สมัยแรกๆที่ผมซื้อdsมา มีอยู่เกมนึงที่อยู่ติดเครื่องตลอดไม่เคยลบออก
เกมนั้นเป็นเกมที่ใครก็รู้จักกันในนามว่าเกมแส้
ใช่แล้ว มันคือเกม Castlevania Order Of Ecclecia นั่นเอง
ตัวเกมจะกล่าวถึงเหตุการณ์หลังจากภาค SOTN ริชเตอร์ เบลมอนต์ได้ทำการผนึกพลังแส้เอาไว้ และไม่ให้คนในสกุลของตนแตะอีกจนกว่าจะถึงปี 1999 ซึ่งในปีนั้นแดร็คคิวล่าจะฟื้นอย่างเต็มตัว และแส้จะสามารถใช้ได้โดยสกุลเบลมอนต์อีกครั้งนึง...
เหตุการณ์ในภาคนี้อยู่ในช่วงปี 18xx ก็ปรากฏว่าความชั่วร้ายของแดร็กคิวล่าได้แผ่ออกมาอีกครั้ง ทำให้เกิดความเดือดร้อน ภาคีนักบวช อิคคลีเซียนำโดยบาร์โลว์ได้ลุกขึ้นมาต่อต้าน
แต่ที่สำคัญที่ผมชอบภาคนี้มากก็คือ ตัวเอกภาคนี้เป็นผู้หญิงครับ
ตัวละครที่สำคัญ
ชานัวร์
อัลบัส
บาร์โลว์
ชานัวร์ ลูกศิษย์ของบาร์โลว์ ได้รับการเลือกให้เป็นภาชนะในการรองรับสุดยอดเวทมนตร์ โดมินัส
โดมินัสทั้งสามชิ้น
ขณะที่กำลังรับการถ่ายทอดอยู่นั้น อัลบัสซึ่งเป็นเพื่อนก็ได้ปรากฏตัวออกมาและแย่งชิงยันต์ไป ส่งผลให้ชานัวร์เกิดการช็อคและเสียความทรงจำไปทั้งหมด
หลังจากที่ฟื้น ชานัวร์ได้รับหน้าที่ให้ไปตามยันต์คืนมาให้ได้เพื่อประโยชน์สุขของมนุษยชาติ...
เรื่องนั้นช่างมัน จริงๆแล้วแค่อยากระบายเฉยๆ เพราะว่าตัวเกมที่ว่านี่ผมเคลียร์ไปได้เก็บของทุกอย่างได้ 100% แล้ว ขาดแค่ความชำนาญของอาวุธทุบที่ยังไม่เต็ม 65535
แต่เป็นเพราะกรรมที่เคยสร้างไว้กระมัง ทำให้วันนั้นต้องฟอร์แม็ตเมมทิ้งไปทั้งความรู้สึกเสียดาย...
จะขอเล่าแบบสรุปๆแล้วกัน
หลังจากที่ชานัวร์ได้ติดตามไปเอายันต์คืน ก็ได้รู้ความจริงจากอัลบัสว่า...
จริงๆแล้วโดมินัสนั้นคือพลังของแดร็กคิวล่า และชานัวร์ก็ถูกเลือกให้เป็นภาชนะรองรับ แต่ทว่าหลังจากที่จัดการอัลบัสที่คุ้มคลั่งจากการโดนโดมินัสครอบงำ ความจริงก็ปรากฏว่าจริงๆแล้วบาร์โลว์หลอกใช้ชานัวร์ เพราะว่าถ้าหากใช้โดมินัสแล้วจะต้องตาย แต่อัลบัสรู้เรื่องนี้จึงพยายามขวางและแย่งชิงโดมินัสไป บาร์โลว์จึงล้างความทรงจำและทำให้ชานัวร์ไร้อารมณ์...
สุดท้ายอัลบัสก็เฉลยว่าที่เขาทำอย่างนั้นก็เพราะว่าจริงๆแล้วชานัวร์คือน้องสาวของเขา และเขาก็ขอให้ชานัวร์สัญญาว่าไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่ใช้โดมินัสเด็ดขาด
ชานัวร์กลับไปหาบาร์โลว์เพื่อรายงาน ซึ่งบาร์โลว์ก็ได้ให้ชานัวร์เตรียมตัวใช้โดมินัส แต่ชานัวร์ปฏิเสธ ในที่สุดบาร์โลว์ก็เผยธาตุแท้ออกมาว่าเจตนาของอิคคลีเซียนั้นจริงๆแล้วคือการฟื้นคืนชีพแดร็กคิวล่า และเขาก็พยายามบังคับ จึงต้องสู้กัน
แต่สุดท้ายเขาก็พ่ายแพ้ แต่ด้วยเจตนาแรงกล้าของบาร์โลว์ทำให้แดร็กคิวล่าส่งพลังออกมาให้บาร์โลว์ ซึ่งบาร์โลว์ก็ใช้พลังนั้นกับชีวิตของตนในการทำลายผนึกแดร็กคิวล่า
ในที่สุดปราสาทของแดร็กคิวล่าก็ปรากฏขึ้น ชานัวร์ซึ่งไม่เหลืออะไรแล้วก็ได้แต่หมดอาลัยตายอยาก แต่เธอก็นึกขึ้นได้ว่ายังเหลืออยู่สิ่งหนึ่ง
สิ่งนั้นคือหน้าที่ในการกำจัดแดร็กคิวล่านั่นเอง ว่าแล้วเธอก็ได้เลือกที่จะบุกเข้าไปในปราสาทของแดร็กคิวล่า
ชานัวร์ได้บุกฝ่าฟันเข้าไปในปราสาทฝ่าฝูงปิศาจร้ายนานาชนิดที่ดาหน้ากันเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน
และบนสุดนั้นเธอก็พบกับเจ้าปัญหาที่อยู่คู่กับเกมนี้มานานและไม่เคยออกไปไหนเลย นั่นคือท่านแดร็กคิวล่านั่นเอง
มาถึงแดร็กคิวล่าก็เห็นเป็นสาวสวยก็เลยจะจีบซักหน่อย แต่เจอชานัวร์ปฏิเสธแบบไม่ใยดีและยืนยันว่าจะกำจัดเขาลงให้ได้ ทั้งคู่จึงสู้กัน
แต่ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะทำอย่างไร ชานัวร์ก็ไม่อาจปราบท่านแดร็กฯลงได้ เธอจึงคิดใช้ไม้ตายสุดท้ายแม้ว่าเธอจะต้องตายไปด้วยก็ตาม
เมื่อชานัวร์ใช้โดมินัสแดร็กคิวล่าก็ถูกปราบลงได้ แต่เธอก็เตรียมที่จะสละชีวิตตายตามไปเช่นกัน
แต่เมื่อเธอล้มลง เธอก็รู้สึกว่ามีน้ำตาอุ่นๆบนใบหน้าของเธอ ซึ่งเธอคิดว่าความฝันก่อนตาย
แต่ว่าอัลบัสก็ออกมา เขาบอกว่านี่ไม่ใช่ความฝัน และบอกว่าเขาอยู่ภายในโดมินัสหาทางออกไม่เจอ จนกระทั่งชานัวร์ใช้โดมินัสปราบแดร็กคิวล่า เขาจึงออกมาได้
ชานัวร์ได้ยินดังนั้นก็เตรียมที่จะตาย เพราะเธอได้ใช้โดมินัสไปแล้ว
แต่ว่า โดมินัสนั้นต้องการดวงวิญญาณแค่ดวงเดียว ซึ่งก็คืออัลบัสนั่นเอง
แม้ว่าชานัวร์จะห้ามอย่างไรก็ไม่เป็นผล เพราะอัลบัสยืนยันที่จะปกป้องชานัวร์เพราะเขาเป็นพี่ชายของเธอ แต่ก่อนจากไปเขาได้ขอร้องชานัวร์เรื่องหนึ่ง
เขาขอให้ชานัวร์ยิ้มให้เขาสักครั้ง
ชานัวร์ผู้ไร้ซึ่งความรู้สึก ไม่อาจจะยิ้มออกมาได้ แต่สุดท้าย เธอก็ฝืนยิ้มออกมาทั้งน้ำตา...
หลังจากที่ได้เห็นรอยยิ้มอันสวยงาม อัลบัสก็จากไปจริงๆ และปราสาทก็เริ่มถล่มลงตามสูตรเกมแส้ทุกภาค
สุดท้าย แม้ว่าครั้งหนึ่งอิคคลีเซียจะเคยปราบแดร็กคิวล่าลงได้ก็ตาม แต่ก็ไร้ซึ่งบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ในที่สุดเรื่องนี้ก็หายไปตามกาลเวลา
เฮ้อ จริงๆว่าจะทำเป็นบทสรุป แต่ว่าตอนนี้เอาแค่นี้ก่อนแล้วกัน ถ้าเล่นใหม่ค่อยทำบทสรุปแบบละเอียดยิบเลย
อีกนิด
ภาคนี้เป็นภาคแรกที่ตัวเอกเป็นผู้หญิงเป็นตัวหลักคนเดียว (ถ้าไม่นับซอนย่า เบลมอนต์ แล้วก็ชาร์ล็อตที่มาเป็นคู่กับโจนาธาน)
ภาคนี้เป็นภาคที่MPฟื้นเร็วที่สุด
ภาคนี้เป็นภาคที่สองที่บอสมีร่างเดียว(ภาคแรกคือไซมอน'ส เควสต์)
ภาคนี้เป็นภาคแรกที่ท่านแดร็กคิวล่าลุกขึ้นเดิน
ภาคนี้ไม่ต้องเดินหาอาวุธให้เหนื่อย เพราะทั้งอาวุธแล้วก็เวทมนตร์เป็นยันต์หมด
ภาคนี้เป็นภาคแรกที่สามารถเล่นได้เลเวลตันที่ 255 (ภาคก่อนๆทั้งไม่มีเลเวลกับเต็มที่เลเวล 99)
เกมนั้นเป็นเกมที่ใครก็รู้จักกันในนามว่าเกมแส้
ใช่แล้ว มันคือเกม Castlevania Order Of Ecclecia นั่นเอง
ตัวเกมจะกล่าวถึงเหตุการณ์หลังจากภาค SOTN ริชเตอร์ เบลมอนต์ได้ทำการผนึกพลังแส้เอาไว้ และไม่ให้คนในสกุลของตนแตะอีกจนกว่าจะถึงปี 1999 ซึ่งในปีนั้นแดร็คคิวล่าจะฟื้นอย่างเต็มตัว และแส้จะสามารถใช้ได้โดยสกุลเบลมอนต์อีกครั้งนึง...
เหตุการณ์ในภาคนี้อยู่ในช่วงปี 18xx ก็ปรากฏว่าความชั่วร้ายของแดร็กคิวล่าได้แผ่ออกมาอีกครั้ง ทำให้เกิดความเดือดร้อน ภาคีนักบวช อิคคลีเซียนำโดยบาร์โลว์ได้ลุกขึ้นมาต่อต้าน
แต่ที่สำคัญที่ผมชอบภาคนี้มากก็คือ ตัวเอกภาคนี้เป็นผู้หญิงครับ
ตัวละครที่สำคัญ
ชานัวร์
อัลบัส
บาร์โลว์
ชานัวร์ ลูกศิษย์ของบาร์โลว์ ได้รับการเลือกให้เป็นภาชนะในการรองรับสุดยอดเวทมนตร์ โดมินัส
โดมินัสทั้งสามชิ้น
ขณะที่กำลังรับการถ่ายทอดอยู่นั้น อัลบัสซึ่งเป็นเพื่อนก็ได้ปรากฏตัวออกมาและแย่งชิงยันต์ไป ส่งผลให้ชานัวร์เกิดการช็อคและเสียความทรงจำไปทั้งหมด
หลังจากที่ฟื้น ชานัวร์ได้รับหน้าที่ให้ไปตามยันต์คืนมาให้ได้เพื่อประโยชน์สุขของมนุษยชาติ...
เรื่องนั้นช่างมัน จริงๆแล้วแค่อยากระบายเฉยๆ เพราะว่าตัวเกมที่ว่านี่ผมเคลียร์ไปได้เก็บของทุกอย่างได้ 100% แล้ว ขาดแค่ความชำนาญของอาวุธทุบที่ยังไม่เต็ม 65535
แต่เป็นเพราะกรรมที่เคยสร้างไว้กระมัง ทำให้วันนั้นต้องฟอร์แม็ตเมมทิ้งไปทั้งความรู้สึกเสียดาย...
จะขอเล่าแบบสรุปๆแล้วกัน
หลังจากที่ชานัวร์ได้ติดตามไปเอายันต์คืน ก็ได้รู้ความจริงจากอัลบัสว่า...
จริงๆแล้วโดมินัสนั้นคือพลังของแดร็กคิวล่า และชานัวร์ก็ถูกเลือกให้เป็นภาชนะรองรับ แต่ทว่าหลังจากที่จัดการอัลบัสที่คุ้มคลั่งจากการโดนโดมินัสครอบงำ ความจริงก็ปรากฏว่าจริงๆแล้วบาร์โลว์หลอกใช้ชานัวร์ เพราะว่าถ้าหากใช้โดมินัสแล้วจะต้องตาย แต่อัลบัสรู้เรื่องนี้จึงพยายามขวางและแย่งชิงโดมินัสไป บาร์โลว์จึงล้างความทรงจำและทำให้ชานัวร์ไร้อารมณ์...
สุดท้ายอัลบัสก็เฉลยว่าที่เขาทำอย่างนั้นก็เพราะว่าจริงๆแล้วชานัวร์คือน้องสาวของเขา และเขาก็ขอให้ชานัวร์สัญญาว่าไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่ใช้โดมินัสเด็ดขาด
ชานัวร์กลับไปหาบาร์โลว์เพื่อรายงาน ซึ่งบาร์โลว์ก็ได้ให้ชานัวร์เตรียมตัวใช้โดมินัส แต่ชานัวร์ปฏิเสธ ในที่สุดบาร์โลว์ก็เผยธาตุแท้ออกมาว่าเจตนาของอิคคลีเซียนั้นจริงๆแล้วคือการฟื้นคืนชีพแดร็กคิวล่า และเขาก็พยายามบังคับ จึงต้องสู้กัน
แต่สุดท้ายเขาก็พ่ายแพ้ แต่ด้วยเจตนาแรงกล้าของบาร์โลว์ทำให้แดร็กคิวล่าส่งพลังออกมาให้บาร์โลว์ ซึ่งบาร์โลว์ก็ใช้พลังนั้นกับชีวิตของตนในการทำลายผนึกแดร็กคิวล่า
ในที่สุดปราสาทของแดร็กคิวล่าก็ปรากฏขึ้น ชานัวร์ซึ่งไม่เหลืออะไรแล้วก็ได้แต่หมดอาลัยตายอยาก แต่เธอก็นึกขึ้นได้ว่ายังเหลืออยู่สิ่งหนึ่ง
สิ่งนั้นคือหน้าที่ในการกำจัดแดร็กคิวล่านั่นเอง ว่าแล้วเธอก็ได้เลือกที่จะบุกเข้าไปในปราสาทของแดร็กคิวล่า
ชานัวร์ได้บุกฝ่าฟันเข้าไปในปราสาทฝ่าฝูงปิศาจร้ายนานาชนิดที่ดาหน้ากันเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน
และบนสุดนั้นเธอก็พบกับเจ้าปัญหาที่อยู่คู่กับเกมนี้มานานและไม่เคยออกไปไหนเลย นั่นคือท่านแดร็กคิวล่านั่นเอง
มาถึงแดร็กคิวล่าก็เห็นเป็นสาวสวยก็เลยจะจีบซักหน่อย แต่เจอชานัวร์ปฏิเสธแบบไม่ใยดีและยืนยันว่าจะกำจัดเขาลงให้ได้ ทั้งคู่จึงสู้กัน
แต่ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะทำอย่างไร ชานัวร์ก็ไม่อาจปราบท่านแดร็กฯลงได้ เธอจึงคิดใช้ไม้ตายสุดท้ายแม้ว่าเธอจะต้องตายไปด้วยก็ตาม
เมื่อชานัวร์ใช้โดมินัสแดร็กคิวล่าก็ถูกปราบลงได้ แต่เธอก็เตรียมที่จะสละชีวิตตายตามไปเช่นกัน
แต่เมื่อเธอล้มลง เธอก็รู้สึกว่ามีน้ำตาอุ่นๆบนใบหน้าของเธอ ซึ่งเธอคิดว่าความฝันก่อนตาย
แต่ว่าอัลบัสก็ออกมา เขาบอกว่านี่ไม่ใช่ความฝัน และบอกว่าเขาอยู่ภายในโดมินัสหาทางออกไม่เจอ จนกระทั่งชานัวร์ใช้โดมินัสปราบแดร็กคิวล่า เขาจึงออกมาได้
ชานัวร์ได้ยินดังนั้นก็เตรียมที่จะตาย เพราะเธอได้ใช้โดมินัสไปแล้ว
แต่ว่า โดมินัสนั้นต้องการดวงวิญญาณแค่ดวงเดียว ซึ่งก็คืออัลบัสนั่นเอง
แม้ว่าชานัวร์จะห้ามอย่างไรก็ไม่เป็นผล เพราะอัลบัสยืนยันที่จะปกป้องชานัวร์เพราะเขาเป็นพี่ชายของเธอ แต่ก่อนจากไปเขาได้ขอร้องชานัวร์เรื่องหนึ่ง
เขาขอให้ชานัวร์ยิ้มให้เขาสักครั้ง
ชานัวร์ผู้ไร้ซึ่งความรู้สึก ไม่อาจจะยิ้มออกมาได้ แต่สุดท้าย เธอก็ฝืนยิ้มออกมาทั้งน้ำตา...
หลังจากที่ได้เห็นรอยยิ้มอันสวยงาม อัลบัสก็จากไปจริงๆ และปราสาทก็เริ่มถล่มลงตามสูตรเกมแส้ทุกภาค
สุดท้าย แม้ว่าครั้งหนึ่งอิคคลีเซียจะเคยปราบแดร็กคิวล่าลงได้ก็ตาม แต่ก็ไร้ซึ่งบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ในที่สุดเรื่องนี้ก็หายไปตามกาลเวลา
เฮ้อ จริงๆว่าจะทำเป็นบทสรุป แต่ว่าตอนนี้เอาแค่นี้ก่อนแล้วกัน ถ้าเล่นใหม่ค่อยทำบทสรุปแบบละเอียดยิบเลย
อีกนิด
ภาคนี้เป็นภาคแรกที่ตัวเอกเป็นผู้หญิงเป็นตัวหลักคนเดียว (ถ้าไม่นับซอนย่า เบลมอนต์ แล้วก็ชาร์ล็อตที่มาเป็นคู่กับโจนาธาน)
ภาคนี้เป็นภาคที่MPฟื้นเร็วที่สุด
ภาคนี้เป็นภาคที่สองที่บอสมีร่างเดียว(ภาคแรกคือไซมอน'ส เควสต์)
ภาคนี้เป็นภาคแรกที่ท่านแดร็กคิวล่าลุกขึ้นเดิน
ภาคนี้ไม่ต้องเดินหาอาวุธให้เหนื่อย เพราะทั้งอาวุธแล้วก็เวทมนตร์เป็นยันต์หมด
ภาคนี้เป็นภาคแรกที่สามารถเล่นได้เลเวลตันที่ 255 (ภาคก่อนๆทั้งไม่มีเลเวลกับเต็มที่เลเวล 99)
เรื่องเมื่อนานมาแล้ว...
[IMG]