คนเราตายแล้วของสะสมไปไหน? บริการตีราคาของสะสม ก่อนที่จะไปจบในกองขยะอย่างไร้ค่า
คนเราตายแล้วไปไหน? ใครสนกันล่ะ แต่ของสะสมสุดรักของเรานี่สิ ถ้าเราตายแล้วมันจะไปไหน?
ไม่กี่วันก่อน ผู้ใช้ทวิตเตอร์นาม @walkyrie ได้โพสต์ภาพถ่ายโปสเตอร์ของร้าน Mandarake ซึ่งเป็นร้านค้าสินค้าของสะสมอนิเม เกม ฟิกเกอร์ โดจินชิ ทั้งมือหนึ่งและมือสอง ทั้งในและต่างประเทศ ว่าทางร้านมีบริการ “ประเมินราคาก่อนตาย” ซึ่งจะเปิดให้สามารถเช็คราคา เช็คความต้องการของตลาดในตอนนั้น เพื่อให้ทราบได้ว่าเหล่าของสะสมที่อยู่ในตู้โชว์ หรือในคลังสมบัติส่วนตัวนั้น มีมูลค่ามากน้อยแค่ไหน
ในฐานะโอตาคุ หรือคนชอบอนิเม เชื่อว่าทุกคนต้องมีของสะสมเป็นของตัวเอง เมื่อมีของที่อยากได้ ก็ต้องซื้อมาเก็บสะสมไว้ เป็นสิ่งของที่มีคุณค่าทางใจ และถ้ายิ่งเป็นของหายากด้วยแล้ว มูลค่าในตลาดย่อมไม่น้อย ในจุดนี้คงมีคนที่ตัดสินใจขายออกไปเป็นเงินได้ นั่นก็คงเป็นเรื่องดีที่อย่างน้อยของสะสมก็ยังนำไปเปลี่ยนเป็นเงิน กลายเป็นสินทรัพย์ที่เคลื่อนไหวได้ง่าย
แต่สำหรับคนที่อยากเก็บไว้ในครอบครอง อยากเอาไว้ดูชมจนวันตาย มันจะกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งหากวันหนึ่งเกิดตายขึ้นมาจริง ๆ ของสะสมที่อยู่เบื้องหลังนั้นจะเป็นอย่างไร จะถูกวางตั้งไว้อย่างนั้นตลอดกาลก็คงเป็นไปไม่ได้ ครั้นจะให้คนในครอบครัวเอาไปจัดการ เขาก็อาจจะไม่รู้คุณค่าของมันอีก จนทำให้ของสะสมหายากบางครั้งไปจบลงที่กองขยะ หรือถูกขายไปในราคาที่ต่ำกว่าควรจะเป็น เช่นฟิกเกอร์ลิมิต หุ่นโชโกคินหายากราคาหลักแสน หลักล้าน มีคนต้องการไปทั่ว กลับถูกขายให้ร้านรับซื้อมือสองราคาหลักสิบ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
ขั้นตอนการใช้บริการนั้นไม่ยาก เริ่มต้นด้วยการลงทะเบียนกับทางร้าน Mandarake ซึ่งสามารถทำได้ทั้งทางเว็บไซต์ โทรศัพท์ หรือแม้แต่เข้ามาติดต่อขอคำปรึกษากับทางร้านสาขา หรือจะฝากคนใกล้ตัวมาทำก็ได้ แต่มีข้อกำหนดว่าของสะสมที่จะนำมาให้ประเมินราคานั้น ต้องเป็นสินค้าที่ซื้อออกไปจากร้านเท่านั้น ซึ่งเมื่อลงทะเบียนเสร็จแล้วข้อมูลของสะสมจะถูกนำไปประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญในความชอบแต่ละด้าน จากนั้นจึงแจ้งผลไปยังผู้ใช้บริการทางโทรศัพท์ หรืออีเมล์ (บริการฟรี)
บริการนี้เกิดขึ้นด้วยเจตนารมย์เพื่อรักษามูลค่าของตัวสินค้า และเป็นการรับรองว่าเมื่อเราจากโลกนี้ไปแล้ว ของสะสมจะถูกนำไปจัดการอย่างถูกต้อง ให้ถึงมือคนที่ต้องการสะสมจริง ๆ ด้วยการประเมินราคาโดยเหล่าผู้เชี่ยวชาญ เอาไว้เป็นข้อมูลเพื่อนำไปบอกกับครอบครัว (จุดนี้อาจมีการทะเลาะกันบ้างหากแอบซื้อเข้าบ้าน) แต่อย่างน้อยก็พออุ่นใจได้ว่ามันคงไม่จบที่ร้านรับซื้อของมือสองที่ไม่รู้คุณค่า หรือกองขยะแน่นอน
แม้บริการดังกล่าวจะมีมาตั้งแต่ปี 2016 แล้ว แต่เมื่อมันกลับมาบนเน็ตอีกครั้ง ชาวเน็ตญี่ปุ่นก็มีความเห็นหลากหลาย ดังนี้
“มันก็ดีสำหรับคนที่มีของสะสมอ่ะนะ ถ้าได้บอกราคาให้กับคนรอบตัวได้รับรู้”
“ถ้าจะถูกที่บ้านเอาไปทิ้งเป็นขยะแล้วล่ะก็ สู้ให้มันไปอยู่ในมือคนที่เห็นค่าดีกว่า”
“ต้องคิดล่วงหน้าแล้วว่าจะเอายังไงกับของสะสม”
“คิดว่าคงได้ใช้บริการสักวัน เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะอยู่จนถึงวันที่จัดการของพวกนี้ได้ด้วยตัวเอง”
“เคยซื้อของจากมันมาชิ้นนึงหมื่นกว่าเยน แต่พอเอาของชิ้นเดียวกันกลับไปให้ตีราคา ดันเหลือหลักพันเยน ดีที่ภรรยาไม่รู้ราคาจริง”
อย่างที่ความเห็นหนึ่งได้ชี้ให้เห็นประเด็นของการกดราคา ฉะนั้นห้ามลืมเด็ดขาดว่าบริการประเมินราคานี้ทำขึ้นโดยร้านค้า โดยพ่อค้า เพราะฉะนั้นเลิกคิดได้เลยว่าเขาจะยอมขาดทุน หรือเสมอตัว หากใครสนใจใช้บริการนี้ ก็คงต้องเผื่อใจกันไว้สักนิดนึงนะ
Source: Twitter @walkyurie ,Hachima Kiko via Akibatan
Top Image: Tripnote.jp
