ครับ รู้สึก คนในนี้ จะเก็ตมุขยากนะครับเนี่ย
เจ้าของกระทู้เลยแป้กซะงั้น
โทรศัพท์พวกนี้ ราคานั้นจริงๆครับ(ถ้าไตร่ตรองซักหน่อยน่าจะรู้ ว่า เก่าตกรุ่นขนาดนั้น จะลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์มั้ย อย่าบอกนะ ว่าดูไม่ออกว่ามันเป็นกระดาษหนังสือพิมพ์)
มือถือสมัยนั้น แพงมาก 3310 รุ่นคงกระพัน ยิงฟันไม่เข้านั่น ตอนเปิดตัว ราคาเกือบสามหมื่น
ซึ่งรุ่นในภาพ เป็นรุ่นที่ตามออกมาไล่เลี่ยกัน และต่อมา ราคามือถือเริ่มถูกลงเรื่อยๆ โนเกีย 3315 เป็นเครื่องแรกที่ผมซื้อ ตอนนั้น สี่พันต้นๆ
ปืนซ่อมเครื่องอยู่ สูงประมาณ 4เมตรกว่า ไหลออกจากกระเป๋ากางเกง ประมาณ สามสี่เด้ง กว่าจะถึงพื้น
ชิ้นส่วนกระเด็นไปคนละทิศละทาง เอามาประกอบ โทรได้เหมือนเดิม แค่หน้ากากถลอก
จากวันนั้น ถึงวันนี้ ทำให้ผมพอเห็นอะไรบางอย่าง
คือ ต้นทุนจริงๆของมัน ไม่ได้สูง ราคาน่าจะอยู่ราวๆ สองสามร้อยบาท เช่นเดียวกับ โทรศัพท์รุ่นปัจจุบัน
ราคาจริงๆ ไม่ได้สูงมากมาย เป็นกลไกการตลาดทั้งนั้น
ไอโฟนที่ว่าแน่ๆ ถ้าผมจะชม ผมชื่นชมวิศวกรที่ออกแบบโปรแกรมให้มัน มากกว่าสตีฟ จ็อบส์
พี่แก แค่ฝัน แล้วก้อ ไปหาจ้างโปรแกรมเมอร์ และวิศวกรเก่งๆมาทำให้(ขนาดตัวเครื่อง ยังจ้างจีนผลิตให้ เลยไม่แปลก ที่จีนมันจะก๊อปได้เป๊ะขนาดนั้น)
เหมือนกับที่หลายๆท่าน เคยฝันว่า อยากขับรถที่มันบินได้เหมือนในหนัง ติดแค่ว่า ไม่มีตังค์
ลองมีตังค์ซัก สามสี่พันล้านเหรียญสหรัฐสิ ฝันท่านจะเป็นจริงเหมือนสตีฟ จ็อบส์
ผมไม่ได้ว่า ว่าของเค้าไม่ไดีนะ แต่ผมมองในแง่ของผลงาน
ซึ่งผลงานจริงๆ คือ วิศวกรทีมนั้น แต่ สตีฟ ได้หน้าเฉยเลย เพราะกุเป็นเจ้าของ
เหมือนๆกับ อาจาย์ เอางานวิจัยของนักศึกษาไปพรีเซ็นท์ ทั้งที่ตัวเอง ไม่ได้ทำอะไร แต่ได้หน้าไปเต็มๆ
ลองคิดดู ว่าถ้า เป็นตัวเรา จะช้ำใจแค่ไหน...
ปล. ไม่ต้องห่วงเรื่องดักแก่ ผมเอง อาจจะแก่ที่สุดในนี้ก้อได้ฮะ