อันตรายจากการเจาะร่างกาย

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย sonsak เมื่อ 2015-2-21 13:54





ในปี2004 ผู้คน700,00คนเจาะร่างกายตนเอง ปักหมุดใส่ห่วงที่เปลือกตา ปีกจมูก ลิ้น สะดือ ปลายถัน และเครื่องเพศ หากไม่มีเทคนิคปลอดเชื้อผู้เจาะร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี และไวรัสตับอักเสบบีและซี การเจาะลิ้นอาจทำให้เสียชีวิตด้วยโรคเซปติซีเมีย(โลหิตเป็นพิษ)หรือหมดสติจากพิษหากกลืนโลหะลงคออาจเมี่ยงต่อการติดเชื้อหรือสำลักขาดใจตาย
เครื่องประโลหะส่วนใหญ่ที่ฝังอยู่ในพุ่มขนจะเป็นแม่เหล็กดูดฝุ่นและไม่ใช่เรื่องแปลกนักที่รูสะดือจะมีน้ำหนองไหลออกมา การเลีย ดูดหรือกัดโดยใช้อวัยวะที่เจาะฝังโลหะ อาจทำให้ผิวหนังฉีกขาดเกิดบาดแผลที่ยากจะรักษาให้หายอุบัติเหตุอื่นที่เกิดจากการเจาะฝังโลหะก็คือโลหะอาจจะไปเกี่ยวกับเสื้อผ้าหรืออาจโดนคู่รักดึงทึ้งที่ห่วงปลายถันในยามที่ทะเลาะวิวาทกัน
เด็กสาวอายุ18ปี เข้าห้องฉุกเฉินในลองไอส์แลนด์ในปี2004เนื่องจากลิ้นบวม คันปากเธอเสียชีวิตเพราะแผลติดเชื้อรอบตุ้มทองคำที่ฝังไว้กลางลิ้น ชายหนุ่มอายุ19ปีจากโอคลาโฮมาซิตีประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ไม่รุนแรงนักแต่ก็เสียชีวิตเพราะแท่งโลหะเจาะแบบเจ้าชายอัลเบิร์ต(เจาะเส้นสองสลึง) ทะลวงเข้าในปอดปัสสาวะ

วอลเตอร์ ฮันต์ประดิษฐ์ เข็มกลัดซ่อนปลาย ในปี1849 ขายสิทธิบัตรโดยเรียก “เข็มกลัดช่างเสื้อ”ในราคาเพียง400เหรียญ 10ปีถัดมา ระหว่างที่เขาประดิษฐ์เข็มกลัดชนิดใหม่เข็มสะกิดปลายนิ้วเลือดไหล ในยุคที่ไม่มีการรักษาการติดเชื้ออย่างง่ายเขาเสียชีวิตเพราะเนื้อตายเมื่ออายุ63ปี ปัจจุบันมีการใช้เข็มแทงผิวหนังเพื่อสักลายให้ตนเอง ในปี2002 ฆาตรกรฆ่าคนตาย75% มีรอยสักอย่างน้อย1รอยสัก

เครดิต: หนังสือประวัติศาสตร์ของความตาย
นี่เป็นกระทู้ที่2ของผม ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะครับ

ผมเองไม่ชอบเจาะร่างกายครับ มันทำให้เวลาสมัครงานเค้าอาจจะจับเราอยาก

เห็นหน้าเด็กตอนเริ่มก็ไม่กล้าเจาะแล้ว --"

เเค่เห็นก็น่ากลัวแล้วอ่าาา ไม่คิดที่จะเจาะแน่นอน >0<

น่ากลัว ของแบบนี้ผมไม่ยุ่งแน่นอน

เห็นคนเจาะกันเยอะนะ แต่แอบกลัวอยู่

คิดเหมือนกันเลยคับ ขอบคุณสำหรับเกร็ดความรู้นี้นะครับ

มีเหตุผล เจาะแล้วห้าทะเลาะกัน มิเช่นนั้น....

น่ากลัวจริงๆ ไม่เคยคิดจะเจาะเลย เห็นก็กลัวละ