ในเมื่อเรามีกระทู้เรือประจัญบาน แห่งจักรพรรดินาวีแล้ว ผมขอต่อกันด้วยเรือบรรทุกเครื่องบินเลยน้า
เรือบรรทุกเครื่องบินแห่งจักรพรรดินาวีนั้นมีด้วยกันทั้งหมด 10ชั้น เรามาเริ่มทำความรู้จักกันทีละชั้นกันเลยดีกว่านะ
ผมขอไล่ไปตามขนาดเรือเลยนะครับ
1. ชั้นแรก เรือ บรรทุกเครื่องบิน ชั้น Ryujo
เรือบรรทุกเครื่องบินริวโจนั้นเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดเล็ก ที่ ดัดแปลงมาจากเรือโดยสาร ให้เป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน
Ryujo Data
ระวางขับดันน้ำ :12,732 ตัน
ความเร็วสูงสุด :29 นอต
อาวุธ
1.ปืนใหญ่ ขนาด 5 นิ้ว ทั้งหมด 8 กระบอก
2.ปืนกลต่อสู้อากาศยานขนาด 25 มม. 4 กระบอก
3.ปืนกลต่อสู้อากาศยาน ขนาด 13 มม. 24 กระบอก
บรรทุกเครื่องบินได้ทั้งหมด :34 ลำ
บรรทุกลูกเรือทั้งหมด : 924 นาย
เืรือบรรทุกเครื่องบินริวโจนั้น เนื่องจากบรรทุกได้ค่อนข้างน้อย และมัขนาดเล็ก จึงทำหน้าที่ เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินคุ้มกัน
เครื่องบินที่บรรทุกไปนั้น ส่วนใหญ่จึงเป็นเครื่องบิน Fighter Mitsubishi Zero ครับ และหอบังคับการของ ริวโจนั้น อยู่ใต้ลานบินด้านหน้านะครับ
ในคลาส Ryujo นั้นมีเรือบรรทุกเครื่องบินเพียงลำเดียวคือ เรือบรรทุกเครื่องบิน ริวโจครับ
รูปจ้า
Spoiler:
Ryujo
เกร็ดความรู้ของเรือบรรทุกเครื่องบิน Ryujo by ท่าน labor0045
Spoiler:
labor0045 เขียน:
ริวโจ(ryujo) (มังกรเริงระบำ)
เรือริวโจ เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดเบา ปล่อยลงน้ำเมื่อปี 2474 และขึ้นประจำการในปี เธอมีขนาดเพียง 8,000 ตันเท่านั้น จึงไม่ปลอดภัยในการปฏิบัติการในทะเลลึก ปลายทศวรรษที่ 30 เธอจึงได้รับการปรับปรุง ให้คงทนทะเลมากขึ้น พร้อมกับเพิ่มดาดฟ้าขึ้นอีก 1 ชั้น เพื่อให้พ้นยอดคลื่น และบรรทุกเครื่องบินได้เพิ่มขึ้น
ในปี 2480 เธอถูกส่งไปปฏิบัติการในจีน โดยปฏิบัติการด้วยเครื่องบินขับไล่นากาจิมา A4N 12 ลำ และเครื่องบินดำทิ้งระเบิดเออิชิ D1A 15 ลำ หลังจากที่ผลการปฏิบัติการไม่เป็นที่พึงพอใจ เธอจึงได้รับการปรับปรุงอีกครั้ง
ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เธอสังกัดกองกำลังที่ 4 ซึ่งเป็นกองเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่ เธอจึงถูกจัดเป็นเรือชั้นรอง ด้วยการปรับปรุงครั้งล่าสุดทำให้ความคงทนทะเลและประสิทธิภาพการรบเป็นที่พึงพอใจ
ในเดือนธันวาคม 2484 เรือริวโจทำหน้าที่สนับสนุนการโจมตีฟิลิปปินส์ โดยรองรับการลงจอดที่ Davaoและ Jolo ในตอนนี้เธอมีเครื่องบินขับไล่ A6M2 ซีโร่ 22 ลำ และเครื่องบินดำทิ้งระเบิด D3A วาล 16 ลำ เดือนมกราคม 2485 เธอส่งเครื่องบินเข้าสนับสนุนการรบที่ มาลายู และเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมส่งเครื่องบินเข้าโจมตี กองกำลังของอเมริกัน,อังกฤษ,ฮอลแลนด์และออสเตรเลีย ในการรบแห่งชวา และสามารถจมเรือ USS Pope ลงได้ และยังโจมตีหมู่เกาะอันดามันตามแนวชายฝั่งพม่า
ในเดือนเมษายนส่งเครื่องบินเข้าโจมตีอ่าวเบงกอล ในมหาสมุทรอินเดีย ร่วมกับเรือลาดตระเวณ Chokai,Kumano,Suzuya,Mikuma,Mogami ,Yura และเรือพิฆาตอีก 4 ลำ สามารถจมเรือสินค้าได้ 23 ลำ และส่งเครื่องบินเข้าโจมตีอินเดียที่ Cocanada และ Vizagapatam
เดือนมิถุนายนเรือริวโจได้รับมอบหมายให้โจมตีหมู่เกาะอลูเชียนซึ่งเป็นแผนลวงในการรบที่มิดเวย์ โดยโจมตีเกาะUnalaska และ Dutch habor ในการโจมตีครั้งนี้ มีเครื่องบิน A6M2 ซีโร่ ลำหนึ่ง บินโดย Tadahito Koga เกิดหลงทางและต้องลงจอดบนเกาะAkutan ผลการลงจอดทำให้เครื่องบินตีลังกา นักบินคอหักเสียชีวิตทันที แต่เครื่องซีโร่ไม่เสียหายมากนักและถูกยึดโดยฝ่ายอเมริกัน ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับญี่ปุ่นมาก เนื่องจากฝ่ายอเมริกันได้ทำการตรวจสอบข้อดีข้อเสียจนสามารถพัฒนากลยุทธในการเอาชนะเครื่องบินซีโร่และยังสร้างเครื่องบินที่ดีกว่าอย่างเช่น F6F Hell Cat ขึ้นมาปราบเครื่องบินซีโร่อีกด้วย
หลังจากที่ญี่ปุ่นเสียเรือบรรทุกเครื่องบินไป 4 ลำในการรบที่มิดเวย์ ทำให้เรือริวโจมีความสำคัญมากขึ้น ในเดือนสิงหาคม ได้เปลี่ยนสังกัดไปอยู่กองกำลังที่ 2 ร่วมกับเรือโชคากุและซุยคากุ เข้าโจมตีหมู่เกาะโซโลมอน เธอทำหน้าที่สนับสนุนการเสริมกำลังบนเกาะกัลดัลคาแนล และโจมตีสนามบินแฮนเดอร์สัน และต่อต้านเรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกัน ผลการรบที่ทะเลโซโลมอนตอนเหนือ เรือริวโจ ซึ่งคุ้มกันโดยเรือโทเน่( Tone )และเรือพิฆาต Amatsukaze และ Tokitsukaze ได้ส่งเครื่องบิน 2 ระลอก เข้าโจมตีกัลดัลคาแนล แต่ในตอนบ่าย เธอโจมตีจากเครื่องบินดำทิ้งระเบิดและตอร์ปิโดซึ่งมาจากเรือบรรทุกเครื่องบินซาราโตก้า โดยถูกลูกระเบิดหลายลูกและโดนตอร์ปิโดในจุดสำคัญ 1 ลูก ทำให้น้ำท่วมห้องเครื่อง จนต้องสละเรือในเวลา 15.15 น. และจมลงในเวลา 18.00 น.
2. เรือบรรทุกเครื่องบิน ชั้น Taiyo
เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น ไทโย นั้นเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่มีการดัดแปลงมา จาก เรือบรรทุกสินค้า และทำให้เป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน
Taiyo Class Data
ระวางขับดันน้ำ : 20,000 ตันเป๊ะๆ
ความเร็วสูงสุด : 21 นอต
อาวุธ
1. ปืนใหญ่ขนาด 5 นิ้ว 8กระบอก
2.ปืนกลต่อสู็อากาศยาน ขนาด 25 มม. 64 กระบอก
3.ปืนกลต่อสู้อากาศยาน ขนาด 13 มม. 10กระบอก
บรรทุกเครื่องบินได้ :27 ลำ
ลูกเรือทั้งหมด : 850 นาย
เรือบรรทุกเครื่องบิน ไทโย นั้น เ็ป็นเรือบรรทุกเครื่องบินคุ้มกัน เนื่องจากบรรทุกเครื่องบินไปได้น้อย เครื่องบินที่บรรทุกไปส่วนใหญ่จึงเป็น Mitsubishi A6M5 Zero ครับ
เรือในชั้น Taiyo นี้มีด้วยกันทั้งหมด 3 ลำคือ เรือบรรทุกเครื่องบิน ไทโย ,เรือบรรทุกเครื่องบิน อุนโย และเรือบรรทุกเครื่องบิน ชุโยครับ
รูปเด้อ
Spoiler:
Taiyo
Unyo
Chuyo
3.เรือบรรทุกเครื่องบิน ชั้น Unryu
เรือบรรทุกเครื่องบินชั้นอุนริวนั้น เป็นเรือที่สร้างโดยใช้ แปลนฉบับเดียวกันกับเรือบรรทุกเครื่องบิน ฮิริว แต่ มีขนาด ของระวางขับดันน้ำที่เยอะกว่า
Unryu class Data
ระวางขับดันน้ำ : 22,534 ตัน
ความเร็วสูงสุด :34 นอต
อาวุธ
1.ปืนใหญ่ขนาด 5 นิ้ว 12 กระบอก
2.ปืนกลต่อสู็อากาศยาน 89 กระบอก
บรรทุกเครื่องบนได้ : 65 ลำ
ลูกเรือ ทั้งหมด : 1595 นาย
เรือบรรทุกเครื่องบินชั้นอุนริวนั้น มีเรือในชั้นทั้งหมด 3ลำ ได้แก่ เรือบรรทุกเครื่องบิน อุนริว ,เรือบรรทุกเครื่องบิน อามากิ เรือบรรทุกเครื่องบิน คัทสึรากิ
ที่จริงเรือบรรทุกเครื่องบินในชั้นอุนริวนั้นมีมากกว่านี้ แต่ สร้างไม่เสร็จก็ถูกแยกชิ้นส่วนหรือไม่ก็ถูกทำลาย
เกร็ดความรู้ของเรือชั้น Unryu
Spoiler:
labor0045 เขียน:
เรือบรรทุกเครื่องบิน คัทสึรางิ Katsuragi
คัทสึรางิ (Katsuragi)
เรือคัทสึรางิ เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินชั้นอุนเรียว (Unryu) ของกองทัพเรือญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 เธอไม่มีบทบาทในการรบมากนัก มีเพียงได้รับความเสียหายจากการทิ้งระเบิดของอเมริกันที่ฐานทัพเรือคุเร ตัวเรือได้รับการออกแบบเป็นอย่างดี โดยใช้เรือชั้นโซริวเป็นแม่แบบ แต่มีการปรับปรุงให้ดีขึ้นจากประสบการในการรบ เธอถูกอนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างในปี 2484 แต่เนื่องจากความขาดแคลนวัสดุ จึงถูกลดสเปคลงหลายอย่าง เช่น เครื่องยนต์ต้องใช้เครื่องยนต์ของเรือพิฆาตแทน ทำให้มีกำลังเพียง 1 ใน 3 ของที่ควรจะเป็น , ติดตั้งลิฟท์ขนเครื่องบินเพียง 2 ตัว ขณะที่เรือโซริวมีถึง 3 , และไม่มีเกราะที่ดาดฟ้า ดังนั้นจากโครงสร้างที่เบาบาง จึงไม่เหมาะที่ปฏิบัติการด้วยเครื่องบินที่มีน้ำหนักมากอย่าง B7A,B6N เป็นจำนวนมากได้ จึงทำให้ขีดความสามารถของเรือน้อยลงมากจนไม่อาจต่อกรกับเรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกันได้ แต่พอที่จะสามารถปฏิบัติการด้วยเครื่องบินพลีชีพ คามิคาเซ่ได้ เธอจึงถูกใช้ส่งเครื่องคามิคาเซ่แบบ Ohkas ไปฟิลิปปินส์ด้วย
เรือคัทสึรางิอยู่รอดได้จนสงครามสิ้นสุด และถูกยึดโดยฝ่ายสัมพันธมิตร เธอถูกยุบเป็นเศษเหล็กในปี 2490
และก็ เรือบรรทุกเครื่องบิน ซุยโฮ Zuiho
ซุยโฮ
เรือซุยโฮ เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่ดัดแปลงมาจากเรือบรรทุกน้ำมันความเร็วสูง Takasaki ปล่อยลงน้ำเมื่อปี 2477 ต่อมาเมื่อญี่ปุ่นได้ตระหนักถึงความสำคัญของเรือบรรทุกเครื่องบิน จึงได้ทำการดัดแปลงเรือ Takasaki เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินเมื่อปี 2483 และให้ชื่อว่า ซุยโฮ ( Zuiho) เธอมีเรือพี่เรือน้องอีกลำชื่อโชโฮ ( Shoho) เรือซุยโฮมีระวางขับน้ำ 14,200 ตัน ยาว 217 เมตร กว้าง 23 เมตร สามารถบรรทุกเครื่องบินได้ 30 ลำ ประกอบด้วยเครื่องบินขับไล่ A6M2 ซีโร่ 16 ลำ และเครื่องบินดำทิ้งระเบิด D3A วาล 14 ลำ เธอถูกจมลงโดยเครื่องบินทิ้งระเบิดอเมริกันในการรบที่อ่าวเลย์เต หมู่เกาะฟิลิปปินส์ โดยเธอถูกใช้เป็นนกต่อ ให้กับกองเรือประจัญบานของญี่ปุ่นในการเข้าโจมตีกำลังทางเรือของอเมริกาที่อ่าวเลย์เต โดยทำหน้าที่ดึงกำลังทางอากาศของอเมริกาออกไปและเปิดทางให้เรือประจัญบานญี่ปุ่นเข้าโจมตีเรืออเมริกันได้ เรียกการรบครั้งนี้ว่า Battle of Cape Engano ในวันที่ 25 ตุลาคม 2487
รูปครับ
Spoiler:
Unryu
Amagi
Katsuragi
4. เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Hiyo
เรือบรรทุกเครื่องบิน ชั้น Hiyo นั้นเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่ แต่ มีหน้าที่เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินคุ้มกันเท่านั้น
Hiyo Class Data
ระวางขับดันน้ำ : 26,949 ตัน
ความเร็วสูงสุด : 25 นอต
อาวุธ
1.ปืนใหญ่ขนาด 5นิ้ว 12กระบอก
2.ปืนกลต่อสู้ อากาศยาน ขนาด 25 มม. 76ประบอก
3. จรวดต่อต้านอากาศยาน(ใช้ในปี 1944) 6 ชุด (ชุดละ 28 ลูก)
บรรทุกเครื่องบินได้ :53 ลำ
ลูกเรือทั้งหมด : 1224 นาย
เรือในชั้น Hiyo นี้มี2 ลำ ได้ แก่เรือบรรทุกเครื่องบิน ฮิโย และเรือบรรทุกเครื่องบิน จุนโย
รูปครับ
็ Spoiler:
Hiyo
Junyo
5.เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Taiho
เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Taiho นี้ เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่ ที่ว่ากันว่า มีความสวยงามที่สุดในเรือบรรทุกเครื่องบินที่ IJN เคยต่อมา
Taiho Data
ระวางขับดันน้ำ :34,600 ตัน
ความเร็วสูงสุด : 33 นอต (ถือว่าเร็วนะครับสำหรับเรือลำใหญ่ๆ)
อาวุธ
1.ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ขนาด 3.9 นิ้ว 12กระบอก
2.ปืนกลขนาดต่อสู้อากาศยาน ขนาด 25มม. 71กระบอก
บรรทุกเครื่องบินได้ :60ลำ
ลูกเรือทั้งหมด :1751 นาย
เรืือในชั้น Taiho นี้ มีเพียงลำเดียวคือ เรือบรรทุกเครื่องบิน ไทโฮ
รูปครับ
Spoiler:
6. เรือบรรทุกเครื่องบิน ชั้น Soryu
เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Soryu นี้ถือเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่มีความสำคัญต่อกองทัพเรือญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก เพราะ เป็น เรือ 2 ลำจากกองกำลังโจมตีหลักของญี่ปุ่นทั้งหมด 6 ลำ
Soryu Class Data
ระวางขับดันน้ำ :18,880 ตัน(โซริว)/20,250(ฮิริว)
ความเร็วสูงสุด :34 นอต
อาวุธ
1.ปืนใหญ่ขนาด 5 นิ้ว 12กระบอก
2.ปืนกลต่อสู็อากาศยาน ขนาด 25มม. 28กระบอก(โซริว)/31กระบอก(ฮิริว)
บรรทุกเครื่องบินได้ทั้งหมด : 71 ลำ (โซริว)/73 ลำ (ฮิริว)
ลูกเรือทั้งหมด : 1100 นาย
เรือชั้นโซริวนี้ มี พี่น้องฝาแฝด 2 ลำ คือ เรือบรรทุกเครื่องบิน โซริว และเรือบรรทุกเครื่องบิน ฮิริว
เรือบรรทุกเครื่องบิน ฮิริวนั้นมีผู้บัญชาการ ที่เป็น บุคลากรสำคัญของ กองทัพเรือญี่ปุ่นคือ พลเรือตรี ยามากุจิ ทามน ซึ่งท่านได้สละชีวิต จมไปพร้อมกับเรือที่ท่านรักคือฮิริวนั้นเอง เรือทั้ง2ลำนี้ จมในยุทธการ มิดเวย์
เกร็ความรู้ของเรือชั้น Soryu
Spoiler:
labor0045 เขียน:
เรือบรรทุกเครื่องบิน ฮิริว Hiryu (มังกรเหิรฟ้า, Flying Dragon)
เรือฮิริว
เป็น 1 ในเรือบรรทุกเครื่องบิน 6 ลำ ที่เข้าร่วมในการรบทางทะเลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกระหว่างอเมริกันและญี่ปุ่น ทั้งการโจมตีฐานทัพเรืออเมริกันที่เพิล์วฮาร์เบอร์ ( Pearl hobor) และที่มิดเวย์ ( Midway) ได้รับการต่อขึ้นในปี พ.ศ.2479 และขึ้นประจำการในปี พ.ศ.2482 ภายใต้ของกำหนดสนธิสัญญาจำกัดอำนาจการรบทางเรือที่วอชิงตัน เรือชั้นนี้มี 2 ลำ ได้แก่ ฮิริว (Hiryu) และ โซริว ( Soryu) ซึ่งทั้ง 2 นี้ก็ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว โดยฮิริวมีขนาดใหญ่กว่า 2,000 ตัน โดยมีระวางขับน้ำเต็มที่ 19,500 ตัน และยาวกว่า 4 ฟุต และมีสะพานเดินเรือคนละด้านกัน สามารถบรรทุกเครื่องบินไปได้ 73 ลำ
หลังจากเข้าประจำการภารกิจแรกที่ได้รับก็คือการโจมตีเพิล์วฮาร์เบอร์ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2484 เธอได้ส่งเครื่องบินระลอกแรกเข้าโจมตีเกาะโออาฮู โดยเครื่องบินแบบคาเตะ จำนวน 10 ลำ เข้าโจมตีเรืออริโซน่า และแคลิฟอร์เนีย คาเตะ 8 ลำ เข้าโจมตีเรือ เวสต์เวอร์จิเนีย,โอกลาโฮม่า และ เฮเลน่า ส่วนซีโร่ 6 ลำ เข้าโจมตีสนามบินวีลเลอร์และบาร์เบอร์พอยต์
ภารกิจต่อมาในเดือนธันวาคม ปีเดียวกันคือการส่งเครื่องบินเข้าโจมตีเกาะเวก ในปีต่อมาเดือนมกราคมส่งเครื่องบินเข้าสนับสนุนการโจมตี Ambon และ Moluccas เดือนกุมภาพันธ์ถัดมาเข้าโจมตีเมืองดาร์วิน ประเทศออสเตรเลียร่วมกับเรือโซริว
ในเดือนมีนาคมปีเดียวกัน มีส่วนช่วยรบในการรบที่ทะเลชวา โดยโจมตีการขนส่งของฝ่ายพันธมิตรที่ Tijlatjep และหมู่เกาะคริสต์มาส สามารถจมเรือสินค้าฮอลแลนด์ชื่อ Poelau bras ในเดือนเมษายน ได้เข้าทำการรบในทะเลอินเดีย โจมตีกองกำลังของอังกฤษและสามารถจมเรืออังกฤษได้หลายลำ เช่น เรือลาดตระเวณCornwall และDorsetshire , เรือบรรทุกเครื่องบิน Hermes และเรือพิฆาตคุ้มกัน Vampire
วันที่ 19 เมษายน ได้รับมอบหมายให้ไล่ล่ากองเรืออเมริกัน( Hornetและ Enterprise) หลังจากที่ญี่ปุ่นถูกทิ้งระเบิดจากปฏิบัติการดูลิตเติล ( Doolittle) แต่ไม่สำเร็จ
ต่อมาในภารกิจครั้งสุดท้าย ได้รับมอบหมายให้เข้าโจมตีหมู่เกาะมิดเวย์ เพื่อหลอกล่อให้เรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกันเข้ามาติดกับและถูกทำลาย เรือฮิริวมีเครื่องบินขับไล่ A6M2 ซีโร่ 21 ลำ, เครื่องบินดำทิ้งระเบิดD3A วาล 21 ลำ และ เครื่องบินทิ้งระเบิด/ตอร์ปิโด B5N คาเตะ 21 ลำ พร้อมที่จะทำการรบ ที่มิดเวย์ เธอได้ส่งเครื่องบินเข้าโจมตีและทำลายสนามบิน,สิ่งก่อสร้างและเครื่องบินบนเกาะมิดเวย์เป็นจำนวนมาก ร่วมกับเรืออื่นๆ ได้แก่ อคากิ,คากะ และโซริว ซึ่งก็น่าจะได้รับชัยชนะในการรบครั้งนี้ แต่สิ่งที่ญี่ปุ่นไม่รู้ก็คืออเมริกาได้ล่วงรู้แผนการนี้ล่วงหน้าและได้ซ้อนแผน ด้วยการส่งเครื่องบินเข้าทำลายกองเรือญี่ปุ่น ทั้งคากะ ,อคากิและโซริว ต่างถูกทิ้งระเบิดจนเกิดเพลิงลุกไหม้และจมลงในเวลาต่อมา เรือฮิริวจึงได้ทำการแก้แค้นด้วยการส่งเครื่องบิน 2 ระลอกเพื่อค้นหาและทำลายเรือข้าศึก ซึ่งประสบผลโดยสามารถทำความเสียหายให้อย่างหนักต่อเรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกันชื่อ ยอร์คทาวน์ และจมลง เมื่อเรือดำน้ำญี่ปุ่น I-168 ซ้ำด้วยตอร์ปิโด
แต่หลังจากนั้นทางอเมริกันก็สวนกลับด้วยเครื่องบินดำทิ้งระเบิดแบบ SBD Dauntless จำนวน 13 เครื่องจากเรือEnterprise ได้ทิ้งระเบิดใส่เรือฮิริวจำนวน 4 ลูกขณะที่กำลังส่งเครื่องบินขึ้น ทำให้เกิดการระเบิดและเพลิงลุกไหม้จนจมลง จบความกล้าหาญไว้ในทะเลแปซิฟิค
Spoiler:
Soryu
Hiryu
7.เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Shokaku
เรือชั้น Shokaku นั้น เป็น เรือบรรทุกเครื่องบินแห่งกองกำลังโจมตีหลักกแห่งจักรพรรดินาวี ที่มีความสำคัญได้เทียบเท่ากับ
เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Shokaku เป็นเรือที่มีขนาด ใหญ่ และมีความเร็วสูง
Shokaku Class Data
ระวางขับดันน้ำ :29,800 ตัน
ความเร็วสูงสุด : 34 นอต
อาวุธ
1.ปืนใหญ่ขนาด 5 นิ้ว 16 กระบอก
2.ปืนกลต่อต้านอากาศยาน ขนาด 25 มม. 96 กระบอก
3.จรวดต่อต้านอากาศยาน 6 ชุด /ชุดละ28นัด(ใช้ในเรือ ซุยคากุในปี 1944)
บรรทุกเครื่องบินได้ :84ลำ
ลูกเรือทั้งหมด : 1660 นาย
เรือชั้น Shokaku นี้ มีพี่น้องฝาแฝด อยู่ 2 ลำ คือ เรือบรรทุกเครื่องบิน โชคากุ กับเรือบรรทุกเครื่องบิน ซุยคากุ
ทั้ง2ลำนี้ เรียกได้ว่า เกิดมาเพื่อรบจริงๆครับ เพราะ 2 ลำนี้ เพิ่งเกิด(ต่อเสร็จ) ได้ไม่นาน ก็ ไปเข้าร่วมกองกำลังหลัก ไปโจมตีเพิลฮาร์เบอร์ โดยมีเรือรุ่นพี่อย่าง อาคากิ เป็น เรือธงในการโจมตีครั้งนี้
เกร็ดความรู้ของเรือชั้น Shokaku ครับ
Spoiler:
labor0045 เขียน:
ขอมาซัพพอด ข้อมูลให้กับ เรือ 2 พี่น้อง โซคาคุ กับ ซุยคาคุ นะครับ
ถ้าไม่มีเรือ2ลำนี่ ก็ไม่มีวันมีสงครามอ่าวเพิลฮาเบอร์ ครับ
เริ่มกันที่เรือพี่ก่อน โซคาคุ
เรือบรรทุกเครื่องบิน Shokaku ( แปลว่า นกกระเรียนเหิรฟ้า )
1 ใน 6 ของเรือบรรทุกเครื่องบินญี่ปุ่นที่เข้าร่วมในการโจมตี Pearl Harbour เป็นเรือที่มีชื่อเสียงและมีบทบาทอย่างมากในช่วงต้นของสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งในการรบที่ Pearl Habour , การโจมตีราชนาวีอังกฤษในมหาสมุทรอินเดีย และเป็นกำลังหลักในการรบที่ทะเลคอรัล ( Coral Sea ) และยังเข้าร่วมในการรบที่ ซานตาครูส ( Sata Cruz ) ,หมู่เกาะโซโลมอน ( Solomon Island) และหมู่เกาะมาเรียนา
แต่เดิมถูกออกแบบให้เป็นเรือประจัญบานรุ่นใหม่ เช่นเดียวกับเรือยามาโต้ แต่ได้เปลี่ยนมาเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินต่อมา สามารถบรรทุกเครื่องบินได้ 70 - 80 เครื่อง และมีความเร็วสูง ถึง 34 นอต ( 63 ก.ม./ช.ม.) มีเรือน้องอีกลำคือเรือ ซุยคากุ ด้วยการออกแบบที่ดีทำให้เธอสามารถรอดผลจากจากการทำลายได้หลายครั้ง
เธอสามารถบรรทุกเครื่องบินขับไล่ A6M ซีโร่ ได้ 15 ลำ , เครื่องบินดำทิ้งระเบิด D3A วาล 27 ลำ และเครื่องบินทิ้งระเบิด/ตอร์ปิโด B5N คาเตะ 27 ลำ เช่นกัน
หลังจากเข้าประจำการเธอเข้าร่วมอยู่ในกองกำลังเฉพาะกิจ Kido butai เพื่อโจมตีเพิลว์ฮาร์เบอร์ กล่าวกันว่าการโจมตีเพิล์วฮาร์เบอร์จะไม่เกิดถ้าไม่มีเธอเข้าร่วม เพราะทางญี่ปุ่นได้รอจนกระทั่งเธอและซุยคากุต่อเสร็จ จึงได้เริ่มแผนการที่ยิ่งใหญ่ดังกล่าว หลังจากการโจมตีเพิล์วฮาร์เบอร์ เธอได้ถูกมอบหมายภารกิจอีกหลายครั้ง โดยโจมตี ราบวล ในเดือนมกราคม 2485 , การโจมตีในมหาสมุทรอินเดีย ในเดือนมีนาคมร่วมกับเรือ ซุยคากุ,ฮิริว,อคากิ ในการทิ้งระเบิดโคลัมโบ และจมเรือบรรทุกเครื่องบินอังกฤษ Hermes และเรือลาดตระเวณอังกฤษ Cornwell และ Dorsetshire
ต่อมาได้รับมอบหมายให้สนับสนุนการปฏิบัติการที่พอร์ตมอเรสบี ของออสเตรเลีย แต่ได้ปะทะกับเรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกันที่ทะเลคอรัลเกิดเป็นการรบที่ทะเลคอรัล ( Battle of Coral Sea) ที่นี้เธอสามารถจมเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่ของอเมริกันเล็กซิงตัน ( Lexinton ) ลงได้ และทำความเสียหายอย่างหนักให้กับเรือบรรทุกเครื่องบินยอร์คทาวน์ ( Yorktown) ของอเมริกัน แต่เธอก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักด้วยเช่นกันและสูญเสียเครื่องบินเกือบทั้งหมดไป
หลังการซ่อมแซมเธอถูกส่งไปทำการรบที่หมู่เกาะโซโลมอนพร้อมกับเรือซุยคากุ ใน Battle of Eathern Solomon เธอสามารถทำความเสียหายอย่างหนักให้กับเรือบรรทุกเครื่องบินเอ็นเตอร์ไพร์สของอเมริกัน และใน Battle of Santa Cruze Island เธอได้จมเรือบรรทุกเครื่องบินฮอร์เนต ( Hornet ) ของอเมริกันลง แต่ก็เป็นอีกครั้งที่เธอได้รับความเสียหายอย่างหนักเช่นกันจากลูกระเบิดของเครื่องบินดำทิ้งระเบิด
ในปี 2486 เธอได้รับมอบหมายให้ทำการรุกโต้กลับกองกำลังของอเมริกาที่หมู่เกาะอลูเชียน แต่ถูกยกเลิกเนื่องจากอเมริกาสามารถยึด Attu ได้ เธอจึงยังคงอยู่ที่ฐานทัพเรือ Truk ตลอดปี
ในปี 2487 ในการปฎิบัติการ A-GO เพื่อเข้าตอบโต้กองกำลังพันธมิตรที่หมู่เกาะมารีอาน่า ระหว่างการรบที่ทะเลฟิลิปปินส์ ( Battle of Philipines Sea ) เมื่อวันที่ 19/6/2487 เธอถูกยิงด้วยตอร์ปิโดจากเรือดำน้ำอเมริกันชื่อ Cavalla ในขณะที่กำลังเติมเชื้อเพลิงเครื่องบิน ในจุดที่สำคัญ ทำให้ไม่สามารถดับไฟได้ หลังจากนั้นเธอจึงถูกรุมทิ้งระเบิดจากเครื่องบินอเมริกันและจมลงอย่างรวดเร็วพร้อมกับชีวิตลูกเรือ 1,272 คน (มีผู้รอดชีวิต 571 คนจากการช่วยเหลือของเรือ Yahagi,Urakaze,Wakatsuki,Hatsuzuki)
ตามมาด้วย เรือน้องครับ ซุยคาคุ
เรือบรรทุกเครื่องบิน Zuikaku (แปลว่า นกกระเรียนแห่งโชค)
ซุยคากุ เรือพี่น้องของเรือโชคากุ ในชั้นโชคากุ เข้าร่วมรบในหลายสมรภูมิในแปซิฟิคที่มีชื่อเสียงหลายต่อหลายครั้ง เป็น 1 ใน 6 ของเรือบรรทุกเครื่องบินญี่ปุ่นที่เข้าร่วมในการโจมตี Pearl Harbour เป็นเรือที่มีชื่อเสียงและมีบทบาทอย่างมาก เช่นเดียวกับเรือพี่โชคากุ แต่เดิมถูกออกแบบให้เป็นเรือประจัญบานรุ่นใหม่ เช่นเดียวกับเรือยามาโต้ แต่ได้เปลี่ยนมาเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินต่อมา สามารถบรรทุกเครื่องบินได้ 70 - 80 เครื่อง และมีความเร็วสูง ถึง 34 นอต ( 63 ก.ม./ช.ม.) ด้วยการออกแบบที่ดีทำให้เธอสามารถรอดผลจากจากการทำลายได้หลายครั้ง สามารถบรรทุกเครื่องบินขับไล่ A6M ซีโร่ ได้ 15 ลำ , เครื่องบินดำทิ้งระเบิด D3A วาล 27 ลำ และเครื่องบินทิ้งระเบิด/ตอร์ปิโด B5N คาเตะ 27 ลำ เช่นกัน
การโจมตี Pearl Habour ฝูงบินระลอกแรกประกอบด้วยเครื่องบินดำทิ้งระเบิด D3A วาล 25 ลำ จากเรือซุยคากุ ได้ทำลาย สนามบิน Wheeler Heel และเครื่องบินขับไล่ A6M ซีโร่ 5 ลำ ได้โจมตี Kaneohe และฝูงบินระลอกสอง เครื่องบินทิ้งระเบิดแนวระดับ B5N คาเตะ 27 ลำ ได้ทำลาย สนามบิน Hickam และเครื่องบินดำทิ้งระเบิด D3A วาล 17 ลำได้ จมเรือ Maryland , เรือ California ลง
หลังจากนั้นได้มีส่วนในการรบที่ ราบวลและ เลย์ ในนิวกีนี ,ที่มหาสมุทรอินเดีย ได้โจมตีโคลัมโบและ Trincomalee และจมเรือบรรทุกเครื่อง Hermes ของอังกฤษ
ในเดือนพฤษภาคม 2485 ได้ร่วมกับเรือโชคากุและโชโฮ ในการปฏิบัติการ MO เพื่อสนับสนุนการรุกที่พอร์ตมอเรสบี ของออสเตรเลียแต่ได้ปะทะกับเรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกันที่ทะเลคอรัลเกิดเป็นการรบที่ทะเลคอรัล ( Battle of Coral Sea) ขณะที่โชคากุถูกตรวจพบและถูกโจมตีและโชโฮถูกจม เรือซุยคากุกลับไม่ถูกตรวจพบและโจมตีเลย แต่เธอก็เสียเครื่องบินไปมากกว่าครึ่ง ทำให้ไม่อาจทำการรบต่อและต้องถอนกำลังกลับญี่ปุ่นเพื่อเสริมกำลังใหม่ ทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมการรบที่มิดเวย์ได้
ในเดือนสิงหาคม 2485 ได้เข้าร่วมรบที่ทะเลโซโลมอน เธอสามารถส่งเครื่องบินทำความเสียหายให้กับเรือบรรทุกเครื่องบินเอ็นเตอร์ไพรส์ของอเมริกา หลังจากนั้นในเดือนตุลาคม ในการรบที่ซานตาครูซ เธอได้ทำความเสียหายอย่างหนักให้กับเรือเอ็นเตอร์ไพรส์อีกครั้ง รวมทั้งเรือฮอร์เนตซึ่งจมในเวลาต่อมาด้วย (โดยตอร์ปิโดจากเรือพิฆาต Akigumo และ Makigumo ) อย่างไรก็ตามทั้งซุยโฮและโชคากุก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการโจมตีของเครื่องบินอเมริกัน ทำให้ซุยคากุต้องรับเครื่องบินจากเรือเหล่านี้ โดยเครื่องบินกว่า 110 ลำที่ส่งขึ้นจากเรือญี่ปุ่น 44 ลำต้องลงจอดบนเรือซุยคากุ
ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2486 เธอได้ถอนตัวออกจากกัลดัลคาแนล เพื่อรับภารกิจใหม่ คือ ทำการรุกโต้กลับกองกำลังของอเมริกาที่หมู่เกาะอลูเชียน แต่ถูกยกเลิกเนื่องจากอเมริกาสามารถยึด Attu ได้ เธอจึงยังคงอยู่ที่ฐานทัพเรือ Truk เพื่อสนับสนุนทางอากาศต่อหมู่เกาะ Marshall ต่อมาในปี 2487 เธอประจำอยู่ที่สิงคโปร์ และถูกเรียกเข้าร่วมปฏิบัติการ A-GO เพื่อเข้าตอบโต้กองกำลังพันธมิตรที่หมู่เกาะมารีอาน่า ระหว่างการรบที่ทะเลฟิลิปปินส์ ( Battle of Philipines Sea ) เรือ Shokaku และ Taiho ถูกจมด้วยตอร์ปิโดจากเรือดำน้ำ เธอจึงต้องรับผู้รอดชีวิตจากเรือดังกล่าว ในเดือนมิถุนายน เธอถูกลูกระเบิดที่โรงเก็บเครื่องบิน แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ หลังการรบซุยคากุจึงเป็นลำเดียวจากจำนวน 6 ลำที่เข้าร่วมโจมตีเพิล์วฮาร์เบอร์ที่ยังหลงเหลืออยู่ ในเดือนตุลาคม ปี 2487 เธอได้รับหน้าที่เป็นเรือธงของนายพลโอซาวา เพื่อปฏิบัติการ Sho-1 ในการรบที่ Cape Engano เธอได้ส่งเครื่องบินที่เหลืออยู่เข้าโจมตีกองกำลังที่ 3 ของอเมริกา ส่วนใหญ่ถูกยิงตกโดยเครื่องบินคุ้มกัน Hellcat ส่วนที่เหลือหลงทางไปยังเกาะลูซอน แล้วเธอก็ถูกโจมตีอย่างหนักโดยถูกตอร์ปิโด 7 ลูกและลูกระเบิด 9 ลูก จนต้องหยุดแล่น นายพลโอซาวาต้องย้ายธงไปยังเรือลาดตระเวนเบา Oyodo เรือซุยคากุจึงจมลงพร้อมกับลูกเรือ 843 คน ส่วนที่เหลือ 862 คนได้รับการช่วยเหลือจากเรือพิฆาต Wakatsuki และ Kuwa
>_<
ชอบมากมายพี่น้องคู่นี่
รูปครับ
Spoiler:
Shokaku
Zuikaku
8.เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Akagi
เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Akagi นี้ เป็นเรือธงแห่งกองกำลังโจมตีหลักของกองทัพเรือญี่ปุ่นมีขนาดเรือที่ ใหญ่ มาก พอกันกับเรือบรรทุกเครื่องบิน Lexington ของอเมริกา เธอเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่ดัดแปลงมาจาก เรือลาดตระเวนประจัญบาน
และอาคากิ เป็น1ใน 6 เรือบรรทุกเครื่องบินที่ไปโจมตีเพิลฮาเบอร์และยังเรือธงอีกด้วย
Akagi Class Data
ระวางขับดันน้ำ้ : 41,300 ตัน
ความเร็วสูงสุด : 31 นอต
อาวุธ
1.ปืนใหญ๋ขนาด 8 นิ้ว 12 กระบอก (ภายหลังลดเหลือ 8 กระบอก)
2.ปืนใหญ่ขนาด 4.7 นิ้ว 12กระบอก
3.ปืนกลขนาด 25มม. 28กระบอก
บรรทุกเครื่องบินได้ : 91 ลำ
ลูกเรือทั้งหมด : 2000 นาย
เรือในชั้น Akagi นั้นทีเพียงลำเดียวซึ่งคือ เรือบรรทุกเครื่องบิน อาคากิ เธอมีเพื่อสนิท(สนิทกันมาก ชนิด ไปไหนมาไหนด้วยกัน) ซึ่งคือ เรือบรรทุกเครื่องบิน คางะ สิ่งที่ทำให้ อเมริกา ต้องอึ้งกับเรือลำนี้คือ
ความเร็วในการส่งเครื่องบินออกรบหลังเพราะ ว่า อาคากิ นั้นมีรันเวย์2ชั้น (อาคากิก่อนการดัดแปลง ในปี 1927) และหลังการดัดแปลงนั้น ก็ยังคงความเร็วในการส่งเครื่องบินออกรบ อยู่ดี เพราีะ มีลิฟต์ ขนส่งเครื่องบิน 2 ชั้น
อาคากิมี พลเรือโท นางุโมะ จุนอิจิ เป็นผู้บังคับการเรือ
รูปครับ
Spoiler:
นี่ Akagi ในปี 1927 ในฐานทัพเรือคุเระครับ ถ่ายคู่กับนางาโต้ด้วย > <
Akagi 1927 สังเกตดีๆครับ มันจะมี 2 รันเวย์
Akagi ถ่ายคู่กับ เรือประจัญบาน คองโก
นี่ Akagi หลังการดัดแปลงในปี 1938 ครับ
9. เรือบรรทุกเครื่องบิน ชั้น Kaga
เรือบรรทุกเครื่องบิน ชั้น Kaga เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดหนัก ลำแรกของกองทัพเรือญี่ปุ่น มีความสำคัญต่อกองทัพเรือญี่ปุ่นมากเท่ากับเรือบรรทุกเครื่องบิน Akagi เธอต่อเสร็จหลังรุ่นพี่ของเธอแค่ปีเดียวและเธอเป็น เรือ 1ใน6 ลำ ของกองกำลังโจมตีัหลังของกองทัพเรือญี่ปุ่นด้วย คางะนั้นเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่ดัดแปลงมาจากเรือประจัญบาน
Kaga Class Data
ระวางขับดันน้ำ :42,541ตัน
ความเร็วสูงสุด : 28 นอต
อาวุธ
1.ปืนใหญ่ขนาด 8 นิ้ว 10กระบอก
2.ปืนใหญ่ขนาด 5 นิ้ว 16 กระบอก
3.ปืนกลต่อสู้อากาศยาน ขนาด 25มม. 22 กระบอก
บรรทุกเครื่องบินได้ : 90ลำ
ลูกเรือทั้งหมด : 2060 นาย
เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Kaga นี้มีเพียงลำเดียว คือ เรือบรรทุกเครื่องบิน Kaga
คางะนั้นเรียกได้ว่าสนิทกับ อาคากิ มาก อาคากิไปไหน คางะขอตามไปด้วย
คางะนั้นมีความเร็วในการส่งเครื่องบินไปโจมตี พอๆกันกับ รุ่นพี่ของเธอก็คือ อาคากิ เพราะ ก่อนดัดแปลงเธอก็มีรันเวย์ 2 ชี่นนเหมือน อาคากิเช่นกัน หลังการดัดแปลงในปี 1935นั้น เธอมีลิฟต์ส่งเครื่องบิน 2 ชั้น (เธอดัดแปลงก่อน อาคากินะ เพราะอาคากิ ดัดแปลง ในปี 1938)
เกร็ดความรู้ของเรือชั้นKaga
Spoiler:
labor0045 เขียน:
เรือบรรทุกเครื่องบิน คาก้า Kaga
เรือคาก้า
เป็นอีก 1 ในเรือบรรทุกเครื่องบิน 6 ลำ ที่เข้าร่วมในการรบทางทะเลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกระหว่างอเมริกันและญี่ปุ่น ทั้งการโจมตีฐานทัพเรืออเมริกันที่เพิล์วฮาร์เบอร์ ( Pearl hobor) และที่มิดเวย์ ( Midway) แต่เริ่มแรกนั้นถูกต่อเป็นเรือประจัญบานชั้น Tosa โดยจะมีเรือ Kaga และ Tosa ในปี พ.ศ.2464 แต่เนื่องจากสนธิสัญญาจำกัดอำนาจการรบทางเรือที่ทำให้เรือชั้นนี้ซึ่งปล่อยลงน้ำไปแล้ว ต้องถูกยกเลิกและต้องยุบเป็นเศษเหล็ก
แต่สนธิสัญญานี้ได้อนุญาตให้ญี่ปุ่นสามารถดัดแปลงเรือประจัญบานที่มีระวางขับน้ำ 33,000 ตัน ขึ้นไปเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินได้ ซึ่งแต่เดิมได้เลือกไว้ 2 ลำคือเรือ Akagi และ Amagi แต่เนื่องจากเกิดแผ่นดินไหวในปี 2466 ทำให้ตัวเรือของเรือ Amagi เสียหายมาก เรือ Kaga จึงได้รับเลือกให้ถูกดัดแปลงเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินแทน เรือ Kaga ได้รับการดัดแปลงเสร็จในปี 2471 ในช่วงแรกเธอมีดาดฟ้า 2 ชั้น และมีดาดฟ้าชั้น 3 เป็นดาดฟ้าพิเศษ สามารถเก็บเครื่องบินได้ 60 ลำ และยังติดตั้งป้อมปืนใหญ 8 นิ้วอยู่ หลังจากการทดสอบ 2 ปี เธอก็กลับเข้าทำการปรับปรุงอีกครั้งหนึ่งโดยต่อดาดฟ้าชั้น 3 เพิ่ม ทำให้บรรทุกเครื่องบินได้ถึง 90 ลำ และติดตั้งเครื่องจักรเพิ่มเติม ทำให้ระวางขับน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 38,200 ตัน
หลังจากเข้าประจำการอีกครั้ง ในปี 2473 เธอที่ได้รับหน้าที่สนับสนุนการโจมตีเมืองเซี้ยงไฮ้ของจีน
และสงครามจีน-ญีปุ่น
ต่อมาเธอได้รับมอบหมายให้ร่วมกับเรืออคากิเป็นกองกำลังที่ 1 ในการโจมตีเพิล์วฮาร์เบอร์ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2484 เธอได้ส่งเครื่องบินระลอกแรกเข้าโจมตีเกาะโออาฮู โดยเครื่องบินแบบB5Nคาเตะ จำนวน 26 ลำ เข้าโจมตีเรืออริโซน่า,เทนเนสซี่,เรือ เวสต์เวอร์จิเนีย,โอกลาโฮม่า,เนวาด้า และเวสทัล ส่วน A6M2ซีโร่ 9 ลำ เข้าโจมตีสนามบินฮิกแคม และระลอกสอง โดยเครื่องบินแบบ D3A วาล 23 ลำ เข้าโจมตีเรือเนวาด้า , แมรี่แลนด์ และเวสต์เวอร์จิเนีย
ภารกิจต่อมาในเดือนมกราคม ปีถัดมาได้ส่งเครื่องบินร่วมกับอคากิเข้าโจมตีราบวลบนเกาะบิสมารค์ ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ส่งเครื่องบินเข้าโจมตี Palau และเมืองท่าดาร์วินของออสเตรเลีย จมเรือพันธมิตรไป 9 ลำ เช่นเรือ USS Peary รวมทั้งทะเลชวา
ต่อมาในภารกิจครั้งสุดท้าย ได้รับมอบหมายให้เข้าโจมตีหมู่เกาะมิดเวย์ เพื่อหลอกล่อให้เรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกันเข้ามาติดกับและถูกทำลาย เรือคาก้ามีเครื่องบินขับไล่ A6M2 ซีโร่ 30 ลำ, เครื่องบินดำทิ้งระเบิดD3A วาล 23 ลำ และ เครื่องบินทิ้งระเบิด/ตอร์ปิโด B5N คาเตะ 30 ลำ พร้อมที่จะทำการรบ ที่มิดเวย์ เธอได้ส่งเครื่องบินเข้าโจมตีและทำลายสนามบิน,สิ่งก่อสร้างและเครื่องบินบนเกาะมิดเวย์เป็นจำนวนมาก ร่วมกับเรืออื่นๆ ได้แก่ อคากิ,ฮิริว และโซริว ซึ่งก็น่าจะได้รับชัยชนะในการรบครั้งนี้ แต่สิ่งที่ญี่ปุ่นไม่รู้ก็คืออเมริกาได้ล่วงรู้แผนการนี้ล่วงหน้าและได้ซ้อนแผน ด้วยการส่งเครื่องบินเข้าทำลายกองเรือญี่ปุ่น หลังจากถูกโจมตีด้วยเครื่องบินทั้งจากมิดเวย์และเรือบรรทุกเครื่องบินหลายครั้ง ณ เวลา 10.22 น. เรือคาก้า ก็ถูกลูกระเบิดจำนวน 4 ลูก จากเครื่องบิน SBD Dauntless แห่งเรือบรรทุกเครื่องบินเอ็นเตอร์ไพรส์ ทำให้เกิดการระเบิดและเกิดเพลิงลุกไหม้เป็นเวลานาน เช่นเดียวกับ อคากิและโซริว มีเพียงฮิริวเท่านั้นที่รอดไปได้ ต่อมาเรือดำน้ำอเมริกันนอติลุส ได้ยิงตอร์ปิโดใส่เธอ 1 ลูก แต่ก็ไม่สามารถทำให้เธอจมได้ และเมื่อลูกเรือได้รับความช่วยเหลือจากเรือพิฆาตญี่ปุ่น Hagikaze และ Maikaze เธอก็ถูกจมลงด้วยตอร์ปิโด 2 ลูก
ในปี 2542 ซากของเรือคาก้าได้ถูกค้นพบโดยบริษัท Nauticos
รูปคร้าบ
Spoiler:
เรือ Kaga ในปี 1928 ที่ ท่าเรือ โยโคซุกะ (กรุณา ชะเง้อหน้าไปดูนิดนึงนะ แล้วจะเห็น ว่า คางะนั้นมีรันเวย์ 2 ชั้น)
Kaga ในปี 1938 หลังการดัดแปลงแล้ว
Kaga 1938
10. มาถึงชั้นสุดท้ายแล้วนะครับ กับ เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Shinano
เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Shinano นั้น เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีการติดเกราะอย่างหนาไว้ป้องกันระเบิด ขนาด 500 กก. ไว้ด้วย แต่เรือลำนี้ไม่ค่อยมีบทบาทในสงครามมากนัก
Shinano Data
ระวางขับดันน้ำ : 71,890 ตัน
ความเร็วสูงสุด : 27 นอต
อาวุธ
1. ปืนใหญ่ ขนาด 5นิ้ว 16กระบอก
2.ปืนกลต่อสู้อากาศยาน ขนาด 25 มม. 145 กระบอก
3.จรวดต่อต้านอากาศยาน 12ชุด ชุดละ 28 นัด
บรรทุกเครื่องบินได้ :55 ลำ
ลูกเรือทั้งหมด : 2400 นาย
เรือในชั้นชิชาโนะนี้มีเพียงลำเดียว คือ เรือบรรทุกเครื่องบินชินาโนะ
ชินาโนะ นั้นที่จริงแล้ว ถือว่า เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Yamato เพราะ เธอดัดแปลงมาจาก Hull ของเรือที่จะทำไปเป็นเรือประจัญบานชั้น ยามาโต้ลำที่3 แต่เนื่องด้วย การต่อสู้ด้วยเรือประจัญบานนั้นล้าสมัยไปแล้ว เลยดัดแปลงเจ้า hull นี้ ให้กลายเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินซะ ดังนั้น ชินาโนะ จึงเป็นพี่น้องกับ ยามาโต้ และมุซาชิ แต่ เธอ ไม่เคยได้เจอกับพี่น้องของเธอเลย เรือบรรทุกเครื่องบินชินาโนะ นั้น ปฏิบัติการ เฉพาะ ใน น่านน้ำของญี่ปุ่นเท่านั้นครับ
รูปคร้าบ
Spoiler:
Shinano
Shinano ถ่ายที่ อ่าวโตเกียว ปี 1944
แน่นอนครับ เรือบรรทุกเครื่องบิน ของผมบรรทุกของแถมมาฝากทุกคนอยู่แล้วคร้าบ
Spoiler:
เรือบรรทุกเครื่องบินแห่งจักรพรรดินาวีนั้นมีด้วยกันทั้งหมด 10ชั้น เรามาเริ่มทำความรู้จักกันทีละชั้นกันเลยดีกว่านะ
ผมขอไล่ไปตามขนาดเรือเลยนะครับ
1. ชั้นแรก เรือ บรรทุกเครื่องบิน ชั้น Ryujo
เรือบรรทุกเครื่องบินริวโจนั้นเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดเล็ก ที่ ดัดแปลงมาจากเรือโดยสาร ให้เป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน
Ryujo Data
ระวางขับดันน้ำ :12,732 ตัน
ความเร็วสูงสุด :29 นอต
อาวุธ
1.ปืนใหญ่ ขนาด 5 นิ้ว ทั้งหมด 8 กระบอก
2.ปืนกลต่อสู้อากาศยานขนาด 25 มม. 4 กระบอก
3.ปืนกลต่อสู้อากาศยาน ขนาด 13 มม. 24 กระบอก
บรรทุกเครื่องบินได้ทั้งหมด :34 ลำ
บรรทุกลูกเรือทั้งหมด : 924 นาย
เืรือบรรทุกเครื่องบินริวโจนั้น เนื่องจากบรรทุกได้ค่อนข้างน้อย และมัขนาดเล็ก จึงทำหน้าที่ เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินคุ้มกัน
เครื่องบินที่บรรทุกไปนั้น ส่วนใหญ่จึงเป็นเครื่องบิน Fighter Mitsubishi Zero ครับ และหอบังคับการของ ริวโจนั้น อยู่ใต้ลานบินด้านหน้านะครับ
ในคลาส Ryujo นั้นมีเรือบรรทุกเครื่องบินเพียงลำเดียวคือ เรือบรรทุกเครื่องบิน ริวโจครับ
รูปจ้า
Spoiler:
Ryujo
เกร็ดความรู้ของเรือบรรทุกเครื่องบิน Ryujo by ท่าน labor0045
Spoiler:
labor0045 เขียน:
ริวโจ(ryujo) (มังกรเริงระบำ)
เรือริวโจ เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดเบา ปล่อยลงน้ำเมื่อปี 2474 และขึ้นประจำการในปี เธอมีขนาดเพียง 8,000 ตันเท่านั้น จึงไม่ปลอดภัยในการปฏิบัติการในทะเลลึก ปลายทศวรรษที่ 30 เธอจึงได้รับการปรับปรุง ให้คงทนทะเลมากขึ้น พร้อมกับเพิ่มดาดฟ้าขึ้นอีก 1 ชั้น เพื่อให้พ้นยอดคลื่น และบรรทุกเครื่องบินได้เพิ่มขึ้น
ในปี 2480 เธอถูกส่งไปปฏิบัติการในจีน โดยปฏิบัติการด้วยเครื่องบินขับไล่นากาจิมา A4N 12 ลำ และเครื่องบินดำทิ้งระเบิดเออิชิ D1A 15 ลำ หลังจากที่ผลการปฏิบัติการไม่เป็นที่พึงพอใจ เธอจึงได้รับการปรับปรุงอีกครั้ง
ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เธอสังกัดกองกำลังที่ 4 ซึ่งเป็นกองเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่ เธอจึงถูกจัดเป็นเรือชั้นรอง ด้วยการปรับปรุงครั้งล่าสุดทำให้ความคงทนทะเลและประสิทธิภาพการรบเป็นที่พึงพอใจ
ในเดือนธันวาคม 2484 เรือริวโจทำหน้าที่สนับสนุนการโจมตีฟิลิปปินส์ โดยรองรับการลงจอดที่ Davaoและ Jolo ในตอนนี้เธอมีเครื่องบินขับไล่ A6M2 ซีโร่ 22 ลำ และเครื่องบินดำทิ้งระเบิด D3A วาล 16 ลำ เดือนมกราคม 2485 เธอส่งเครื่องบินเข้าสนับสนุนการรบที่ มาลายู และเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมส่งเครื่องบินเข้าโจมตี กองกำลังของอเมริกัน,อังกฤษ,ฮอลแลนด์และออสเตรเลีย ในการรบแห่งชวา และสามารถจมเรือ USS Pope ลงได้ และยังโจมตีหมู่เกาะอันดามันตามแนวชายฝั่งพม่า
ในเดือนเมษายนส่งเครื่องบินเข้าโจมตีอ่าวเบงกอล ในมหาสมุทรอินเดีย ร่วมกับเรือลาดตระเวณ Chokai,Kumano,Suzuya,Mikuma,Mogami ,Yura และเรือพิฆาตอีก 4 ลำ สามารถจมเรือสินค้าได้ 23 ลำ และส่งเครื่องบินเข้าโจมตีอินเดียที่ Cocanada และ Vizagapatam
เดือนมิถุนายนเรือริวโจได้รับมอบหมายให้โจมตีหมู่เกาะอลูเชียนซึ่งเป็นแผนลวงในการรบที่มิดเวย์ โดยโจมตีเกาะUnalaska และ Dutch habor ในการโจมตีครั้งนี้ มีเครื่องบิน A6M2 ซีโร่ ลำหนึ่ง บินโดย Tadahito Koga เกิดหลงทางและต้องลงจอดบนเกาะAkutan ผลการลงจอดทำให้เครื่องบินตีลังกา นักบินคอหักเสียชีวิตทันที แต่เครื่องซีโร่ไม่เสียหายมากนักและถูกยึดโดยฝ่ายอเมริกัน ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับญี่ปุ่นมาก เนื่องจากฝ่ายอเมริกันได้ทำการตรวจสอบข้อดีข้อเสียจนสามารถพัฒนากลยุทธในการเอาชนะเครื่องบินซีโร่และยังสร้างเครื่องบินที่ดีกว่าอย่างเช่น F6F Hell Cat ขึ้นมาปราบเครื่องบินซีโร่อีกด้วย
หลังจากที่ญี่ปุ่นเสียเรือบรรทุกเครื่องบินไป 4 ลำในการรบที่มิดเวย์ ทำให้เรือริวโจมีความสำคัญมากขึ้น ในเดือนสิงหาคม ได้เปลี่ยนสังกัดไปอยู่กองกำลังที่ 2 ร่วมกับเรือโชคากุและซุยคากุ เข้าโจมตีหมู่เกาะโซโลมอน เธอทำหน้าที่สนับสนุนการเสริมกำลังบนเกาะกัลดัลคาแนล และโจมตีสนามบินแฮนเดอร์สัน และต่อต้านเรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกัน ผลการรบที่ทะเลโซโลมอนตอนเหนือ เรือริวโจ ซึ่งคุ้มกันโดยเรือโทเน่( Tone )และเรือพิฆาต Amatsukaze และ Tokitsukaze ได้ส่งเครื่องบิน 2 ระลอก เข้าโจมตีกัลดัลคาแนล แต่ในตอนบ่าย เธอโจมตีจากเครื่องบินดำทิ้งระเบิดและตอร์ปิโดซึ่งมาจากเรือบรรทุกเครื่องบินซาราโตก้า โดยถูกลูกระเบิดหลายลูกและโดนตอร์ปิโดในจุดสำคัญ 1 ลูก ทำให้น้ำท่วมห้องเครื่อง จนต้องสละเรือในเวลา 15.15 น. และจมลงในเวลา 18.00 น.
2. เรือบรรทุกเครื่องบิน ชั้น Taiyo
เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น ไทโย นั้นเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่มีการดัดแปลงมา จาก เรือบรรทุกสินค้า และทำให้เป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน
Taiyo Class Data
ระวางขับดันน้ำ : 20,000 ตันเป๊ะๆ
ความเร็วสูงสุด : 21 นอต
อาวุธ
1. ปืนใหญ่ขนาด 5 นิ้ว 8กระบอก
2.ปืนกลต่อสู็อากาศยาน ขนาด 25 มม. 64 กระบอก
3.ปืนกลต่อสู้อากาศยาน ขนาด 13 มม. 10กระบอก
บรรทุกเครื่องบินได้ :27 ลำ
ลูกเรือทั้งหมด : 850 นาย
เรือบรรทุกเครื่องบิน ไทโย นั้น เ็ป็นเรือบรรทุกเครื่องบินคุ้มกัน เนื่องจากบรรทุกเครื่องบินไปได้น้อย เครื่องบินที่บรรทุกไปส่วนใหญ่จึงเป็น Mitsubishi A6M5 Zero ครับ
เรือในชั้น Taiyo นี้มีด้วยกันทั้งหมด 3 ลำคือ เรือบรรทุกเครื่องบิน ไทโย ,เรือบรรทุกเครื่องบิน อุนโย และเรือบรรทุกเครื่องบิน ชุโยครับ
รูปเด้อ
Spoiler:
Taiyo
Unyo
Chuyo
3.เรือบรรทุกเครื่องบิน ชั้น Unryu
เรือบรรทุกเครื่องบินชั้นอุนริวนั้น เป็นเรือที่สร้างโดยใช้ แปลนฉบับเดียวกันกับเรือบรรทุกเครื่องบิน ฮิริว แต่ มีขนาด ของระวางขับดันน้ำที่เยอะกว่า
Unryu class Data
ระวางขับดันน้ำ : 22,534 ตัน
ความเร็วสูงสุด :34 นอต
อาวุธ
1.ปืนใหญ่ขนาด 5 นิ้ว 12 กระบอก
2.ปืนกลต่อสู็อากาศยาน 89 กระบอก
บรรทุกเครื่องบนได้ : 65 ลำ
ลูกเรือ ทั้งหมด : 1595 นาย
เรือบรรทุกเครื่องบินชั้นอุนริวนั้น มีเรือในชั้นทั้งหมด 3ลำ ได้แก่ เรือบรรทุกเครื่องบิน อุนริว ,เรือบรรทุกเครื่องบิน อามากิ เรือบรรทุกเครื่องบิน คัทสึรากิ
ที่จริงเรือบรรทุกเครื่องบินในชั้นอุนริวนั้นมีมากกว่านี้ แต่ สร้างไม่เสร็จก็ถูกแยกชิ้นส่วนหรือไม่ก็ถูกทำลาย
เกร็ดความรู้ของเรือชั้น Unryu
Spoiler:
labor0045 เขียน:
เรือบรรทุกเครื่องบิน คัทสึรางิ Katsuragi
คัทสึรางิ (Katsuragi)
เรือคัทสึรางิ เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินชั้นอุนเรียว (Unryu) ของกองทัพเรือญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 เธอไม่มีบทบาทในการรบมากนัก มีเพียงได้รับความเสียหายจากการทิ้งระเบิดของอเมริกันที่ฐานทัพเรือคุเร ตัวเรือได้รับการออกแบบเป็นอย่างดี โดยใช้เรือชั้นโซริวเป็นแม่แบบ แต่มีการปรับปรุงให้ดีขึ้นจากประสบการในการรบ เธอถูกอนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างในปี 2484 แต่เนื่องจากความขาดแคลนวัสดุ จึงถูกลดสเปคลงหลายอย่าง เช่น เครื่องยนต์ต้องใช้เครื่องยนต์ของเรือพิฆาตแทน ทำให้มีกำลังเพียง 1 ใน 3 ของที่ควรจะเป็น , ติดตั้งลิฟท์ขนเครื่องบินเพียง 2 ตัว ขณะที่เรือโซริวมีถึง 3 , และไม่มีเกราะที่ดาดฟ้า ดังนั้นจากโครงสร้างที่เบาบาง จึงไม่เหมาะที่ปฏิบัติการด้วยเครื่องบินที่มีน้ำหนักมากอย่าง B7A,B6N เป็นจำนวนมากได้ จึงทำให้ขีดความสามารถของเรือน้อยลงมากจนไม่อาจต่อกรกับเรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกันได้ แต่พอที่จะสามารถปฏิบัติการด้วยเครื่องบินพลีชีพ คามิคาเซ่ได้ เธอจึงถูกใช้ส่งเครื่องคามิคาเซ่แบบ Ohkas ไปฟิลิปปินส์ด้วย
เรือคัทสึรางิอยู่รอดได้จนสงครามสิ้นสุด และถูกยึดโดยฝ่ายสัมพันธมิตร เธอถูกยุบเป็นเศษเหล็กในปี 2490
และก็ เรือบรรทุกเครื่องบิน ซุยโฮ Zuiho
ซุยโฮ
เรือซุยโฮ เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่ดัดแปลงมาจากเรือบรรทุกน้ำมันความเร็วสูง Takasaki ปล่อยลงน้ำเมื่อปี 2477 ต่อมาเมื่อญี่ปุ่นได้ตระหนักถึงความสำคัญของเรือบรรทุกเครื่องบิน จึงได้ทำการดัดแปลงเรือ Takasaki เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินเมื่อปี 2483 และให้ชื่อว่า ซุยโฮ ( Zuiho) เธอมีเรือพี่เรือน้องอีกลำชื่อโชโฮ ( Shoho) เรือซุยโฮมีระวางขับน้ำ 14,200 ตัน ยาว 217 เมตร กว้าง 23 เมตร สามารถบรรทุกเครื่องบินได้ 30 ลำ ประกอบด้วยเครื่องบินขับไล่ A6M2 ซีโร่ 16 ลำ และเครื่องบินดำทิ้งระเบิด D3A วาล 14 ลำ เธอถูกจมลงโดยเครื่องบินทิ้งระเบิดอเมริกันในการรบที่อ่าวเลย์เต หมู่เกาะฟิลิปปินส์ โดยเธอถูกใช้เป็นนกต่อ ให้กับกองเรือประจัญบานของญี่ปุ่นในการเข้าโจมตีกำลังทางเรือของอเมริกาที่อ่าวเลย์เต โดยทำหน้าที่ดึงกำลังทางอากาศของอเมริกาออกไปและเปิดทางให้เรือประจัญบานญี่ปุ่นเข้าโจมตีเรืออเมริกันได้ เรียกการรบครั้งนี้ว่า Battle of Cape Engano ในวันที่ 25 ตุลาคม 2487
รูปครับ
Spoiler:
Unryu
Amagi
Katsuragi
4. เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Hiyo
เรือบรรทุกเครื่องบิน ชั้น Hiyo นั้นเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่ แต่ มีหน้าที่เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินคุ้มกันเท่านั้น
Hiyo Class Data
ระวางขับดันน้ำ : 26,949 ตัน
ความเร็วสูงสุด : 25 นอต
อาวุธ
1.ปืนใหญ่ขนาด 5นิ้ว 12กระบอก
2.ปืนกลต่อสู้ อากาศยาน ขนาด 25 มม. 76ประบอก
3. จรวดต่อต้านอากาศยาน(ใช้ในปี 1944) 6 ชุด (ชุดละ 28 ลูก)
บรรทุกเครื่องบินได้ :53 ลำ
ลูกเรือทั้งหมด : 1224 นาย
เรือในชั้น Hiyo นี้มี2 ลำ ได้ แก่เรือบรรทุกเครื่องบิน ฮิโย และเรือบรรทุกเครื่องบิน จุนโย
รูปครับ
็ Spoiler:
Hiyo
Junyo
5.เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Taiho
เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Taiho นี้ เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่ ที่ว่ากันว่า มีความสวยงามที่สุดในเรือบรรทุกเครื่องบินที่ IJN เคยต่อมา
Taiho Data
ระวางขับดันน้ำ :34,600 ตัน
ความเร็วสูงสุด : 33 นอต (ถือว่าเร็วนะครับสำหรับเรือลำใหญ่ๆ)
อาวุธ
1.ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ขนาด 3.9 นิ้ว 12กระบอก
2.ปืนกลขนาดต่อสู้อากาศยาน ขนาด 25มม. 71กระบอก
บรรทุกเครื่องบินได้ :60ลำ
ลูกเรือทั้งหมด :1751 นาย
เรืือในชั้น Taiho นี้ มีเพียงลำเดียวคือ เรือบรรทุกเครื่องบิน ไทโฮ
รูปครับ
Spoiler:
6. เรือบรรทุกเครื่องบิน ชั้น Soryu
เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Soryu นี้ถือเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่มีความสำคัญต่อกองทัพเรือญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก เพราะ เป็น เรือ 2 ลำจากกองกำลังโจมตีหลักของญี่ปุ่นทั้งหมด 6 ลำ
Soryu Class Data
ระวางขับดันน้ำ :18,880 ตัน(โซริว)/20,250(ฮิริว)
ความเร็วสูงสุด :34 นอต
อาวุธ
1.ปืนใหญ่ขนาด 5 นิ้ว 12กระบอก
2.ปืนกลต่อสู็อากาศยาน ขนาด 25มม. 28กระบอก(โซริว)/31กระบอก(ฮิริว)
บรรทุกเครื่องบินได้ทั้งหมด : 71 ลำ (โซริว)/73 ลำ (ฮิริว)
ลูกเรือทั้งหมด : 1100 นาย
เรือชั้นโซริวนี้ มี พี่น้องฝาแฝด 2 ลำ คือ เรือบรรทุกเครื่องบิน โซริว และเรือบรรทุกเครื่องบิน ฮิริว
เรือบรรทุกเครื่องบิน ฮิริวนั้นมีผู้บัญชาการ ที่เป็น บุคลากรสำคัญของ กองทัพเรือญี่ปุ่นคือ พลเรือตรี ยามากุจิ ทามน ซึ่งท่านได้สละชีวิต จมไปพร้อมกับเรือที่ท่านรักคือฮิริวนั้นเอง เรือทั้ง2ลำนี้ จมในยุทธการ มิดเวย์
เกร็ความรู้ของเรือชั้น Soryu
Spoiler:
labor0045 เขียน:
เรือบรรทุกเครื่องบิน ฮิริว Hiryu (มังกรเหิรฟ้า, Flying Dragon)
เรือฮิริว
เป็น 1 ในเรือบรรทุกเครื่องบิน 6 ลำ ที่เข้าร่วมในการรบทางทะเลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกระหว่างอเมริกันและญี่ปุ่น ทั้งการโจมตีฐานทัพเรืออเมริกันที่เพิล์วฮาร์เบอร์ ( Pearl hobor) และที่มิดเวย์ ( Midway) ได้รับการต่อขึ้นในปี พ.ศ.2479 และขึ้นประจำการในปี พ.ศ.2482 ภายใต้ของกำหนดสนธิสัญญาจำกัดอำนาจการรบทางเรือที่วอชิงตัน เรือชั้นนี้มี 2 ลำ ได้แก่ ฮิริว (Hiryu) และ โซริว ( Soryu) ซึ่งทั้ง 2 นี้ก็ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว โดยฮิริวมีขนาดใหญ่กว่า 2,000 ตัน โดยมีระวางขับน้ำเต็มที่ 19,500 ตัน และยาวกว่า 4 ฟุต และมีสะพานเดินเรือคนละด้านกัน สามารถบรรทุกเครื่องบินไปได้ 73 ลำ
หลังจากเข้าประจำการภารกิจแรกที่ได้รับก็คือการโจมตีเพิล์วฮาร์เบอร์ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2484 เธอได้ส่งเครื่องบินระลอกแรกเข้าโจมตีเกาะโออาฮู โดยเครื่องบินแบบคาเตะ จำนวน 10 ลำ เข้าโจมตีเรืออริโซน่า และแคลิฟอร์เนีย คาเตะ 8 ลำ เข้าโจมตีเรือ เวสต์เวอร์จิเนีย,โอกลาโฮม่า และ เฮเลน่า ส่วนซีโร่ 6 ลำ เข้าโจมตีสนามบินวีลเลอร์และบาร์เบอร์พอยต์
ภารกิจต่อมาในเดือนธันวาคม ปีเดียวกันคือการส่งเครื่องบินเข้าโจมตีเกาะเวก ในปีต่อมาเดือนมกราคมส่งเครื่องบินเข้าสนับสนุนการโจมตี Ambon และ Moluccas เดือนกุมภาพันธ์ถัดมาเข้าโจมตีเมืองดาร์วิน ประเทศออสเตรเลียร่วมกับเรือโซริว
ในเดือนมีนาคมปีเดียวกัน มีส่วนช่วยรบในการรบที่ทะเลชวา โดยโจมตีการขนส่งของฝ่ายพันธมิตรที่ Tijlatjep และหมู่เกาะคริสต์มาส สามารถจมเรือสินค้าฮอลแลนด์ชื่อ Poelau bras ในเดือนเมษายน ได้เข้าทำการรบในทะเลอินเดีย โจมตีกองกำลังของอังกฤษและสามารถจมเรืออังกฤษได้หลายลำ เช่น เรือลาดตระเวณCornwall และDorsetshire , เรือบรรทุกเครื่องบิน Hermes และเรือพิฆาตคุ้มกัน Vampire
วันที่ 19 เมษายน ได้รับมอบหมายให้ไล่ล่ากองเรืออเมริกัน( Hornetและ Enterprise) หลังจากที่ญี่ปุ่นถูกทิ้งระเบิดจากปฏิบัติการดูลิตเติล ( Doolittle) แต่ไม่สำเร็จ
ต่อมาในภารกิจครั้งสุดท้าย ได้รับมอบหมายให้เข้าโจมตีหมู่เกาะมิดเวย์ เพื่อหลอกล่อให้เรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกันเข้ามาติดกับและถูกทำลาย เรือฮิริวมีเครื่องบินขับไล่ A6M2 ซีโร่ 21 ลำ, เครื่องบินดำทิ้งระเบิดD3A วาล 21 ลำ และ เครื่องบินทิ้งระเบิด/ตอร์ปิโด B5N คาเตะ 21 ลำ พร้อมที่จะทำการรบ ที่มิดเวย์ เธอได้ส่งเครื่องบินเข้าโจมตีและทำลายสนามบิน,สิ่งก่อสร้างและเครื่องบินบนเกาะมิดเวย์เป็นจำนวนมาก ร่วมกับเรืออื่นๆ ได้แก่ อคากิ,คากะ และโซริว ซึ่งก็น่าจะได้รับชัยชนะในการรบครั้งนี้ แต่สิ่งที่ญี่ปุ่นไม่รู้ก็คืออเมริกาได้ล่วงรู้แผนการนี้ล่วงหน้าและได้ซ้อนแผน ด้วยการส่งเครื่องบินเข้าทำลายกองเรือญี่ปุ่น ทั้งคากะ ,อคากิและโซริว ต่างถูกทิ้งระเบิดจนเกิดเพลิงลุกไหม้และจมลงในเวลาต่อมา เรือฮิริวจึงได้ทำการแก้แค้นด้วยการส่งเครื่องบิน 2 ระลอกเพื่อค้นหาและทำลายเรือข้าศึก ซึ่งประสบผลโดยสามารถทำความเสียหายให้อย่างหนักต่อเรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกันชื่อ ยอร์คทาวน์ และจมลง เมื่อเรือดำน้ำญี่ปุ่น I-168 ซ้ำด้วยตอร์ปิโด
แต่หลังจากนั้นทางอเมริกันก็สวนกลับด้วยเครื่องบินดำทิ้งระเบิดแบบ SBD Dauntless จำนวน 13 เครื่องจากเรือEnterprise ได้ทิ้งระเบิดใส่เรือฮิริวจำนวน 4 ลูกขณะที่กำลังส่งเครื่องบินขึ้น ทำให้เกิดการระเบิดและเพลิงลุกไหม้จนจมลง จบความกล้าหาญไว้ในทะเลแปซิฟิค
Spoiler:
Soryu
Hiryu
7.เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Shokaku
เรือชั้น Shokaku นั้น เป็น เรือบรรทุกเครื่องบินแห่งกองกำลังโจมตีหลักกแห่งจักรพรรดินาวี ที่มีความสำคัญได้เทียบเท่ากับ
เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Shokaku เป็นเรือที่มีขนาด ใหญ่ และมีความเร็วสูง
Shokaku Class Data
ระวางขับดันน้ำ :29,800 ตัน
ความเร็วสูงสุด : 34 นอต
อาวุธ
1.ปืนใหญ่ขนาด 5 นิ้ว 16 กระบอก
2.ปืนกลต่อต้านอากาศยาน ขนาด 25 มม. 96 กระบอก
3.จรวดต่อต้านอากาศยาน 6 ชุด /ชุดละ28นัด(ใช้ในเรือ ซุยคากุในปี 1944)
บรรทุกเครื่องบินได้ :84ลำ
ลูกเรือทั้งหมด : 1660 นาย
เรือชั้น Shokaku นี้ มีพี่น้องฝาแฝด อยู่ 2 ลำ คือ เรือบรรทุกเครื่องบิน โชคากุ กับเรือบรรทุกเครื่องบิน ซุยคากุ
ทั้ง2ลำนี้ เรียกได้ว่า เกิดมาเพื่อรบจริงๆครับ เพราะ 2 ลำนี้ เพิ่งเกิด(ต่อเสร็จ) ได้ไม่นาน ก็ ไปเข้าร่วมกองกำลังหลัก ไปโจมตีเพิลฮาร์เบอร์ โดยมีเรือรุ่นพี่อย่าง อาคากิ เป็น เรือธงในการโจมตีครั้งนี้
เกร็ดความรู้ของเรือชั้น Shokaku ครับ
Spoiler:
labor0045 เขียน:
ขอมาซัพพอด ข้อมูลให้กับ เรือ 2 พี่น้อง โซคาคุ กับ ซุยคาคุ นะครับ
ถ้าไม่มีเรือ2ลำนี่ ก็ไม่มีวันมีสงครามอ่าวเพิลฮาเบอร์ ครับ
เริ่มกันที่เรือพี่ก่อน โซคาคุ
เรือบรรทุกเครื่องบิน Shokaku ( แปลว่า นกกระเรียนเหิรฟ้า )
1 ใน 6 ของเรือบรรทุกเครื่องบินญี่ปุ่นที่เข้าร่วมในการโจมตี Pearl Harbour เป็นเรือที่มีชื่อเสียงและมีบทบาทอย่างมากในช่วงต้นของสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งในการรบที่ Pearl Habour , การโจมตีราชนาวีอังกฤษในมหาสมุทรอินเดีย และเป็นกำลังหลักในการรบที่ทะเลคอรัล ( Coral Sea ) และยังเข้าร่วมในการรบที่ ซานตาครูส ( Sata Cruz ) ,หมู่เกาะโซโลมอน ( Solomon Island) และหมู่เกาะมาเรียนา
แต่เดิมถูกออกแบบให้เป็นเรือประจัญบานรุ่นใหม่ เช่นเดียวกับเรือยามาโต้ แต่ได้เปลี่ยนมาเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินต่อมา สามารถบรรทุกเครื่องบินได้ 70 - 80 เครื่อง และมีความเร็วสูง ถึง 34 นอต ( 63 ก.ม./ช.ม.) มีเรือน้องอีกลำคือเรือ ซุยคากุ ด้วยการออกแบบที่ดีทำให้เธอสามารถรอดผลจากจากการทำลายได้หลายครั้ง
เธอสามารถบรรทุกเครื่องบินขับไล่ A6M ซีโร่ ได้ 15 ลำ , เครื่องบินดำทิ้งระเบิด D3A วาล 27 ลำ และเครื่องบินทิ้งระเบิด/ตอร์ปิโด B5N คาเตะ 27 ลำ เช่นกัน
หลังจากเข้าประจำการเธอเข้าร่วมอยู่ในกองกำลังเฉพาะกิจ Kido butai เพื่อโจมตีเพิลว์ฮาร์เบอร์ กล่าวกันว่าการโจมตีเพิล์วฮาร์เบอร์จะไม่เกิดถ้าไม่มีเธอเข้าร่วม เพราะทางญี่ปุ่นได้รอจนกระทั่งเธอและซุยคากุต่อเสร็จ จึงได้เริ่มแผนการที่ยิ่งใหญ่ดังกล่าว หลังจากการโจมตีเพิล์วฮาร์เบอร์ เธอได้ถูกมอบหมายภารกิจอีกหลายครั้ง โดยโจมตี ราบวล ในเดือนมกราคม 2485 , การโจมตีในมหาสมุทรอินเดีย ในเดือนมีนาคมร่วมกับเรือ ซุยคากุ,ฮิริว,อคากิ ในการทิ้งระเบิดโคลัมโบ และจมเรือบรรทุกเครื่องบินอังกฤษ Hermes และเรือลาดตระเวณอังกฤษ Cornwell และ Dorsetshire
ต่อมาได้รับมอบหมายให้สนับสนุนการปฏิบัติการที่พอร์ตมอเรสบี ของออสเตรเลีย แต่ได้ปะทะกับเรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกันที่ทะเลคอรัลเกิดเป็นการรบที่ทะเลคอรัล ( Battle of Coral Sea) ที่นี้เธอสามารถจมเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่ของอเมริกันเล็กซิงตัน ( Lexinton ) ลงได้ และทำความเสียหายอย่างหนักให้กับเรือบรรทุกเครื่องบินยอร์คทาวน์ ( Yorktown) ของอเมริกัน แต่เธอก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักด้วยเช่นกันและสูญเสียเครื่องบินเกือบทั้งหมดไป
หลังการซ่อมแซมเธอถูกส่งไปทำการรบที่หมู่เกาะโซโลมอนพร้อมกับเรือซุยคากุ ใน Battle of Eathern Solomon เธอสามารถทำความเสียหายอย่างหนักให้กับเรือบรรทุกเครื่องบินเอ็นเตอร์ไพร์สของอเมริกัน และใน Battle of Santa Cruze Island เธอได้จมเรือบรรทุกเครื่องบินฮอร์เนต ( Hornet ) ของอเมริกันลง แต่ก็เป็นอีกครั้งที่เธอได้รับความเสียหายอย่างหนักเช่นกันจากลูกระเบิดของเครื่องบินดำทิ้งระเบิด
ในปี 2486 เธอได้รับมอบหมายให้ทำการรุกโต้กลับกองกำลังของอเมริกาที่หมู่เกาะอลูเชียน แต่ถูกยกเลิกเนื่องจากอเมริกาสามารถยึด Attu ได้ เธอจึงยังคงอยู่ที่ฐานทัพเรือ Truk ตลอดปี
ในปี 2487 ในการปฎิบัติการ A-GO เพื่อเข้าตอบโต้กองกำลังพันธมิตรที่หมู่เกาะมารีอาน่า ระหว่างการรบที่ทะเลฟิลิปปินส์ ( Battle of Philipines Sea ) เมื่อวันที่ 19/6/2487 เธอถูกยิงด้วยตอร์ปิโดจากเรือดำน้ำอเมริกันชื่อ Cavalla ในขณะที่กำลังเติมเชื้อเพลิงเครื่องบิน ในจุดที่สำคัญ ทำให้ไม่สามารถดับไฟได้ หลังจากนั้นเธอจึงถูกรุมทิ้งระเบิดจากเครื่องบินอเมริกันและจมลงอย่างรวดเร็วพร้อมกับชีวิตลูกเรือ 1,272 คน (มีผู้รอดชีวิต 571 คนจากการช่วยเหลือของเรือ Yahagi,Urakaze,Wakatsuki,Hatsuzuki)
ตามมาด้วย เรือน้องครับ ซุยคาคุ
เรือบรรทุกเครื่องบิน Zuikaku (แปลว่า นกกระเรียนแห่งโชค)
ซุยคากุ เรือพี่น้องของเรือโชคากุ ในชั้นโชคากุ เข้าร่วมรบในหลายสมรภูมิในแปซิฟิคที่มีชื่อเสียงหลายต่อหลายครั้ง เป็น 1 ใน 6 ของเรือบรรทุกเครื่องบินญี่ปุ่นที่เข้าร่วมในการโจมตี Pearl Harbour เป็นเรือที่มีชื่อเสียงและมีบทบาทอย่างมาก เช่นเดียวกับเรือพี่โชคากุ แต่เดิมถูกออกแบบให้เป็นเรือประจัญบานรุ่นใหม่ เช่นเดียวกับเรือยามาโต้ แต่ได้เปลี่ยนมาเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินต่อมา สามารถบรรทุกเครื่องบินได้ 70 - 80 เครื่อง และมีความเร็วสูง ถึง 34 นอต ( 63 ก.ม./ช.ม.) ด้วยการออกแบบที่ดีทำให้เธอสามารถรอดผลจากจากการทำลายได้หลายครั้ง สามารถบรรทุกเครื่องบินขับไล่ A6M ซีโร่ ได้ 15 ลำ , เครื่องบินดำทิ้งระเบิด D3A วาล 27 ลำ และเครื่องบินทิ้งระเบิด/ตอร์ปิโด B5N คาเตะ 27 ลำ เช่นกัน
การโจมตี Pearl Habour ฝูงบินระลอกแรกประกอบด้วยเครื่องบินดำทิ้งระเบิด D3A วาล 25 ลำ จากเรือซุยคากุ ได้ทำลาย สนามบิน Wheeler Heel และเครื่องบินขับไล่ A6M ซีโร่ 5 ลำ ได้โจมตี Kaneohe และฝูงบินระลอกสอง เครื่องบินทิ้งระเบิดแนวระดับ B5N คาเตะ 27 ลำ ได้ทำลาย สนามบิน Hickam และเครื่องบินดำทิ้งระเบิด D3A วาล 17 ลำได้ จมเรือ Maryland , เรือ California ลง
หลังจากนั้นได้มีส่วนในการรบที่ ราบวลและ เลย์ ในนิวกีนี ,ที่มหาสมุทรอินเดีย ได้โจมตีโคลัมโบและ Trincomalee และจมเรือบรรทุกเครื่อง Hermes ของอังกฤษ
ในเดือนพฤษภาคม 2485 ได้ร่วมกับเรือโชคากุและโชโฮ ในการปฏิบัติการ MO เพื่อสนับสนุนการรุกที่พอร์ตมอเรสบี ของออสเตรเลียแต่ได้ปะทะกับเรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกันที่ทะเลคอรัลเกิดเป็นการรบที่ทะเลคอรัล ( Battle of Coral Sea) ขณะที่โชคากุถูกตรวจพบและถูกโจมตีและโชโฮถูกจม เรือซุยคากุกลับไม่ถูกตรวจพบและโจมตีเลย แต่เธอก็เสียเครื่องบินไปมากกว่าครึ่ง ทำให้ไม่อาจทำการรบต่อและต้องถอนกำลังกลับญี่ปุ่นเพื่อเสริมกำลังใหม่ ทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมการรบที่มิดเวย์ได้
ในเดือนสิงหาคม 2485 ได้เข้าร่วมรบที่ทะเลโซโลมอน เธอสามารถส่งเครื่องบินทำความเสียหายให้กับเรือบรรทุกเครื่องบินเอ็นเตอร์ไพรส์ของอเมริกา หลังจากนั้นในเดือนตุลาคม ในการรบที่ซานตาครูซ เธอได้ทำความเสียหายอย่างหนักให้กับเรือเอ็นเตอร์ไพรส์อีกครั้ง รวมทั้งเรือฮอร์เนตซึ่งจมในเวลาต่อมาด้วย (โดยตอร์ปิโดจากเรือพิฆาต Akigumo และ Makigumo ) อย่างไรก็ตามทั้งซุยโฮและโชคากุก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการโจมตีของเครื่องบินอเมริกัน ทำให้ซุยคากุต้องรับเครื่องบินจากเรือเหล่านี้ โดยเครื่องบินกว่า 110 ลำที่ส่งขึ้นจากเรือญี่ปุ่น 44 ลำต้องลงจอดบนเรือซุยคากุ
ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2486 เธอได้ถอนตัวออกจากกัลดัลคาแนล เพื่อรับภารกิจใหม่ คือ ทำการรุกโต้กลับกองกำลังของอเมริกาที่หมู่เกาะอลูเชียน แต่ถูกยกเลิกเนื่องจากอเมริกาสามารถยึด Attu ได้ เธอจึงยังคงอยู่ที่ฐานทัพเรือ Truk เพื่อสนับสนุนทางอากาศต่อหมู่เกาะ Marshall ต่อมาในปี 2487 เธอประจำอยู่ที่สิงคโปร์ และถูกเรียกเข้าร่วมปฏิบัติการ A-GO เพื่อเข้าตอบโต้กองกำลังพันธมิตรที่หมู่เกาะมารีอาน่า ระหว่างการรบที่ทะเลฟิลิปปินส์ ( Battle of Philipines Sea ) เรือ Shokaku และ Taiho ถูกจมด้วยตอร์ปิโดจากเรือดำน้ำ เธอจึงต้องรับผู้รอดชีวิตจากเรือดังกล่าว ในเดือนมิถุนายน เธอถูกลูกระเบิดที่โรงเก็บเครื่องบิน แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ หลังการรบซุยคากุจึงเป็นลำเดียวจากจำนวน 6 ลำที่เข้าร่วมโจมตีเพิล์วฮาร์เบอร์ที่ยังหลงเหลืออยู่ ในเดือนตุลาคม ปี 2487 เธอได้รับหน้าที่เป็นเรือธงของนายพลโอซาวา เพื่อปฏิบัติการ Sho-1 ในการรบที่ Cape Engano เธอได้ส่งเครื่องบินที่เหลืออยู่เข้าโจมตีกองกำลังที่ 3 ของอเมริกา ส่วนใหญ่ถูกยิงตกโดยเครื่องบินคุ้มกัน Hellcat ส่วนที่เหลือหลงทางไปยังเกาะลูซอน แล้วเธอก็ถูกโจมตีอย่างหนักโดยถูกตอร์ปิโด 7 ลูกและลูกระเบิด 9 ลูก จนต้องหยุดแล่น นายพลโอซาวาต้องย้ายธงไปยังเรือลาดตระเวนเบา Oyodo เรือซุยคากุจึงจมลงพร้อมกับลูกเรือ 843 คน ส่วนที่เหลือ 862 คนได้รับการช่วยเหลือจากเรือพิฆาต Wakatsuki และ Kuwa
>_<
ชอบมากมายพี่น้องคู่นี่
รูปครับ
Spoiler:
Shokaku
Zuikaku
8.เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Akagi
เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Akagi นี้ เป็นเรือธงแห่งกองกำลังโจมตีหลักของกองทัพเรือญี่ปุ่นมีขนาดเรือที่ ใหญ่ มาก พอกันกับเรือบรรทุกเครื่องบิน Lexington ของอเมริกา เธอเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่ดัดแปลงมาจาก เรือลาดตระเวนประจัญบาน
และอาคากิ เป็น1ใน 6 เรือบรรทุกเครื่องบินที่ไปโจมตีเพิลฮาเบอร์และยังเรือธงอีกด้วย
Akagi Class Data
ระวางขับดันน้ำ้ : 41,300 ตัน
ความเร็วสูงสุด : 31 นอต
อาวุธ
1.ปืนใหญ๋ขนาด 8 นิ้ว 12 กระบอก (ภายหลังลดเหลือ 8 กระบอก)
2.ปืนใหญ่ขนาด 4.7 นิ้ว 12กระบอก
3.ปืนกลขนาด 25มม. 28กระบอก
บรรทุกเครื่องบินได้ : 91 ลำ
ลูกเรือทั้งหมด : 2000 นาย
เรือในชั้น Akagi นั้นทีเพียงลำเดียวซึ่งคือ เรือบรรทุกเครื่องบิน อาคากิ เธอมีเพื่อสนิท(สนิทกันมาก ชนิด ไปไหนมาไหนด้วยกัน) ซึ่งคือ เรือบรรทุกเครื่องบิน คางะ สิ่งที่ทำให้ อเมริกา ต้องอึ้งกับเรือลำนี้คือ
ความเร็วในการส่งเครื่องบินออกรบหลังเพราะ ว่า อาคากิ นั้นมีรันเวย์2ชั้น (อาคากิก่อนการดัดแปลง ในปี 1927) และหลังการดัดแปลงนั้น ก็ยังคงความเร็วในการส่งเครื่องบินออกรบ อยู่ดี เพราีะ มีลิฟต์ ขนส่งเครื่องบิน 2 ชั้น
อาคากิมี พลเรือโท นางุโมะ จุนอิจิ เป็นผู้บังคับการเรือ
รูปครับ
Spoiler:
นี่ Akagi ในปี 1927 ในฐานทัพเรือคุเระครับ ถ่ายคู่กับนางาโต้ด้วย > <
Akagi 1927 สังเกตดีๆครับ มันจะมี 2 รันเวย์
Akagi ถ่ายคู่กับ เรือประจัญบาน คองโก
นี่ Akagi หลังการดัดแปลงในปี 1938 ครับ
9. เรือบรรทุกเครื่องบิน ชั้น Kaga
เรือบรรทุกเครื่องบิน ชั้น Kaga เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดหนัก ลำแรกของกองทัพเรือญี่ปุ่น มีความสำคัญต่อกองทัพเรือญี่ปุ่นมากเท่ากับเรือบรรทุกเครื่องบิน Akagi เธอต่อเสร็จหลังรุ่นพี่ของเธอแค่ปีเดียวและเธอเป็น เรือ 1ใน6 ลำ ของกองกำลังโจมตีัหลังของกองทัพเรือญี่ปุ่นด้วย คางะนั้นเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่ดัดแปลงมาจากเรือประจัญบาน
Kaga Class Data
ระวางขับดันน้ำ :42,541ตัน
ความเร็วสูงสุด : 28 นอต
อาวุธ
1.ปืนใหญ่ขนาด 8 นิ้ว 10กระบอก
2.ปืนใหญ่ขนาด 5 นิ้ว 16 กระบอก
3.ปืนกลต่อสู้อากาศยาน ขนาด 25มม. 22 กระบอก
บรรทุกเครื่องบินได้ : 90ลำ
ลูกเรือทั้งหมด : 2060 นาย
เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Kaga นี้มีเพียงลำเดียว คือ เรือบรรทุกเครื่องบิน Kaga
คางะนั้นเรียกได้ว่าสนิทกับ อาคากิ มาก อาคากิไปไหน คางะขอตามไปด้วย
คางะนั้นมีความเร็วในการส่งเครื่องบินไปโจมตี พอๆกันกับ รุ่นพี่ของเธอก็คือ อาคากิ เพราะ ก่อนดัดแปลงเธอก็มีรันเวย์ 2 ชี่นนเหมือน อาคากิเช่นกัน หลังการดัดแปลงในปี 1935นั้น เธอมีลิฟต์ส่งเครื่องบิน 2 ชั้น (เธอดัดแปลงก่อน อาคากินะ เพราะอาคากิ ดัดแปลง ในปี 1938)
เกร็ดความรู้ของเรือชั้นKaga
Spoiler:
labor0045 เขียน:
เรือบรรทุกเครื่องบิน คาก้า Kaga
เรือคาก้า
เป็นอีก 1 ในเรือบรรทุกเครื่องบิน 6 ลำ ที่เข้าร่วมในการรบทางทะเลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกระหว่างอเมริกันและญี่ปุ่น ทั้งการโจมตีฐานทัพเรืออเมริกันที่เพิล์วฮาร์เบอร์ ( Pearl hobor) และที่มิดเวย์ ( Midway) แต่เริ่มแรกนั้นถูกต่อเป็นเรือประจัญบานชั้น Tosa โดยจะมีเรือ Kaga และ Tosa ในปี พ.ศ.2464 แต่เนื่องจากสนธิสัญญาจำกัดอำนาจการรบทางเรือที่ทำให้เรือชั้นนี้ซึ่งปล่อยลงน้ำไปแล้ว ต้องถูกยกเลิกและต้องยุบเป็นเศษเหล็ก
แต่สนธิสัญญานี้ได้อนุญาตให้ญี่ปุ่นสามารถดัดแปลงเรือประจัญบานที่มีระวางขับน้ำ 33,000 ตัน ขึ้นไปเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินได้ ซึ่งแต่เดิมได้เลือกไว้ 2 ลำคือเรือ Akagi และ Amagi แต่เนื่องจากเกิดแผ่นดินไหวในปี 2466 ทำให้ตัวเรือของเรือ Amagi เสียหายมาก เรือ Kaga จึงได้รับเลือกให้ถูกดัดแปลงเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินแทน เรือ Kaga ได้รับการดัดแปลงเสร็จในปี 2471 ในช่วงแรกเธอมีดาดฟ้า 2 ชั้น และมีดาดฟ้าชั้น 3 เป็นดาดฟ้าพิเศษ สามารถเก็บเครื่องบินได้ 60 ลำ และยังติดตั้งป้อมปืนใหญ 8 นิ้วอยู่ หลังจากการทดสอบ 2 ปี เธอก็กลับเข้าทำการปรับปรุงอีกครั้งหนึ่งโดยต่อดาดฟ้าชั้น 3 เพิ่ม ทำให้บรรทุกเครื่องบินได้ถึง 90 ลำ และติดตั้งเครื่องจักรเพิ่มเติม ทำให้ระวางขับน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 38,200 ตัน
หลังจากเข้าประจำการอีกครั้ง ในปี 2473 เธอที่ได้รับหน้าที่สนับสนุนการโจมตีเมืองเซี้ยงไฮ้ของจีน
และสงครามจีน-ญีปุ่น
ต่อมาเธอได้รับมอบหมายให้ร่วมกับเรืออคากิเป็นกองกำลังที่ 1 ในการโจมตีเพิล์วฮาร์เบอร์ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2484 เธอได้ส่งเครื่องบินระลอกแรกเข้าโจมตีเกาะโออาฮู โดยเครื่องบินแบบB5Nคาเตะ จำนวน 26 ลำ เข้าโจมตีเรืออริโซน่า,เทนเนสซี่,เรือ เวสต์เวอร์จิเนีย,โอกลาโฮม่า,เนวาด้า และเวสทัล ส่วน A6M2ซีโร่ 9 ลำ เข้าโจมตีสนามบินฮิกแคม และระลอกสอง โดยเครื่องบินแบบ D3A วาล 23 ลำ เข้าโจมตีเรือเนวาด้า , แมรี่แลนด์ และเวสต์เวอร์จิเนีย
ภารกิจต่อมาในเดือนมกราคม ปีถัดมาได้ส่งเครื่องบินร่วมกับอคากิเข้าโจมตีราบวลบนเกาะบิสมารค์ ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ส่งเครื่องบินเข้าโจมตี Palau และเมืองท่าดาร์วินของออสเตรเลีย จมเรือพันธมิตรไป 9 ลำ เช่นเรือ USS Peary รวมทั้งทะเลชวา
ต่อมาในภารกิจครั้งสุดท้าย ได้รับมอบหมายให้เข้าโจมตีหมู่เกาะมิดเวย์ เพื่อหลอกล่อให้เรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกันเข้ามาติดกับและถูกทำลาย เรือคาก้ามีเครื่องบินขับไล่ A6M2 ซีโร่ 30 ลำ, เครื่องบินดำทิ้งระเบิดD3A วาล 23 ลำ และ เครื่องบินทิ้งระเบิด/ตอร์ปิโด B5N คาเตะ 30 ลำ พร้อมที่จะทำการรบ ที่มิดเวย์ เธอได้ส่งเครื่องบินเข้าโจมตีและทำลายสนามบิน,สิ่งก่อสร้างและเครื่องบินบนเกาะมิดเวย์เป็นจำนวนมาก ร่วมกับเรืออื่นๆ ได้แก่ อคากิ,ฮิริว และโซริว ซึ่งก็น่าจะได้รับชัยชนะในการรบครั้งนี้ แต่สิ่งที่ญี่ปุ่นไม่รู้ก็คืออเมริกาได้ล่วงรู้แผนการนี้ล่วงหน้าและได้ซ้อนแผน ด้วยการส่งเครื่องบินเข้าทำลายกองเรือญี่ปุ่น หลังจากถูกโจมตีด้วยเครื่องบินทั้งจากมิดเวย์และเรือบรรทุกเครื่องบินหลายครั้ง ณ เวลา 10.22 น. เรือคาก้า ก็ถูกลูกระเบิดจำนวน 4 ลูก จากเครื่องบิน SBD Dauntless แห่งเรือบรรทุกเครื่องบินเอ็นเตอร์ไพรส์ ทำให้เกิดการระเบิดและเกิดเพลิงลุกไหม้เป็นเวลานาน เช่นเดียวกับ อคากิและโซริว มีเพียงฮิริวเท่านั้นที่รอดไปได้ ต่อมาเรือดำน้ำอเมริกันนอติลุส ได้ยิงตอร์ปิโดใส่เธอ 1 ลูก แต่ก็ไม่สามารถทำให้เธอจมได้ และเมื่อลูกเรือได้รับความช่วยเหลือจากเรือพิฆาตญี่ปุ่น Hagikaze และ Maikaze เธอก็ถูกจมลงด้วยตอร์ปิโด 2 ลูก
ในปี 2542 ซากของเรือคาก้าได้ถูกค้นพบโดยบริษัท Nauticos
รูปคร้าบ
Spoiler:
เรือ Kaga ในปี 1928 ที่ ท่าเรือ โยโคซุกะ (กรุณา ชะเง้อหน้าไปดูนิดนึงนะ แล้วจะเห็น ว่า คางะนั้นมีรันเวย์ 2 ชั้น)
Kaga ในปี 1938 หลังการดัดแปลงแล้ว
Kaga 1938
10. มาถึงชั้นสุดท้ายแล้วนะครับ กับ เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Shinano
เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Shinano นั้น เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีการติดเกราะอย่างหนาไว้ป้องกันระเบิด ขนาด 500 กก. ไว้ด้วย แต่เรือลำนี้ไม่ค่อยมีบทบาทในสงครามมากนัก
Shinano Data
ระวางขับดันน้ำ : 71,890 ตัน
ความเร็วสูงสุด : 27 นอต
อาวุธ
1. ปืนใหญ่ ขนาด 5นิ้ว 16กระบอก
2.ปืนกลต่อสู้อากาศยาน ขนาด 25 มม. 145 กระบอก
3.จรวดต่อต้านอากาศยาน 12ชุด ชุดละ 28 นัด
บรรทุกเครื่องบินได้ :55 ลำ
ลูกเรือทั้งหมด : 2400 นาย
เรือในชั้นชิชาโนะนี้มีเพียงลำเดียว คือ เรือบรรทุกเครื่องบินชินาโนะ
ชินาโนะ นั้นที่จริงแล้ว ถือว่า เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Yamato เพราะ เธอดัดแปลงมาจาก Hull ของเรือที่จะทำไปเป็นเรือประจัญบานชั้น ยามาโต้ลำที่3 แต่เนื่องด้วย การต่อสู้ด้วยเรือประจัญบานนั้นล้าสมัยไปแล้ว เลยดัดแปลงเจ้า hull นี้ ให้กลายเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินซะ ดังนั้น ชินาโนะ จึงเป็นพี่น้องกับ ยามาโต้ และมุซาชิ แต่ เธอ ไม่เคยได้เจอกับพี่น้องของเธอเลย เรือบรรทุกเครื่องบินชินาโนะ นั้น ปฏิบัติการ เฉพาะ ใน น่านน้ำของญี่ปุ่นเท่านั้นครับ
รูปคร้าบ
Spoiler:
Shinano
Shinano ถ่ายที่ อ่าวโตเกียว ปี 1944
แน่นอนครับ เรือบรรทุกเครื่องบิน ของผมบรรทุกของแถมมาฝากทุกคนอยู่แล้วคร้าบ
Spoiler:
เรือขนเครื่องบินของกองทัพญี่ปุ่นในww2