แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย love2592 เมื่อ 2012-2-9 20:35
เป็นเรื่องราของแม่คนนึงที่โกหกลูกชายตัวเองนะค่ะ
(โกหกเพราะหวังดีนะ)
แม่โกหกผม8 ครั้งในชีวิต
>
> 1. เรื่องเริ่มขึ้นตอนเมื่อผมเป็นเด็ก ๆผมเกิดในครอบครัวยากจน
> ครอบครัวของเราจนมากจนต้องอดข้าวบ่อย ๆ
> เมื่อไหร่ก็ตามเมื่อถึงเวลากินข้าว...แม่จะแบ่งข้าวมาให้ผมเพิ่มขึ้นอีก
> พร้อมทั้งพูดว่า"ลูกต้องกินข้าวเพิ่มขึ้นนะ...ส่วนแม่ไม่ค่อยหิว"
> นี้เป็นครั้งแรกที่แม่โกหกผม
>
> 2. เมื่อผมเติบโตขึ้นคุณแม่เพียรพยายามหาเวลาว่างไปตกปลาในแม่น้ำ
> เพื่อว่าผมจะได้กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของผม
> แม่ต้มปลาที่ตกมาได้ทำเป็นซุปให้ผมกิน
> ในขณะที่ผมกินแกงต้มปลา..แม่จะนั่งข้าง ๆผม แทะกิน
> เศษเนื้อปลาที่ติดอยู่ตามก้างปลาหลังจากที่ผมไ ด้
> กินเนื้อปลาไปแล้ว
> ผมรู้สึกตื้นตันใจมาก..ผมพยายามแบ่งเนื้อปลาให้แม่
> แต่แม่ปฎิเสธทันควันพร้อมกับกล่าวว่า
> "ลูกกินเถอะ...แม่ไม่ค่อยชอบกินเนื้อปลา" นี่เป็นครั้งที่2 ที่แม่
> โกหกผม
>
> 3. เมื่อผมเรียนอยู่ชั้นมัธยมเราต้องใช้เงินเพิ่มมากขึ้น
> แม่ต้องหารายได้พิเศษด้วยการรับงานเล็กๆน้อยจากโรงงานมาทำที่บ้าน
> บางครั้งผมตื่นขึ้นมาตอนตี 1 หรือตี 2...ผมยังเห็นแม่กำลังทำงาน
> "แม่ครับ...นอนเถอะครับมันดึกมากแล้วพรุ่งนี้แม่ต้องไปทำงานอีก"
> แม่ยิ้มกับผมพูดว่า "ลูกนอนต่อก่อนนะ...แม่ยังไม่เหนื่อย...นอนไม่หลับ"
> ครั้งที่ 3 แล้วที่แม่โกหกผม
>
> 4. ตอนเมื่อใกล้จบชั้นมัธยมผมต้องไปสอบเป็นวันสุดท้าย
> แม่อุตส่าห์หยุดงานไปเป็นเพื่อนและเพื่อเป็นกำลังใจให้ผม
> มันเป็นวันที่แดดร้อนมาก ๆ...แม่ต้องรอผมอยู่หลายชม.
> เมื่อผมทำข้อสอบเสร็จ...รีบออกมาหาแม่
> เห็นแม่ผมมีเหงื่อออกท่วมตัว..
> แต่ท่านกลับรินน้ำเย็นที่เตรียมมาให้ผมดื่ม
> ผมเห็นแม่รู้สึกเหนื่อยและร้อนจึงขอให้แม่ดื่มน้ำก่อน
> แม่พูดขึ้นว่า "ลูกดื่มเถอะ....แม่ยังไม่กระหายน้ำ"
> นั่นเป็นครั้งที่ 4 ที่แม่โกหกผม
>
> 5. หลังจากที่พ่อผมล้มป่วยและเสียชีวิต
> คุณแม่ที่น่าสงสารต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว
> แต่ก็ยังไม่ค่อยเพียงพอไม่ว่าคุณแม่จะพยายามมากขึ้นเพียงไร
> คุณลุงที่อยู่ข้าง ๆบ้านท่านเป็นคนดี
> พยายามมาช่วยเหลือครอบครัวเราเสมอ....เช่นซ่อมแซมบ้านที่ผุพัง..ฯลฯ
> เพื่อนบ้านเห็นครอบครัวลำบากมากก็แนะนำให้แม่แต่งงานใหม่
> แต่แม่ยืนกรานไม่เห็นด้วย แม่พูดกับผมว่า
> "แม่มีลูกอยู่ทั้งคน...แม่ไม่ต้องการความรักอีก"
> แม่โกหกผมเป็นครั้งที่ 5 แล้ว
>
> 6. ในทื่สุดผมก็เรียนจบและมีงานทำ
> ผมอยากให้แม่ซึ่งตรากตรำทำงานหนักมาตลอดได้พักผ่อนบ้าง
> แต่แม่ไม่ยอม.....กลับไปตลาดทุกเช้า
> ขายผักที่หามาได้เพื่อเลี้ยงชีพทั้งๆที่ผมพยายามส่งเงินมาให้แม่
> (ผมต้องไปทำงานในเมืองที่ห่างไกล)
> แม่ผมไม่ค่อยยอมรับเงินผม..บางครั้งยังส่งเงินกลับคืนให้ผมอีก
> แม่พูดกับผมว่า "แม่มีเงินพอใช้แล้ว...ลูกควรเก็บเงินไว้สร้างฐานะ"
> แม่โกหกผมเป็นครั้งที่ 6
>
> 7. เพื่ออนาคตที่ก้าวหน้า..
> ผมตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทด้วยทุนของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในอเมริกา
> เมื่อผมเรียนจบก็ได้งานทำ
> ที่นั่นและมีเงินเดือนค่อนข้างสูง
> เมื่อทำงานไปได้สักพัก...ผมอยากให้แม่ผมมาอยู่กับผมที่อเมริกา
> เพื่อว่าแม่จะได้หยุดทำงาน...พักผ่อนให้สบายในบั้นปลายของชีวิต
> แต่แม่ผมไม่อยากรบกวนผม...บอกผมว่า "แม่ไม่คุ้นเคยกับชีวิตต่างแดน"
> ครั้งที่ 7 แล้วซินะที่แม่โกหกผม
>
> 8. เมื่อแม่แก่ตัวลงไปเรื่อย ๆ..
> ในที่สุดแม่ก็เป็นมะเร็งและต้องเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาล
> ผมลางานแล้วรีบบินกลับมาหาแม่สุดที่รักทันที
> แม่ผมนอนพักฟื้นอยู่บนเตียงเมื่อผมไปถึง
> น้ำตาผมไหลอาบแก้มเมื่อเห็นแม่ซึ่งผ่ายผอมและดูทรุดโทรมลงอย่างมาก
> แม่รู้สึกดีใจมากที่เห็นผม....พยายามยิ้มอย่างสดชื่นด้วยความลำบาก
> ผมรู้ดีว่าแม่ได้ฝืนความเจ็บปวดรวดร้าวอย่างสุดฝืน
> จากโรคมะเร็งร้ายที่ลามไปทั่วทั้งตัว
> ผมโอบกอดแม่พร้อมกับร้องไห้ด้วยความสงสาร
> หัวใจผมในขณะนั้นเศร้าหมองและเจ็บปวดอย่างที่สุด
> แม่พยายามปลอบผมด้วยเสียงที่แหบพร่าและสั่นเครือ
> "ลูกรักของแม่...เห็นหน้าลูกแม่ไม่รู้สึกเจ็บแล้ ว"
> นี่เป็นครั้งที่ 8 ที่แม่โกหก
> และเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของแม่ที่โกหกผม
>
> แม่ที่ผมรักและบูชามาตลอดชีวิตได้ปิดตาลงและจากผมไปอย่างไม่มีวันกลับ
> หลังจากที่เธอกล่าวคำโกหก
> ครั้งที่ 8 จบลง.......
>
> 1. เรื่องเริ่มขึ้นตอนเมื่อผมเป็นเด็ก ๆผมเกิดในครอบครัวยากจน
> ครอบครัวของเราจนมากจนต้องอดข้าวบ่อย ๆ
> เมื่อไหร่ก็ตามเมื่อถึงเวลากินข้าว...แม่จะแบ่งข้าวมาให้ผมเพิ่มขึ้นอีก
> พร้อมทั้งพูดว่า"ลูกต้องกินข้าวเพิ่มขึ้นนะ...ส่วนแม่ไม่ค่อยหิว"
> นี้เป็นครั้งแรกที่แม่โกหกผม
>
> 2. เมื่อผมเติบโตขึ้นคุณแม่เพียรพยายามหาเวลาว่างไปตกปลาในแม่น้ำ
> เพื่อว่าผมจะได้กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของผม
> แม่ต้มปลาที่ตกมาได้ทำเป็นซุปให้ผมกิน
> ในขณะที่ผมกินแกงต้มปลา..แม่จะนั่งข้าง ๆผม แทะกิน
> เศษเนื้อปลาที่ติดอยู่ตามก้างปลาหลังจากที่ผมไ ด้
> กินเนื้อปลาไปแล้ว
> ผมรู้สึกตื้นตันใจมาก..ผมพยายามแบ่งเนื้อปลาให้แม่
> แต่แม่ปฎิเสธทันควันพร้อมกับกล่าวว่า
> "ลูกกินเถอะ...แม่ไม่ค่อยชอบกินเนื้อปลา" นี่เป็นครั้งที่2 ที่แม่
> โกหกผม
>
> 3. เมื่อผมเรียนอยู่ชั้นมัธยมเราต้องใช้เงินเพิ่มมากขึ้น
> แม่ต้องหารายได้พิเศษด้วยการรับงานเล็กๆน้อยจากโรงงานมาทำที่บ้าน
> บางครั้งผมตื่นขึ้นมาตอนตี 1 หรือตี 2...ผมยังเห็นแม่กำลังทำงาน
> "แม่ครับ...นอนเถอะครับมันดึกมากแล้วพรุ่งนี้แม่ต้องไปทำงานอีก"
> แม่ยิ้มกับผมพูดว่า "ลูกนอนต่อก่อนนะ...แม่ยังไม่เหนื่อย...นอนไม่หลับ"
> ครั้งที่ 3 แล้วที่แม่โกหกผม
>
> 4. ตอนเมื่อใกล้จบชั้นมัธยมผมต้องไปสอบเป็นวันสุดท้าย
> แม่อุตส่าห์หยุดงานไปเป็นเพื่อนและเพื่อเป็นกำลังใจให้ผม
> มันเป็นวันที่แดดร้อนมาก ๆ...แม่ต้องรอผมอยู่หลายชม.
> เมื่อผมทำข้อสอบเสร็จ...รีบออกมาหาแม่
> เห็นแม่ผมมีเหงื่อออกท่วมตัว..
> แต่ท่านกลับรินน้ำเย็นที่เตรียมมาให้ผมดื่ม
> ผมเห็นแม่รู้สึกเหนื่อยและร้อนจึงขอให้แม่ดื่มน้ำก่อน
> แม่พูดขึ้นว่า "ลูกดื่มเถอะ....แม่ยังไม่กระหายน้ำ"
> นั่นเป็นครั้งที่ 4 ที่แม่โกหกผม
>
> 5. หลังจากที่พ่อผมล้มป่วยและเสียชีวิต
> คุณแม่ที่น่าสงสารต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว
> แต่ก็ยังไม่ค่อยเพียงพอไม่ว่าคุณแม่จะพยายามมากขึ้นเพียงไร
> คุณลุงที่อยู่ข้าง ๆบ้านท่านเป็นคนดี
> พยายามมาช่วยเหลือครอบครัวเราเสมอ....เช่นซ่อมแซมบ้านที่ผุพัง..ฯลฯ
> เพื่อนบ้านเห็นครอบครัวลำบากมากก็แนะนำให้แม่แต่งงานใหม่
> แต่แม่ยืนกรานไม่เห็นด้วย แม่พูดกับผมว่า
> "แม่มีลูกอยู่ทั้งคน...แม่ไม่ต้องการความรักอีก"
> แม่โกหกผมเป็นครั้งที่ 5 แล้ว
>
> 6. ในทื่สุดผมก็เรียนจบและมีงานทำ
> ผมอยากให้แม่ซึ่งตรากตรำทำงานหนักมาตลอดได้พักผ่อนบ้าง
> แต่แม่ไม่ยอม.....กลับไปตลาดทุกเช้า
> ขายผักที่หามาได้เพื่อเลี้ยงชีพทั้งๆที่ผมพยายามส่งเงินมาให้แม่
> (ผมต้องไปทำงานในเมืองที่ห่างไกล)
> แม่ผมไม่ค่อยยอมรับเงินผม..บางครั้งยังส่งเงินกลับคืนให้ผมอีก
> แม่พูดกับผมว่า "แม่มีเงินพอใช้แล้ว...ลูกควรเก็บเงินไว้สร้างฐานะ"
> แม่โกหกผมเป็นครั้งที่ 6
>
> 7. เพื่ออนาคตที่ก้าวหน้า..
> ผมตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทด้วยทุนของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในอเมริกา
> เมื่อผมเรียนจบก็ได้งานทำ
> ที่นั่นและมีเงินเดือนค่อนข้างสูง
> เมื่อทำงานไปได้สักพัก...ผมอยากให้แม่ผมมาอยู่กับผมที่อเมริกา
> เพื่อว่าแม่จะได้หยุดทำงาน...พักผ่อนให้สบายในบั้นปลายของชีวิต
> แต่แม่ผมไม่อยากรบกวนผม...บอกผมว่า "แม่ไม่คุ้นเคยกับชีวิตต่างแดน"
> ครั้งที่ 7 แล้วซินะที่แม่โกหกผม
>
> 8. เมื่อแม่แก่ตัวลงไปเรื่อย ๆ..
> ในที่สุดแม่ก็เป็นมะเร็งและต้องเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาล
> ผมลางานแล้วรีบบินกลับมาหาแม่สุดที่รักทันที
> แม่ผมนอนพักฟื้นอยู่บนเตียงเมื่อผมไปถึง
> น้ำตาผมไหลอาบแก้มเมื่อเห็นแม่ซึ่งผ่ายผอมและดูทรุดโทรมลงอย่างมาก
> แม่รู้สึกดีใจมากที่เห็นผม....พยายามยิ้มอย่างสดชื่นด้วยความลำบาก
> ผมรู้ดีว่าแม่ได้ฝืนความเจ็บปวดรวดร้าวอย่างสุดฝืน
> จากโรคมะเร็งร้ายที่ลามไปทั่วทั้งตัว
> ผมโอบกอดแม่พร้อมกับร้องไห้ด้วยความสงสาร
> หัวใจผมในขณะนั้นเศร้าหมองและเจ็บปวดอย่างที่สุด
> แม่พยายามปลอบผมด้วยเสียงที่แหบพร่าและสั่นเครือ
> "ลูกรักของแม่...เห็นหน้าลูกแม่ไม่รู้สึกเจ็บแล้ ว"
> นี่เป็นครั้งที่ 8 ที่แม่โกหก
> และเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของแม่ที่โกหกผม
>
> แม่ที่ผมรักและบูชามาตลอดชีวิตได้ปิดตาลงและจากผมไปอย่างไม่มีวันกลับ
> หลังจากที่เธอกล่าวคำโกหก
> ครั้งที่ 8 จบลง.......
.แปลและเรียบเรียงจาก English Forward Mail -"mother's 8 lies"
อ่านจบแล้วก็อย่าลืมรักคุณแม่/คุณพ่อของเราให้มากๆนะค่ะ (เดี๋ยวขอเช็ดน้ำตาก่อน)
อ่านจบแล้วก็อย่าลืมรักคุณแม่/คุณพ่อของเราให้มากๆนะค่ะ (เดี๋ยวขอเช็ดน้ำตาก่อน)
แม่โกหกผม 8 ครั้งในชีวิต
[IMG]