แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย sodaman เมื่อ 2014-8-31 19:36
ฮะสึเนะ มิคุแปลได้ว่า เสียงแรกแห่งอนาคต (ฮะสึ แปลว่า ครั้งแรก, เนะ แปลว่า เสียง, มิคุ แปลว่า อนาคต) ซึ่งเธอได้ถูกพัฒนามาจากบริษัท Crypton Future Media และเปิดให้ผู้คนได้รู้จักเธอในวันที่ 31 สิงหาคม 2550 (2007) ซึ่งถ้าเทียบในรุ่น Vocaloid 2 เธอถือเป็นตัวแรกเลยทีเดียว
โดยผู้ให้เสียงต้นฉบับเธอนั้นชื่อคุณ Saki Fujita ซึ่งเป็นนักพากย์หญิงญี่ปุ่นที่มีผลงานมากมาย ได้แก่ เสียงของ Mahiru Inami จากเรื่อง Working!! (ค.ศ. 2010 และ 2011), เสียงของ Ruri Hijiribe จากเรื่อง Durarara!! (ค.ศ. 2010), เสียงของ Mina Yayoi จากเรื่อง Tokimeki Memorial Only Love (ค.ศ. 2006) เป็นต้น เรียกได้เลยว่าคุณภาพล้นแก้วเลยล่ะ นอกจากเรื่องของเสียงแล้ว ภาพลักษณ์ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญที่จะผลักดันงานประชาสัมพันธ์ให้ผู้คนได้รู้จัก บริษัท Crypton Future Media จึงให้คุณ Kei Garō เป็นผู้ออกแบบภาพลักษณ์ของ Hatsune Miku ซึ่งผลลัพท์ คือ สาวน้อยอายุ 16 ปี (ปัจจุบันถ้าเป็นจริงก็ 23 ปีแล้ว) ผมสีฟ้า (แต่หลังเริ่มกลายเป็นสีเขียว และน้ำเงิน) สวมเสื้อเปิดไหล่ คู่กับกระโปรง พร้อมปอกแขน และรองเท้าบูท ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะให้เข้ากับตัวโปรแกรม Vocaloid 2 โดยไว้ทรงผมแบบ pigtails (มัดผม 2 ข้าง) ส่วนสูงของร่างกาย 158 ซม. น้ำหนัก 42 กิโลกรัม ร้องเพลงแนว POP/DANCE (เป็นแนวพฃเพลงที่ผู้คนนิยมฟังมากที่สุด ผมคนหนึ่งล่ะที่คิดแบบนั้น) โทนเสียง 70 – 150 dpm ช่วง A3 – E5
หลังจากการเปิดตัวของหนู Miku ชาวชุมชน Nico Nico Douga (Nico Nico Douga เวบไซต์ผู้ให้บริการรับฝาก และเผยแพร่ Video สัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งตัวผมก็เคยเข้าไปชมบ้าง 2-3 ครั้ง) ก็ให้ความสนใจอย่างล้นหลาม โดยได้นำโปรแกรม Vocaloid 2 Hatsune Miku Version มาใช้สร้างสรรค์ผลงานกัน โดยผลงานที่เป็นที่ได้รับความนิยมสูงสุด และส่งผลให้ Hatsune Miku โด่งดังไปทั่วโลก คือ Hachune Miku (Hatsune Miku แบบ SD) ถือต้นหอมญี่ปุ่น ร้องเพลง Ievan Polkka ซึ่งออกแบบภาพได้น่ารัก โดยที่เสียงร้องของ Miku นั้นเข้ากันกับเพลง Ievan Polkka อย่างน่าอัศจรรย์(และทำให้มิคุเราต้องถือต้นหอมเป็นสัญลักษณ์ในเวลาต่อมา ส่วนเหตุผลนั้นคือในเวลาต่อมาเพลง Ievan Polkka ได้ถูกดัดแปลงเป็นเวอร์ชั่นบลีชและในฉากที่โอริฮิเมะควงต้นหอมนั้น บระเจ้าจอร์ด! มันได้เข้ากับจังหวะเพลงดีแท้ บวกกับมีผู้คนกล่าวขานถึงฉากควงต้นหอนนี้มากมายอย่างล้นหลาม ผู้สร้างมิคุเลยจับมิคุถือต้นหอมซะเลยจะได้ทำให้มิคุมีกระแสที่ดังขึ้น ซึ่งมิคุก็ดังจริงในเวลาต่อมา) ส่งผลให้ผู้คนจากทั่วโลกให้ความสนใจ และนำโปรแกรม Vocaloid 2 Hatsune Miku Version มาศึกษา และใช้สร้างผลงานทั้งในรูปแบบเสียง และวีดีโอประกอบงานภาพ 2 มิติ และ 3 มิติ ออกมามากมาย
ในเวลาต่อมา และได้มีการนำมิคุเป็นทำเป็นอนิเมชั้นในเรื่อง Lucky Star OVA โดยตัวละคร Kagami Hiiragi ถูกมนต์ให้ cosplay เป็น Hatsune Miku หรือในเรื่อง Kämpfer ตอนที่ 7 ก็ปรากฎตัวละครที่ใส่ชุดกระโปรงเหมือน Miku เป็นต้น นอกจากนี้มิคุยังมีผลงานในฝั่งของเกมไม่น้องอีกเช่นกันโดย Sega ได้นำเธอมาเป็นโปรเจคพัฒนาเกมแนว Rhythm ชื่อว่า Hatsune Miku Project Diva ภาคต่างๆ อีกมากมาย รวมถึงเกมอย่าง Pangya Japan, Tales of Graces, Phantasy Star Portable 2 ก็ได้นำเอาชุดแบบของ Miku มาใช้กับตัวละครในเกมด้วย (เรียกได้เลยว่ากระแสตอบรับโค-ตรจะล้นหลามเลยทีเดียวครับท่านผู้ชม)
จนกระทั้งในปี 2009 Hatsune Miku ก็ได้ขึ้นเวทีแสดงสดครั้งแรกในคอนเสิร์ท Animelo Summer Live 2009 ที่ Saitama Super Arena ในวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 2009 ตามมาด้วยการแสดงสดในต่างประเทศครั้งแรกที่งาน Anime Festival Asia (AFA) ที่ประเทศสิงคโปร์ ในวันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 2009 โดย Miku ได้มีงานคอนเสิร์ทเฉพาะของตัวเอง ในรูปแบบ 3d hologram ในชื่องาน “Miku no Hi Kanshasai 39′s Giving Day” ที่ Zepp Tokyo ในวันที่ 9 มีนาคม ค.ศ. 2009 และได้จัดแสดงอีกครั้งที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 2 กรกฏาคม ค.ศ. 2011 ที่ Nokia Theater ในช่วงงาน Anime Expo ซึ่งสร้างความฮือฮาไปทั่วโลก
นอกจากนี้ยังมีวงดนตรีที่ใช้ Vocaloid ในงานเพลงที่น่าสนใจอีกนั่น คือ Supercell ซึ่งเปิดตัวผลงานในงาน Comiket 74 ในวันที่ 16 สิงหาคม ค.ศ. 2008 ก่อนที่จะเซ้นสัญญาร่วมงานกับทาง Sony Music ในวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 2009 โดยผลงานที่เด่น ๆ ได้แก่ Melt, Black Rock Shooter, World is Mine, Koi wa Sensō เป็นต้น
ถึงวันนี้ Miku ครองใจผู้คนมากมาย และมีผลงานที่เกี่ยวข้องกับตัวเธออย่างต่อเนื่อง แล้วคุณล่ะสนใจที่จะร่วมงานกับสาวน้อยคนนี้ เพื่อสร้างฝันให้เป็นจริงไหม?
ขอขอบคุณ www.komkid.com ่ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกกับเรานะครับ.
ก่อนอื่นใดผมต้องขออภัยเป็นอย่างสูงเนื่องจากกระทู้นี้ตามที่จริงควรจะอัพตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ด้วยจากการติดธุระต่างๆจึงทำให้ผมอัพไม่เสร็จ (แง้ๆๆ)
เลยต้องมานั่งอัพต่อในวันนี้ช่วงเย็นๆ จึงต้องขออภัยมานะที่นี้ด้วยนะขอรับ!
เพื่อไม่ให้เสียเวลาการเล่น Dota 2 ของเพื่อนจะขอเข้าเรื่องแล้วล่ะนะ
วันที่ 31 สิงหาคม ใครรู้บ้างไหมเอ่ยว่าเป็นวันอะไร?
วันที่ แจ็คเดอะริปเปอร์ฆ่าเหยื่อสาวรายแรกไง
ช่าย-ช่าย เอ้ย! ไม่ได้ถามถึงเรื่องคดีฆาตกรรม แต่ถามถึงวันเกิดคนสำคัญต่างหาก
ครับทุกท่านฟังไม่ผิดแน่นอน ว้นที่ 31 สิงหาคม ของทุกปีเป็นวันเกิดของบุคคลสำคัญม๊ากมากซึ่งก็คือ
.
.
.
มิคุของเรานั้นเอง
จะว่าไปนี้ก็ครับรอบวันเกิดครั้งที่ 7 เข้าไปแล้ว (เกิด ปีพ.ศ.2550จ๊ะ)
สำหรับประวิตัคราวๆก็ประมาณว่า
ฮะสึเนะ มิคุแปลได้ว่า เสียงแรกแห่งอนาคต (ฮะสึ แปลว่า ครั้งแรก, เนะ แปลว่า เสียง, มิคุ แปลว่า อนาคต) ซึ่งเธอได้ถูกพัฒนามาจากบริษัท Crypton Future Media และเปิดให้ผู้คนได้รู้จักเธอในวันที่ 31 สิงหาคม 2550 (2007) ซึ่งถ้าเทียบในรุ่น Vocaloid 2 เธอถือเป็นตัวแรกเลยทีเดียว
โดยผู้ให้เสียงต้นฉบับเธอนั้นชื่อคุณ Saki Fujita ซึ่งเป็นนักพากย์หญิงญี่ปุ่นที่มีผลงานมากมาย ได้แก่ เสียงของ Mahiru Inami จากเรื่อง Working!! (ค.ศ. 2010 และ 2011), เสียงของ Ruri Hijiribe จากเรื่อง Durarara!! (ค.ศ. 2010), เสียงของ Mina Yayoi จากเรื่อง Tokimeki Memorial Only Love (ค.ศ. 2006) เป็นต้น เรียกได้เลยว่าคุณภาพล้นแก้วเลยล่ะ นอกจากเรื่องของเสียงแล้ว ภาพลักษณ์ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญที่จะผลักดันงานประชาสัมพันธ์ให้ผู้คนได้รู้จัก บริษัท Crypton Future Media จึงให้คุณ Kei Garō เป็นผู้ออกแบบภาพลักษณ์ของ Hatsune Miku ซึ่งผลลัพท์ คือ สาวน้อยอายุ 16 ปี (ปัจจุบันถ้าเป็นจริงก็ 23 ปีแล้ว) ผมสีฟ้า (แต่หลังเริ่มกลายเป็นสีเขียว และน้ำเงิน) สวมเสื้อเปิดไหล่ คู่กับกระโปรง พร้อมปอกแขน และรองเท้าบูท ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะให้เข้ากับตัวโปรแกรม Vocaloid 2 โดยไว้ทรงผมแบบ pigtails (มัดผม 2 ข้าง) ส่วนสูงของร่างกาย 158 ซม. น้ำหนัก 42 กิโลกรัม ร้องเพลงแนว POP/DANCE (เป็นแนวพฃเพลงที่ผู้คนนิยมฟังมากที่สุด ผมคนหนึ่งล่ะที่คิดแบบนั้น) โทนเสียง 70 – 150 dpm ช่วง A3 – E5
หลังจากการเปิดตัวของหนู Miku ชาวชุมชน Nico Nico Douga (Nico Nico Douga เวบไซต์ผู้ให้บริการรับฝาก และเผยแพร่ Video สัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งตัวผมก็เคยเข้าไปชมบ้าง 2-3 ครั้ง) ก็ให้ความสนใจอย่างล้นหลาม โดยได้นำโปรแกรม Vocaloid 2 Hatsune Miku Version มาใช้สร้างสรรค์ผลงานกัน โดยผลงานที่เป็นที่ได้รับความนิยมสูงสุด และส่งผลให้ Hatsune Miku โด่งดังไปทั่วโลก คือ Hachune Miku (Hatsune Miku แบบ SD) ถือต้นหอมญี่ปุ่น ร้องเพลง Ievan Polkka ซึ่งออกแบบภาพได้น่ารัก โดยที่เสียงร้องของ Miku นั้นเข้ากันกับเพลง Ievan Polkka อย่างน่าอัศจรรย์(และทำให้มิคุเราต้องถือต้นหอมเป็นสัญลักษณ์ในเวลาต่อมา ส่วนเหตุผลนั้นคือในเวลาต่อมาเพลง Ievan Polkka ได้ถูกดัดแปลงเป็นเวอร์ชั่นบลีชและในฉากที่โอริฮิเมะควงต้นหอมนั้น บระเจ้าจอร์ด! มันได้เข้ากับจังหวะเพลงดีแท้ บวกกับมีผู้คนกล่าวขานถึงฉากควงต้นหอนนี้มากมายอย่างล้นหลาม ผู้สร้างมิคุเลยจับมิคุถือต้นหอมซะเลยจะได้ทำให้มิคุมีกระแสที่ดังขึ้น ซึ่งมิคุก็ดังจริงในเวลาต่อมา) ส่งผลให้ผู้คนจากทั่วโลกให้ความสนใจ และนำโปรแกรม Vocaloid 2 Hatsune Miku Version มาศึกษา และใช้สร้างผลงานทั้งในรูปแบบเสียง และวีดีโอประกอบงานภาพ 2 มิติ และ 3 มิติ ออกมามากมาย
http://www.youtube.com/watch?v=kbbA9BhCTko
ในเวลาต่อมา และได้มีการนำมิคุเป็นทำเป็นอนิเมชั้นในเรื่อง Lucky Star OVA โดยตัวละคร Kagami Hiiragi ถูกมนต์ให้ cosplay เป็น Hatsune Miku หรือในเรื่อง Kämpfer ตอนที่ 7 ก็ปรากฎตัวละครที่ใส่ชุดกระโปรงเหมือน Miku เป็นต้น นอกจากนี้มิคุยังมีผลงานในฝั่งของเกมไม่น้องอีกเช่นกันโดย Sega ได้นำเธอมาเป็นโปรเจคพัฒนาเกมแนว Rhythm ชื่อว่า Hatsune Miku Project Diva ภาคต่างๆ อีกมากมาย รวมถึงเกมอย่าง Pangya Japan, Tales of Graces, Phantasy Star Portable 2 ก็ได้นำเอาชุดแบบของ Miku มาใช้กับตัวละครในเกมด้วย (เรียกได้เลยว่ากระแสตอบรับโค-ตรจะล้นหลามเลยทีเดียวครับท่านผู้ชม)
จนกระทั้งในปี 2009 Hatsune Miku ก็ได้ขึ้นเวทีแสดงสดครั้งแรกในคอนเสิร์ท Animelo Summer Live 2009 ที่ Saitama Super Arena ในวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 2009 ตามมาด้วยการแสดงสดในต่างประเทศครั้งแรกที่งาน Anime Festival Asia (AFA) ที่ประเทศสิงคโปร์ ในวันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 2009 โดย Miku ได้มีงานคอนเสิร์ทเฉพาะของตัวเอง ในรูปแบบ 3d hologram ในชื่องาน “Miku no Hi Kanshasai 39′s Giving Day” ที่ Zepp Tokyo ในวันที่ 9 มีนาคม ค.ศ. 2009 และได้จัดแสดงอีกครั้งที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 2 กรกฏาคม ค.ศ. 2011 ที่ Nokia Theater ในช่วงงาน Anime Expo ซึ่งสร้างความฮือฮาไปทั่วโลก
http://www.youtube.com/watch?v=4ieTceMV3_8
นอกจากนี้ยังมีวงดนตรีที่ใช้ Vocaloid ในงานเพลงที่น่าสนใจอีกนั่น คือ Supercell ซึ่งเปิดตัวผลงานในงาน Comiket 74 ในวันที่ 16 สิงหาคม ค.ศ. 2008 ก่อนที่จะเซ้นสัญญาร่วมงานกับทาง Sony Music ในวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 2009 โดยผลงานที่เด่น ๆ ได้แก่ Melt, Black Rock Shooter, World is Mine, Koi wa Sensō เป็นต้น
ถึงวันนี้ Miku ครองใจผู้คนมากมาย และมีผลงานที่เกี่ยวข้องกับตัวเธออย่างต่อเนื่อง แล้วคุณล่ะสนใจที่จะร่วมงานกับสาวน้อยคนนี้ เพื่อสร้างฝันให้เป็นจริงไหม?
ขอขอบคุณ www.komkid.com ่ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกกับเรานะครับ.
http://www.youtube.com/watch?v=E7X1eqRw6MQ
รู้ไหมวันที่ 31 สิงหา มันสำคัญยังไง?
โอตาคุที่ดีไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องเมะทุกเรื่อง แต่เป็นโอตาคุที่แบ่งเวลาเป็นต่างหาก
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2557 Sodaman ได้ทำการยุติการใช้บอร์ดนี้แล้ว ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านกระทู้ของผมเสมอมานะครับผม.
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2557 Sodaman ได้ทำการยุติการใช้บอร์ดนี้แล้ว ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านกระทู้ของผมเสมอมานะครับผม.
[IMG]