ต่ถ้าพูดถึงความรักในวัยเรียน คงหนีไม่พ้นการ "แอบรัก" ไม่ว่าจะแอบรักรุ่นพี่ แอบรักรุ่นน้อง แอบรักเพื่อน แอบรักแฟนเพื่อน! เอ้ย! ไม่ใช่แล้ว >< ใครที่ไม่เคยอยู่ในช่วงเวลาแบบนี้ถือว่าพลาดมากๆ และถ้าใครเคยแอบรักชาวบ้านมาก่อน ก็คงรู้ว่าจะมีอาการของคนแอบรักเป็นแบบไหน... ซึ่งวันนี้พี่มิ้นท์มีคำอธิบายอาการเหล่านั้นแบบเก๋ๆ ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์มาฝากกันค่ะ มาดูสิว่า เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเรา เวลาเรามีความรัก^^
อาการที่ 1 : ใจเต้นแรงเหมือนจะหลุดออกมา <3
อาการนี้จะคล้ายๆ เวลาออกไปรายงานหน้าชั้น เกิดจากอาการตื่นเต้นแบบสุดๆ ซึ่งกับความรักก็เป็นเหมือนกัน เวลาบังเอิญเจอคนที่เราชอบในโรงอาหาร หน้าโรงเรียนหรือที่ไหนซักที แล้วเราจะต้องเดินผ่านหรือเดินไปใกล้ๆ นอกจากจะแอบกรี๊ดอยู่ในใจแล้ว เคยเป็นมั้ย?? เหมือนหัวใจจะหลุดออกมาเต้นข้างนอกแน่ะ
ปกติหัวใจคนเราจะเต้นประมาณ 60-80 ครั้งต่อวินาที แต่ถ้าตื่นเต้นมีโอกาสเต้นเร็วถึง 80 -100 ครั้งต่อวินาที วิทยาศาสตร์สามารถอธิบายอาการนี้ได้ว่า เมื่อเจอคนที่ถูกใจ เราจะรู้สึกยินดีมากๆ ดีใจมากๆ อะดรีนัลเมดัลลาหรือต่อมหมวกไตด้านในก็จะสร้างฮอร์โมนที่เรียกว่าอะดรีนาลินขึ้นมา ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้มีผลต่อหัวใจและหลอดเลือดแดงขนาดเล็กโดยตรง ทำให้หัวใจเต้นเร็ว หลอดเลือดขยายตัว เลือดสูบฉีดแรง ส่วนระยะเวลาของอาการใจเต้นแรง ก็คงขึ้นอยู่กับความตื่นเต้นที่ได้เจอหน้าคนที่ชอบค่ะ ฮิ้ววว
อาการที่ 2 : แก้มแดง เป็นลูกมะเขือเทศ <3
อาการนี้เราจะไม่ค่อยรู้ตัว เพราะมองไม่เห็นหน้าตัวเอง แต่เพื่อนๆ ของเราจะเห็นชัดมาก เวลาเราเขินหรืออาย เมื่อเจอคนที่เราชอบ หน้าของเราจะแดงแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวจนนึกว่าทาบรัชออนมา 3 ตลับ ซึ่งอาการหน้าแดงถือว่าเป็นหลักฐานที่ชัดเจนมากๆ
สาเหตุของอาการแก้มแดง หน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศ เป็นผลต่อเนื่องมาจากอาการแรก คือ หลังจากที่ได้คุยหรือเจอคนที่ชอบ ตัวแปรนี้จะไปกระตุ้นอารมณ์ ทำให้รู้สึกตื่นเต้น เมื่อตื่นเต้น หัวใจก็จะเต้นแรงตุ๊บๆ เลือดในร่างกายมีเกิดการสูบฉีดไปที่ใบหน้าและลำตัว เรียกว่าสูบฉีดแบบเต็มพิกัดด้วย เส้นเลือดใต้ผิวหนังก็จะขยายตัว หน้าก็เลยแดง แถมด้วยอาการร้อนผ่าวๆ ที่ใบหน้า แหม...ถ้าแดงขนาดนี้ อายหนักกว่าเดิมอีกนะเนี่ย
อาการที่ 3 : มือเย็นยะเยือก <3
เป็นอีกหนึ่งอาการที่มาพร้อมกับอาการใจเต้นแรง เมื่อเราตื่นเต้น ก็อาจจะเกิดภาวะเครียด กังวล เวลาจะเดินผ่านหรือสู้กล้าก็ไม่กล้า กลัวว่าเค้าจะรู้ว่าเราชอบ เป็นต้น ดังนั้น นอกจากหัวใจจะเต้นแล้ว มือยังเย็นอีกด้วย บางครั้งก็ถึงกับเหงื่อแตกกันเลยทีเดียว
สำหรับอาการนี้เกิดจากการตอบสนองของต่อมหมวกไตอีกเช่นกัน การหลั่งอะดรีนาลีน ทำให้ตับปล่อยน้ำตาลเข้าไปในเลือด มีการเปลี่ยนแปลงทางเคมี คือ เลือดแข็งตัวเร็วขึ้น ความดันสูง หัวใจเต้นเร็ว อากาศเข้าปอดมากขึ้น เหงื่อออกทั่วตัวโดยเฉพาะมือ ที่สำคัญส่งผลต่ออุณหภูมิร่างกาย จะสูงขึ้นหรือลดลงก็ได้
อาการที่ 4 : โอ้ยๆ คิดถึง <3
อาการนี้ออกแนวเพ้อหน่อยๆ เพราะตลอดทั้งวันไม่เป็นอันทำอะไร มัวแต่คิดถึงจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เช้าตื่นมาก็คิดถึงอยากเจอ บ่ายยังไม่เจอก็คิดถึงหน้า สุดท้ายก็เศร้าที่ไม่เจอถึงขั้น
เพ้อเลยทีเดียว เชื่อว่าคนที่อยู่ในภาวะแอบรัก ต้องเกิดอาการนี้อยู่บ่อยๆ แน่นอน
ความคิดถึง เริ่มเป็นอาการที่ไม่ได้ออกมาจากร่างกายแล้ว แต่กลายเป็นเรื่องของความรู้สึกที่เข้ามาแทนที่ ซึ่งระบบสมองจะเริ่มทำงานตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอคนที่เราชอบและรู้สึกว่าใช่
ในร่างกายของเราจะมีเคมีหลายชนิด โดยเฉพาะโดพามีน สารนี้จะหลั่งในช่วงที่มีความรัก รู้สึกว่าความรักนั้นสดใส เรียกว่านอกจากจะทำให้เรามีความสุขแล้ว ยังเพิ่มเรี่ยวแรงให้กับเราด้วย เช่น เวลาว่างก็ไม่ค่อยจะมีหรอก แต่ก็ยอมนอนดึกทำของขวัญให้ เป็นต้น ส่วนอารมณ์แปรปรวนต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น เศร้า เหงา คิดถึง ก็เกิดจากฮอร์โมนอีกชนิดหนึ่ง เรียกว่า เซโรโทนิน
อาการที่ 5 : จ้องตาไม่กระพริบ/ หลบสายตาเป็นว่าเล่น <3
เค้าว่ากันว่า ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ มีหลายคนที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกออกมาทางสายตาได้ ดังนั้นไม่แปลกใจเลย ถ้าสายตาที่เรามองคนที่เราชอบ กับสายตาที่มองเพื่อนจะแตกต่างกัน บางคนแค่เห็นคนที่ชอบอยู่ห่างกันร้อยเมตร แต่ขอให้ได้เห็นเถอะ ตาโต เป็นประกาย มองไม่กระพริบเลยทีเดียว แต่บางคนก็เขินอายไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง เพราะกลัวสายตามันฟ้องว่าเรารู้สึกอะไร
สายตากับความรู้สึกก็เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ด้วยเหมือนกัน ปกติการเปลี่ยนขนาดของรูม่านตาจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีตัวแปรเรื่องแสงสว่าง แต่สำหรับความรัก เรื่องแสงไม่ได้มีผล แต่ความสนใจต่างหากที่มีผล ในเรื่องนี้นักวิทยาศาสตร์ ชื่อ เฮสส์ ได้กล่าวเอาไว้ว่า ขนาดของรูม่านตาขึ้นอยู่กับอารมณ์และความสนใจด้วย เช่น ผู้ชาย ถ้าได้ดูภาพผู้หญิงรูม่านตาจะขยาย แต่ถ้าดูภาพผู้ชายรูม่านตาจะหดแคบเข้า เป็นต้น ดังนั้นเมื่อเราได้เห็นคนที่เราแอบรักอยู่ล่ะก็ ตาโตวิ๊งๆ เท่าไข่ห่านก็ไม่แปลกใจเลยล่ะค่ะ แต่สำหรับคนที่หลบสายตา ก็เป็นเพราะความกลัว ความเขินอาย เป็นปฏิกิริยาของการปกปิดความจริง แต่พี่มิ้นท์เชื่อว่าความรู้สึกนั้นคงเป็นความรู้สึกที่ทำอะไรไม่ถูกมากกว่า^^
แค่ 5 อาการ ก็เล่นเอาซะทั้งเคมี และระบบในร่างกายทำงานปั่นป่วนกันเลยทีเดียว บางคนก็ว่าการรู้สึกแอบรักนั้นมีความสุข การพอใจในสิ่งที่เป็น พอใจในความรู้สึกที่มี ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก สารเอ็นดอร์ฟินจึงหลั่งออกมามาก ความคิดแค่นี้ก็ทำให้เรามีความสุขไปได้ทั้งวัน แต่ในทางตรงกันข้ามบางคนก็ว่าการแอบรักนั้นเป็นทุกข์ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะสมหวัง....
อร้ายยยยยยยยยยย>///<
อาการที่ 1 : ใจเต้นแรงเหมือนจะหลุดออกมา <3
อาการนี้จะคล้ายๆ เวลาออกไปรายงานหน้าชั้น เกิดจากอาการตื่นเต้นแบบสุดๆ ซึ่งกับความรักก็เป็นเหมือนกัน เวลาบังเอิญเจอคนที่เราชอบในโรงอาหาร หน้าโรงเรียนหรือที่ไหนซักที แล้วเราจะต้องเดินผ่านหรือเดินไปใกล้ๆ นอกจากจะแอบกรี๊ดอยู่ในใจแล้ว เคยเป็นมั้ย?? เหมือนหัวใจจะหลุดออกมาเต้นข้างนอกแน่ะ
ปกติหัวใจคนเราจะเต้นประมาณ 60-80 ครั้งต่อวินาที แต่ถ้าตื่นเต้นมีโอกาสเต้นเร็วถึง 80 -100 ครั้งต่อวินาที วิทยาศาสตร์สามารถอธิบายอาการนี้ได้ว่า เมื่อเจอคนที่ถูกใจ เราจะรู้สึกยินดีมากๆ ดีใจมากๆ อะดรีนัลเมดัลลาหรือต่อมหมวกไตด้านในก็จะสร้างฮอร์โมนที่เรียกว่าอะดรีนาลินขึ้นมา ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้มีผลต่อหัวใจและหลอดเลือดแดงขนาดเล็กโดยตรง ทำให้หัวใจเต้นเร็ว หลอดเลือดขยายตัว เลือดสูบฉีดแรง ส่วนระยะเวลาของอาการใจเต้นแรง ก็คงขึ้นอยู่กับความตื่นเต้นที่ได้เจอหน้าคนที่ชอบค่ะ ฮิ้ววว
อาการที่ 2 : แก้มแดง เป็นลูกมะเขือเทศ <3
อาการนี้เราจะไม่ค่อยรู้ตัว เพราะมองไม่เห็นหน้าตัวเอง แต่เพื่อนๆ ของเราจะเห็นชัดมาก เวลาเราเขินหรืออาย เมื่อเจอคนที่เราชอบ หน้าของเราจะแดงแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวจนนึกว่าทาบรัชออนมา 3 ตลับ ซึ่งอาการหน้าแดงถือว่าเป็นหลักฐานที่ชัดเจนมากๆ
สาเหตุของอาการแก้มแดง หน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศ เป็นผลต่อเนื่องมาจากอาการแรก คือ หลังจากที่ได้คุยหรือเจอคนที่ชอบ ตัวแปรนี้จะไปกระตุ้นอารมณ์ ทำให้รู้สึกตื่นเต้น เมื่อตื่นเต้น หัวใจก็จะเต้นแรงตุ๊บๆ เลือดในร่างกายมีเกิดการสูบฉีดไปที่ใบหน้าและลำตัว เรียกว่าสูบฉีดแบบเต็มพิกัดด้วย เส้นเลือดใต้ผิวหนังก็จะขยายตัว หน้าก็เลยแดง แถมด้วยอาการร้อนผ่าวๆ ที่ใบหน้า แหม...ถ้าแดงขนาดนี้ อายหนักกว่าเดิมอีกนะเนี่ย
อาการที่ 3 : มือเย็นยะเยือก <3
เป็นอีกหนึ่งอาการที่มาพร้อมกับอาการใจเต้นแรง เมื่อเราตื่นเต้น ก็อาจจะเกิดภาวะเครียด กังวล เวลาจะเดินผ่านหรือสู้กล้าก็ไม่กล้า กลัวว่าเค้าจะรู้ว่าเราชอบ เป็นต้น ดังนั้น นอกจากหัวใจจะเต้นแล้ว มือยังเย็นอีกด้วย บางครั้งก็ถึงกับเหงื่อแตกกันเลยทีเดียว
สำหรับอาการนี้เกิดจากการตอบสนองของต่อมหมวกไตอีกเช่นกัน การหลั่งอะดรีนาลีน ทำให้ตับปล่อยน้ำตาลเข้าไปในเลือด มีการเปลี่ยนแปลงทางเคมี คือ เลือดแข็งตัวเร็วขึ้น ความดันสูง หัวใจเต้นเร็ว อากาศเข้าปอดมากขึ้น เหงื่อออกทั่วตัวโดยเฉพาะมือ ที่สำคัญส่งผลต่ออุณหภูมิร่างกาย จะสูงขึ้นหรือลดลงก็ได้
อาการที่ 4 : โอ้ยๆ คิดถึง <3
อาการนี้ออกแนวเพ้อหน่อยๆ เพราะตลอดทั้งวันไม่เป็นอันทำอะไร มัวแต่คิดถึงจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เช้าตื่นมาก็คิดถึงอยากเจอ บ่ายยังไม่เจอก็คิดถึงหน้า สุดท้ายก็เศร้าที่ไม่เจอถึงขั้น
เพ้อเลยทีเดียว เชื่อว่าคนที่อยู่ในภาวะแอบรัก ต้องเกิดอาการนี้อยู่บ่อยๆ แน่นอน
ความคิดถึง เริ่มเป็นอาการที่ไม่ได้ออกมาจากร่างกายแล้ว แต่กลายเป็นเรื่องของความรู้สึกที่เข้ามาแทนที่ ซึ่งระบบสมองจะเริ่มทำงานตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอคนที่เราชอบและรู้สึกว่าใช่
ในร่างกายของเราจะมีเคมีหลายชนิด โดยเฉพาะโดพามีน สารนี้จะหลั่งในช่วงที่มีความรัก รู้สึกว่าความรักนั้นสดใส เรียกว่านอกจากจะทำให้เรามีความสุขแล้ว ยังเพิ่มเรี่ยวแรงให้กับเราด้วย เช่น เวลาว่างก็ไม่ค่อยจะมีหรอก แต่ก็ยอมนอนดึกทำของขวัญให้ เป็นต้น ส่วนอารมณ์แปรปรวนต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น เศร้า เหงา คิดถึง ก็เกิดจากฮอร์โมนอีกชนิดหนึ่ง เรียกว่า เซโรโทนิน
อาการที่ 5 : จ้องตาไม่กระพริบ/ หลบสายตาเป็นว่าเล่น <3
เค้าว่ากันว่า ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ มีหลายคนที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกออกมาทางสายตาได้ ดังนั้นไม่แปลกใจเลย ถ้าสายตาที่เรามองคนที่เราชอบ กับสายตาที่มองเพื่อนจะแตกต่างกัน บางคนแค่เห็นคนที่ชอบอยู่ห่างกันร้อยเมตร แต่ขอให้ได้เห็นเถอะ ตาโต เป็นประกาย มองไม่กระพริบเลยทีเดียว แต่บางคนก็เขินอายไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง เพราะกลัวสายตามันฟ้องว่าเรารู้สึกอะไร
สายตากับความรู้สึกก็เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ด้วยเหมือนกัน ปกติการเปลี่ยนขนาดของรูม่านตาจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีตัวแปรเรื่องแสงสว่าง แต่สำหรับความรัก เรื่องแสงไม่ได้มีผล แต่ความสนใจต่างหากที่มีผล ในเรื่องนี้นักวิทยาศาสตร์ ชื่อ เฮสส์ ได้กล่าวเอาไว้ว่า ขนาดของรูม่านตาขึ้นอยู่กับอารมณ์และความสนใจด้วย เช่น ผู้ชาย ถ้าได้ดูภาพผู้หญิงรูม่านตาจะขยาย แต่ถ้าดูภาพผู้ชายรูม่านตาจะหดแคบเข้า เป็นต้น ดังนั้นเมื่อเราได้เห็นคนที่เราแอบรักอยู่ล่ะก็ ตาโตวิ๊งๆ เท่าไข่ห่านก็ไม่แปลกใจเลยล่ะค่ะ แต่สำหรับคนที่หลบสายตา ก็เป็นเพราะความกลัว ความเขินอาย เป็นปฏิกิริยาของการปกปิดความจริง แต่พี่มิ้นท์เชื่อว่าความรู้สึกนั้นคงเป็นความรู้สึกที่ทำอะไรไม่ถูกมากกว่า^^
แค่ 5 อาการ ก็เล่นเอาซะทั้งเคมี และระบบในร่างกายทำงานปั่นป่วนกันเลยทีเดียว บางคนก็ว่าการรู้สึกแอบรักนั้นมีความสุข การพอใจในสิ่งที่เป็น พอใจในความรู้สึกที่มี ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก สารเอ็นดอร์ฟินจึงหลั่งออกมามาก ความคิดแค่นี้ก็ทำให้เรามีความสุขไปได้ทั้งวัน แต่ในทางตรงกันข้ามบางคนก็ว่าการแอบรักนั้นเป็นทุกข์ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะสมหวัง....
อร้ายยยยยยยยยยย>///<
เกิดอะไรกะร่างกายเราเมื่อแอบรักใครซักคน
[IMG]