มนตร์และแม่มดถือเป็นอีกหนึ่งคอนเซปท์ที่อยู่คู่วงการอนิเมะมาอย่างยาวนาน เรื่องราวของเหล่าแม่มดนั้นก็ได้ถูกบอกเล่าผ่านหลายมุมมอง ไม่ว่าจะเป็นแม่มดน้อยที่ช่วยผู้กล้าและสร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมใน Mahoujin Guruguru หรือเรื่องเหล่าของเหล่าเด็กสาวที่ต้องมาเป็นแม่มดฝึกหัดใน Ojamajou Doremi หรือล่าสุดกับโรงเรียนเวทมนตร์ที่สร้างความอึ้งทึ่งจากสตูดิโอ Trigger อย่าง Little Witch Academia และคราวนี้เราก็จะพาทุกท่านมาพบกับอีกหนึ่งผลงานจากอดีตที่งาน Studio Ghibli กับเรื่องราวของสาวน้อยที่บังเอิญได้รับพลังของแม่มดใน Mary and the witch’s flower
คำเตือน: เนื้อหาในบทความนี้อาจมีการเปิดเผยเรื่องราวในภาพยนตร์บางส่วน (สปอยล์) หากกลัวจะเสียอรรถรสในการรับชมข้ามไปไว้อ่านหลังชมก็ได้เน้อ
.
.
.
.
.
เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของแมรี่เด็กสาวผู้ต้องย้ายมาอยู่กับคุณยายของเธอที่บ้านนอกที่ไม่มีอะไรเลย แต่แล้ววันหนึ่งแมวน้อยสองตัวที่เธอบังเอิญเจอ ได้พาเธอไปพบกับดอกไม้ที่ได้ชื่อว่า “ดอกไม้ของแม่มด” ดอกไม้นั้นได้มอบพลังของแม่มดให้กับเธอทำให้เธอสามารถใช้เวทมนตร์ หรือขี่ไม้กวาดได้ราวกับเป็นแม่มดจริง แต่พลังนั้นจะอยู่กับเธอแค่เพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น และนั้นก็ทำให้แมรี่ได้ไปพบกับมหาลัยเวทมนตร์ที่ตั้งอยู่บนท้องฟ้า ที่นั่นเธอได้รับการเชิดชูด้วยความสามารถทางการใช้เวทมนตร์ที่ยอดเยี่ยมของเธอ แต่ท่ามกลางความสนุกที่แมรี่ได้พบในหนึ่งวันนั้น กลับมีเบื้องหลังของมหาลัยนี้ซ่อนอยู่ และกำลังจะนำอันตรายมาสู่เธอและคนรอบข้าง แมรี่จึงต้องลุกขึ้นจับไม้กวาดทะยานออกไปอีกครั้งเพื่อช่วยเพื่อนของเธอจากเงามืดนี้ให้ได้
จุดเด่นของเรื่องนี้คงต้องบอกว่าเป็นในด้านของงานภาพนั้นเรียกได้ว่าสมกับเป็นอดีตทีมงานจากค่าย Studio Ghibli เพราะสามารถเนรมิตฉากการท่องไปบนท่องฟ้าได้อย่างสวยงาม และฉากมหาลัยเวทมนตร์ที่ได้กลิ่นอายคล้ายๆ เมืองในเรื่อง Spirited Away ที่แสดงเอกลักษณ์ของความเป็นเวทมนตร์ได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีการผสมผสานความเป็นวิทยาศาสตร์เข้าไปในตัวมหาลัยทำให้เกิดเป็นมุมมองของมหาลัยเวทมนตร์ที่แปลกตาไปอีกแบบ
ในด้านตัวละครนั้นแมรี่ถือเป็นตัวละครที่จะทำให้คุณรู้สึกรักและอยากเอาใจช่วยได้เป็นอย่างมาก ด้วยความที่มีความพยายามที่อยากจะทำตัวให้เป็นประโยชน์กับคนอื่นจนทำให้เราอดที่จะรู้สึกเอ็นดูไม่ได้ และความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับอันตรายของเธอเพื่อช่วยเพื่อนของเธอที่ทำให้เราอยากเอาใจช่วยจนถึงที่สุด และอีกส่วนที่น่าจดจำไม่แพ้กันก็คือเหล่าสัตว์ต่างๆ ภายในเรื่องทั้งในด้านของสัตว์ที่ถูกรวมร่างก็สามารถสร้างออกมาได้ดูมีเอกลักษณ์ และในส่วนของตัวช่วยสำคัญในการเดินเรื่องอย่างแมวน้อย ทิปและกิ๊ป ก็สามารถทำออกมาได้อย่างน่ารักน่าเอนดูมากเลยทีเดียว
การดำเนินเรื่องอาจจะไม่ได้มีความพีคในการดำเนินเรื่องเท่ากับเรื่องก่อนๆ ของผู้กำกับ แต่ในฐานะผลงานแรกภายใต้ชื่อของค่ายใหม่อย่าง Studio Ponoc เรียกได้ว่าเป็นการเปิดตัวที่ดีเลยทีเดียว ด้วยเนื้อหาที่เข้าใจง่าย และสามารถดูสนุกได้ทุกเพศทุกวัย หรือการไปดูเป็นครอบครัวก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ดีของหนังเรื่องนี้เลยเหมือนกัน
สำหรับ Mary and the Witch’s Flower หรือในชื่อไทยว่า “แมรี่ผจญแดนแม่มด” ก็ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานอนิเมะคุณภาพที่เราขอแนะนำให้เพื่อนๆ ได้ลองไปสัมผัสด้วยตนเอง รับรองว่าจะต้องคุ้มค่าอย่างแน่นอน โดยเรื่องนี้เข้าฉายจริงในวันที่ 21 กันยายนนี้ และไปดูกันให้ได้นะครับ
https://youtu.be/NJv411jxtPY
--------------------------------------------
ขอบคุณสาระดีๆ จาก :: akibatan.com