นับว่าเป็นข่าวที่ไม่สู้ดีนักมาจากทวิตเตอร์ของ Aya Hirano
ซึ่งอาจจะเป็นต้นเหตุของ เหตุผลที่ทำไมอายะถึงมีงานพากย์น้อยลง ? เรื่องเสียงพากย์ของเธอ ? ต้นเหตุของผมร่วง และอาการป่วยของอายะ ...
ซึ่งอายะตันได้เปิดเผยมาว่า
"ฉันมีอาการไมเกรนเรื้อรังตั้งแต่ยังเรียนอยู่มัธยมต้น, และเคยไปให้หมอตรวจ ซึ่งเขาได้ตรวจพบเนื้องอก ซึ่งบางทีมันอาจเป็นต้นเหตุของปัญหาในขณะนี้....
ไม่ต้องห่วง คนที่เป็นไมเกรนไม่ได้มีเนื้องอกเสมอไป ฉันมีเนื้องอกใต้ต่อมประสาทในสมอง ฉันก็ได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลในทุกๆปี เพื่อให้มั่นใจว่ามันยังไม่เป็นอันตราย
บางครั้งเนื้องอกอาจจะไปกดที่ประสาทตาของฉัน ซึ่งทำให้ฉันมองไม่เห็นหรือหยุดความสามารถในการพูด แต่ฉันก็ยังดี ที่ฉันใช้มันบรรเทา...
ใช่ ฉันก็รักษาโดยการใช้ยาปฎิชีวนะไปเรื่อยๆ... แต่ว่าในช่วง ม.ต้น ฉัน เคยคิดที่จะผ่าตัดเอามันออกไปนะ แต่ทว่าก็ขอบาย เพราะหมอบอกว่าต้องผ่าเอาเนื้องอกออกทางจมูก ทำให้ต้องพันผ้าทั้งหัว จนกลายเป็นมัมมี่ไปเลย
ตอนที่ฉันเริ่มงานพากย์ก็เริ่มรู้สึกว่าเสียงของฉันเริ่มเปลี่ยนไป ซึ่งฉันไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ในตอนนั้น ฉันก็เริ่มรู้ว่าเสียงฉันมันเพี้ยนไปและความจำเริ่มเสื่อม ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ ....แต่ก็10ปีที่แล้วน่่ะนะ
ฉันค่อยๆเรียนรู้มัน ...และหาวิธีรับมือกับมัน
ใช่! คุณยังสามารถผ่าตัดเนื้องอกด้วยวิธียิงแสงเลเซอร์ได้เลยนะตอนนี้น่ะ
แต่มันไม่ใช่เรื่องรีบเร่งอย่างไร ยังยังโอเคดีอยู่ จึงตกลงว่าจะไปตรวจเนื้องอกที่โรงพยาบาลทุกๆปี
ซึ่งขอสารภาพว่าใน2ปีนี้ไม่ได้ไปโรงพยาบสลเพื่อไปตรวจมันเลย เพราะงานเยอะมากๆ จึงทำให้สุขภาพของฉันย่ำแย่ และในที่สุดตอนนี้ฉันก็ต้องไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาทุกอาการที่เป็นอยู่..."
นับเป็นข่าวร้ายเพื่มขึ้นสำหรับเธอและแฟนๆของอายะตัน และอาจจะเป็นคำตอบว่าทำไมอาชีพนักพากย์นี้ถึงเป็นกันได้ไม่นาน ก็ต้องห่างหาย และเป็นคำตอบสำหรับอายะตันเองว่า การทุ่มเทให้กับงานพากย์ที่เป็นที่รัก มันอาจจะเป้นการฆ่าตัวตายทางอ้อมก็เป็นได้
ซึ่งอาจจะเป็นต้นเหตุของ เหตุผลที่ทำไมอายะถึงมีงานพากย์น้อยลง ? เรื่องเสียงพากย์ของเธอ ? ต้นเหตุของผมร่วง และอาการป่วยของอายะ ...
ซึ่งอายะตันได้เปิดเผยมาว่า
"ฉันมีอาการไมเกรนเรื้อรังตั้งแต่ยังเรียนอยู่มัธยมต้น, และเคยไปให้หมอตรวจ ซึ่งเขาได้ตรวจพบเนื้องอก ซึ่งบางทีมันอาจเป็นต้นเหตุของปัญหาในขณะนี้....
ไม่ต้องห่วง คนที่เป็นไมเกรนไม่ได้มีเนื้องอกเสมอไป ฉันมีเนื้องอกใต้ต่อมประสาทในสมอง ฉันก็ได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลในทุกๆปี เพื่อให้มั่นใจว่ามันยังไม่เป็นอันตราย
บางครั้งเนื้องอกอาจจะไปกดที่ประสาทตาของฉัน ซึ่งทำให้ฉันมองไม่เห็นหรือหยุดความสามารถในการพูด แต่ฉันก็ยังดี ที่ฉันใช้มันบรรเทา...
ใช่ ฉันก็รักษาโดยการใช้ยาปฎิชีวนะไปเรื่อยๆ... แต่ว่าในช่วง ม.ต้น ฉัน เคยคิดที่จะผ่าตัดเอามันออกไปนะ แต่ทว่าก็ขอบาย เพราะหมอบอกว่าต้องผ่าเอาเนื้องอกออกทางจมูก ทำให้ต้องพันผ้าทั้งหัว จนกลายเป็นมัมมี่ไปเลย
ตอนที่ฉันเริ่มงานพากย์ก็เริ่มรู้สึกว่าเสียงของฉันเริ่มเปลี่ยนไป ซึ่งฉันไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ในตอนนั้น ฉันก็เริ่มรู้ว่าเสียงฉันมันเพี้ยนไปและความจำเริ่มเสื่อม ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ ....แต่ก็10ปีที่แล้วน่่ะนะ
ฉันค่อยๆเรียนรู้มัน ...และหาวิธีรับมือกับมัน
ใช่! คุณยังสามารถผ่าตัดเนื้องอกด้วยวิธียิงแสงเลเซอร์ได้เลยนะตอนนี้น่ะ
แต่มันไม่ใช่เรื่องรีบเร่งอย่างไร ยังยังโอเคดีอยู่ จึงตกลงว่าจะไปตรวจเนื้องอกที่โรงพยาบาลทุกๆปี
ซึ่งขอสารภาพว่าใน2ปีนี้ไม่ได้ไปโรงพยาบสลเพื่อไปตรวจมันเลย เพราะงานเยอะมากๆ จึงทำให้สุขภาพของฉันย่ำแย่ และในที่สุดตอนนี้ฉันก็ต้องไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาทุกอาการที่เป็นอยู่..."
นับเป็นข่าวร้ายเพื่มขึ้นสำหรับเธอและแฟนๆของอายะตัน และอาจจะเป็นคำตอบว่าทำไมอาชีพนักพากย์นี้ถึงเป็นกันได้ไม่นาน ก็ต้องห่างหาย และเป็นคำตอบสำหรับอายะตันเองว่า การทุ่มเทให้กับงานพากย์ที่เป็นที่รัก มันอาจจะเป้นการฆ่าตัวตายทางอ้อมก็เป็นได้
สำหรับ ป่านแล้ว ก็เป็นไมเกรนเรื้อรังเหมือนกัน แล้วพอโตขึ้นจะมีเนื้องอกมั้ยเนี่ย !!
เครดิต : http://www.ayaloverclub.com
ช็อค!!! Hirano Aya มีเนื้องอกในสมอง