แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย plam-plam เมื่อ 2011-11-25 16:50
เรื่องมันยาวมาก ก็อปไปอ่านในword ล่ะกันนะ
เหตุการณ์ยิงปะทะของเจ้าหน้าที่ F.B.I. 16 นาย กับผู้ร้าย 2 รายที่เมืองไมอามี่-ดู รัฐฟอริด้า(เขตใต้) ในวันที่ 11 มิถุนายค.ศ. 1986 นะครับ
ถ้าจะเล่าตั้งแต่ต้นมันจะเรื่องตั้งแต่ปีที่แล้วครับไอ้ผู้ร้าย2คนนี้มันประวัติโชคโชนมากฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแล้วไม่ต่ำกว่า10รายไม่นับรวมพนักงานรปภ.อีก 2โหลขอตัดไปวันที่เกิดเหตุเลยก้แล้วกันครับ ผู้ร้าย2คนนี้มีชื่อว่าวิลเลียม แพร็ตทริก(ฉายา ลูกซองมัจจุราชพิฆาตตำรวจ) ส่วนอีกคนชื่อ มิเชล แพ็ท(ฉายา ไอ้คาบินอำหิต บิลลี่ เดอะ คิก แห่งไมอามี่) อย่างที่บอกกล่าวมาทั้ง2รายมีประวัติโชกโชนมากแตเมื่อเจอกับมือปราบโดยกลุ่มเจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศาแห่ง F.B.I. ดูสิว่าจะเป้นยังไง
เมื่อเวลา 8:45น. ณ เช้าวันใหม่ของวันที่ 11มิถุนายน ค.ศ.1986 เจ้าหน้าที่ FBI นำโดยหัวหน้าหน่วยสืบสวนพิเศษ(ยศเทียบเท่าผู้กำกับหรือพันตำรวจเอกถึงพลตำรวจจัตวา)กอดอนแม็กนีล ได้รับเบาะแสถึงแหล่งเป้าหมายที่คนร้ายจะเตรียมบุกปล้นครั้งต่อไปนั้นคือที่ร้านขายรถยนต์ใหม่ที่จะทำการขนถ่ายเงินสดจากการขายสินค้าเพื่อจะนำไปฝากธนาคารจึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ(ยศเทียบเท่าร้อยตำรวจตรีถึงพันตำรวจตรี) 14นาย และระดับรองหัวหน้าหน่วยอีก(ยศเทียบเท่ากับรองผู้กำกับหรือพันตำรวจโท)1 นาย ซึ่งคนร้ายทั้ง2คนเตรียมบุกวันนี้นั้นซึ่งคนร้ายก็ขับรถมาตามตรงเวลาแปะแล้วเจ้าหน้าที่ FBI ก็แสดงตัวเข้าจับกุมแต่แทนที่คนร้ายจะออกจากรถแล้วหมอบลงกับพื้นแล้วยอมมอบตัวแต่โดยดี แต่!!! วิลเลี่ยม แพร็ตทริก ได้โหลดกระสุนลูกซองแบล็กทาลอนแบบลูกโดด ของวินเชสเตอร์ เข้าไปในลุกซองคู่ใจ S&W M3000 ของเขาแล้วออกมายืนยิงเจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ ริชชาร์ด มานูลซี่ในระยะไม่ถึง10ฟุต ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ FBI คนนี้กระเด็นออกไปอีกหลายฟุตด้วยแรงอัดของกระสุนแล้วลงไปนอนแน่นิ่ง ด้วยฝีมือของลุกซองมัจจุราชพิฆาตตำรวจเป้นรายที่11 แล้วระหว่างนั้น มิเชลแพ็ท ก้ได้ลงจากรถของเขาพร้อมด้วยอาวุธคู่ใจ Ruger Mini-14 ขนาดกระสุน5.56NATO หรือกระสุนM-16บ้านเรานั้นแหละแล้วโหลดกระสุนพร้อยยิง ซึ่งเวลาเดียวกับเจ้าหน้าที่ FBI อีก15คนที่เหลืออยู่ เริ่มเปิดฉากยิงเข้าใส่ แล้วตอนนั้นเองเมื่อหัวหน้าหน่วยสืบสวนพิเศษเพิ่งยิงกระสุนจากปืน S&W M19-3 ขนาด.357Magnum ด้วยกระสุน .357Magnum PowerPlus(โหลดดินระเบิดแทนดินปืน)ยิงใส่มือลูกซองมัจจุราชไป6นัด โดนทุกนัด แต่!!! ไอ้วิลเลียม แพร็ตทริก มันไม่สะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อยแล้วพอผู้กำกับจะรีโหลดกระสุนโม่ที่2 เขาก้เหลือไปเห้นไอ้บิลลี่จอมอำหิตหันปืนเล็งมาที่เขาตาประสานตาเขายกมือขึนบังหน้าตัวเองแต่ไอ้บิลลี่ก็ลั่นไกนัดเดียวทะลุมือซ้ายที่เขายกขึ้นมาบังแล้วลุกกระสุนก็พุ่งเข้าที่คอของเขาตัดหลอดลมขาดสะบั้นทำเส้นเลือดใหญ่ฉีดทำให้หัวหน้าFBIผู้นี้ถึงกับลงไปนอนดิ้นทุรนทุรายจนลูกน้อง2คนต้องช่วยลากเขาออกจากจุดปะทะแต่ก็ยังไม่วายดดนไอ้อำหิตยิงซ้ำทำให้ลูกน้องทั้ง2คนบาดเจ้บทั้งคุ่จนถึงกับลมลุกคลุกคลานออกไปกันทั้ง3คน รายต่อมาที่ที่ตกเป็นเหยือคมกระสุนของไอ้อำหิตบิลลี่คือเจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษเอลมูลโด้ มิเรียเรส หลักจากดวลลุกซอง กับไอ้มัจจุราชด้วยลูกซอง RemingtonM870 กันแต่ไม่รุ้ผล จึงชักปืน S&W ขนาด.357Magnumออกมายิงไอ้มัจจุราชแบบกระหนำหมดโม่แต่มันโดนทุกนัดแล้วมันยังไม่ตาย!!!แล้วมันก็บอกเพื่อนมันนั้นก็คือไอ้บิลลี่ให้ยิงเจ้าหน้าที่คนนี้ซึ่งมันก็รีบหันปืนไปช่วยเพื่อนยิงทันที แล้วเหนี่ยวไกปืน1นัดกระสุนพุ่งออกไปโดนตรงสีข้างตัดเส้นเลือดแดง-ดำใหญ่พร้อมกันทะลุปอดขวาต่อด้วยปอดซ้ายแล้วก็เส้นเลือดแดง-ดำใหญ่ด้านซ้ายอีกพร้อมกวาดซี่โครงออกไปอีก4-5อัน สงผลทำให้คุ่หู่ลูกครึ่งแม็กซิกันที่เหมือนกันเขาต้องรีบแบกเพื่อนเขาออกไปแต่ไอ้บิลลี้ก็ยังส่อความโหดเหี้ยมโดยยิงที่ขาทั้ง2ข้างของคุ่หูของเขาจนไปไหนไม่ได้ทั้งคุ่แต่ทั้งรุ้ยังร้องอย่างเจ็บปวดโหยหวนให้เพื่อนช่วย ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ กราเบลียล โอแลนเทียร์ ก็กำลังดวลปืนกับไอ้ลูกซองมัจจุราชกันแบบ2ต่อ1กับคู่หูของเขาเมื่อเขายิงด้วยปืน S&WM29 ขนาด .357Magnum เข้าใส่ไอ้มัจจุราชไป4โม่ เขากำลังโหลดกระสุนโม่ที่5แล้วเดินออกไปหาไอ้มัจจราชวิลเลี่ยมที่กำลังโหลดกระสุนลุกซองอยู่แต่ก็ไม่พ้นสายตาของไอ้อำหิต จึงเล็งไปที่ระหว่างขาของเจ้าหน้าที่ FBI ซึ่งกำลังเดินเข้าหาผู้ร้ายอย่างทะมัดทะแมง จึงลัดไกทีเดียว3นัดรวดนัดแรกเข้าตรงระหว่างขาตัดอาวุธลับของลูกผู้ชายขาดกระจุดพร้อมกับอัณทะ2ไอแหลกเหลวอีก1นัดโดนกระเพาะปัสสาวะแล้วนัดสุดท้ายเข้าไปที่ไตซ้ายทำให้เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ กราเบลียล ร้องลั่น ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ จอห์นฮารอน เห็นคู่หูของเขาโดนยิงแบบนั้นก็เกิดความแค้นตะโกนท้าไอ้อำหิตแล้วยิงกระหน่ำกระสุนจากปืน S&W M36 ขนาด .38Special ของเขาไป5นัดก็ได้ถูกไอ้อำหิตเล็งอย่างใจเย้นแล้วยิงส่วนไปที่ปืนทำให่มือทั้ง2ข้างขาดกระเด็นปืนหลุดไปพร้อมกับมือที่หลุดจากแขนซึ่งเขาไม่ทันที่จะยิงนัดที่6ด้วยซ้ำแล้วกระสุนก้พุ้งเขาไปที่ปากของเขาแล้วด้วยแรงของกระสุนสังหารทำให้หัวส่วนบนที่ติดกับฟันบนแยกออกจากหัวส่วนล่างที่ติดกับฟันกรามเป็นภาพที่สยดสยองที่สุดจนเพื่อนร่วมงาน3คนต้องวิ่งหนีออกมาแต่ก้ไม่วายโดนไอ้บินลี่ยิงขาจนต้องลงไปร้องเสียงหลงกันหมดแล้วไอ้อำหิตก็ค่อยๆเดินเข้าไปช้าๆกับคุ่หูคู่ใจของมันไอ้ลุกซองมหาปะลัยโดนเหยือรายแรกคือเจ้าหน้าที่ เบนจามิน กรอแกน ได้ชักปืน S&W M459 แบบออโต ขนาด9mm. ยิงไปที่ทั้ง2คน9นัดจนหมดแม็กก่อนจะถูกไอ้อำหิตเดินมายิงระยะเผาขนจ่ออกนัดเดียวตัดขั่วหัวใจระยะเผาขนไม่ถึง1ฟุต แล้วตามต่อด้วย เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ เจอรี่ โดฟ ซึ่งคลานไปหนีไปยิงข้างหลังไปได้20นัดจากปืน S&W M459 ขนาด 9mm ไม่รุ้ถูกกี่นัดแล้วพอกระสุนหมดเขาก็คลานหนีแต่ไอ้โจรใจอำหิตก็เล็งปืนอย่างปราณีตแล้วลั่นไกไปที่หัวนัดแรกพลาดไปนิดโดนแก้มถากเอาหัวแลวกระพุ้งแก้มหายไปเลยแล้วเขาก็ยังคลานหนีตอสุดชีวติแล้วมันก็ลั่นไกนัดที่2กระสุนยิงเขากลางหลังศรีษะกะโหลกแตกสมองกระจายซึ่งเพื่อที่อยู่ใกล้ๆเจ้าหน้าที่ เจอรี่ โดฟ ก็ไม่ใช่ใครคู่หูของเขาเองเจาหน้าที่สืบสวนพิเศษ โรแนล ริชเนอร์ ซึ่งเมื่อเห้นสภาพคุ่หูของเขาสมองกระจายมาเต็มตัวเขาเขาก็เสียสติ ร้องเสียงหลงหยิบปินพก S&W M459 ขนาด 9mmออกไป14นัดแล้วก็ยังลั่นไกต่อดดยไม่รุ้ว่ากระสุนนัดหมดไปแล้วแล้วไอ้บิลลี่ก็เอามือผายไปที่เพื่อนมัน ไอ้ลูกซองมัจจุราชเป็นการเชื้อเชิญให้เพื่อนของมันเป้นคนปลิชีพตำรวจผุ้นี้ มันเดินเข้ามาใกล้แล้วโหลดกระสุนBBแบบโปรยฝน(กระสุนที่มีเม็ดตะกั่วเล็กๆเยอะมากๆของกระสุนปืนลูกซองที่นิยมไว้ยิงนก)แล้วยิงออกไปนัดเดียวในระยะดดยประมาณ4-5ฟุตกระสุนกำลังกระจายวงกำลังดีทำให้ลูกตะกั่วกว่า40-60เม็ดกระจายเต็มตัวเจ้าหน้าที่ โรเนล เลือดอาบทั่วตัว ดิ้นทุรนทุรายแบบทรมารที่สุดก่อนมันจะยิงซ้ำนัดที่2ไปที่หลังของเนาทำให้เขาร้องโหยห่วนหนักยิ่งกว่าเดิมแล้วดิ้นปดิ้นมาท่ามกลางเสียงหัวเราะของไอ้ซาดิส-อำหิตทั้ง2คน ตอนนี้FBI 3คนเสียชีวิต 5คนบาดเจ็บสาหัดจนสุ้ต่อไม่ได้3คนบาดเจ้บหนักสติเลือนราง 4คนโดนกระสุนลูกซองคนละไม่ต่ำกว่า10เม็ดแต่ยังสุ้ได้ อีก1คน(รองหัวหน้าหน่วย)โดนยิงด้วยกระสุน5.56NATOถากๆ3นัด อาการดีที่สุดรองหัวหน้าหน่วยเจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ จ็อศ โอแลนโด้ ได้ให้ลูกน้องคนที่ใช้ปืน S&WM29 ขนาด.357Magnum ทั้ง4คน เอากระสุนจากตัวหัวหน้าหน่วย กอร์ดอน แม็คนิล ซึ่งเป้นกระสุนแบบพิเศษที่โหลดดินระเบิดแทนดินปืน บรรจุเข้ารังเพลิงทั้งหมด แล้วเข้าก็ให้ทั้ง4คนแยกออกเป้น2ทีมทีมละ2คนออกไปคนละฟากของติกแล้วระดมยิงใส่ทั้ง2ด้านโดยเขาจะเอาตัวเข้าล่อถ่วงเวลาไว้ ด้วยปืน S&W M459 ขนาด 9mm ซึ่งรองหัวหน้าหน่วยพูดยังไม่ทันขาดคำเขาก้พุ่งตัวออกไปดวลยิงกับผู้ร้านทั้ง2ราย เมื่อยิง เขายิงได้ถึงแม็กที่2(40นัด)กำลังโหลดแม็คที่3เขาถูกกระสุนปืน 5.56 เข้าที่หัวไหลจนทำให้ถึงกำร้องลั่นแล้วก็ถือปืนยิงแบบมือเดียวเข้าสุ้ซึ่งในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ทั้ง3คนที่บาดเจ้บสาหัดก็ต่างช่วยกันยิงคนร้ายแบบซัลโวไม่ยังแต่ก็แทบจะทำอะไรคนร้ายไม่ได้แต่เมื่อทีมจุ่โจมทั้ง2ทีมออกมาจากซอกติกตรงด้านหลังของคนร้ายเขาก็ค่อยๆเดินเข้าไปแล้วซัลโวใส่คนร้ายระยะเผาขนด้วยกระสุนอัดดินระเบิดขนาด .357Magnum ใส่ผุ้รายทั้ง2คน คนละ12นัดแต่ไอ้ลุกซองมัจจุราชก็ได้หันปืนของมันกลับมาแล้วเหนียวไกทำให้เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษแพร็ททริก อาเด็นดัม ถูกยิงลงล้มไปนอนกับพื้น แต่ก็ลุกขึ้นมาอีกครั้งซึ่งในขณะเดียวกันเจ้าบิลลี่ก็หันไปส่วนกลัยด้วยปืนลูกโม่ S&W M586 ขนาด.357Magnum 2กระบอกด้วยการถือแบบปืนคู่ ซึ่งทั้ง2กระบอกได้ยิงแค่กระบอกละ3นัดเท่านั้น เจ้าอำหิตบิลลี่เดอะ คิด แห่งไมอามี่ ก็ต้องสิ้นชื่อด้วยการกระหน่ำยิงล็อคที่2ไปที่บริเวณใบหน้าจากเจ้าหน้าที่ FBI ทั้ง2คนจนหน้าเละไม่แทบไม่เหลือส่วนหัวไว้เลยส่วนไอ้ลูกซองมัจจุราชมันยังไม่ตายมันกำลังจะหยิบลูกซองมาเพื่อจะขึ้นลำใหม่แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ แพร็ททริก อาเดนดำเหยียบปืนเอาไว้ แล้วเจ้าหน้าที่ แพ็ททริก กับคู่หู่ FBI ของเขาก้กระหนำ.357 Magnum เข้าไปที่หัวถึง12นัดจึงได้ดับชื่อ ไอ้ลูกซองมัจจุราชพิฆาตตำรวจลงได้
ถ้าจะเล่าตั้งแต่ต้นมันจะเรื่องตั้งแต่ปีที่แล้วครับไอ้ผู้ร้าย2คนนี้มันประวัติโชคโชนมากฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแล้วไม่ต่ำกว่า10รายไม่นับรวมพนักงานรปภ.อีก 2โหลขอตัดไปวันที่เกิดเหตุเลยก้แล้วกันครับ ผู้ร้าย2คนนี้มีชื่อว่าวิลเลียม แพร็ตทริก(ฉายา ลูกซองมัจจุราชพิฆาตตำรวจ) ส่วนอีกคนชื่อ มิเชล แพ็ท(ฉายา ไอ้คาบินอำหิต บิลลี่ เดอะ คิก แห่งไมอามี่) อย่างที่บอกกล่าวมาทั้ง2รายมีประวัติโชกโชนมากแตเมื่อเจอกับมือปราบโดยกลุ่มเจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศาแห่ง F.B.I. ดูสิว่าจะเป้นยังไง
เมื่อเวลา 8:45น. ณ เช้าวันใหม่ของวันที่ 11มิถุนายน ค.ศ.1986 เจ้าหน้าที่ FBI นำโดยหัวหน้าหน่วยสืบสวนพิเศษ(ยศเทียบเท่าผู้กำกับหรือพันตำรวจเอกถึงพลตำรวจจัตวา)กอดอนแม็กนีล ได้รับเบาะแสถึงแหล่งเป้าหมายที่คนร้ายจะเตรียมบุกปล้นครั้งต่อไปนั้นคือที่ร้านขายรถยนต์ใหม่ที่จะทำการขนถ่ายเงินสดจากการขายสินค้าเพื่อจะนำไปฝากธนาคารจึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ(ยศเทียบเท่าร้อยตำรวจตรีถึงพันตำรวจตรี) 14นาย และระดับรองหัวหน้าหน่วยอีก(ยศเทียบเท่ากับรองผู้กำกับหรือพันตำรวจโท)1 นาย ซึ่งคนร้ายทั้ง2คนเตรียมบุกวันนี้นั้นซึ่งคนร้ายก็ขับรถมาตามตรงเวลาแปะแล้วเจ้าหน้าที่ FBI ก็แสดงตัวเข้าจับกุมแต่แทนที่คนร้ายจะออกจากรถแล้วหมอบลงกับพื้นแล้วยอมมอบตัวแต่โดยดี แต่!!! วิลเลี่ยม แพร็ตทริก ได้โหลดกระสุนลูกซองแบล็กทาลอนแบบลูกโดด ของวินเชสเตอร์ เข้าไปในลุกซองคู่ใจ S&W M3000 ของเขาแล้วออกมายืนยิงเจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ ริชชาร์ด มานูลซี่ในระยะไม่ถึง10ฟุต ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ FBI คนนี้กระเด็นออกไปอีกหลายฟุตด้วยแรงอัดของกระสุนแล้วลงไปนอนแน่นิ่ง ด้วยฝีมือของลุกซองมัจจุราชพิฆาตตำรวจเป้นรายที่11 แล้วระหว่างนั้น มิเชลแพ็ท ก้ได้ลงจากรถของเขาพร้อมด้วยอาวุธคู่ใจ Ruger Mini-14 ขนาดกระสุน5.56NATO หรือกระสุนM-16บ้านเรานั้นแหละแล้วโหลดกระสุนพร้อยยิง ซึ่งเวลาเดียวกับเจ้าหน้าที่ FBI อีก15คนที่เหลืออยู่ เริ่มเปิดฉากยิงเข้าใส่ แล้วตอนนั้นเองเมื่อหัวหน้าหน่วยสืบสวนพิเศษเพิ่งยิงกระสุนจากปืน S&W M19-3 ขนาด.357Magnum ด้วยกระสุน .357Magnum PowerPlus(โหลดดินระเบิดแทนดินปืน)ยิงใส่มือลูกซองมัจจุราชไป6นัด โดนทุกนัด แต่!!! ไอ้วิลเลียม แพร็ตทริก มันไม่สะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อยแล้วพอผู้กำกับจะรีโหลดกระสุนโม่ที่2 เขาก้เหลือไปเห้นไอ้บิลลี่จอมอำหิตหันปืนเล็งมาที่เขาตาประสานตาเขายกมือขึนบังหน้าตัวเองแต่ไอ้บิลลี่ก็ลั่นไกนัดเดียวทะลุมือซ้ายที่เขายกขึ้นมาบังแล้วลุกกระสุนก็พุ่งเข้าที่คอของเขาตัดหลอดลมขาดสะบั้นทำเส้นเลือดใหญ่ฉีดทำให้หัวหน้าFBIผู้นี้ถึงกับลงไปนอนดิ้นทุรนทุรายจนลูกน้อง2คนต้องช่วยลากเขาออกจากจุดปะทะแต่ก็ยังไม่วายดดนไอ้อำหิตยิงซ้ำทำให้ลูกน้องทั้ง2คนบาดเจ้บทั้งคุ่จนถึงกับลมลุกคลุกคลานออกไปกันทั้ง3คน รายต่อมาที่ที่ตกเป็นเหยือคมกระสุนของไอ้อำหิตบิลลี่คือเจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษเอลมูลโด้ มิเรียเรส หลักจากดวลลุกซอง กับไอ้มัจจุราชด้วยลูกซอง RemingtonM870 กันแต่ไม่รุ้ผล จึงชักปืน S&W ขนาด.357Magnumออกมายิงไอ้มัจจุราชแบบกระหนำหมดโม่แต่มันโดนทุกนัดแล้วมันยังไม่ตาย!!!แล้วมันก็บอกเพื่อนมันนั้นก็คือไอ้บิลลี่ให้ยิงเจ้าหน้าที่คนนี้ซึ่งมันก็รีบหันปืนไปช่วยเพื่อนยิงทันที แล้วเหนี่ยวไกปืน1นัดกระสุนพุ่งออกไปโดนตรงสีข้างตัดเส้นเลือดแดง-ดำใหญ่พร้อมกันทะลุปอดขวาต่อด้วยปอดซ้ายแล้วก็เส้นเลือดแดง-ดำใหญ่ด้านซ้ายอีกพร้อมกวาดซี่โครงออกไปอีก4-5อัน สงผลทำให้คุ่หู่ลูกครึ่งแม็กซิกันที่เหมือนกันเขาต้องรีบแบกเพื่อนเขาออกไปแต่ไอ้บิลลี้ก็ยังส่อความโหดเหี้ยมโดยยิงที่ขาทั้ง2ข้างของคุ่หูของเขาจนไปไหนไม่ได้ทั้งคุ่แต่ทั้งรุ้ยังร้องอย่างเจ็บปวดโหยหวนให้เพื่อนช่วย ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ กราเบลียล โอแลนเทียร์ ก็กำลังดวลปืนกับไอ้ลูกซองมัจจุราชกันแบบ2ต่อ1กับคู่หูของเขาเมื่อเขายิงด้วยปืน S&WM29 ขนาด .357Magnum เข้าใส่ไอ้มัจจุราชไป4โม่ เขากำลังโหลดกระสุนโม่ที่5แล้วเดินออกไปหาไอ้มัจจราชวิลเลี่ยมที่กำลังโหลดกระสุนลุกซองอยู่แต่ก็ไม่พ้นสายตาของไอ้อำหิต จึงเล็งไปที่ระหว่างขาของเจ้าหน้าที่ FBI ซึ่งกำลังเดินเข้าหาผู้ร้ายอย่างทะมัดทะแมง จึงลัดไกทีเดียว3นัดรวดนัดแรกเข้าตรงระหว่างขาตัดอาวุธลับของลูกผู้ชายขาดกระจุดพร้อมกับอัณทะ2ไอแหลกเหลวอีก1นัดโดนกระเพาะปัสสาวะแล้วนัดสุดท้ายเข้าไปที่ไตซ้ายทำให้เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ กราเบลียล ร้องลั่น ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ จอห์นฮารอน เห็นคู่หูของเขาโดนยิงแบบนั้นก็เกิดความแค้นตะโกนท้าไอ้อำหิตแล้วยิงกระหน่ำกระสุนจากปืน S&W M36 ขนาด .38Special ของเขาไป5นัดก็ได้ถูกไอ้อำหิตเล็งอย่างใจเย้นแล้วยิงส่วนไปที่ปืนทำให่มือทั้ง2ข้างขาดกระเด็นปืนหลุดไปพร้อมกับมือที่หลุดจากแขนซึ่งเขาไม่ทันที่จะยิงนัดที่6ด้วยซ้ำแล้วกระสุนก้พุ้งเขาไปที่ปากของเขาแล้วด้วยแรงของกระสุนสังหารทำให้หัวส่วนบนที่ติดกับฟันบนแยกออกจากหัวส่วนล่างที่ติดกับฟันกรามเป็นภาพที่สยดสยองที่สุดจนเพื่อนร่วมงาน3คนต้องวิ่งหนีออกมาแต่ก้ไม่วายโดนไอ้บินลี่ยิงขาจนต้องลงไปร้องเสียงหลงกันหมดแล้วไอ้อำหิตก็ค่อยๆเดินเข้าไปช้าๆกับคุ่หูคู่ใจของมันไอ้ลุกซองมหาปะลัยโดนเหยือรายแรกคือเจ้าหน้าที่ เบนจามิน กรอแกน ได้ชักปืน S&W M459 แบบออโต ขนาด9mm. ยิงไปที่ทั้ง2คน9นัดจนหมดแม็กก่อนจะถูกไอ้อำหิตเดินมายิงระยะเผาขนจ่ออกนัดเดียวตัดขั่วหัวใจระยะเผาขนไม่ถึง1ฟุต แล้วตามต่อด้วย เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ เจอรี่ โดฟ ซึ่งคลานไปหนีไปยิงข้างหลังไปได้20นัดจากปืน S&W M459 ขนาด 9mm ไม่รุ้ถูกกี่นัดแล้วพอกระสุนหมดเขาก็คลานหนีแต่ไอ้โจรใจอำหิตก็เล็งปืนอย่างปราณีตแล้วลั่นไกไปที่หัวนัดแรกพลาดไปนิดโดนแก้มถากเอาหัวแลวกระพุ้งแก้มหายไปเลยแล้วเขาก็ยังคลานหนีตอสุดชีวติแล้วมันก็ลั่นไกนัดที่2กระสุนยิงเขากลางหลังศรีษะกะโหลกแตกสมองกระจายซึ่งเพื่อที่อยู่ใกล้ๆเจ้าหน้าที่ เจอรี่ โดฟ ก็ไม่ใช่ใครคู่หูของเขาเองเจาหน้าที่สืบสวนพิเศษ โรแนล ริชเนอร์ ซึ่งเมื่อเห้นสภาพคุ่หูของเขาสมองกระจายมาเต็มตัวเขาเขาก็เสียสติ ร้องเสียงหลงหยิบปินพก S&W M459 ขนาด 9mmออกไป14นัดแล้วก็ยังลั่นไกต่อดดยไม่รุ้ว่ากระสุนนัดหมดไปแล้วแล้วไอ้บิลลี่ก็เอามือผายไปที่เพื่อนมัน ไอ้ลูกซองมัจจุราชเป็นการเชื้อเชิญให้เพื่อนของมันเป้นคนปลิชีพตำรวจผุ้นี้ มันเดินเข้ามาใกล้แล้วโหลดกระสุนBBแบบโปรยฝน(กระสุนที่มีเม็ดตะกั่วเล็กๆเยอะมากๆของกระสุนปืนลูกซองที่นิยมไว้ยิงนก)แล้วยิงออกไปนัดเดียวในระยะดดยประมาณ4-5ฟุตกระสุนกำลังกระจายวงกำลังดีทำให้ลูกตะกั่วกว่า40-60เม็ดกระจายเต็มตัวเจ้าหน้าที่ โรเนล เลือดอาบทั่วตัว ดิ้นทุรนทุรายแบบทรมารที่สุดก่อนมันจะยิงซ้ำนัดที่2ไปที่หลังของเนาทำให้เขาร้องโหยห่วนหนักยิ่งกว่าเดิมแล้วดิ้นปดิ้นมาท่ามกลางเสียงหัวเราะของไอ้ซาดิส-อำหิตทั้ง2คน ตอนนี้FBI 3คนเสียชีวิต 5คนบาดเจ็บสาหัดจนสุ้ต่อไม่ได้3คนบาดเจ้บหนักสติเลือนราง 4คนโดนกระสุนลูกซองคนละไม่ต่ำกว่า10เม็ดแต่ยังสุ้ได้ อีก1คน(รองหัวหน้าหน่วย)โดนยิงด้วยกระสุน5.56NATOถากๆ3นัด อาการดีที่สุดรองหัวหน้าหน่วยเจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ จ็อศ โอแลนโด้ ได้ให้ลูกน้องคนที่ใช้ปืน S&WM29 ขนาด.357Magnum ทั้ง4คน เอากระสุนจากตัวหัวหน้าหน่วย กอร์ดอน แม็คนิล ซึ่งเป้นกระสุนแบบพิเศษที่โหลดดินระเบิดแทนดินปืน บรรจุเข้ารังเพลิงทั้งหมด แล้วเข้าก็ให้ทั้ง4คนแยกออกเป้น2ทีมทีมละ2คนออกไปคนละฟากของติกแล้วระดมยิงใส่ทั้ง2ด้านโดยเขาจะเอาตัวเข้าล่อถ่วงเวลาไว้ ด้วยปืน S&W M459 ขนาด 9mm ซึ่งรองหัวหน้าหน่วยพูดยังไม่ทันขาดคำเขาก้พุ่งตัวออกไปดวลยิงกับผู้ร้านทั้ง2ราย เมื่อยิง เขายิงได้ถึงแม็กที่2(40นัด)กำลังโหลดแม็คที่3เขาถูกกระสุนปืน 5.56 เข้าที่หัวไหลจนทำให้ถึงกำร้องลั่นแล้วก็ถือปืนยิงแบบมือเดียวเข้าสุ้ซึ่งในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ทั้ง3คนที่บาดเจ้บสาหัดก็ต่างช่วยกันยิงคนร้ายแบบซัลโวไม่ยังแต่ก็แทบจะทำอะไรคนร้ายไม่ได้แต่เมื่อทีมจุ่โจมทั้ง2ทีมออกมาจากซอกติกตรงด้านหลังของคนร้ายเขาก็ค่อยๆเดินเข้าไปแล้วซัลโวใส่คนร้ายระยะเผาขนด้วยกระสุนอัดดินระเบิดขนาด .357Magnum ใส่ผุ้รายทั้ง2คน คนละ12นัดแต่ไอ้ลุกซองมัจจุราชก็ได้หันปืนของมันกลับมาแล้วเหนียวไกทำให้เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษแพร็ททริก อาเด็นดัม ถูกยิงลงล้มไปนอนกับพื้น แต่ก็ลุกขึ้นมาอีกครั้งซึ่งในขณะเดียวกันเจ้าบิลลี่ก็หันไปส่วนกลัยด้วยปืนลูกโม่ S&W M586 ขนาด.357Magnum 2กระบอกด้วยการถือแบบปืนคู่ ซึ่งทั้ง2กระบอกได้ยิงแค่กระบอกละ3นัดเท่านั้น เจ้าอำหิตบิลลี่เดอะ คิด แห่งไมอามี่ ก็ต้องสิ้นชื่อด้วยการกระหน่ำยิงล็อคที่2ไปที่บริเวณใบหน้าจากเจ้าหน้าที่ FBI ทั้ง2คนจนหน้าเละไม่แทบไม่เหลือส่วนหัวไว้เลยส่วนไอ้ลูกซองมัจจุราชมันยังไม่ตายมันกำลังจะหยิบลูกซองมาเพื่อจะขึ้นลำใหม่แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ แพร็ททริก อาเดนดำเหยียบปืนเอาไว้ แล้วเจ้าหน้าที่ แพ็ททริก กับคู่หู่ FBI ของเขาก้กระหนำ.357 Magnum เข้าไปที่หัวถึง12นัดจึงได้ดับชื่อ ไอ้ลูกซองมัจจุราชพิฆาตตำรวจลงได้
งานนี้จึงมีเจ้าหน้าที่ FBI เสียชีวิต ทันที 3 นายนั้นคือ
1).เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ จอห์น โฮลอน เสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยปืนRuger Mini-14 ขนาด 5.56NATO เข้าที่ปากทำให้หัวถูกตัดออกเป้น2เสียง ขาดออกจากกัน
2).เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ เบนจามิน โกรแกนเสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยปืน Ruger Mini-14 ขนาด 5.56NATOเข้าที่กลางอกตัดขั่วหัวใจขาดสะบั้น
3).เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ เจอรี่ โดฟ เสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยปืนRuger Mini-14 ขนาด 5.56NATO เข้าที่หลังหัวทะลุหน้าผากสมองกระจาย
แล้วก็มีเจ้าหน้าที่ FBI ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตต่อมาภายหลังอีก5 นาย ได้แก่
4).เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ ริฃาร์ด มานูลซี่ เสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยปืนS&W M3000 ขนาด 12เกจ ด้วยกระสุนแบล็คทาล่อน(แบบแก้ไขหัวกระสุนเป้นอาบยาพิษ)ของวินเชสเตอร์* จนทนพิษบาดแผลไม่ไหว (1วัน หลังเกิดเหตุ)
5).หัวหน้าหน่วยสือสวนพิเศษ กอร์ดอน แม็คนีลเสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยปืน Ruger Mini-14 ขนาด 5.56NATOเข้าที่ก้านขอตัดหลอดลมและเส้นเลือดใหญ่เสียชีวิตเนื่องจากเข้ารับการรักษาช้าเกินไปและเสียเลือดมากเกินไป (1 วัน หลังเกิดเหตุ)
6).เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ เอลมุลโด้ มิเรียเรสเสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยปืน Ruger Mini-14 ขนาด 5.56NATOเข้าที่ชายโครงทะลุเส้นเลือดใหญ่ทั้ง4เส้นทะลุปอดทั้ง2ข้าง ทำลายซี่โครงกระจุยอีก5ซี่ สาเหตุการเสียชีวิต เสียเลือดมากเกินไปจนการทำงานของปอดล้มเหลวจนร่างกายไม่มีออกซิเจน ไปเลี้ยงสมอง
7).เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ กลาเบลียล โฮแลนเทีย กอร์ดอน แม็คนีลเสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยปืน Ruger Mini-14 ขนาด 5.56NATOเข้าที่อวัยวะเพศชาย(ขาดกระจุยทั้งยวง),กระเพาะปัสสาวะถูกทำลาย,ไตซ้ายถูกทำลาย สาเหตุการเสียชีวิต ช็อคตายเนื้องจากฟื้นขึ้นมาได้สติแล้วเอ่อ.....เกียร์ล่างหาย แล้วร่างกายอ่อนเพลียเนื้องจากไตกับกระเพาะปัสวะถูกทำลาย (2วัน หลังเกิดเหตุ)
8).เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ โรแนล ริชเนอร์เสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยปืน S&W M3000 ขนาด 12เกจ ด้วยกระสุน BB(BlackBlock)แบบโปรยฝน**เม็ดตะกีวฝั่งร่างกว่า120เม็ด สาเหตุการเสียชีวติเนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว (4 วัน หลังเกิดเหตุ)
ทางฝ่ายผู้ร้าย ตาย 2 ราย ทันทีในที่เกิดเหตุ
1).นาย วิลเลียม แพร็ตทริก(ฉายา ลูกซองมัจจุราชพิฆาตตำรวจ)ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9mm,.38Special และ,.357Magnumตามร่างกายมากกว่า60นัดสาเหตุจากการตายเนื้องจากถูกระดมยิงจนหัวกระจุย(12นัด)รวมการถูกยิงทั้งสิ้นคือประมาณ72-80นัด
2).นาย มิเชล แพ็ท (ฉายา ไอ้คาบินอำหิต บิลลี่ เดอะ คิกแห่งไมอามี่) ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9mm,.38Special และ,.357Magnumตามร่างกายมากกว่า42นัดสาเหตุจากการตายเนื้องจากถูกระดมยิงจนหัวกระจุย(12นัด)รวมการถูกยิงทั้งสิ้นคือ54นัดถ้วน
*กระสุน แบล็คทาล่อน เป็นกระสุนที่ผลิตขึ้นโดยวินเชสเตอร์ในปี ค.ศ.1981ปัจจุบันเป้นกระสุนห้ามจำหน่ายแล้วห้ามใช้ในสงครามตามสนธิสัญญาเจนีวา เข้าข่ายกระสุนดัมมี่ ซึ่งเมื่อพุ่งเข้าไปในร่างกายคนกระสุนแบบลุกดก1นัดตามปกติจะทำแผลเป้นแนวตรงแล้วจะทะลุออกไปแต่กระสุนตระกุลดัมมี่จะบานออกแล้วส่งเหล็กส่วนที่บานนั้นเข้าไปติดทำลายหรือฝังในอวัยวะภายในสงผลให้เกิดความเจ้บปวดทรมาณเกินความจำเป้นและเป้นการยุ่งยากแก่การรักษาซึ่งมีประวัติหมอผ่าตัดพยายามหยิบกระสุนชนิดนี้ออกมาจากร่างคนที่กำลังดิ้นทุรนทุรายแล้วตัวเองหัวความคมของกระสุนตัดนิ้วหมอขาดไป2นิ้ว แต่กระสุนแบล็คทาล่อนที่ วิลเลียม แพร็ตทริกใช้นั้นเขาได้โหลดสารตัวนึงเข้าไปในหัวกระสุนด้วยซึ่งสารนี้มันจะให้ผลตรงกันข้ามกับมอฟีน ซึ่งถ้ามอฟีนคือยาลดอาการความเจ้บปวดสารตัวนี้ก็คือยาที่เพิ่มอาการความเจ้บปวดนั้นเองจึงไม่น่าแปลกใจที่คนโดนกระสุนชนิดนี้ยิงแทบจะตายสนิดทุกราย ปัจจุบันมันยังเป้นหัวกระสุนปืนพกและลูกซองลูกดกที่มีประวัติค่าเฉลียสังหารสุงสุดและรอดชีวิตต่ำสุดในประวัติศาสตร์อาวุธปืนจนถึงปัจจุบันหรือก็คือตั้งแต่มีเหตุการที่มีการปะทะด้วยกระสุนแบล็คทาล่อนนั้นทั้ง11,428ครั้ง คุ่กรณี ส่วนใหญ่ถูกยิงไม่เกิน3นัดและกว่า66%ถูกยิงแค่นัดเดียว แต่ทั้ง 11,428ครั้งคู่กรณีเสียชีวิตทุกราย มันจึงถูกสังห้ามทำการจำหน่ายในสหรัฐตั้งแต่ต้นปี ค.ศ. 2000เป็นต้นมา (ขอมูลจากสารบบของกรมควบคุมสุรายาสูบและอาวุธปืน A.T.F.และขอมูลจากสารบบ มาแชล หมวดหัวกระสุนต้องห้าม)
**กระสุนปืนลูกซองแบบ BlackBlock ชนิด โปรยฝนหรือยิงนกหรือที่เรียกกันว่า Birdshot นั้นจะใช้แทนลูกกระสุนขนาด12ปกติที่มีกระสุนเม็ดละ1ปอน12เม็ดเป้นกระสุนขนาดเล็กกว่ามีแบบที่ลุกกระสุนน้อยที่สุด35เม็ดไปจนถึงลูกกระสุนแบบโปรยฝนกวาดพื้นที่892เม็ด แต่ที่ วิลเลียม แพร็ตทริก ใช้นั้นน่าจะเป้น Birdshot เบอร์2 จนนวนลูกตะกั่วทั้งสิ้น 125 เม็ดถ้าเอาไปยิงคนร่างกายจะเวอะหวะมากแต่มันแทบจะไม่มีอำนาจทะลุทะลวงกับร่างการของมนุษย์มากเท่าไหร่นักแต่ก็พอจะสร้างบาดแผลจำนวนมากที่จะไปกดทับเส้นประสาททำให้สมองรับความเจ้บปวดไม่ไหวแล้วก้ตายเพราะความเจ้บปวดในที่สุด(ทั้งๆที่ไกลหัวใจนัก)จากเหตุการณ์ที่ผมได้กล่าวไปข้างต้นนั้น ทำให้ผมฉุดคิดได้แล้วว่า ถ้ามันมีผู้ร้ายแบบไอ้นรก2ตัวที่มันก่อคดีในปี 1986 จริงละก็นะกระสุนยางนะฝันไปได้เลยท่าน เพราะไอ้เจ้า วิลเลียม แพร็ตทริก นั้นนะได้ปืนลูกซอง S&WM3000 มาจากการฆ่า รปภ. ขนส่งเงิน เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ปี ค.ศ. 1984 หรือ2ปีก่อนมันจะมาตายในเหตุการณ์ครั้งนี้ซึ่ง ตำรวจใช้ปืนลูกซอง อัดกระสุนยางเต็ม8นัดทั้งๆที่เขาบอกให้อัดกระสุนจริงแต่ตำรวจคนนั้นเป็นคนอ่อนโลกไม่อยากฆ่าคนอายุยังน้อยพอไอ้เจ้า วิลเลียม แพร็ตทริก ตอนนั้นมันมาปล้นมันมีแค่มีดสปาต้าอันเดียวส่วนเพื่อนมันตอนนั้นมีปืนS&W M586 ขนาด.357Magnum กระบอกเดียวซึ่งก้ได้กระบอกที่2จาก ตำรวจ อีกคนตำรวจคนนั้นยิงอัดกระสุนยาใส่มันระยะกลางถึงใกล้(มันวิ่งเข้าใส่)ดดนหมด8นัดแต่มันก็ยังวิ่งเข้ามาอีกแล้วไม่ทันที่จะได้โหลดกระสุนมีดสปาต้าที่เจ้า วิลเลียม แพร็ตทริก ถือมามันก็ได้ใช้งานเลยตัดตำรวจหนุ่มหัวขาดกระเด็นส่วนคู่หูลูกพี่มันเห็นรุ่นน้องหัวขาดก็วิ่งหนีไปแอบขอกำลังเสริมแต่เสรือกทำปืนตกไว้ไอ้เจ้ามิเชล แพ็ท หรือไอ้จอมอำหิตบิลลี่ก็เลยลาภลอยได้ปืนกระบอกที่2ไป อย่างที่กล่าวไปนะครับ ไม่มีทางหยุดคนที่มีความต้งการรุนแรงและมีพลังชีวิตสูงแม้จะยิงไปสักกี่นัดก็ตามถ้าไม่เข้าจุดตายหรือจุดสิ้นสภาพมันไม่มีทางหยุดจนกว่ามันจะได้ฆ่าเราหรอกครับและเมื่อมันฆ่าเราเร้จรายต่าไปคือลูกเราเมืยเราหรือหพ่อ,แม่,ฯลฯเพราะเราดันไปกระตุนให้มันบันดาลโทษะไปแล้วมันไม่หยุดแค่ที่เอาเราตายหรอกครับเชื่อผมสิฉะนั้น เรื่องกระสุนยางนะ ผมว่าอย่าใช้จะดีกว่าครับกระสุนจริงหัวตะกัวไม่ก็หัวรูเนียแน่นอนกว่าอน่าเล็งสูงมากกว่าอกแค่นั้นไม่ว่ายังไงก็ไม่ตายแล้วครับ(ถ้าไม่เข้าอวัยวะสำคัญหรือปืนไม่อัดลูกแรงสุงจนเวอร์อะนะ)
1).เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ จอห์น โฮลอน เสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยปืนRuger Mini-14 ขนาด 5.56NATO เข้าที่ปากทำให้หัวถูกตัดออกเป้น2เสียง ขาดออกจากกัน
2).เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ เบนจามิน โกรแกนเสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยปืน Ruger Mini-14 ขนาด 5.56NATOเข้าที่กลางอกตัดขั่วหัวใจขาดสะบั้น
3).เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ เจอรี่ โดฟ เสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยปืนRuger Mini-14 ขนาด 5.56NATO เข้าที่หลังหัวทะลุหน้าผากสมองกระจาย
แล้วก็มีเจ้าหน้าที่ FBI ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตต่อมาภายหลังอีก5 นาย ได้แก่
4).เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ ริฃาร์ด มานูลซี่ เสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยปืนS&W M3000 ขนาด 12เกจ ด้วยกระสุนแบล็คทาล่อน(แบบแก้ไขหัวกระสุนเป้นอาบยาพิษ)ของวินเชสเตอร์* จนทนพิษบาดแผลไม่ไหว (1วัน หลังเกิดเหตุ)
5).หัวหน้าหน่วยสือสวนพิเศษ กอร์ดอน แม็คนีลเสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยปืน Ruger Mini-14 ขนาด 5.56NATOเข้าที่ก้านขอตัดหลอดลมและเส้นเลือดใหญ่เสียชีวิตเนื่องจากเข้ารับการรักษาช้าเกินไปและเสียเลือดมากเกินไป (1 วัน หลังเกิดเหตุ)
6).เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ เอลมุลโด้ มิเรียเรสเสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยปืน Ruger Mini-14 ขนาด 5.56NATOเข้าที่ชายโครงทะลุเส้นเลือดใหญ่ทั้ง4เส้นทะลุปอดทั้ง2ข้าง ทำลายซี่โครงกระจุยอีก5ซี่ สาเหตุการเสียชีวิต เสียเลือดมากเกินไปจนการทำงานของปอดล้มเหลวจนร่างกายไม่มีออกซิเจน ไปเลี้ยงสมอง
7).เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ กลาเบลียล โฮแลนเทีย กอร์ดอน แม็คนีลเสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยปืน Ruger Mini-14 ขนาด 5.56NATOเข้าที่อวัยวะเพศชาย(ขาดกระจุยทั้งยวง),กระเพาะปัสสาวะถูกทำลาย,ไตซ้ายถูกทำลาย สาเหตุการเสียชีวิต ช็อคตายเนื้องจากฟื้นขึ้นมาได้สติแล้วเอ่อ.....เกียร์ล่างหาย แล้วร่างกายอ่อนเพลียเนื้องจากไตกับกระเพาะปัสวะถูกทำลาย (2วัน หลังเกิดเหตุ)
8).เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ โรแนล ริชเนอร์เสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยปืน S&W M3000 ขนาด 12เกจ ด้วยกระสุน BB(BlackBlock)แบบโปรยฝน**เม็ดตะกีวฝั่งร่างกว่า120เม็ด สาเหตุการเสียชีวติเนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว (4 วัน หลังเกิดเหตุ)
ทางฝ่ายผู้ร้าย ตาย 2 ราย ทันทีในที่เกิดเหตุ
1).นาย วิลเลียม แพร็ตทริก(ฉายา ลูกซองมัจจุราชพิฆาตตำรวจ)ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9mm,.38Special และ,.357Magnumตามร่างกายมากกว่า60นัดสาเหตุจากการตายเนื้องจากถูกระดมยิงจนหัวกระจุย(12นัด)รวมการถูกยิงทั้งสิ้นคือประมาณ72-80นัด
2).นาย มิเชล แพ็ท (ฉายา ไอ้คาบินอำหิต บิลลี่ เดอะ คิกแห่งไมอามี่) ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9mm,.38Special และ,.357Magnumตามร่างกายมากกว่า42นัดสาเหตุจากการตายเนื้องจากถูกระดมยิงจนหัวกระจุย(12นัด)รวมการถูกยิงทั้งสิ้นคือ54นัดถ้วน
*กระสุน แบล็คทาล่อน เป็นกระสุนที่ผลิตขึ้นโดยวินเชสเตอร์ในปี ค.ศ.1981ปัจจุบันเป้นกระสุนห้ามจำหน่ายแล้วห้ามใช้ในสงครามตามสนธิสัญญาเจนีวา เข้าข่ายกระสุนดัมมี่ ซึ่งเมื่อพุ่งเข้าไปในร่างกายคนกระสุนแบบลุกดก1นัดตามปกติจะทำแผลเป้นแนวตรงแล้วจะทะลุออกไปแต่กระสุนตระกุลดัมมี่จะบานออกแล้วส่งเหล็กส่วนที่บานนั้นเข้าไปติดทำลายหรือฝังในอวัยวะภายในสงผลให้เกิดความเจ้บปวดทรมาณเกินความจำเป้นและเป้นการยุ่งยากแก่การรักษาซึ่งมีประวัติหมอผ่าตัดพยายามหยิบกระสุนชนิดนี้ออกมาจากร่างคนที่กำลังดิ้นทุรนทุรายแล้วตัวเองหัวความคมของกระสุนตัดนิ้วหมอขาดไป2นิ้ว แต่กระสุนแบล็คทาล่อนที่ วิลเลียม แพร็ตทริกใช้นั้นเขาได้โหลดสารตัวนึงเข้าไปในหัวกระสุนด้วยซึ่งสารนี้มันจะให้ผลตรงกันข้ามกับมอฟีน ซึ่งถ้ามอฟีนคือยาลดอาการความเจ้บปวดสารตัวนี้ก็คือยาที่เพิ่มอาการความเจ้บปวดนั้นเองจึงไม่น่าแปลกใจที่คนโดนกระสุนชนิดนี้ยิงแทบจะตายสนิดทุกราย ปัจจุบันมันยังเป้นหัวกระสุนปืนพกและลูกซองลูกดกที่มีประวัติค่าเฉลียสังหารสุงสุดและรอดชีวิตต่ำสุดในประวัติศาสตร์อาวุธปืนจนถึงปัจจุบันหรือก็คือตั้งแต่มีเหตุการที่มีการปะทะด้วยกระสุนแบล็คทาล่อนนั้นทั้ง11,428ครั้ง คุ่กรณี ส่วนใหญ่ถูกยิงไม่เกิน3นัดและกว่า66%ถูกยิงแค่นัดเดียว แต่ทั้ง 11,428ครั้งคู่กรณีเสียชีวิตทุกราย มันจึงถูกสังห้ามทำการจำหน่ายในสหรัฐตั้งแต่ต้นปี ค.ศ. 2000เป็นต้นมา (ขอมูลจากสารบบของกรมควบคุมสุรายาสูบและอาวุธปืน A.T.F.และขอมูลจากสารบบ มาแชล หมวดหัวกระสุนต้องห้าม)
**กระสุนปืนลูกซองแบบ BlackBlock ชนิด โปรยฝนหรือยิงนกหรือที่เรียกกันว่า Birdshot นั้นจะใช้แทนลูกกระสุนขนาด12ปกติที่มีกระสุนเม็ดละ1ปอน12เม็ดเป้นกระสุนขนาดเล็กกว่ามีแบบที่ลุกกระสุนน้อยที่สุด35เม็ดไปจนถึงลูกกระสุนแบบโปรยฝนกวาดพื้นที่892เม็ด แต่ที่ วิลเลียม แพร็ตทริก ใช้นั้นน่าจะเป้น Birdshot เบอร์2 จนนวนลูกตะกั่วทั้งสิ้น 125 เม็ดถ้าเอาไปยิงคนร่างกายจะเวอะหวะมากแต่มันแทบจะไม่มีอำนาจทะลุทะลวงกับร่างการของมนุษย์มากเท่าไหร่นักแต่ก็พอจะสร้างบาดแผลจำนวนมากที่จะไปกดทับเส้นประสาททำให้สมองรับความเจ้บปวดไม่ไหวแล้วก้ตายเพราะความเจ้บปวดในที่สุด(ทั้งๆที่ไกลหัวใจนัก)จากเหตุการณ์ที่ผมได้กล่าวไปข้างต้นนั้น ทำให้ผมฉุดคิดได้แล้วว่า ถ้ามันมีผู้ร้ายแบบไอ้นรก2ตัวที่มันก่อคดีในปี 1986 จริงละก็นะกระสุนยางนะฝันไปได้เลยท่าน เพราะไอ้เจ้า วิลเลียม แพร็ตทริก นั้นนะได้ปืนลูกซอง S&WM3000 มาจากการฆ่า รปภ. ขนส่งเงิน เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ปี ค.ศ. 1984 หรือ2ปีก่อนมันจะมาตายในเหตุการณ์ครั้งนี้ซึ่ง ตำรวจใช้ปืนลูกซอง อัดกระสุนยางเต็ม8นัดทั้งๆที่เขาบอกให้อัดกระสุนจริงแต่ตำรวจคนนั้นเป็นคนอ่อนโลกไม่อยากฆ่าคนอายุยังน้อยพอไอ้เจ้า วิลเลียม แพร็ตทริก ตอนนั้นมันมาปล้นมันมีแค่มีดสปาต้าอันเดียวส่วนเพื่อนมันตอนนั้นมีปืนS&W M586 ขนาด.357Magnum กระบอกเดียวซึ่งก้ได้กระบอกที่2จาก ตำรวจ อีกคนตำรวจคนนั้นยิงอัดกระสุนยาใส่มันระยะกลางถึงใกล้(มันวิ่งเข้าใส่)ดดนหมด8นัดแต่มันก็ยังวิ่งเข้ามาอีกแล้วไม่ทันที่จะได้โหลดกระสุนมีดสปาต้าที่เจ้า วิลเลียม แพร็ตทริก ถือมามันก็ได้ใช้งานเลยตัดตำรวจหนุ่มหัวขาดกระเด็นส่วนคู่หูลูกพี่มันเห็นรุ่นน้องหัวขาดก็วิ่งหนีไปแอบขอกำลังเสริมแต่เสรือกทำปืนตกไว้ไอ้เจ้ามิเชล แพ็ท หรือไอ้จอมอำหิตบิลลี่ก็เลยลาภลอยได้ปืนกระบอกที่2ไป อย่างที่กล่าวไปนะครับ ไม่มีทางหยุดคนที่มีความต้งการรุนแรงและมีพลังชีวิตสูงแม้จะยิงไปสักกี่นัดก็ตามถ้าไม่เข้าจุดตายหรือจุดสิ้นสภาพมันไม่มีทางหยุดจนกว่ามันจะได้ฆ่าเราหรอกครับและเมื่อมันฆ่าเราเร้จรายต่าไปคือลูกเราเมืยเราหรือหพ่อ,แม่,ฯลฯเพราะเราดันไปกระตุนให้มันบันดาลโทษะไปแล้วมันไม่หยุดแค่ที่เอาเราตายหรอกครับเชื่อผมสิฉะนั้น เรื่องกระสุนยางนะ ผมว่าอย่าใช้จะดีกว่าครับกระสุนจริงหัวตะกัวไม่ก็หัวรูเนียแน่นอนกว่าอน่าเล็งสูงมากกว่าอกแค่นั้นไม่ว่ายังไงก็ไม่ตายแล้วครับ(ถ้าไม่เข้าอวัยวะสำคัญหรือปืนไม่อัดลูกแรงสุงจนเวอร์อะนะ)
credit Vlademir
วิลเลียม แพร็ตทริก & บิลลี่ เดอะ คิก แห่งไมอามี่