ภาษาอังกฤษษษษ ช่างน่ากลัว

ตามชื่อเลยครับ     เล่นเกมส์กับพวกต่างชาติเค้าอยากคุยอังกฤษแต่ไม่แข็งอังกฤษ ฟังออกบ้างถ้าเป็นคำง่ายๆก็กลัวเขาไม่ตอบ หยิ่งไม่ตอบแล้วคิดว่าเรา           
RIP English       

ฟังอังกฤษยากครับ เจ้าของภาษาพูดไวมาก บางคำนี่ขนาดตั้งใจฟังยังไม่ทันเลย 
แนะนำให้อ่านตัวหนังสือเอา คำไหนไม่รู้ก็แปลได้ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป 
ผมก็ไม่แข็งอังกฤษนะ กำลังฝึกจากเกมอยู่ ตอนนี้เล่นเกม magicrush ในมือถือ 
ฝรั่งพิมพ์คุยกัน ผมก็อ่านคร่าวๆ ได้ศัพท์ที่ฝรั่งใช้บ่อย
บางทีจำเป็นต้องคุยกับฝรั่ง ใช้googleช่วยบ้างไรบ้าง งูๆปลาๆ ฝรั่งก็เข้าใจผมนะ  ทำให้เก่งขึ้นนิดเดียวผมก็เอา 
เกมdotก็มีพิมพ์คุยกัน แต่ศัพท์มันน้อย ข้อความเลื่อนไว คงแปลไม่ทัน
ยาวไปละ พอๆ

ปล. ให้คิดเล่นๆ ฟัง พูด อ่าน เขียน  4 อย่างนี้ คิดว่าอันไหนง่ายสุดสำหรับตัวเอง ก็เริ่มจากอันนั้นก่อน 

แนะนำเหมือนคอมเม้นข้างบน เหมือนกันจ้า

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้อง ''พูด'' 

เราสอนมาหลายภาษาหลายชาติ ปัญหาส่วนใหญ่กับคนที่เราสอนมาคือกลัวเพราะ ''ถ้าพูดแล้วกลัวคนอื่นฟังไม่รู้เรื่อง''
ถ้ามัวแต่กลัวก็จะเรียนช้ากว่าคนที่เค้ากล้าพูดจ้า

ลองหาเพื่อนที่พูดภาษาอังกฤษได้จะเป็นวิธีที่เร็วที่สุดจ้า ลองเล่นเกมโดยพูดแต่ภาษาอังกฤษอย่างเดียวดูนะ

จากอาจารย์ที่เรียนภาษาด้วยตัวเองมา 4 ภาษา  






 

ประเด็นแรกคือคุณต้อง "รัก" รักในตัวภาษาและรักที่จะเรียนรู้

สมัยช่วงแรกเริ่ม 
ก็หาวิธีเพิ่มคลังศัพท์ให้กับตัวเอง 
ต้องผูกกับสิ่งที่เราชอบ
ซึ่งส่วนตัวผมชอบอ่านนิยาย + ดูหนังมาก ๆ   ก็เลยใช้สองสิ่งนี้ช่วยเพิ่มทักษะการจำ    
นิยายก็อ่านแปลควบไปกับการอ่านอังกฤษเลยตอนแรก ๆ เปิดดูศ้พท์เก๋ ๆ จากหนังสือ แล้วจดบันทึกไว้
หนังก็เช่นกัน ดูแบบ soundtrack หาศัพท์ วิธีการพูด หรืออาจจะฝึกพูดไปด้วยก็ได้
ที่สำคัญ ต้องมีสมุดจดศัพท์ด้วย จดศัพท์ที่เจอแต่ละวันรวมถึงความหมายแบบคร่าว ๆ และเปิดดูรวมถึงเลียนเสียงบ่อย ๆ 
ก็โอเคแล้ว 

-----------
ในส่วนของการพูด สมัยก่อนผมค่อนข้างติดเกมนะ แล้วการเล่นเกมก็มีส่วนช่วยให้ผมได้คลังศัพท์มากขึ้น 
แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเมื่อเกมออนไลน์เริ่มดัง ผมก็หาเกมเซิฟนอกเลย และก็ได้คุยกับฝรั่งบ้าง ได้เล่นเกมที่มีการแข่งขันหรือมีการช่วยเหลือกันสูงอย่าง WoW ก็ต้องไมค์คุยกับฝรั่ง บ่อยครั้ง ทำให้เราจำวิธีการพูด และฝึกพูดไปในตัว
" ประเด็นสำคัญคือ" คุณต้องหาเพื่อนคุยภาษาให้ได้ จะเวิคมาก เพราะมันได้ใช้จริง และจำง่าย
ถ้าไม่มีเลยยย ก็คุยกับตัวเอง หรือทักทายตัวเองในกระจก หรือบ่นคนเดียว เป็นภาษาอังกฤษก็ได้
ผนวกกับความรู้ที่ได้มาจากหนังสือ หนัง เพลง ก็ได้ มันจำง่ายยย 


---------
แกรมม่า
เป็นส่วนที่ผมให้ความสำคัญน้อยสุด เพราะความรู้พวกนี้หาได้ในโรงเรียน ซึ่งสองประเด็นแรกมันต้องขวนขวายหนักมากกว่า 
วิธีการก็มีอย่างเดียว "ฝึกฝน" ตัวเอง คุณจะเรียนพิเศษ อ่านเอง หรือยังไงก็ตามแต่ ขอให้ฝึก เพราะเรียนแกรมม่าก็เหมือนเรียนเลข ต้องจำหลักและวิธีการให้ได้ รวมถึงฝึกทำโจทย์ ฝึกใช้บ่อย ไอ่เรื่องไวยากรณ์ที่มันแปลกประหลาดมันก็จะเข้าหัวเอง ผมซึ่งช่วงแรก ๆ ไม่ค่อยเก่งแกรมม่าเลย ก็ไม่เน้นเรียนพิเศษ เพราะคิดว่ามันได้แต่วิธีลัด บางอย่างก็ไม่ครอบคลุมหรือใช้จริงไม่ได้

ผมก็ใช้วิธี หาหนังสือแกรมม่าแบบครอบจักรวาล หรือหนังสือแกรมม่าระดับไม่ซีเรียสมากที่เป็นภาษาอังกฤษ 
มาอ่าน มาทำแบบฝึกหัด แล้วก็ทำเป็นประจำเรื่อย ๆ หาแบบฝึกหัดมาทำเรื่อย ๆ ถ้ามีเวลา ( อาทิตย์ละชุดก็ดี )
ทำเสร็จแล้วก็ตรวจข้อผิดพลาด ดูว่าเราผิดตรงไหน อะไรยังไง แล้วก็จดลงสมุดอีกตามเคย
ซึ่งมันทำให้เราช่วยจำได้ และเปิดกลับมาดูได้ จะได้ไม่ผิดอีก
ทำเยอะ ๆ ข้อผิดพลาดจะหายไปเยอะมาาาาก

============================
เพียงเท่านี้แหละ ใจรัก ขยัน ให้เวลากับมัน มีความสุขกับมัน
ผมมีความสุขนะ ที่ทำโจทย์สนุก ๆ แข่งกับตัวเอง และเจอโจทย์แปลก ๆ จนต้องหาวิธีเดาเชิงเทกนิคด้วยตัวเอง 
ผมมีความสุขนะ ที่ได้อ่านนิยายภาษาอังกฤษแม้บางเรื่องจะเป็น dict บ่อยมาก แต่มันได้รสวรรณกรรมมากกว่า และกันพวกแปลเพี้ยนด้วย

ลองดูครับ สู้ ๆ

พูดไปเลยไม่ต้องกลัวว่าจะผิด เราไม่ใช่เจ้าของภาษา คงไม่ถูก 100% หรอก
บางทีถ้าเราพูดผิดความหมายมากๆ เขาก็อาจจะบอกแก้ให้ได้
เหมือนกับเวลาคนต่างชาติพูดไทย เราก็พยายามฟังเหมือนๆ กันนั่นล่ะ
พวกที่หยิ่งจริงๆ ก็ปล่อยเขาไป ไม่ต้องคิดมาก