แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย sodaman เมื่อ 2014-4-23 14:19
สำหรับวันนี้เราจะมาพูดถึงตัวละครในสามก๊กกันนะครับ....
ก่อนอื่น ขอแนะนำตัวละครในสามก๊กก่อนก็แล้วกัน (เพื่อว่าใครที่ไม่เคยอ่านสามก๊กจะได้ไม่งง)
คนแรก Cai wenji นักกวีที่เก่งคนหนึ่งในสามก๊ก แต่ในฉบับพระยาหนคลัง(ฉบับที่บ้านเราอ่านๆ กันอยู่เนี่ยล่ะ) กลับไม่พูดถึงเลย(กำ)
และอีกคนคือโจโฉ (ผมว่าถ้าไม่รู้จักเฮียแกเนี่ย เสียชาติเกิดนะ) ผู้ปรารถนาจะรวบรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียว ยอมหักหลังคนทั้งโลก เพื่อให้ความปรารถนาตนเป็นจริง(ผลคือแทบทุกคนในสมัยนั้นมาว่าเฮียแกเป็นคนกระหายในอำนาจ) -แต่ว่าจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นนะ.
ส่วนที่เหลือเราจะไม่เอารูปและคำอธิบายมาลงนะ (ขี้เกียจ+เดี๋ยวคนอ่านจะเบื่อซะก่อน)
เรื่องมันมีอยู่ว่า.....
ไช่เหวินจี หรือ ซัวเหงียม (อังกฤษ: Cai Wenji 蔡文姬) หรือที่เรียกกันในสำเนียงฮกเกี้ยนว่า ซัวบุ้นกี หรือ ซัวเอี๋ยง (อังกฤษ: Cai Yan 蔡琰) นางเป็นบุตรสาวของซัวหยงผู้ที่เป็นขุนนางของตั๋งโต๊ะ และเป็นอดีตคนรักของโจโฉ หลังจากที่ตั๋งโต๊ะเสียชีวิตแล้วซัวหยงได้ไปร้องไห้ที่ศพของตั๊งโต๊ะจนทำให้อ้องอุนสั่งประหารชีวิต ซึ่งโจโฉสนิทกับพ่อของนางมากและโจโฉก็แอบชอบนางบุ้นกีเพราะนางชอบแต่งโคลงกลอน อ่านหนังสือ เล่นดนตรีไพเราะ จนทำให้โจโฉตกหลุมรักนางเป็นอย่างมาก แต่โจโฉคิดว่าต้องทำให้เป็นใหญ่กว่านี้แล้วจะขอนางเป็นภรรยา(เนื่องจากแผ่นดินในสมัยนั้นยังไม่สงบ+กลัวว่าแต่งกับซัวบุ้นกีในขณะนั้นรั้งแต่จะทำให้นางลำบาก เพราะโจโฉในตอนนั้นยังไม่มีทั้งอำนาจและเงินทองมากมายนัก เจ๋งจริงนะเฮีย)
แต่เวลาผ่านไปไม่นานโจโฉไม่ได้พบกับนางบุ้นกีอีกเลยแต่ได้ทราบข่าวว่ามีโจรทางภาคเหนือจับตัวบุ้นกีไปแล้วมอบตัวให้กับหัวหน้าเผ่ามองโกล แล้วนางก็ตกไปเป็นภรรยาไปเสียแล้ว
โจโฉจึงทุ่มเทเงินไว้เป็นอย่างมากเพื่อเอาตัวนางกลับมาให้ได้จนสำเร็จ แต่บุ้นกีเสียใจมากเราเพราะฐานะของเธอกับโจโฉไม่ได้เหมือนเดิมกันอีกแล้ว นางจึงขอไม่พบกับโจโฉอีก หลังจากนั้นเธอมีผลงานบทกวีที่เกี่ยวกับความทุกข์และความสุขที่มีคุณค่าสูงที่สุด (บทกวีของนางส่วนใหญ่ก็ได้ถ่ายทอดมาจากสงครามและช่วงเวลาในสมัยนั้น)
ซึ่งก่อนที่ซัวบุ้งกี้และโจโฉจะจากกันโจโฉได้ยกทหารที่ชื่อว่า ตังกี๋ เป็นสามีของนางแทน แต่นางก็ยอมรับตังกี๋เป็นสามีเธอแทนเพราะตังกี๋เป็นคนชั้นธรรมดาและเหมาะสมกับฐานะของเธอ ตังกี๋เป็นสามีที่ดี ตั้งใจทำงาน และทั้งสองก็มีความสุขอย่างมากใช้ชีวิตด้วยกันอย่างสงบสุข
เมื่อโจโฉเสียชีวิต ซัวบุ้นกีก็ไปคารวะกับศพของโจโฉที่สุสาน 72 แห่งที่สร้างไว้ข้างกับปราสาทนกยูงทอง แล้วแฮหัวตุ้นก็กล่าวบอกกับเธอว่า "โจโฉบอกว่าให้เธอเป็นคนเดียวที่มีสิทธิได้ไปคารวะที่สุสานหลุมจริงของโจโฉ" จากนั้นแฮหัวตุนก็นำทางเธอไปคารวะกับสุสานหลุมศพของโจโฉ
สุดท้ายจึงสรุปได้ว่า นางซัวบุ้นกีหรือนางไซ่เหวินจีเป็นคนที่โจโฉรักมากที่สุดแต่ไม่ได้เป็นภรรยาของโจโฉ ทั้งที่โจโฉมีหญิงรอบกายอยู่มากมายแต่ สุดท้ายก็ยังติดใจจากนางไม่ได้เสียที
เรื่องนี้จึงสอนให้รู้ว่า - ถ้าคุณรักใครสักคนจงรีบบอกรักเขาก่อนที่มันจะสายเกินไป.
อ้างอิง-วิกิพีเดีย..
สำหรับวันนี้เราจะมาพูดถึงตัวละครในสามก๊กกันนะครับ....
ก่อนอื่น ขอแนะนำตัวละครในสามก๊กก่อนก็แล้วกัน (เพื่อว่าใครที่ไม่เคยอ่านสามก๊กจะได้ไม่งง)
คนแรก Cai wenji นักกวีที่เก่งคนหนึ่งในสามก๊ก แต่ในฉบับพระยาหนคลัง(ฉบับที่บ้านเราอ่านๆ กันอยู่เนี่ยล่ะ) กลับไม่พูดถึงเลย(กำ)
และอีกคนคือโจโฉ (ผมว่าถ้าไม่รู้จักเฮียแกเนี่ย เสียชาติเกิดนะ) ผู้ปรารถนาจะรวบรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียว ยอมหักหลังคนทั้งโลก เพื่อให้ความปรารถนาตนเป็นจริง(ผลคือแทบทุกคนในสมัยนั้นมาว่าเฮียแกเป็นคนกระหายในอำนาจ) -แต่ว่าจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นนะ.
ส่วนที่เหลือเราจะไม่เอารูปและคำอธิบายมาลงนะ (ขี้เกียจ+เดี๋ยวคนอ่านจะเบื่อซะก่อน)
เรื่องมันมีอยู่ว่า.....
ไช่เหวินจี หรือ ซัวเหงียม (อังกฤษ: Cai Wenji 蔡文姬) หรือที่เรียกกันในสำเนียงฮกเกี้ยนว่า ซัวบุ้นกี หรือ ซัวเอี๋ยง (อังกฤษ: Cai Yan 蔡琰) นางเป็นบุตรสาวของซัวหยงผู้ที่เป็นขุนนางของตั๋งโต๊ะ และเป็นอดีตคนรักของโจโฉ หลังจากที่ตั๋งโต๊ะเสียชีวิตแล้วซัวหยงได้ไปร้องไห้ที่ศพของตั๊งโต๊ะจนทำให้อ้องอุนสั่งประหารชีวิต ซึ่งโจโฉสนิทกับพ่อของนางมากและโจโฉก็แอบชอบนางบุ้นกีเพราะนางชอบแต่งโคลงกลอน อ่านหนังสือ เล่นดนตรีไพเราะ จนทำให้โจโฉตกหลุมรักนางเป็นอย่างมาก แต่โจโฉคิดว่าต้องทำให้เป็นใหญ่กว่านี้แล้วจะขอนางเป็นภรรยา(เนื่องจากแผ่นดินในสมัยนั้นยังไม่สงบ+กลัวว่าแต่งกับซัวบุ้นกีในขณะนั้นรั้งแต่จะทำให้นางลำบาก เพราะโจโฉในตอนนั้นยังไม่มีทั้งอำนาจและเงินทองมากมายนัก เจ๋งจริงนะเฮีย)
แต่เวลาผ่านไปไม่นานโจโฉไม่ได้พบกับนางบุ้นกีอีกเลยแต่ได้ทราบข่าวว่ามีโจรทางภาคเหนือจับตัวบุ้นกีไปแล้วมอบตัวให้กับหัวหน้าเผ่ามองโกล แล้วนางก็ตกไปเป็นภรรยาไปเสียแล้ว
โจโฉจึงทุ่มเทเงินไว้เป็นอย่างมากเพื่อเอาตัวนางกลับมาให้ได้จนสำเร็จ แต่บุ้นกีเสียใจมากเราเพราะฐานะของเธอกับโจโฉไม่ได้เหมือนเดิมกันอีกแล้ว นางจึงขอไม่พบกับโจโฉอีก หลังจากนั้นเธอมีผลงานบทกวีที่เกี่ยวกับความทุกข์และความสุขที่มีคุณค่าสูงที่สุด (บทกวีของนางส่วนใหญ่ก็ได้ถ่ายทอดมาจากสงครามและช่วงเวลาในสมัยนั้น)
ซึ่งก่อนที่ซัวบุ้งกี้และโจโฉจะจากกันโจโฉได้ยกทหารที่ชื่อว่า ตังกี๋ เป็นสามีของนางแทน แต่นางก็ยอมรับตังกี๋เป็นสามีเธอแทนเพราะตังกี๋เป็นคนชั้นธรรมดาและเหมาะสมกับฐานะของเธอ ตังกี๋เป็นสามีที่ดี ตั้งใจทำงาน และทั้งสองก็มีความสุขอย่างมากใช้ชีวิตด้วยกันอย่างสงบสุข
เมื่อโจโฉเสียชีวิต ซัวบุ้นกีก็ไปคารวะกับศพของโจโฉที่สุสาน 72 แห่งที่สร้างไว้ข้างกับปราสาทนกยูงทอง แล้วแฮหัวตุ้นก็กล่าวบอกกับเธอว่า "โจโฉบอกว่าให้เธอเป็นคนเดียวที่มีสิทธิได้ไปคารวะที่สุสานหลุมจริงของโจโฉ" จากนั้นแฮหัวตุนก็นำทางเธอไปคารวะกับสุสานหลุมศพของโจโฉ
สุดท้ายจึงสรุปได้ว่า นางซัวบุ้นกีหรือนางไซ่เหวินจีเป็นคนที่โจโฉรักมากที่สุดแต่ไม่ได้เป็นภรรยาของโจโฉ ทั้งที่โจโฉมีหญิงรอบกายอยู่มากมายแต่ สุดท้ายก็ยังติดใจจากนางไม่ได้เสียที
เรื่องนี้จึงสอนให้รู้ว่า - ถ้าคุณรักใครสักคนจงรีบบอกรักเขาก่อนที่มันจะสายเกินไป.
อ้างอิง-วิกิพีเดีย..
ตำนานรักสามก๊ก: ไช่เหวินจี รักแรกของโจโฉ
โอตาคุที่ดีไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องเมะทุกเรื่อง แต่เป็นโอตาคุที่แบ่งเวลาเป็นต่างหาก
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2557 Sodaman ได้ทำการยุติการใช้บอร์ดนี้แล้ว ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านกระทู้ของผมเสมอมานะครับผม.
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2557 Sodaman ได้ทำการยุติการใช้บอร์ดนี้แล้ว ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านกระทู้ของผมเสมอมานะครับผม.
[IMG]