลงประกอบสามารถทำออกมาให้ตรงกับ Plot รวมทั้ง Narrative อย่างเต็มปากเต็มตากับวินาทีที่เสียไปอย่างคุ้มค่า
ส่วน Effect ก็สามารถทำให้เข้ากับเหตุการณ์ และรวมทั้งเสียงพลังพิเศษให้ออกมาตระการตาจริงๆ ครับ
และรวมทั้งเสียงพากย์ก็สามารถเข้ากับตัวละครในเรื่องนี้ได้อย่างดีเป็นเท่าตัวอีก เพลินเสียงเลยครับ แบบนี้
ภาพ การเคลื่อนไหว:
ในส่วนนี้ ทางสตูดิโอก็ไม่ได้ทำให้ผมผิดหวังกับการใส่แสงสี ซึ่งความเข้ม และความคมชัดของตัวอนิเมสูสีอนิเมอื่นได้เยอะ
แต่ในส่วนที่ผมชอบมากๆ คือ ภาพมันไป Fit กับเสียงอย่างเต็มที่ และตัวละครก็ออกมาน่ารัก แต่เรื่องนี้มันหักกับความน่ารักไปเยอะ
ซึ่งเท่าที่ผมดูมา Theme ของเรื่องนี้ ไปเน้นลึกลับ ซึ่งก็ต้องทำออกมาให้มืดบ้าง
แต่อย่างไรก็ตาม ผมว่ามันก็ไม่ได้ทำให้เรื่องนี้หายความน่ารักครับ ตัวละครมันช่วยหักล้างตัวนี้ได้ดี
เสียอย่างหนึ่งหลักๆ เลยคือ ภาพแข็งไปบ้าง และการเคลื่อนไหวของสิ่งแวดล้อมรอบๆ ข้างยังไม่มีชีวิตมากนัก
ในส่วนนี้ ทางสตูดิโอก็ไม่ได้ทำให้ผมผิดหวังกับการใส่แสงสี ซึ่งความเข้ม และความคมชัดของตัวอนิเมสูสีอนิเมอื่นได้เยอะ
แต่ในส่วนที่ผมชอบมากๆ คือ ภาพมันไป Fit กับเสียงอย่างเต็มที่ และตัวละครก็ออกมาน่ารัก แต่เรื่องนี้มันหักกับความน่ารักไปเยอะ
ซึ่งเท่าที่ผมดูมา Theme ของเรื่องนี้ ไปเน้นลึกลับ ซึ่งก็ต้องทำออกมาให้มืดบ้าง
แต่อย่างไรก็ตาม ผมว่ามันก็ไม่ได้ทำให้เรื่องนี้หายความน่ารักครับ ตัวละครมันช่วยหักล้างตัวนี้ได้ดี
เสียอย่างหนึ่งหลักๆ เลยคือ ภาพแข็งไปบ้าง และการเคลื่อนไหวของสิ่งแวดล้อมรอบๆ ข้างยังไม่มีชีวิตมากนัก
ภาพรวม:
หนึ่งในอนิเมที่เป็นเพชรดีๆ ที่น่าดูอย่างยิ่งสำหรับผมครับ
แม้จะมีจุดไม่ดีบ้างในส่วนการเคลื่อนไหว แต่ให้พูดตรงๆ มันไม่ได้ทำให้ความสนุกของเรื่องนี้หายไปนัก
สำหรับ Kamisama no Inai Nichiyoubi ในสายตาผม มันคืออนิเมม้ามืดอย่างสมบูรณ์แบบ
และสมควรให้เป็นผู้เข้ารอบม้าเด่นในวงการอนิเมปี 2013 แบบเพียวๆ และไม่ต้องกังขาอะไรนัก
ด้วยเนื้อเรืองทั้งเข้มข้น ลึกลับ คุณภาพเสียงที่อยู่ในระดับสูง และการพลิกเนื้อเรื่องที่รุนแรง
แม้จะมีคนไม่ชอบดูอนิเมนี้ แต่ในความคิดผมแล้ว สำหรับผู้ที่ชอบแนวแฟนตาซี ไม่ควรพลาด
หนึ่งในอนิเมที่เป็นเพชรดีๆ ที่น่าดูอย่างยิ่งสำหรับผมครับ
แม้จะมีจุดไม่ดีบ้างในส่วนการเคลื่อนไหว แต่ให้พูดตรงๆ มันไม่ได้ทำให้ความสนุกของเรื่องนี้หายไปนัก
สำหรับ Kamisama no Inai Nichiyoubi ในสายตาผม มันคืออนิเมม้ามืดอย่างสมบูรณ์แบบ
และสมควรให้เป็นผู้เข้ารอบม้าเด่นในวงการอนิเมปี 2013 แบบเพียวๆ และไม่ต้องกังขาอะไรนัก
ด้วยเนื้อเรืองทั้งเข้มข้น ลึกลับ คุณภาพเสียงที่อยู่ในระดับสูง และการพลิกเนื้อเรื่องที่รุนแรง
แม้จะมีคนไม่ชอบดูอนิเมนี้ แต่ในความคิดผมแล้ว สำหรับผู้ที่ชอบแนวแฟนตาซี ไม่ควรพลาด
ยิ่งถ้าใครชอบดูเนื้อเรื่องเหรอครับ ผมบอกได้ประโยคนึงคือ Totally worth it.
เกรด:
A
"Kamisama no Inai Nichiyoubi คืออัญมณีล้ำค่าที่ออกมาเงาวาววับ แม้คนดูอนิเมจะมองข้ามมันไป แต่มันคือ อนิเมที่คุ้มค่าทั้งน้ำตา และความเศร้าโศก"
A
"Kamisama no Inai Nichiyoubi คืออัญมณีล้ำค่าที่ออกมาเงาวาววับ แม้คนดูอนิเมจะมองข้ามมันไป แต่มันคือ อนิเมที่คุ้มค่าทั้งน้ำตา และความเศร้าโศก"
Anime Review 7 : Kamisama no Inai Nichiyoubi (A)