แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย runcharo เมื่อ 2012-1-23 01:18
มนุษย์บนโลกเป็นหนี้บุญคุณของนักวิทยาศาสตร์มหาอัจฉริยะของโลกสองคน คือ ไอแซกนิวตัน กับ ไอน์สไตน์ ถ้าไม่มีนักวิทยาศาสตร์สองคนนี้ทิศทางการพัฒนาของโลกจะเปลี่ยนไปมหาศาล ถ้าไม่มีกฎของนิวตัน โลกอาจไม่มีตึกสูงๆสะพานแขวน ไม่มีดาวเทียม ไม่มีเครื่องบิน จนไปถึงไม่มีเครื่องจักรกล ไม่มีรถเครื่องซักผ้า เครื่องปั่นน้ำผลไม้ ฯลฯ หรือแม้แต่เครื่องเล่นเกือบทุกชนิดในสวนสนุกเพราะทั้งหมดนี้ล้วนแต่มีพื้นฐานพัฒนามาจากกฎของนิวตันทั้งสิ้นกฎของนิวตันก่อให้เกิด “คลื่นลูกที่สอง” มีการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งยิ่งใหญ่เกิดขึ้นบนโลกวิศวกรนำกฎของนิวตันไปสร้างเครื่องจักรกลมากมาย มีการสร้างเรือไอน้ำลำใหญ่สะพานขึงทั่วยุโรป พัฒนาระบบขนส่งทางรถไฟ โรงงานอุตสาหกรรมเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ดแต่เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ ในอีกด้านก็มีมนุษย์อีกกลุ่มหนึ่งนำกฎของนิวตันไปสร้างอาวุธทำลายล้างสูงหลังจากนิวตันเสียชีวิตไปประมาณสองร้อยปีสงครามโลกครั้งที่หนึ่งก็อุบัติขึ้นผู้คนกว่าเก้าล้านคนเสียชีวิตด้วยสิ่งประดิษฐ์มหัศจรรย์ตามกฎของนิวตัน นั่นก็คือ “ปืนกล”โชคยังดีที่รถถัง จรวด เครื่องบิน ยังพัฒนาไปได้ไม่มากขณะนั้น
ขณะที่สงครามโลกครั้งที่หนึ่งปะทุขึ้น ขณะนั้นอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์มีอายุได้ 35 ปี และคิดค้นทฤษฎีสัมพัทธภาพรวมไปถึงทฤษฎีสำคัญอื่นๆ ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงโลกมากมายสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้ากฎของนิวตันก่อให้เกิดคลื่นลูกที่สองเปลี่ยนแปลงโลกถึงขนาดปฏิวัติอุตสาหกรรมเกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่งทฤษฎีของไอน์สไตน์ก็ก่อให้เกิด “คลื่นลูกที่สาม” เกิดการปฏิวัติเทคโนโลยีมีการพัฒนาด้านคอมพิวเตอร์ การสื่อสาร โทรคมนาคมอย่างมหาศาล ระบบดาวเทียมเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นดีวีดี ระบบจีพีเอส ไมโครเวฟ แสงเลเซอร์จอภาพโทรทัศน์ เครื่องถ่ายเอกสาร โทรศัพท์มือถือ เส้นใยนำแสง ฯลฯหรือใครที่สายตาสั้นแล้วไปทำเลสิก ก็ต้องนึกขอบคุณไอน์สไตน์เพราะทั้งหลายเหล่านี้ล้วนแต่พัฒนามาจากพื้นฐานทางทฤษฎีของไอน์สไตน์ทั้งสิ้นและเช่นกัน เหรียญย่อมมีสองด้านมีมนุษย์อีกพวกหนึ่งนำทฤษฎีของไอน์สไตน์ไปพัฒนาสร้างอาวุธทำลายล้างสูง เช่นระเบิดปรมาณู และทดลองไปทิ้งที่ฮิโรชิมาเป็นที่แรก โลกต้องตะลึงในอานุภาพของมันด้วยมวลสารเพียง 0.7 กรัม ให้พลังงานออกมาขนาดทำเอาเมืองฮิโรชิมาราบไปทั้งเมือง
ถ้ากฎของนิวตันทำให้เกิดการสร้างอาวุธทำลายล้างในสงครามครั้งที่หนึ่งและสองทฤษฎีของไอน์สไตน์ก็ก่อให้เกิดอาวุธทำลายล้างในสงครามโลกครั้งที่สามถ้าสงครามโลกครั้งที่สามเกิดขึ้นจริงอาวุธที่พัฒนาขึ้นจากทฤษฎีของไอน์สไตน์จะมีความสามารถในการทำลายล้างสูงกว่าอาวุธที่พัฒนาขึ้นจากกฎของนิวตันนับพันนับหมื่นเท่าและคราวนี้คาดกันว่าจะมีมนุษย์มากกว่าค่อนโลกเสียชีวิต ไอน์สไตน์เองก็รู้ และบอกไว้ว่า“...ข้าพเจ้าจินตนาการไม่ออกว่าอาวุธที่จะใช้ต่อสู้กันในสงครามโลกครั้งที่สามคืออะไรแต่ที่แน่ๆ ในสงครามโลกครั้งที่สี่มนุษย์จะต่อสู้กันด้วยท่อนไม้และก้อนหิน”
นักวิทยาศาสตร์ในยุคปัจจุบันต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าถ้าโลกไม่มีอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์มาเกิดความรู้ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และสิ่งประดิษฐ์คิดค้นทางเทคโนโลยีต่างๆที่เห็นกันอยู่ต้องใช้เวลาอีกหลายศตวรรษกว่าจะประสบความสำเร็จเช่นนี้หรืออาจจะไม่ประสบความสำเร็จเลยก็ได้
สามารถติดตามผลงานต้นฉบับได้จากหนังสือ ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น, อัจฉริยะนอกห้องเรียน ฯลฯ
ปล. ถ้าไม่เบื่อซะก่อนเด๋วว่างๆหาเรื่องเกี่ยวกับไอน์สไตน์มาลงอีกคับ^^
คลื่นลูกที่สาม มหาสงครามที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต