ชายอินโดป่วยประหลาด เป็นเนื้องอกอัปลักษณ์ทั่วร่าง
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์เดอะซันของอังกฤษเปิดเผยเรื่องราวสุดน่าเห็นใจของชายชาวอินโดนีเซียรายหนึ่ง ที่ป่วยเป็นโรคประหลาด เป็นเนื้องอกตะปุ่มตะป่ำทั่วร่างกาย จนกลายเป็นคนอัปลักษณ์มายาวนานกว่า 30 ปี
โดยชายรายนี้ คือ นายจันทรา วิศณุ ชาวอินโดนีเซียวัย 57 ปี ได้เริ่มป่วยด้วยภาวะเนื้องอกบนผิวตั้งแต่อายุได้เพียง 19 ปี ซึ่งในตอนนั้น เนื้องอกตะปุ่มตะป่ำนี้ได้เกิดขึ้นบนใบหน้าเท่านั้น แต่แล้วหลังจากนั้นมันก็ลามไปผุดที่แผ่นหลัง และทั่วร่างกายของเขาในลักษณะค่อย ๆ ลุกลามเรื่อยมา แม้ว่าจะไปพบแพทย์หลาย ๆ คนมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วแต่ก็ยังไม่มีแพทย์คนไหนสามารถรักษาหาย เนื้องอกประหลาดนี้ยิ่งผุดขึ้นทุกตารางนิ้วของร่างกาย จนกระทั่งนายจันทราอายุได้ 32 ปี ผิวหนังของเขาก็เต็มไปด้วยเนื้องอกตะปุ่มตะป่ำอย่างที่เห็น ซึ่งเจ้าตัวก็ต้องทำใจอยู่นานหลายปีกว่าจะยอมรับสภาพร่างกายของตัวเองและพยายามใช้ชีวิตเฉกเช่นคนปกติได้
สำหรับภาวะผิวตะปุ่มตะป่ำของจันทรานั้น แพทย์ผิวหนังได้อธิบายว่า เป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมที่ไม่อาจรักษาหาย และอาจมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของระบบประสาทที่ทำให้เกิดเนื้องอกขึ้นตามผิวพรรณและกระดูก
ส่วนทางด้านเจ้าตัว ก็ได้เปิดเผยถึงอาการผิดปกติของตัวเองว่า "ไม่มีการรักษาทางใดที่จะรักษาผมได้ ผมตระเวนหาหมอทุกที่และผลออกมาก็คือ ไม่มีใครรู้ว่าจะรักษาผมอย่างไร ผมจึงทำใจยอมรับ และไม่ไปหมออีก แต่โรคประหลาดนี้ก็ส่งผลกระทบต่อชีวิตผมมากนะ เพราะเนื้องอกพวกนี้มันคันมาก และจะรู้สึกปวดแสบปวดร้อนในช่วงฤดูร้อนเป็นพิเศษ ก็ทรมานอยู่ไม่น้อยเลย"
และหากจะถามถึงความรู้สึกของจันทรา ก็น่าเห็นใจเป็นอย่างมาก เพราะเขาบอกว่าเจ้าโรคประหลาดนี้ทำให้เขาเป็นตัวน่ารังเกียจในสังคมไปเลย โดยจันทราได้เปิดเผยว่า "ผมต้องใส่แจ็คเก็ตถึง 3 ตัว แว่นกันแดดและสวมหมวกมิดชิดทุกครั้งที่ออกจากบ้าน แต่มันก็ปิดไม่มิดหรอก และพอออกไปเจอผู้คน พวกเขาก็ไม่ได้เยาะเย้ยเหยียดหยันผมโดยตรงนะ แต่พวกเขาจะจ้องมองและพยายามขยับหนีไปห่าง ๆ ผมให้มากที่สุด เพราะพวกเขากลัวว่าจะติดโรคประหลาดนี้จากผม ทำให้หลายครั้งผมรู้สึกโกรธและรู้สึกแย่มาก ๆ ที่ผู้คนมีปฎิกิริยาต่อผมแตกต่างจากคนอื่น แต่ปฏิกิริยาของผู้คนที่มีต่อผมก็ไม่ได้ทำให้ผมหลบเลี่ยงจากการพบปะผู้คนเลย ผมใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ ไปรับลูกที่โรงเรียนเหมือนพ่อคนอื่น ๆ แต่ก็จะพยายามใส่หมวกปิดใบหน้าเอาไว้เพราะกลัวเพื่อนลูกจะล้อเอานั่นแหละ"
ส่วนทางด้านนานิค ตรี ฮาร์ยานี ภรรยาที่อยู่ด้วยกันมานานถึง 33 ปีของจันทรา ซึ่งถือว่าเป็นผู้หญิงที่จิตใจดีที่สุดในโลก ได้เปิดเผยเกี่ยวกับอาการประหลาดของสามีว่า "ตั้งแต่จันทราเริ่มป่วยประหลาด เขาก็พยายามบีบให้ฉันไปจากชีวิตเขาและอย่ากลับมาอีก แต่ฉันยืนยันว่าไม่ไป การได้มองเห็นเขาพยายามต่อสู้กับโรคประหลาดนี้มาโดยตลอดทำให้ฉันรู้สึกว่าเขาเป็นคนเข้มแข็ง ไม่ใช่คนอ่อนแอเลย"
อย่างไรก็ดี แม้ว่าจันทราจะมีจิตใจที่เข้มแข็งที่สามารถต่อสู้และทำใจรับสภาพของตัวเองได้แล้ว แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะกลั่นแกล้งให้เขามีเรื่องต้องทุกข์ใจเช่นเดียวกับตอนที่เริ่มเป็นเนื้องอกใหม่ ๆ อีกครั้ง เพราะขณะนี้ มาร์ติน อนันดา ลูกชายวัย 32 ปี และลิส จันทรา ลูกสาววัย 26 ปีของเขา ก็เริ่มมีเนื้องอกเล็กในลักษณะเดียวกับเขาผุดขึ้นตามผิวหนังเช่นกัน เขาจึงรวบรวมความกล้า เปิดเผยใบหน้าตัวเองและให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในครั้งนี้ ด้วยความหวังลึก ๆ ว่า จะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสักคนเข้ามาให้ความช่วยเหลือลูก ๆ ของเขาจนหายดี ไม่ต้องแบกรับกับความอัปลักษณ์อย่างที่เขาเคยเป็นมาเกือบทั้งชีวิต
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์เดอะซันของอังกฤษเปิดเผยเรื่องราวสุดน่าเห็นใจของชายชาวอินโดนีเซียรายหนึ่ง ที่ป่วยเป็นโรคประหลาด เป็นเนื้องอกตะปุ่มตะป่ำทั่วร่างกาย จนกลายเป็นคนอัปลักษณ์มายาวนานกว่า 30 ปี
โดยชายรายนี้ คือ นายจันทรา วิศณุ ชาวอินโดนีเซียวัย 57 ปี ได้เริ่มป่วยด้วยภาวะเนื้องอกบนผิวตั้งแต่อายุได้เพียง 19 ปี ซึ่งในตอนนั้น เนื้องอกตะปุ่มตะป่ำนี้ได้เกิดขึ้นบนใบหน้าเท่านั้น แต่แล้วหลังจากนั้นมันก็ลามไปผุดที่แผ่นหลัง และทั่วร่างกายของเขาในลักษณะค่อย ๆ ลุกลามเรื่อยมา แม้ว่าจะไปพบแพทย์หลาย ๆ คนมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วแต่ก็ยังไม่มีแพทย์คนไหนสามารถรักษาหาย เนื้องอกประหลาดนี้ยิ่งผุดขึ้นทุกตารางนิ้วของร่างกาย จนกระทั่งนายจันทราอายุได้ 32 ปี ผิวหนังของเขาก็เต็มไปด้วยเนื้องอกตะปุ่มตะป่ำอย่างที่เห็น ซึ่งเจ้าตัวก็ต้องทำใจอยู่นานหลายปีกว่าจะยอมรับสภาพร่างกายของตัวเองและพยายามใช้ชีวิตเฉกเช่นคนปกติได้
สำหรับภาวะผิวตะปุ่มตะป่ำของจันทรานั้น แพทย์ผิวหนังได้อธิบายว่า เป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมที่ไม่อาจรักษาหาย และอาจมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของระบบประสาทที่ทำให้เกิดเนื้องอกขึ้นตามผิวพรรณและกระดูก
ส่วนทางด้านเจ้าตัว ก็ได้เปิดเผยถึงอาการผิดปกติของตัวเองว่า "ไม่มีการรักษาทางใดที่จะรักษาผมได้ ผมตระเวนหาหมอทุกที่และผลออกมาก็คือ ไม่มีใครรู้ว่าจะรักษาผมอย่างไร ผมจึงทำใจยอมรับ และไม่ไปหมออีก แต่โรคประหลาดนี้ก็ส่งผลกระทบต่อชีวิตผมมากนะ เพราะเนื้องอกพวกนี้มันคันมาก และจะรู้สึกปวดแสบปวดร้อนในช่วงฤดูร้อนเป็นพิเศษ ก็ทรมานอยู่ไม่น้อยเลย"
และหากจะถามถึงความรู้สึกของจันทรา ก็น่าเห็นใจเป็นอย่างมาก เพราะเขาบอกว่าเจ้าโรคประหลาดนี้ทำให้เขาเป็นตัวน่ารังเกียจในสังคมไปเลย โดยจันทราได้เปิดเผยว่า "ผมต้องใส่แจ็คเก็ตถึง 3 ตัว แว่นกันแดดและสวมหมวกมิดชิดทุกครั้งที่ออกจากบ้าน แต่มันก็ปิดไม่มิดหรอก และพอออกไปเจอผู้คน พวกเขาก็ไม่ได้เยาะเย้ยเหยียดหยันผมโดยตรงนะ แต่พวกเขาจะจ้องมองและพยายามขยับหนีไปห่าง ๆ ผมให้มากที่สุด เพราะพวกเขากลัวว่าจะติดโรคประหลาดนี้จากผม ทำให้หลายครั้งผมรู้สึกโกรธและรู้สึกแย่มาก ๆ ที่ผู้คนมีปฎิกิริยาต่อผมแตกต่างจากคนอื่น แต่ปฏิกิริยาของผู้คนที่มีต่อผมก็ไม่ได้ทำให้ผมหลบเลี่ยงจากการพบปะผู้คนเลย ผมใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ ไปรับลูกที่โรงเรียนเหมือนพ่อคนอื่น ๆ แต่ก็จะพยายามใส่หมวกปิดใบหน้าเอาไว้เพราะกลัวเพื่อนลูกจะล้อเอานั่นแหละ"
ส่วนทางด้านนานิค ตรี ฮาร์ยานี ภรรยาที่อยู่ด้วยกันมานานถึง 33 ปีของจันทรา ซึ่งถือว่าเป็นผู้หญิงที่จิตใจดีที่สุดในโลก ได้เปิดเผยเกี่ยวกับอาการประหลาดของสามีว่า "ตั้งแต่จันทราเริ่มป่วยประหลาด เขาก็พยายามบีบให้ฉันไปจากชีวิตเขาและอย่ากลับมาอีก แต่ฉันยืนยันว่าไม่ไป การได้มองเห็นเขาพยายามต่อสู้กับโรคประหลาดนี้มาโดยตลอดทำให้ฉันรู้สึกว่าเขาเป็นคนเข้มแข็ง ไม่ใช่คนอ่อนแอเลย"
อย่างไรก็ดี แม้ว่าจันทราจะมีจิตใจที่เข้มแข็งที่สามารถต่อสู้และทำใจรับสภาพของตัวเองได้แล้ว แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะกลั่นแกล้งให้เขามีเรื่องต้องทุกข์ใจเช่นเดียวกับตอนที่เริ่มเป็นเนื้องอกใหม่ ๆ อีกครั้ง เพราะขณะนี้ มาร์ติน อนันดา ลูกชายวัย 32 ปี และลิส จันทรา ลูกสาววัย 26 ปีของเขา ก็เริ่มมีเนื้องอกเล็กในลักษณะเดียวกับเขาผุดขึ้นตามผิวหนังเช่นกัน เขาจึงรวบรวมความกล้า เปิดเผยใบหน้าตัวเองและให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในครั้งนี้ ด้วยความหวังลึก ๆ ว่า จะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสักคนเข้ามาให้ความช่วยเหลือลูก ๆ ของเขาจนหายดี ไม่ต้องแบกรับกับความอัปลักษณ์อย่างที่เขาเคยเป็นมาเกือบทั้งชีวิต
ชายอินโดป่วยประหลาด เป็นเนื้องอกอัปลักษณ์ทั่วร่าง
[img]
[IMG]
[/img]