แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย love2592 เมื่อ 2011-12-11 10:22
1. โรคติดต่อทางเดินอาหาร ได้แก่ โรคอุจจาระร่วง บิด ทัยฟอยด์
อาหารเป็นพิษและตับอับเสบจากไวรัสเอ
การป้องกัน น้ำท่วมเป็นน้ำที่อาจมีเชื้อโรคปนอยู่
![](http://content.mthai.com/upload_images/Album/icon/983606.gif)
จึงควรระวังอย่าให้เข้าปากและไม่ควรนำมาล้าง ภาชนะ ถ้วยชาม หรือผักผลไม้
ควรดื่มน้ำต้ม น้ำฝน หรือน้ำที่ใส่คลอรีนแล้ว รับประทานอาหารสุก ใหม่ ๆ
ไม่มีแมลงวันตอม ถ่ายอุจจาระในส้วมหรือในหลุมแล้วกลบ ไม่ถ่ายลงในน้ำ
ขยะหรือของ เสียที่เปียกแฉะควรใส่ถุงพลาสติกผูกให้แน่น แล้วทิ้งในถังรองรับ
ล้างมือให้สะอาดหลังการถ่ายอุจจาระและก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง
หากมีอาการอุจจาระร่วงควรดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ (โออาร์เอส )
จนอาการเป็นปกติ ถ้าอาการไม่ดีขึ้น มีไข้ หรือถ่ายเป็นมูกเลือด ควรปรึกษาแพทย์
2. โรคผิวหนัง ที่สำคัญคือโรคน้ำกัดเท้าหรือเท้าเปื่อย
ในระยะแรกผิวหนังอักเสบจากความเปียกชื้นและการ ระคายเคืองจากความสกปรก
ต่อมาเมื่อผิวลอกเปื่อยนานๆ มักจะมีสาเหตุมาจากเชื้อรา เชื้อ
นี้เจริญงอกงามได้ดีบริเวณซอกผิวหนังที่อับชื้น อาการจะเริ่มด้วยตุ่มใสบริเวณง่ามเท้า
มีอาการคันมากจนแตกเป็นแผล ซึ่งจะทำให้มีอาการอักเสบจากการติดเชื้อแทรกซ้อน
การป้องกัน หลังจากย่ำน้ำแล้วควรล้างเท้าให้สะอาด เช็ดให้แห้งโดยเฉพาะตามง่ามเท้า
![](http://content.mthai.com/upload_images/Album/icon/983606.gif)
อาจโรยด้วยแป้งฝุ่น ถ้าเป็นไปได้ควรสวมรองเท้ายางหุ้มข้อเมื่อจะย่ำน้ำ
หากมีอาการเท้าเปื่อยควรทาด้วยขี้ผึ้งรักษาน้ำกัดเท้า หากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์
3. ภัยจากสัตว์มีพิษกัดต่อย งู และสัตว์มีพิษต่างๆ เช่นแมลงป่อง ตะขาบ
อาจหนีน้ำขึ้นมาบนบ้านโดยเฉพาะบริเวณที่มืด
การป้องกัน หากย้ายสิ่งของหรือเดินในที่มืดหรือเวลากลางคืนต้องมีแสงสว่างพอ
![](http://content.mthai.com/upload_images/Album/icon/983606.gif)
และระวังเป็นพิเศษ ถ้าถูกสัตว์เหล่านี้กัดหรือต่อยควรรัดเหนือบริเวณแผล
ด้วยผ้าหรือสายยางให้แน่นแล้วรีบไปพบแพทย์ทันที
คลายผ้าหรือสายยางที่รัดออกเป็นระยะๆ ทุก 10 นาที เพื่อให้เลือดไหลเวียนบ้าง
4. โรคติดต่อทางเดินหายใจ ได้แก่ ไข้หวัด ทอนซิลอักเสบ หลอดลมอักเสบ
ติดต่อโดยการหายใจเอาเชื้อที่อยู่ในละอองน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะของผู้ป่วยเข้าไป
หรือใช้สิ่งของภาชนะร่วมกับผู้ป่วย ผู้ที่มีร่างกายอ่อนเพลีย ตรากตรำ และอยู่รวมกันอย่างแออัด
จะมีโอกาสติดเชื้อและป่วยเป็นโรคนี้ได้ง่าย ผู้ป่วยมักจะมีอาการไข้ ปวดศีรษะ
ปวดเมื่อย อาจมีอาการไอร่วมด้วย
การป้องกัน ควรรักษาร่างกายให้แข็งแรงและอบอุ่นอยู่เสมอ
![](http://content.mthai.com/upload_images/Album/icon/983606.gif)
ไม่สวมเสื้อผ้าและรองเท้าที่เปียกชื้นนานเกินไป
5. โรคตาแดง เกิดจากน้ำที่มีเชื้อโรคปะปนอยู่เข้าตา ทำให้เยื่อบุตาอักเสบ
มีอาการตาแดง ปวดแสบตา น้ำตาไหลมาก
การป้องกัน เมื่อน้ำสกปรกเข้าตา ควรรีบล้างตาด้วยน้ำสะอาด
![](http://content.mthai.com/upload_images/Album/icon/983606.gif)
เนื่องจากเชื้อโรคจะอยู่ในน้ำตา ขี้ตา และน้ำมูกของผู้ป่วย
จะต้องหลีกเลี่ยงการใช้ของใช้ที่อาจปนเปื้อนเชื้อร่วมกับผู้ป่วย เช่นผ้าเช็ดหน้า
ปลอกหมอน ผู้ป่วยควรรีบปรึกษา
5 โรคที่มากับภัยน้ำท่วม และ วิธีป้องกัน
[IMG]