แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย 708799 เมื่อ 2011-8-15 21:52
ถ้าจะเอาเครดิตก็มาเอาที่ผมนี่ มี Vocaloid_BRS เป็นเครดิตให้ไม่จำกัด = ='
แก้ไขข้อมูลแล้วนะครับขอบคุณ
ท่าน Aivanza กับท่าน kheminw และ inflector มากๆครับ
ในการอ่านผมไม่ค่อยแนะนำให้อ่านทีเดียวหมดนะครับ เพราะจะทำให้จำได้ส่วนน้อยสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นอยู่แล้ว ผมแนะนำให้ค่อยๆเข้ามาอ่านเรื่อยๆวันละหลายๆคำและพยายามพูดหรือออกเสียงบ่อยๆก็จะพูดได้เองครับ
ส่วนการอ่านภาษาญี่ปุ่นนั้นผมจะขอเก็บไว้ก่อนละกัน ตอนนี้ออกเสียงกันให้ได้ก่อนแล้วคราวหน้าผมจะเริ่มการอ่านภาษาญี่ปุ่นละกัน (ขอบอกว่าคันจิผมไปไม่รอดนะครับ - -* ถึงจะเห็นบ่อยๆก็เถอะ)
[PS. การอ่านต้องเริ่มเรียนตั้งแต่ต้นเหมือนท่อง A-Z อะไรประมาณนั้นเลย - -* ต้องจำตัวอักษรญี่ปุ่นให้ได้ (คิดว่า เอาคาตาคานะ ครับ ง่ายดี) เลยไม่รู้จะรีบไปทำไม ไปเรื่อยๆละกันนะครับ =w= ผมเองก็มีเรื่องต้องทำเยอะเหมือนกัน 555+]
จากคำทั้งหมดเป็น ญี่ปุ่น>ไทย ทั้งหมด ดังนั้นความหมายผมจะแปลตรงตามญี่ปุ่นทั้งหมด ตรงไหนไม่เข้าใจสามารถถามได้ครับ
PS. Q. บีหนึ่ง (อ่ะ การ์ตูนกล้วยหอมเก่าไป เอาใหม่ๆ พอดีติดมาจากพี่ซู อ่านเจอครั้งเดียวติดมุข)
PS. Q. ทำไมไม่ใส่ภาษาญี่ปุ่นเข้าไปด้วยล่ะครับ
3DS. A. ก็เพราะถึงใส่ไปก็ไม่อ่านหรอกครับ ถามว่าถ้าใส่ไปแล้วอ่านออกหรือไงครับ
PS. Q. ถึงอ่านไม่ออกก็น่าจะใส่ไปให้ครบนี่ครับ?
PSP. A. เอาแค่ตามความเข้าใจครับ เพราะผมเองก็สะกดคำไม่เก่งด้วย ถึงจะพอได้แต่ในหลายๆคำก็ถือว่าไม่ได้เต็ม 100%
PS. Q. ใส่แต่ภาษาไทยซะส่วนใหญ่จะเข้าใจหรอครับ? ว่าออกเสียงยังไง
PS3. A. จะพยายามอธิบายให้เข้าใจครับ ผมจะย้ำไว้ตลอดว่าออกเสียงยังไงกับคำที่ไม่ค่อยได้เจอหรือออกเสียงยากๆ แต่คำพวกนี้จะเจอได้บ่อยๆกับคนที่นิยมดูอนิเมะพากษ์ญี่ปุ่นครับ
PS. Q. แล้วบางอย่างมันไม่ใช่คำพูดแต่เป็นชื่อสิ่งของหรือชื่อตัวละครและอย่างอื่นทำไมเอามารวมล่ะครับ
NDS A. อยู่หมวดอนิเมะก็ควรรู้ไว้สิครับ จะได้ไม่สงสัยและไปตั้งกระทู้ถาม
PS. Q. นายคิดอย่างนั้นเหรอบีหนึ่ง
XBOX360. A. ชั้นก็คิดอย่างนั้นน่ะบีสอง (เฮ้ย! บากะ จะมาชวนเล่นทำไม)
การทักทายเบื้องต้นที่ควรรู้ไว้จะได้ไม่งงเวลาโดยเมมเบอร์ในหมวดนี้ทัก (จะมีคำทักทายบางอย่างอยู่ข้างล่างแล้ว เพราะตรงการทักทายเบื้องต้นนี้ทำทีหลัง)
โอฮาโย/โอฮาโย โกไซอิมัตซึ = อรุณสวัสดิ์
คอนนิจิวะ = สวัสดี (ส่วนใหญ่จะเป็นคำทักทายสบายๆที่ใช้ตอนไหนก็ได้ แต่คำนี้เป็นคำที่ไว้ใช้ทักทายตอนบ่ายซะมากกว่า)
คอนบังวะ = สายันห์สวัสดิ์/สวัสดีตอนเย็น
โอยาซึมิ/โอยาซุมินาไซ = ราตรีสวัสดิ์ (อย่าเอาไปใช้ทักทายนะครับ เพราะเป็นคำที่ใช้บอกก่อนนอนเท่านั้น แต่ในกรณีที่พูด "โอยาซึมินาไซ" แล้วชกเขาจนสลบไปอันนี้ผมให้ใช้ได้ครับ 555+)
โดอิตะมิมัตชิเตะ (ออกเสียง"โด้") = ไม่เป็นไร (ลงท้าย "ครับ/ค่ะ") แต่วิธีใช้จะไม่เหมือนคำว่า "ไดโชกึ" เช่น เมื่อเพื่อนเราบังเอิญเดินชนเราที่มุมแล้วทำให้หนังสือที่ยกมาจากห้องสภานักเรียนเกือบ 20 กว่าเล่ม (เฮ้ย...เว่อร์) ตก แล้วเขามาช่วยเก็บของให้เรา พอเรากล่าวขอบคุณ แล้วเขาใช้ "โดอิตะชิมัตชิเตะ โทะ โกเกนนาไซ" จะเป็นเหมือนการบอกว่า ไม่เป็นไร ด้วยความยินดีและก็ขอโทษนะครับ หรืออะไรแบบนี้
ฮาจิเมมัตชิเตะ ChickenBomB เดทซึ โดโซะ โยโระชิกึ (อาจจะต่อ "โอเนไกชิมัตซึ") = ยินดีที่ได้รู้จักครับ ChickenBomB ครับ ฝากตัวด้วยนะครับ
-การอ่านตัวเลขจะมี 2 แบบคือ "เสียงอง" และ "เสียงคุน(ไม่ใช่"เสียงของคุณ"อะไรแบบนั้นนะครับ)" ผมจะอธิบายสลับระหว่างเสียง "อง" และเสียง "คุน" ตามปกติที่ใช้ โดยเอาตัวแรกเป็นหลักที่ใช้ในการนับและตัวสองเป็นตัวรองที่รู้ๆไว้บ้าง เพราะการนับบางอย่างมันก็ต้องใช้-
ยกตัวอย่างเช่น [ข้าคือเซโร่! [Kun] <<<ตัวแรก & ตูคือเซโร่! [on] <<< ตัวรอง = บักลู่/ไอลู่/ไอลูลูช]
เซโระ/เซโร่ (zero) [kun] & เรย์ (rei) [on] = ศูนย์
อิชิ/อิจิ (ichi) [on] & ฮิโตะ (hito) [kun] = หนึ่ง
นิ/นี่/จิ (ni/ji) [on] & ฮุตะ/ฟุตะ (futa) [kun] = สอง
ซัน/ซัง (san) [on] & มิ/มิท [mi/mit(su)] = สาม
โยง(ออกเสียง "ย่ง")/โยะ (yon/yo) [kun] & ชิ (ออกเสียง "ฉิ") (shi) [on] = สี่
โก/โกะ (go) [on] & อิทสึ (itsu) [kun] = ห้า
โรคุ (อาจออกเสียง "โรกุ" แต่พยายามอย่าออกเสียง "โรกุ" ไว้จะดีที่สุด) (roku) [on] & มุ/มุท (mu/mut[su]) [kun] = หก
นานะ (ออกเสียง "นาน่ะ") (nana) [kun] & ฉิชิ (shichi) [on] = เจ็ด
ฮะชิ (ออกเสียง "ฮะชิ" ไม่ใช่ "ฮัตชิ" เดี๋ยวจะกลายเป็น "1 2 3 4 5 6 7 ยิง! 9 10" และ "9 กับ 10" ก็ตาย - -* ล้อเล่นน่ะครับ) (hachi) [on] & ยะ/ยัท (ya/yat) [kun] = แปด
เคียว (ออกเสียง "โคว" หรือ "คิว" แต่มีเสียง "ยุ" ตามหลัง) (kyu) [on] & โคะโคะโนะ (kokono) [kun] = เก้า
จู/จูว (ju) [on] & โท (อย่าออกเสียง "โทะ" ให้ใช้ "โท" เสียงสั้นมันจะเหมือน "โทะ" แต่ไม่ใช่) (to) [kun] = สิบ
ฮะคุ/เฮียวคุ (hyaku) [on] & โมโมะ/โมะโมะ (momo) [kun] = หนึ่งร้อย
เซน/เซง (sen) [on] & ชิ (chi) [kun] = หนึ่งพัน
มัง (man) [on] & โยโระซุ (อ่านเหมือน "โยโรต" แต่ให้ลง "ซึ" ตามมา) (yurozu) [kun]= หนึ่งหมื่น
หลักการนับตัวเลขก็ง่ายๆครับ แต่แค่เบื้องต้นเท่านั้น เช่น "ซังเซนคุฮะคุซังจูอิชิ" ก็เป็น "3,931" หรือ "นิฮะคุนานะจูว" ก็เป็น "270" และ "จูวนานะ" ก็เป็น "17" แต่การออกเสียง "kun" นั้นจะเป็นออกแบบก็คือ ถ้า "ซังจู (sanju) เสียงอง [on] เท่ากับ 30 เสียงคุน [kun] จะใช้ "มิโซะ"(ไม่ใช่ซุปมิโซะนะ - -*) (miso) หรือ นิจูว (niju) เสียงอง [on] เท่ากับ 20 เสียงคุน [kun] จะใช้ "ฮาตะ " (hata) (ฮาตะซัง ^^ จาก Seitokai Yakuindoto ฮามาก ฮ่าๆๆ แต่ไม่เกี่ยวอะไรกับการนับเลข - -*)"
การนับเลขปกติก็แล้วแต่ครับ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้ "เซโระ - อิจิ - นิ - ซัง - โย่ง - โก - โรคุ - นาน่ะ - ฮะชิ - คยุว - จูว" (ออกเสียงสผมกันระหว่าง "ค" กับ "ย" ให้เป็น "คยุว" และอย่าไปเปลี่ยนตำแหน่ง "ย" กับ "ว" ล่ะ ไม่งั้นอาเบะจะตามไปหลอกหลอนนะเฟ้ยเฮ้ย!) และอยู่ที่ว่าจะนับอะไรด้วยไม่ว่าจะเป็นสิ่งของหรืออะไรต่างๆจะไม่ได้ใช้เสียงเดิมตลอด
คิมิ (kimi) = เธอ >>> ใช้เป็นคำเรียกแทนตัวคนที่เราต้องการเรียก เช่น "โฮ้ย...คิมิ วา" แปลว่า "นี่...เธอน่ะ"
โอเร วา (Ore wa) = เป็นคำเรียกแทนตัวเองว่า "ผม" ส่วนใหญ่จะเป็นคำเรียกแทนตัวเองของผู้ชาย
ยาซะชิอิ/ยาซะชิกุ (Yasashii/Yasashiku) = ใจดี/อ่อนโยน
อุโซะ (Uso) = โกหก/หลอก หรืออะไรประมาณนี้น่ะครับ
มากะเซเตะ (Makasete) = ขอฝากด้วยนะ/ฝากด้วยนะ
ยูเมะ (Yume) = ความฝัน/ฝัน
โฮชิ (Hoshi) = ดาว/ดวงดาว
เนกิ (Negi) = ต้นหอม
โคโคโระ (Kokoro) = หัวใจ/ใจ
คาเซะ (Kaze) = ลม/สายลม
โทะ (to) = และ
ยาคุโซคุ (Yakusoku) = แปลว่า "สัญญา" ในความหมายตรงตัว
ชิโระ (Shiro) = สีขาว
คุโระ (Kuro) = สีดำ
อากะ (Aka) = ดีแดง
อิโมโตะ (Imouto) = น้องสาว
โอนี่จัง/นีนี่ (Onii-chan) = พี่ชาย
โอเน่/โอเนะอูเอะ (Onee-san) = พี่สาว (ก่อนหน้านี้บอกว่าแล้วแต่พี่กับน้องตกลงจะเรียกกันเองอันนั้นผมเบลอใส่ผิดครับ ที่จริงจะบอกว่า "แล้วแต่น้องจะเรียกพี่ว่า โอนี่จัง นี้นี นี้-ซาน นี้-ซามะ (ถ้าเป็นพี่สาวจะเรียก โอเน่จัง เน้-ซาน เน้-ซามะ) หรืออะไรก็ที่อยู่ที่ว่าน้องเคารพพี่หรือถนัดเรียกพี่ตัวเองแบบไหน")
-ซามะ (-sama) = เป็นคำตามหลังที่แปลว่า "ท่าน" เช่น อลิเซีย โอเน่-ซามะ แปลว่า "ท่านพี่อลิเซีย" หรือ "อลิเซีย-ซามะ" ก็แปลว่า "ท่านอลิเซีย"
-ซาน (-san) = เป็นคำตามหลังที่แปลว่า "คุณ" ซึ่งใช้แบบเดียวกันกับคำว่า "ซามะ"
คุง/ซัง/จัง/ตัน (kun/chan) = คนที่สนิทกันมักจะต่อท้ายด้วยคำพวกนี้เช่น "นากามูระคุง" หรือจากอนิเมะเช่น "นัตซึรุตัน" จากเรื่อง kampfer
ไคโชว (Kaichou) = แปลว่า "หัวหน้า/ประธาน" หรือความหมายอื่นที่ใกล้เคียงกับคำว่า ผู้นำ
คุไคโชว (ku-kaichou) = หมายถึง "รองหัวหน้า/รองประธาน"
เฮคิ (heki) = สบายมาก
ไดโชกึ (daishoku) = ไม่เป็นไร/ไม่ต้องห่วง เป็นคำที่แสดงความหมายว่า "สบายๆ ไม่ต้องห่วงอะไรหรอก"
อิตไต/อิตเต/อิตไตโย (itai) = คำอุทานที่แปลว่า "เจ็บ"
โฮ้ย = มีความหมายว่า "นี่/เฮ้ย/เฮ้" แล้วแต่จะใช่ในสถานะการแบบไหน
วาตะชิ/วาตะชิวา/วาตะชิโว (Watashi) = เป็นคำใช้เรียกแทนตัวเองที่สุภาพขึ้นมาอีกที่จะแปลได้ทั้ง "ฉัน/ผม" ซึ่งใช้ได้ทั้งชายและหญิง
โบคุ (Boku) = เป็นคำใช้เรียกแทนตัวเองที่ค่อนข้างสุภาพ
คามิ-ซามะ (Kami-sama) = พระเจ้า (ในที่นี้คงรวม "บร๊ะเจ้า" หรืออะไรทำนองนี้เจ้าไปด้วยมั้ง)
โอตาคุ (Otaku) = โอตาคุคือกลุ่มคนที่หลงไหนในอนิเมะและจะสะสมของที่เกี่ยวกับอนิเมะที่ตัวเองชอบ โอตาคุหาได้ง่ายๆเพียงคุณเดินไปหน้ากระจกจากนั้นก็พูดว่า "นายใช่โอตาคุหรือเปล่า?" จากนั้นคุณก็พยักหน้า แล้วคุณก็จะเจอโอตาคุโดยก้มมองตัวเอง
ม็อตโต (Motto) = มากขึ้น/มากอีก
ยาเมะเต (Yamete) = พอเถอะ/หยุดเถอะ แนวประโยค "ขอร้อง"
ยาเมโร่ (yamero) = หยุดนะ/หยุดเดี๋ยวนี้นะ แนวประโยค "คำสั่ง"
ยูเระ (Yure) = ผี
เรย์ (rei) = วิญญาน
อาโฮ (Aho) = โง่/งี่เง่า/เจ้าบ้า ซึ่งความหมายคล้าย "บากะ" แต่จะต่อว่าคนอื่นได้เจ็บกว่า (555+)
มาโฮ (Mahou) = เวทย์มนต์
มาโซ (Mashou) = ศาสตราเวทย์
โดคิ (Doki) = "ตึกตัก" ใช้ในกรณีตื่นเต้นหรือกรณีอื่นๆเช่น "โดคิ โดคิ" ก็แปลว่า "ตึกตัก ตึกตัก"
โอเนไก (Onekai) = ขอร้อง/ได้โปรด
โคโดโมะ (Kodomo) = เด็ก/เด็กน้อย
เอกาโอ (egao) = ยิ้ม/รอยยิ้ม
จิกานอึน (Jikan) = ช่วงเวลา/เวลา (เช่น "โซโระ โซโร จิกานอึน โยะ" แปลว่า "ดูท่าว่าจะได้เวลาแล้วล่ะ")
ไฮ้ (Hai) = ครับ/ค่ะ
โยไค (ryokai) = รับทราบ (ขอบคุณท่าน Aivanza สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมครับ)
อิซึเร/อิซึเรชิมัตตะ (Itsure/Itsureshimata) = รบกวนด้วยนะครับ/ค่ะ ใช้ในสถานะการที่เหมือนกับขออนุญาต
โกเมนคุดาไซ (Gomangudasai) = ขอโทษนะคะ/ครับ ใช้ในขณะที่เรียกคนอื่นเช่น กดออด ที่หน้าบ้าน แล้วพูดประโยคนี้เป็นการขออภัยที่มารบกวน อะไรประมาณนั้น (ไม่ได้หมายความว่า มา'กด'ออดหน้าบ้าน (เว้นคำเดี๋ยวสับสน แต่คิดว่าคงไม่หรอก - -* เผื่อใครทะลึ่งอ่าน มาก'ด*'อด ซะจะหาว่าทำให้สับสน) พอเจ้าของบ้านออกมาแล้วบอกว่าขอโทษที่มารบกวนแล้วเดินจากไปแบบนี้เรียกว่ากวนทีนครับ)
เซย์ไค (Seikai) = โลก
นินเก็น (Ningen) = มนุษย์
จาไน/จานาอิ (Janai) = ไม่ใช่ การใช้ประโยคจะเป็น เช่น "อาเร วา นินเก็น จาไน!" แปลว่า "นั่นน่ะ มันไม่ใช่มนุษย์แล้ว!"
คิโมดจิ (Kimochi) = รู้สึกดี เป็นคำที่พูดออกมาตอนที่รู้สึกผ่อนคลายหรือรู้สึกดี หรือแปลว่า "ความรู้สึก" ก็ได้ (ขอบคุณท่าน kheminw สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมครับ)
ยูคิ (Yuki) = หิมะ
ยูกิ (Yuuki) = ความกล้า/กล้า (ขอบคุณท่าน kheminw สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมครับ)
โอโตเมะ (Otome) = สาว/หญิงสาว
ซากัตเตะ (Sagate) = ถอยไป
ฮิโดย = โหดร้าย
เฮ็นไต (Hentai) = หื่น/ลามก
อิจจิ = ทะลึ่ง (คล้ายๆเฮ็นไตแต่ความหมายจะรุนแรงน้อยลงมาก)
เนโกะ (Neko) = แมว
อินุ (Inu) = มุนัข/หมา
อุซากิ (Usagi) = กระต่าย
มิมิ (Mimi) = หู
อิตซึกะ (Itsuka) = สักวัน/สักวันหนึ่ง
เซ็นเซย์ (Sensei) = หมอ/อาจารย์/แพทย์ ซึ่งมีความหมายในด้านอาชีพพวกนี้
โซระ (Sora) = ฟ้า/ท้องฟ้า (ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงสีฟ้านะ - -*)
ฮายาเตะ (Hayate) = สายลม/ลมแรง จะหมายความถึง สายลมที่มีความรุนแรง
เซ็นเซ็น (Zenzen) = ไม่/ไม่เลยสักนิด ยกตัวอย่างเช่น "โลลิ เซ็นเซ็น ซุกิ" แปลว่า "ไม่ได้ชอบแบบโลลิสักนิด" (ซึนอีก - -*)
ซุกิ (Suki) = ชอบ ในที่นี้หมายถึงชอบถึงขึ้นที่ว่าถ้าพูดขึ้นมาคือเป็นการสารภาพรัก
ได-ซุกิ (Dai-suki) = ชอบ ในที่นี้หมายถึงชอบในสิ่งขึ้นเป็นพิเศษแต่ไม่ได้มีอะไรมากเช่น "ทวินเทล ได-ซุกิ" แปลว่า "ชอบทรงผมแบบทวินเทลที่สุด"
ฮารุ (Haru) = ฤดูใบไม้ผลิ
โชเน็น (Shounen) = หนุ่ม/หนุ่มน้อย
ได-คิไร (Dai-Kirai) = เกลียดที่สุด เช่น "โอโตโกะ ได-คิไร" แปลว่า "เกลียดผู้ชายที่สุดเลย"
โอโตโกะ/โอโตโคะ (Otoko) = ผู้ชาย
คาเคระ (Kakera) = เศษ/ชิ้นส่วน ยกตัวอย่างแก้วที่แตกกระจายก็สามารถเรียกเศษแก้วว่า "คาเคระ" ได้ หรือ "เซย์ไค คาเคระ" แปลว่า "โลกที่กระจาย/โลกที่ต่างออกไป" ก็ได้เช่นกัน
โค่ย (Koi) = รัก/ความรัก รวมถึงพ้องเสียงถึงคำว่า "ปลาคราฟ" ได้ด้วย
ฮานะโยเมะ (Hanayome) = เจ้าสาว
โนะ (no) = น่าจะ(เฮ้ย = =')แปลว่า "แห่ง/ของ"
พั้นซึ/เพนซึ = กางเกงชั้นใน/กางเกงลิง (ไม่ได้หมายถึงกางเกงว่ายน้ำ)
ซึบาสะ (Tsubasa) = ปีก
ไน/นาอิ (Nai) = ไม่มี ไม่รู้จะยกตัวอย่างยังไงก็เอาเป็นชื่ออนิเมะ เช่น "โอเระ-ทาจิ ซึบาสะ วา ไน" แปลว่า "พวกเราไม่มีปีก"
ฮัมบึง = ครึ่ง/ครึ่งหนึ่ง/ครึ่งเดียว
โทโดเคะ (Todoke) = ส่ง/ส่งไปถึง
เซ็นเดียกึ (Sendegu) = ถึง ยกตัวอย่างเช่น การเขียนจดหมาย "เซ็นเดียกึ ซู-ซามะ" แปลว่า "ถึงท่านซู" และความด้วยประโยคแสดงความรบกวนตามที่ควรเขียนในจดหมาย
ฮิเมะ/ยูฮิ (Hime/Yuhi) = เจ้าหญิง
เซย์โตไค (Seitokai) = สภานักเรียน
โอโจ (Ojo/Ojo-chan/Ojo-sama) = เป็นตามเรียกหญิงสาวหรือเด็กสาวเช่น "โอโจจัง" แปลว่า "หนูน้อย" หรือ "โอโจ-ซามะ" แปลว่า "คุณหนู"
คิโคเอรุ (Kikoeru) = ได้ยินหรือเปล่า
เซ็ตไต (Setai) = แน่นอน หรือง่ายๆคือยังไงก็ต้องทำให้ได้
กะนะ = หรือเปล่านะ
ชิอาวาเซะ (Shiawase) = ความสุข
นางิ/นานิ (Nani) = อะไรนะ/อะไร?/ว่าไงนะ (ขอบคุณท่าน Aivanza สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมครับ)
อาริงาโตะโอซางิมัต=ขอบคุณมากเลยครับ/ค่ะ
โตชิเตะ/เดะ = แล้ว เช่น "ผมจะจัดการมัน" และถ้าพูด "เดะ" หรือ "โตชิเตะ" มันจะมีความหมายเหมือนกันว่า "แล้วยังไงต่อ"
โตชิเตะ = ยังมีอีกความหมายคือ "ทำไม" เช่น "ทำไมทุกคนต้องตายล่ะ"
โจไดโย/โจได = ล้อเล่นน่า
จ้า = งั้น/ถ้างั้น
โซะ = ไม่รู้สิ
ชิราไน = ไม่รู้ด้วยแล้ว
ชิโร่ะ = หมอบลง
จี่... = จ้อง...
สเต ไน = เปล่า (ประโยคปฏิเสธ)
โกซารุ = เป็นคำลงท้าย (พวก "นินจา/ซามูไร/นักรบ" มักจะลงท้ายด้วยคำพวกนี้) ถ้าคุณดูอนิเมะบ่อยๆคุณจะสังเกตว่าบางคนลงท้ายด้วย "โกซารุ" แทบทุกประโยค เช่นในเรื่อง "Dog Days" ซึ่งมีความหมายว่า "เจ้าค่ะ" แต่ค่ายซับบางค่ายไม่ได้ใส่ลงไปด้วย แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานะการที่พูดอยู่ว่าใครจะใส่ดีหรือไม่
เน่ = นี่
อา...เร๊ = อ้าว
เซ็นปาย = รุ่นพี่
ไทกะ = เสือ
ซึนซึน = อาย
เดเระ เดเระ = น่ารัก(มั้ง?) (ขอบคุณท่าน inflector สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมครับ)
นาอิยัตเตนตะ = ทำอะไรอยู่เนี่ย/ทำอะไรลงไปเนี่ย
คุโม = เมฆ/เงา
คุโมริ = มืดมัว(ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆ)
ซามูอิ = เย็น/หนาว
ซูซุชิอิ = เย็น/ใจเย็น
คิริ = หมอก
ฮะซึย = ร้อน
คามินาริ = ฟ้าผ่า/ฟ้าแลบ/สายฟ้า
อะเมะ = ฝน/ฝนตก
ทงคัตซึ = หมูสับ เช่น ราเมง ทงคัตซึ แปลว่า ราเมงหมูสับ
โคโทวารึ = ปฏิเสธ/ขอปฏิเสธ/ไม่
ซุโคมาเดดะ = หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ/มาได้แค่นี้แหละ
ทาอิเซ็ตสึนะ/ทาอิเซ็ตซึนาโมโน = สำคัญ/สิ่งสำคัญ/เป็นสิ่งที่สำคัญ
ชิเนะ = ตายซะ (ประมาณว่าตะโกนออกไปทางฆ่าคนอื่นทิ้ง)
ซามา = หนอย (กระชากเสียงโหดๆจะได้ใจความนี้)
โอไม = แก (พูดแบบโมโห)
อิระไชมะเซ = ยินดีต้อนรับ
ตะไตมะ = กลับมาแล้วครับ
โอกาอิรี = กลับมาแล้วหรอ?
อิเตงิมัต = ไปล่ะนะครับ (เฮ้ย = =' พึ่งกลับมาจะไปอีกแล้วเรอะ!)
อูมิดา = ทะเล
ฮาคาเซะ = ศาสตราจารย์
มาโยอิ = หลง/หลงทาง
อูรุไซ = หนวกหู/น่ารำคาญ
มะ = เอาเถอะ (ประโยคนี้ผมใช้บ่อย - -*)
โชวโจว = สาวน้อย
คุมะ = หมี
ริว = มังกร
เค็น = ดาบ
-โดโน = "ท่าน" เป็นคำต่อหลัง เช่น "นากามูระ-โดโน" แปลว่า "ท่านนากามูระ" แต่เป็นคำสุภาพและให้ความเคารพมาก
ซุซุเม = อธิบาย
คิโบ = ความหวัง
เซ็ตซึโบ = ความสิ้นหวัง/สิ้นหวัง
เซ็ตซึโบ ชิตะ = เป็นประโยคฮาๆจากเรื่อง ซาโยนาระ เซ็ตซึโบ เซ็นเซย์ ที่แปลว่า "สิ้นหวังแล้ว!!!"
ซาโยนาระ = แปลว่า "ลาก่อน" และจะใช้ในการที่บอกลาโดยจากกันนานๆหรือจะไม่เจอกันอีกเลย
จ้าแน/จ้า (ลากเสียงยาวนิดๆ)/โซเร จ้า = แล้วเจอกัน เป็นประโยคบอกลาสั้นๆที่หมายความว่าอีกไม่นานก็เจอกันเช่นวันพรุ่งนี้ก็เจอกันอะไรประมาณนี้นะครับ - -
มาตะ = แล้วมาอีก/แล้วมาใหม่ คำนี้มักจะเติม "แนะ" เข้าไปด้วยรวมประโยคได้ว่า "แล้วมาใหม่นะ"
ยักยูเค็น = เป่ายิ้งฉุบ
เซ่โนะ = หนึ่ง...สอง... เป็นประโยคที่ใช้ประมาณว่า "เข้าไปเลย เซ่...โนะ" แล้วก็ผลักเพื่อนเข้าไป อะไรประมาณนี้อีก - -*
เท็นชิ = นางฟ้า/เทพธิดา จะไม่รวมคำว่า "พระเจ้า" เข้าไปด้วย
โคไว = กลัว/น่ากลัว (ขอบคุณท่าน Aivanza สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมครับ)
นาราคุ = ความตาย (น่าจะเฉยๆนะครับ = =')
อิจิซอน = ความคิดเห็น
แพนทาโกะ = หน้าอกแบน
ไอโบ = คู่หู (บางทีอาจจะใช้คำว่า "พาทเนอร์" (ออกเสียง "พาทโตะนา...") ที่ทับศัพท์ Eng ที่แปลว่า "ผู้ช่วย/คู่หู/ลูกทีม" ก็ได้เช่นกัน)
อิเคะ = ไปเลย
อิคุโซะ = ไปกันเถอะ
โทโมดะจิ = เพื่อน
คาโซคุ = ครอบครัว
โอกา-ซาน = คุณแม่
โท-ซาน = คุณพ่อ
โอปา-จัง = ยาย
คาเอรุ/คาเอโระ = กลับ/กลับกันเถอะ
ฮนโทนิ = จริงๆนะ/จริงๆเหรอ
คาเมน = หน้ากาก
เซ็มบึ = ทั้งหมด
โดวนา โน? = เธอคิดว่าไง/นายคิดว่าไง
ดาเมะ (Dame) = ไม่ได้นะ
อุมเม = ชะตากรรม/พรหมลิขิต
เทคิ/เตคิ = ศัตรู
มินนา / ทุกคน
นันเตโมไน = ไม่มีอะไรหรอก
คาวาอิ = น่ารัก
ซุเตคิ = วิเศษ
ริวฉะ = ผู้กล้า
วากะริมัตตะ = เข้าใจแล้ว
ชิรุกะ! = จะไปรู้เรอะ!
ยูนะ! = อย่ามาถามน่ะ!
โทริอายซึ = ยังไงก็ตาม
โฮชิซึเกะ = ใจเย็นๆก่อนซิ
เถ่เม = หนอยแน่...มรึง (ทำเสียงแข็งๆเป็นประโยคที่พูดเวลาโมโห)
ซ่ามา = คล้ายๆ "ซามะ" แต่ออกพูดออกมาให้มีน้ำเสียงโมโหๆ จะมีความหมายดุยิ่งขึ้น เช่น "มรึง" จนพูดปกติลงไปจนถึง "แก" หรือต่ำกว่านั้นอีก
โซเดตกา = อย่างนั้นหรอครับ
เอ = ใช่
คอนเสิร์ทโตะ = คอนเสิร์ท (ทับศัพท์จากภาษาอังกฤษ)
เอเลเวตา = ลิฟท์ (ทับศัพท์จากภาษาอังกฤษ)
เทรปปึ = กับดัก (ทับศัพท์จากภาษาอังกฤษ)
โยกัตตะ = โล่งอกไปที/ค่อยยังชั่ว
เท็งโคเซย์ = เด็กใหม่/นักเรียนใหม่/(เจ้า)หน้าใหม่
โย่ = ไง (ไม่ใช่ "หวัดเด โย่ วันนี้เราจะมาแรพโย่ว" นะครับ เป็นคำทักทายไม่ใช่ร็อคมาจากไหนแล้วมาโย่ใส่)
ทามาโกะ = ไข่
นาไม = ชื่อ
นาไม วา = ชื่อว่าอะไร (เช่น "โอไม โน นาไม วา" แปลว่า "ชื่อของนายคืออะไร")
วากะมะมะ = เอาแต่ใจ/เห็นแก่ตัว (ความหมายนี้ถ้าแปลเป็นไทยจะฟังดูรุนแรงไปหน่อยแต่พอเป็นญี่ปุ่นจะฟังดูไม่โหดร้ายเกินไปเช่น "วากะมะมะ ดะน้า (wakamama dana)" แปลว่า "เห็นแก่ตัวชะมัด" แต่พูดด้วยน้ำเสียงแบบช่างมันเถอะไม่สนแล้ว)
ไคโฮ = ปลดปล่อย
ฮานะ = ดอกไม้ (เช่น "นาราคุ โนะ ฮานะ" แปลว่า "ดอกไม้แห่งความตาย")
จิกาอุ = ไม่ใช่ (เป็นประโยคที่ใช้ปฏิเสธ เช่น เพื่อนบอกว่า "ไปด้วยกันแบบนี้เป็นแฟนกันแน่ๆเลย" แล้วจะปฏิเสธก็บอก "จิกาอุ โย่")
เท็ตซึดะ = มาช่วยกันหน่อย
ทัตเกตเตะ = ช่วยด้วย
ยามิ = ความมืด
เมโมะ = โน็ต/กระดาษโน็ต (กระดาษจดขนาดเล็กที่จดไว้อะไรต่ออะไรที่จะจำน่ะนะ)
เมเรย์ = คำสั่ง [เช่น "โคเรวา เมเรดะ!" แปลว่า "นี่เป็นคำสั่งนะ!"]
สาเตะ = เอาล่ะ
ฮาชิ/ฮัตชิ!/ฮาชิเตะ = วิ่ง/วิ่งเร็ว!
โกจิ/โกตจิ = ทางนี้
มาซากะ = หรือว่า.../เป็นไปไม่ได้
มุริ = เป็นไปไม่ได้/เปล่าประโยชน์
โคเระ = นี่ (เช่น "ไฮ้ โคเระ เดทซุ" พร้อมกับยื่นเอโรเกะให้ หรือใช้บอกสิ่งๆที่ต้องการให้รู้ว่าคือสิ่งนี้เช่น ชี้ไปที่รถถังแล้วใช้ประโยคนี้ ให้รู้ว่าไอนั่นที่พูดก่อนหน้านี้คือไอนี่ที่กำลังชี้อยู่ อะไรประมาณนั้น)
กะนะ? = หรือเปล่านะ? เป็นประโยคต่อท้าย เช่น "ทุกคนในหมวดอนิเมะเป็นโอคาตุ หรือเปล่านะ?"
ยุรุซุ/ยุรุซาน = อภัย/ยกโทษ เช่น "วาตะชิวา... อนะตะ วา ยุรุซาไน เซ็ตไตนี" แปลว่า "ชั้นน่ะ... ไม่ให้อภัยเธอเด็ดขาด ไม่ว่ายังไงก็ตาม"
ฮารุกะ = ไกล (หรือเปล่า? ไม่แน่ใจ)
ชินชิเตะ/ชินจิเตะ = เชื่อเถอะ/เชื่อฉันเถอะ
ชินชิเตะอิรุ/ชินจิเตะอิรุ = ชั้นเชื่อ/ชั้นเชื่อว่า...(แล้วตามด้วยที่ที่จะพูด)
ชินจิราไน = ไม่อยากจะเชื่อเลย
โมจิรุ = แน่นอน (เป็นอีกประโยคที่เป็นคำว่า "แน่นอน" แต่ใช้ในคนละสถานะการณ์ เช่น "วาตะชิ โนะ คิโบ ชินติเรอิรุ" แปลว่า "ชั้นเชื่อว่ายังมีความหวังอยู่" และบอกว่า "โมจิรุ" แปลว่า "แน่นอน" หรือ "โคเร อิโคะคุโน?" แปลว่า "เจ้าเนี่ย ใช้ได้แน่หรอ?" ก็บอกไปว่า "แน่นอน")
บูเท = ยิง
ซุโคเมย์ = ไปเลย/พุ่งไปเลย/มุ่งไปเลย
สปีดโตะ = เร็ว/ความเร็ว (ทับศัพท์จากภาษาอังกฤษ)
โยกัตตะ = โล่งอก/โล่งอกไปที/รอดตายแล้ว
ทัตกัตตะ = ทันพอดี/ทันเวลาพอดี (ประมาณว่าจะโดนยิงตายแต่อีกคนมาช่วยไว้ได้ทัน)
ชิริ/ชิริอาย = รู้จัก/รู้จักกัน/รู้จักกัน หรือจะ รู้จักกันด้วยหรอ ก็ได้ (เช่น ไปกับเพื่อน คนที่เราไม่รู้จักมาทักเพื่อนแล้ว แล้วเพื่อนเราก็ทักตอบ เราสามารถใช้ประโยคนี้ถามได้ว่า รู้จักกันด้วยหรอ)
อิโคะคุไนเด = ห้ามขยับนะ/หยุด อย่าขยับ (อิโคะ = ไป <> ไน = ไม่ได้/ห้าม [ออกเสียงเหมือน Night แต่เป็นเสียงสั้น])
ไซเต/ไซเท = แย่/แย่ที่สุด!
อิริมะเซน = ไม่/ไม่เคย เช่น "เคยตายมั้ย" ก็ตอบไปว่า "อิริมะเซน" แบบมึนๆไม่รับมุข
โม่! = โธ่/โธ่...เอ้ย/ให้ตายเถอะ
โฮโฮ = ทางเลือก (เช่น "โฮโฮ วาไน เดทซึ กะ?" แปลว่า "ไม่มีทางเลือกแล้วหรอ?")
วากะระไน/วากะรัน = ไม่รู้สิ/ไม่เข้าใจเลย/ไม่รู้เหมือนกัน
เท็นโชว/เท็นโจว = ผู้จัดการ
ชีพฟุ = หัวหน้า (ทับศัพท์จากภาษาอังกฤษ)
สุมา/สุมัน/สุมาเน (มักจะลงท้ายโดยใช้เสียง "ว" เข้ามาทำให้ออกเสียงเหมือน "มาว") = โทษที/ขอโทษทีนะ (เช่น "คงจะกันไว้ได้อีก 3 นาที" "แค่นั้นก็พอแล้วล่ะ โทษทีนะ ที่ต้องให้คุ้มกันพวกเรา")
ซึบาเมะ = นกนางแอ่น
ชิไก = ต่อไป/ตอนต่อไป
ซุซึกึ = ดำเนินต่อไป/ติดตามตอนต่อไป
โคะคุโรซามะ/โคะคุโรซาน = ทำได้ดีมาก
จิบิ = เล็กมาก/จิ๋ว (และยังพูดได้ว่า "จิบิโกะ" ซึ่งแปลว่า ยัยจิ๋ว/ยัยเปี๊ยก ก็ได้เช่นกัน)
โอเมะเตโตะ = ยินดีด้วย (ยกตัวอย่างเช่น "โอเมะเตโตะโกไซมัตซึ" แปลว่า "ยินดีด้วยนะครับ")
ชิมัตตะ = แย่แล้ว/ชิบหายแล้ว/เวรล่ะ หรืออะไรประมาณนี้น่ะนะครับ - -*
เฮกะ = ฝ่าบาท
จีไซ (อ่านคล้ายๆ G-Size เลยแหะ) = เล็ก/น้อย
อากะจัง = ทารก/เด็กทารก
โค่ยบิโตะ = คนรัก
โซนะโทริ/โซโนะโทริ = ตามนั้นแหละ
อิเกงกิ/อิเตงกิ = อากาศดี (เช่น "เคียววา อิเตงกิ เดทซึเน" แปลว่า "วันนี้อากาศดีจังเลยน้า")
คาเสะ = หวัด/ไม่สบาย (ออกเสียงสูง ไม่ใช่ออกเสียงเหมือนคำว่าลม "คาเซะ")
คินามิ = เมล็ด
โยมิ = เสียง
สักเซ็น = แผน/แผนการ/ภารกิจ
โซเระ = แล้วแต่ความหมาย เป็นคำที่พูดออกมาตอนออกแรง เช่น ชกออกไป ก็ประมาณว่า "นี่แน่ะ" อะไรประมาณนี้น่ะนะครับ - -*
โคะโควา... = ที่นี่คือ... (อาจจะตามด้วยชื่อพื้นที่ที่เราต้องการถามให้แน่ใจหรือด้วยเหตุผลอื่น เช่น "โคะโควา เมดโดคาเฟ่เดทซึ เน" แปลว่า "ที่นี่คือ เมดคาเฟ่ สินะครับ")
ยาคุโซคุ ดาโยะ = สัญญาแล้วนะ
โยโระชิกึ = ฝากด้วยนะ/ขอฝากตัวด้วย (เช่น "โดโมะ โยโระชิกุ โอเนไกชิมัตซึ ไอโบ" แปลว่า "หวัด'ดี จากนี้ไปขอฝากตัวด้วยนะ คู่หู")
ดาเร/ดาเร่ะ = ใคร/ใครเนี่ย/ใครน่ะ (สมมุติอยู่ๆมีคนมาทักแต่เราไม่รู้จักจะใช้คำนี้ก็ได้แต่มันจะเป็นการเสียมารยาท ถ้าอยู่ๆตอบกลับไปมึนๆ เช่น "ดาเร?" แปลว่า "ใครวะ (จะมาทางแนวนี้ซะมากกว่า 555+)" หรือเพื่อนเจอคนที่เราไม่รู้จักแต่เป็นเพื่อนของเพื่อน เราสามารถใช้คำนี้ได้ เช่น "อาโน อนะตะวา ดาเร เดทซึ กา?" แปลว่า "คนๆนั้น เป็นใครหรอครับ")
เนี้ยว = เมี้ยว (เป็นเสียงเรียกของแมวที่คนญี่ปุ่นใช้เรียก [คงร้อง "เหมี้ยว" ตามปกติแต่คนญี่ปุ่นออกเสียงเป็นอย่างนี้ล่ะมั้ง? ผมเองก็ไม่รู้ซะด้วยสิ ท่าน Agonlive รู้มะครับ 555+ ] และคำนี้จะเห็นได้บ่อยๆในอนิเมะหลายๆเรื่อง)
ไอดอล = แปลตามตัวก็ไม่แปลว่าอะไรนอกจาก "ไอดอล" เอาเป็นคำอธิบายละกัน ไอดอลส่วนมาก (มั้ง?) จะเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถทางด้านร้องเพลงและการแสดงออก (เหมือนกับนักร้องนั่นแหละ แต่ไอดอลจะมีแฟนคลับและมีคนชื่นชอบมาก) [คิดว่าคงรู้ๆกันว่า ไอดอล" คืออะไร แต่ถ้าใครไม่รู้ก็มีอนิเมะที่เกี่ยวกับไอดอลอยู่หลายๆเรื่องแต่ยกมา 2 เรื่องคือ "TWGOK [The World God Only Knows]" หรือ "คามิ-นีซามะ" นั่นเอง และเรื่อง The Idol M@ster (รีวิวไว้ให้แล้ว ใครมันไม่ดูเรื่องนี้ขอให้มันเจอความโมเอะน้อยลงเถอะ ใครดูขอให้เจออาเบะน้อยลง)]
ยาราไนก้า = จะเอามั้ย/จะเอากันมั้ย/จะเอาไหมจ๊ะ หรืออะไรประมาณนี้ เป็นประโยคประจำตัวของ "ทาคาซุ อาเบะ" จากเรื่องอะไร ตูก็จำไม่ได้แล้ว เพราะไม่ได้สน อาเบะ เป็นศาสดาแห่งยาราไนก้าที่มีคนนับถือมากพอสมควร และมีทั้งหญิงทั้งชาย แต่ที่ว่าไปก็มีคนต่อต้านเหมือนกัน เพราะอาเบะมันเป็นสาย Yaoi ซึ่งมัน...ผู้ชาย พวกเราอยู่มาก็จะสังเกตว่าจะเจอมุขอาเบะมาเรื่อย แรกๆก่อนหน้านี้มันจะเอาฮาอยู่ แต่เอะอะก็มาเอะอะก็ยาราไนก้ามันฮาจนเอียนไปหมดแล้ว เพราะยังไงผู้ชายส่วนใหญ่มันคงไม่ได้ชอบ Yaoi กันหรอก (จะมีพวกชอบเพราะเหตุผลส่วนตัวหรือหนักกว่านั้นคือพวกอยากโดน) จะเป็นผู้หญิงซะมากกว่า [แล้วตูก็เอามาจนได้ไอประโยคยาราไนก้า น่าโม่! นาอิยัตเตนตา โอเรวา...]
เจ๊คุกกี้ = ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า "คุกกี้" นะครับ เพราะ คุกกี้ก็คือคุกกี้นั่นแหละไม่มีอะไรมาก หรือจะให้อธิบายก็คือขนมนั่นแหละ (พอแค่นี้นะกับ "คุกกี้" ปกติ ไม่งั้นออกทะเลแน่นอน) อะแฮ่ม!...กลับเข้าเรื่องดีกว่า บางคนอาจเคยเห็นบางคนบอกว่า "เจ๊คุกกี้ กลับมาอีกครั้งแล้ว!" บางคนที่มันไม่รู้ก็งงล่ะวะ อะไรวะ เจ๊คุกกี้ ผมจะไม่อธิบายอะไรมากนอกจากที่มาของคำนี้ ชื่อนี้มาที่มาจากชื่อของนักพากษ์คนหนึ่งที่ชื่อ "คุกิมิยะ เรย์ [Kugimiya Rie]" จะเห็นนามสกุลของเธอที่ว่า "คุกิมิยะ" เลยย่อๆมาเป็น "คุกกี้" แล้วเรียกกันเองว่า "เจ๊คุกกี้" ซึ่งเข้าใจง่ายดี (ส่วนตัวผมเองก็ชอบนะ ชื่อนั้นน่ะ ฮ่าๆ) นักพากษ์คนนี้เคยพากษ์ในหลายๆเรื่องด้วยกัน เช่น "Toradora - Hidan no Aria - Kampfer fur die liebe" และ "นางิ จาก ฮายาเตะพ่อบ้านประจัญบาน - อาเรีย จาก อาเรียกระสุนแดงเดือด" และในอีกหลายๆเรื่อง (มั้ง? เอาเถอะ แต่ผมจะตั้งกระทู้เกี่ยวกับนักพากษ์อนิเมะทั้งด้านสว่างและอนิเมะด้านมืด[นักพากษ์เอโรเกะและ H-Anime] อยู่เหมือนกัน จะได้รู้มากกว่านี้ถ้าต้องการ)
วากะ = นายน้อย
ฮัตซึเนะ มิคุ = หลายๆคนคงรู้ว่าคืออะไรและเป็นใครแต่ถ้าไม่รู้ผมก็จะไม่อธิบายเพราะเคยบอกไปแล้ว แต่อาจจะไปอธิบายในคลับตัวเองอีกที (ถ้าไม่ลืมน่ะนะครับ = =') ฮัตซึ [hatsu] แปลว่า แรกหรือครั้งแรก, เนะ [ne] แปลว่า "เสียง" และ มิคุ [miku] ที่แปลว่า อนาคต รวมๆก็คือ "เสียงแรกของอนาคต" หรืออะไรประมาณนี้ (อีกแหละ - -*)
เคียววา = วันนี้ (ออกเสียงเป็น "เคี้ยวหว่า")
ชัตโตะ/ชอตโตะ = เดี๋ยว/เดี๋ยวสิ (เช่น "โฮ้ย ชอตโตะมาเตะ โอไมทาจิ" แปลว่า "นี่! เดี๋ยวก่อนสิพวกนาย")
เนโกะมาตะ = เป็นเรื่องเล่าของญี่ปุ่นที่ว่า เมื่อแมวมีอายุมากขึ้นจะมีตบะสูงขึ้นและกลายเป็นแมวผีที่เรียกว่า "บากะเนโกะ" หรือ "แมวบ้า" (ไม่ใช่แมวบ้าตามความหมายที่ไล่ข่วนคนอื่นนะ) และมีหลายทางที่เนโกะ (เคยบอกไปข้างบนแล้วว่าแปลว่าอะไร) จะกลายเป็นบากะเนโกะ และพอหางแยกเป็น 2 หางก็ถึงจะเป็นเนโกะมาตะได้ ซึ่งสามารถมีขนาดสูงถึง 1 เมตรได้เลย และเดินเหมือนคนปกติด้วย 2 ขาหลัง เนโกะมาตะเป็นผีที่ไม่ยอมให้ใครดูถูก ใครทำอะไรไม่ดีกับมันมันจะจำฝังใจอย่างไม่ลืม และเชื่อกันว่าการเต้นรำของเนโกะมาตะสามารถควบคุมคนตายได้ และการที่เกิดเพลิงไหม้ที่ผิดปกติบางทีก็เชื่อว่าเป็นเพราะเนโกะมาตะ จึงมีความเชื่อว่าถ้าตัดหางแมวออกแมวจะกลายเป็นเนโกะมาตะไม่ได้ แต่ว่าแต่ละพื้นที่จะเชื่อแตกต่างกันไปเช่น เชื่อว่า เนโกะมาตะจะกินแม้แต่เจ้านายตัวเอง บางทีก็เชื่อว่า การทิ้งศพไว้กับแมวเป็นเรื่องที่อันตรายเพราะอาจปลุกศพให้คืนชีพขึ้นมา (ซอมบี้หรอ?) และในบางส่วนกล่าวไว้ว่า เนโกะมาตะจะแปลงร่างเป็นสาวงามในตอนกลางคืนเพื่อปรนนิบัติเจ้านาย
คาโนะโจ = แฟน หรือแปลอีกอย่างได้ว่า "เด็กคนนั้น" หรืออะไรที่อยู่ในแนวนี้ เช่น "นี่ เด็กคนนั้นมองชั้นด้วยสายตาเย็นชามากๆเลยล่ะ" "บ้าน่า ไม่เห็นจะมีใครเลย" [เหวอ!!!!!!!!!!!!!! คะไวโย่!]
อาย (ออกเสียง "อ๋าย") = ความรัก
อายชิเตรุ = ชั้นรักเธอนะ/ผมรักคุณ หรืออะไรประมาณนี้ที่เวลาแปลเป็นไทยแล้วน้ำเน่าให้เป็นญี่ปุ่นอย่างเดิมน่ะดีแล้ว - -*
ดันนะ-ซามะ = นายท่าน (รูปแบบประโยคสามารถแปลว่า "สามี" หรืออย่างอื่นได้)
โดวกะ = ได้โปรด/ขอร้อง (ความหมายเหมือนกับ "โอเนไก" แต่ใช้คนละแบบ)
ทันโจบิ = วันเกิด
พริ้นเซตโตะ = ของขวัญ (ทับศัพท์ Eng เปล่าวะเนี่ย 555+ ชักสับสน)
ม็อตโตเกะ = ปล่อยไปเถอะ/ช่างเถอะน่า
โดโมะ = ขอบใจ/ขอบคุณ (เป็นคำพูดที่ใช้เวลาขอบคุณเพียงสั้นๆเช่น "หยิบเอโรเกะให้หน่อย" พออีกคนหยิบมาให้เราก็ใช้คำนี้พูดขอบคุณได้ หรือจะใช้ทักทายก็ได้เช่น "โย่...โดโมะ" แปลว่า "ไง...หวัดดี")
โดโซะ = เชิญ (เช่น "ไฮ้ โคเรวา ราเมงทงคัตซึ ดะ... โดโซะ" แปลว่า "นี่ครับ ราเมงหมูสับ เชิญเลยครับ" เป็นคำที่ใช้ตอนที่ยื่นของให้หรือเชิญเข้าบ้าน)
โอเบนโต = ข้าวกล่อง
ชิกุวะ = ขนมอย่างหนึ่งหรืออาหารอย่างหนึ่งนั่นแหละ รูปร่างทรงกระบอก (อยากเห็นรูปหาใน Google เอาครับ - -* อธิบายไม่ถูกจุด)
ฮาจิเมมัตเตะ = ยินดีที่ได้รู้จัก
มุซุเมะ = ลูกสาว
คลาสซึเมทโตะ = เพื่อนร่วมห้อง (ทับศัพท์จาก Eng อีกแล้ว)
โคไท (ออกเสียง"โค่ไท้") = คำตอบ
โม่...อิ = พอเถอะ/หยุดเถอะ (เป็นคำพูดแสดงอาการถอดใจ เช่น เพื่อนร่วมทีมถูกยิง แล้วหัวหน้าทีมเข้าไปช่วยแต่ไม่มีท่าทีว่าจะฟื้นก็ใช้คำนี้บอก "พอเถอะ เราช่วยชีวิตเขาไว้ไม่ได้หรอก เราต้องหนี ไม่งั้นตายกันหมดแน่")
อะบูไน = อันตราย (เช่น "โฮ้ย ยูคิริอารุกิ อาบุไน โย..." แปลว่า "นี่ อย่าวิ่งสิ มันอันตรายนะ")
อะนะตะ = คุณ/คุณคะ (เป็นประโยคที่ภรรยาใช้เรียกสามี PS. ใช้สุ่มห้าสุ่มหกไม่ได้นะเออ!)
โอฟุตน = ผ้าห่ม
โอยาจิ (ออกเสียง "โอ่ยาจิ๊") = ลุง (ผมก็ไม่แน่ใจว่าใช้ยังไงแต่ที่เห็น(PS. เห็น? ไม่ได้ฟังหรอฟร๊ะ? / 3DS. ครับๆ ตูฟังครับ เออๆ ตูขอโทษครับ ตูผิดเอง - -*)บ่อยๆก็คือ ใช้กับคนที่เราไม่รู้จักหรือจำหน้าได้แต่ไม่รู้จักชื่อก็ใช้คำนี้เรียกแทนไปก่อน) [กับคนที่เป็นผู้ชายอายุที่พอจะเรียกว่าลุงได้น่ะนะครับ] (ภาษาญี่ปุ่นปกติจะฟังยากนิดหน่อย ก็แล้วแต่แถบของคนญี่ปุ่น [เช่น คนแถบ คันไซ ก็จะมีสำเนียงเป็นของตัวเอง] ถ้าคุณฟังเขาคุยกันบ่อยๆจะเริ่มแยกออก [ขนาดผมฟังจนชินยังงงนิดๆอยู่เลย - -* มันอู้ๆยังไงไม่รู้])
คาเมน = หน้ากาก
เซ็นไต = ขบวนการ (ไอการ์ตูนเรนเจอร์น่ะ)
ออนนาโนะโก = เด็กสาว
ดาเมะ = ไม่ได้/ไม่ได้นะ
เลิฟเล็ทตา = จดหมายรัก (ทับศัพท์ Eng ตามปกติ เลิฟ = รัก / เล็ทเตอร์ = จดหมาย)
นารุโฮโด = อย่างนี้นี่เอง
เอโระ = ลามก
เอโรเกะ = H-game (FN = Hentai-Game)
คักคะ/คักกะ = ใต้ฝ่าพระบาท/ฝ่าพระบาท
คามิ (อ่านคล้ายคำว่า "พระเจ้า" แต่เขียนไม่เหมือนกัน มั้ง?) = ผม/เส้นผม
ซุมิมะเซน/ซุยมะเซน = ขอโทษนะ (เป็นคำขอโทษอีกแบบคล้ายๆ "โกเมนนาไซ" แต่สามารถใช้ในกรณีต้องการความช่วยเหลือได้เช่น "ซุมิมะเซน อกิบะ โดโก เดทซึ กะ?" แปลว่า "ขอโทษนะครับ อกิบะไปทางไหนหรอครับ")
วารุกัตตะ = ขอโทษทีล่ะกัน (เป็นประโยคขอโทษที่แสดงถึงว่าตัวเองผิดเองหรืออะไรประมาณนี้เช่น "ฮ้า... คางามิน เซ้นต์ อิไน เน" แปลว่า "เฮ้อ... คางามินนี่ไม่มีเซ้นต์เลยแหะ" คางามิตอบตามปกติแบบไม่รับมุขก็ "อา... วารุกัตตะวาโย่" แปลว่า "เออ... ขอโทษละกันย่ะ")
อาซสาซซิน = นักฆ่า (ทับศัพท์ Eng ตามปกติ [Assassin])
โคจูจิ-ซามะ = นายท่าน (เป็นคำที่เมดเอาไว้เรียกเจ้านายตัวเอง)
อิจัตจะ = ไปซะแล้ว
โคโตบะ = คำพูด (เช่น "อาโนะ โคโตบะ ชานโตะ คิโคยเอเตะตะโยะ" แปลว่า "คำพูดนั้น ชั้นได้ยินจริงๆนะ")
นีเกโร่ = หนีไปเร็ว/หนีกันเร็ว
โอโนเร่ = แก/หนอย/บัดซบ (ประโยคค่อนข้างรุนแรงหน่อยแต่ไม่มากเท่าไหร่)
ชินไป (ออกเสียง "ชินไป๊") = ห่วง (เช่น "ชินไป ชิไนเด เนะ" แปลว่า "ไม่ต้องห่วงหรอกนะ")
อะนุกิ = ลูกพี่/อาเจ๊
คุมะ = หมี
ทามาโกะ = ไข่
ไคปัง = กางเกงว่ายน้ำ
อิทาตะกิมัต(ซึ) = จะกินล่ะนะ/จะท่านล่ะนะ (จะลงท้ายด้วย "ครับ" และ "ค่ะ" ตลอด)
คิเอเทะ/คิเอทะ/คิเอตะ (ออกเสียง "คิเอ้ท๊ะ") = หายไปแล้ว
คิชิน = ภูต/ปีศาจ/สิ่งชั่วร้าย/สาปแช่ง
มาโอ = ปีศาจ/มาร/จอมมาร
ซามุย (ออกเสียง "ซามุ่ย") = หนาว
มาจัง = ไพ่นกกระจอก (ใครไม่รู้จักไพ่นกกระจอกแนะนำให้ไปดูเรื่อง "ซากิ สาวเซียนไพ่นกกระจอก")
เทเลวี = โทรทัศน์/TV
คายเซะ/คายซะโยเนะ = เอาคืนมา
คาละซะไน = ไม่คืน
ซาระ = จาน
โฮชิโซระ =ท้องฟ้าจริงๆ/ท้องฟ้าที่แท้จริง
โซระโฮชิ = ดวงดาวบนท้องฟ้า
ซึกิ = ดวงจันทร์
ทาคึ/ทากคึ = เวรเหอะ/กรรม/ให้ตายสิ (หรืออะไรประมาณนี้ ออกเสียงอารมณ์ประมาณว่า "ให้ตายเถอะ ไม่ไหวๆ")
ฮานะชิ = เศร้า
โอโบยเตรุ = จำได้/ยังจำได้
ฮิการิ = แสง
คินโนะ = สีเงิน
งินเงียว = ตุ๊กตา
โอกิรุ (อ่านออกเสียงให้คล้ายๆ "โอเกี้ยว" แต่ไม่ใช่) = ตื่น/ตื่นได้แล้ว
เซ็นโซว = สงคราม
วาเก กะ ไน = เป็นประโยครวมที่แปลว่า "ไม่มีทาง" เช่น "ซนนา โคโตะ เทคิรุ วาเก กะ ไน" แปลว่า "ไม่มีทางหนีพ้นหรอก"
ทานุชี = สนุก
โซะ = ถูกต้อง (ประโยคนี้สามารถตีความได้หลายความหมายถ้าเพิ่มคำเข้าไป ซึ่งจะมีต่อด้านล่าง)
โซดาแน = นั่นสินะ
โซดะ = ใช่แล้ว! (ใช้ตอนที่นึกอะไรออก)
โซเดทซึเน = นั่นสินะครับ
โซกะ = จริงสิ/งั้นหรอ
โซกะนา = ใช่หรือเปล่านะ?/หรือเปล่านะ?
โซ = งั้นหรอ...
โซไก = อย่างนั้นหรอ (ทุกอันจะออกเสียง "โซ่" หมด และคำนี้ "ไก" ออกเสียง "ไก้" และอาจมีเพิ่มอีก ซึ่งผมจะเอาไว้ข้างล่าง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาหาซ้ำด้านบน)
อิตสึเร่ชิมัต = ขอตัวก่อนนะครับ
อิตไต = เกิดอะไรไรขึ้น เช่น "โคเร วา อิตไต" แปลว่า "นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่" (การออกเสียงประโยคจะไม่เหมือน "อิไต" ที่แปลว่าเจ็บแม้ในการเขียนแบบไทยจะคล้ายกันแต่ภาษาญี่ปุ่นทั้งการพูดและเขียนจะไม่เหมือนกัน)
บากะน่า = บ้าน่า/งี่เง่าน่า/เรื่องบ้าๆแบบนั้น (เป็นประโยคที่พูดออกมาตอนตกใจ)
ชินิกามิ = ยมทูต/มัจจุราช
คุโรอิ/คุโรย = สีดำ แต่คำนี้มักจะใช้คู่เป็นประโยคบางครั้ง เช่น "คุโรอิ โซระ" แปลว่า "ท้องฟ้าสีดำ" (ไม่ได้หมายความว่าท้องฟ้าที่มืดมิดเพราะคำนี้จะมีอีกประโยค)
ฮานะเซะ = ปล่อย/ปล่อยนะ (เช่น อืม...อะไรดีหว่า อ้อ... สมมุติว่า คนคุ้มกันของเราโดนยิงบาดเจ็บ และเราจะออกไปช่วยแต่คนในทีมจับแขนไว้ไม่ให้ไป "เรามีหน้าที่ต้องทำคือนำข้อมูลกลับไป" แต่เรารู้สึกไม่พอใจที่มาห้ามก็ใช้คำนี้ในประเภทออกคำสั่งได้ "ฮานะเซะ" และยิ่งใส่อารมณ์ความโมโหมากเท่าไหร่จะมีความหมายจะมาณว่า "ปล่อยนะเว้ย" อะไรประมาณนี้) PS. ยิ่งยกตัวอย่างมากมุขเริ่มหมดแล้วครับท่าน - -* (พูดง่ายๆก็คือ "มุขตัน" ดีๆนั่นเอง)
ซึเบเตะ = ทุกอย่าง
นากามะ = /เพื่อน (ประโยคนี้มีความหมายไปทางเพื่อนที่สนิทกันมากๆ)
โซชิเตะ = แล้ว... (เช่น "เมื่อหายนะมาถึง แล้ว...ตอนนั้นทุกอย่างจะตกอยู่ในความสิ้นหวัง" [รวมเอาคำว่า "ซึเบเตะ" มายกตัวอย่างด้วย])
เอ็กซึโพชั่น = ระเบิด/การระเบิด (ทับศัพท์จาก Eng)
อะตาริมายตะโระ/อัตตาริมายตาโระ = ก็แน่นอนอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง... (ประโยคคำพูดนะครับ ไม่ใช่หมายความว่า "ก็หมายถึงคำๆนั้นอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง ไม่ต้องแปลหรอก ก็รู้ๆกันอยู่" อะไรแบบนั้นนะครับ = =')
ทามะเระ = หุบปากซะ/หุบปากไปซะ (ออกเสียงแข็งหน่อยแบบโมโห เป็นประโยคแนวคำสั่งที่ค่อนข้างรุนแรง)
ยี่ปง/ยี่ฮง = ญี่ปุ่น (และยังมีการออกเสียงเป็นคำอื่นได้อีก แต่ผมจะมาเพิ่มทีหลังเพราะนึกไม่ออก และ คนญี่ปุ่นถ้าเรียกชื่อประเทศตัวเองจะไม่ค่อยออกเสียง "ญี่ปุ่น" หรือเรียกว่า "เจเปน" สักเท่าไหร่)
ชิราเนโซ = ไม่รู้ด้วยแล้วนะ
โซเระเตอิ = แค่นี้แหละดีแล้ว
เดจาวู = ซ้ำ/ซ้ำซาก
โค่ย = ตามมา (ไม่ได้ลากเสียงยาวแบบ "โค่ยย" ที่แปลว่า "ปลาคราฟ" แต่พูดเสียงสั้นให้พูดออกมาแล้วจบประโยคไปแบบไม่ต้องลากเสียงเลย)
คุระยามิ = ความมืดมิด
โชวเน็น = เด็กผู้ชาย (เพิ่งนึกออก - -* ทั้งๆคล้ายๆกับ "โชวโจว" ที่แปลว่า "เด็กผู้หญิง" แต่ทำไมไม่เอะใจเลย...โฮ้ย)
ฮาเมระ = กับดัก (เช่น "ฮาเมระเระตะนา" แปลว่า "กับดักสินะ")
ชิคาระ/จิคาระ (มักจะออกเสียงลงท้ายด้วย "อุ") = พลัง
โกชูโชวซามะ (ออกเสียง "กดชูโชวซามะ") = เสียใจด้วยนะครับ/ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ (ในกรณีที่ใช้คำว่า "โกชูโชวซามะเดท(ซึ)ตะ")
โคโระชิเตะ/โคโรชิ = ฆ่า (เช่น "เถเม วา โคโระชิเตะอิรุ" แปลว่า "ชั้นจะฆ่าแกซะ")
คิไร = เกลียด ("ได-คิไร" แปลว่า "เกลียดมาก/เกลียดที่สุด" อย่างที่เคยบอกไปแล้วข้างบน)
ดาโรว (Darou) = เป็นคำต่อท้ายประโยคที่มีความหมายสงสัย ผมจะยกตัวอย่างละกัน เพราะผมอธิบายไม่ถูก เอ่อ...อะไรดีหว่า เช่น "โดวชิเต นินเก็น โนะ ชินดะ อะรุ โนะ ดาโรว" (ใช่เปล่าวะ?) แปลว่า "ทำไมมนุษย์ถึงต้องตายล่ะ?" คำว่า "โดวชิเต" แปลว่า "ทำไมล่ะ" เมื่อขึ้นต้นด้วยประโยคนี้มักจะลงท้ายด้วย "ดาโรว" ซึ่งเป็นลักษณะ เช่น "ทำไมมนุษย์ถึงต้องตาย" และถ้าเติมเข้าไปรูปประโยคจะเป็น "ทำไมมนุษย์ถึงต้องตายกันล่ะ?" ซึ่งจะสังเกตว่ารูปแบบประโยคจะไปในทางคำถามมากขึ้น แต่ถ้าเป็นประโยคคำถามมักจะลงท้ายด้วยคำนี้ไม่ว่าจะขึ้นต้นด้วยอะไรก็ตาม
โดวชิเต (มักออกเสียง "โด้วชิเตะ") = ทำไม/ทำไมกันนะ (จะใช้ถามก็ได้อย่างเดียวก็ได้เช่น "ชั้นจะกำจัดเธอซะ" "ทำไมล่ะ" เมื่อไม่มีประโยคตามท้ายก็ไม่ต้องใส่ "ดาโรว" เข้าไป ถึงจะมีประโยคตามท้ายก็ควรดูรูปแบบประโยคด้วย เช่น "โอเรว่า โคโระชิเตอารุ" "โดวชิเต? วาตะชิ โนะ โอไมวา โทโมะดะจิจะไน..." แปลว่า "ชั้นจะกำจัดเธอทิ้งซะ" "ทำไมล่ะ? นายเป็นเพื่อนของฉันไม่ใช่หรือไง" และยังมีคำว่า "โดวชิเตเตะ..." แปลว่า "ทำไมน่ะหรอ/ถึงจะบอกว่าทำไมก็เถอะ" ซึ่งเป็นประโยคตอบที่เหมือนเวลา "เอ่อ...อ่า นึกไม่ออก" อะไรประมาณนั้น)
โอเรนจิ (Orange ในศัพท์ Eng ก็แปลว่า...) = สีส้ม (เหมือนกัน)
ดางะ = แต่... (เช่น "ถึงจะอยู่ในสถานการณ์แย่สุดๆแบบนี้ แต่... เราไม่มีเวลาแล้ว")
โดโง (ออกเสียง "โด้โง๋") = คิดว่าไง (เช่น "ทาคาซุ ริวจิ เป็นสาวก ทาคาซุ ไอ้เบะ ท่านซูคิดว่าไงล่ะครับ?" อะไรประมาณนี้)
โอโมะชะ (Omocha) = ลูกสาว (เหมือนคำว่า "มุซุเมะ")
ริทซึ = กระรอก
คาคี/คากิ = กุญแจ
คุรุมะ = รถ
คาซะ = ร่ม
นิวะ = สวน/สวนสาธารณะ
เซ็นชู = สัปดาห์สุดท้าย/สุดสัปดาห์ (เห็นคำนี้แล้วนึกถึงนิตยสาร เซ็นชู ที่ซื้ออ่านบ่อยๆกันมั้ยครับ 555+)
องงาคุ/องกาคุ = ดนตรี/เพลง (แหมๆ นึกถึง K-ON!! ตั้งแต่คำว่า Ritsu ละ =w=)
ซึโยย (ออกเสียง "สึโย่ย") = แข็งแกร่ง/แข็งแรง
อะทามะ = หัว
โอโตนะ/โอโทนะ = ผู้ใหญ่
คอนชู = สัปดาห์นี้
คิตะ = ทิศเหนือ
คักโคว = โรงเรียน
มิซุ = น้ำ
โยบุ = เรียก
ยาซุย (ออกเสียง "ยาซุ่ย") = อ่อนแอ/อ่อน (เช่น "ยาเอยาเร ยาซุย เดทซึ เน" แปลว่า "ไม่ไหวๆ อ่อนแอจริงๆนะครับ")
อะการุย/อาคารุย (ออกเสียง "อาการุ่ย") = สว่าง
มิกิ = ขวา/ทางขวา
โอโยะกุ = ว่ายน้ำ
ซาโตว (หรืออาจจะออกเสียงว่า "ซาโต้" ก็ได้เช่นกัน) = น้ำตาล
คุดาไซ = เป็นประโยคทางด้านแบบว่า "ขอร้อง/ได้โปรด" เช่นคำที่เคยอ่านผ่านมาคำว่า "โกเมนคุดาไซ" แปลว่า "ขอรบกวนหน่อยนะค้า" อะไรอย่างนั้น มักจะใช้ในประโยคที่ขอให้ช่วย
ทาโนะมุ = ฝากด้วยนะ (เช่น คุระยามิ : "เธอไปก่อน ตรงนี้ชั้นจัดการเอง" ชิรายูกิ : "อื้ม ฝากด้วยนะ")
โกะโก = ตอนบ่าย
คิอิโรย (ออกเสียง "คิอิโร่ย" หรือ "คิอิโรอิ" ก็ได้) = สีเหลือง
ฮาชิ = สะพาน
โฮโจเซ็นเซย์ = อาจารย์ใหญ่/ครูใหญ่
มิเซรุ ("รุ" เสียงต่ำออกเสียงให้เป็น "หรุ") = แสดง (เช่น "เธอมีฝีมือแค่ไหนลองแสดงให้ฉันดูหน่อยสิ...")
โทบุ = บิน
ชิซึโมอึน (ออกเสียง "ม่อน" ก็ได้เช่นกัน) = คำถาม
ไคชะ = กลุ่ม
โอโมะชิโร่ย = น่าสนใจดีนี่ (เช่น Hoshiakari : "วากัตตะ วาตะชิ มิเซรุ" Kurayami : "โอ่โมชิโร่ย" แปลว่า โฮชิอการิ : "เข้าใจแล้ว ชั้นจะแสดงให้เห็นเอง" คุระยามิ : "น่าสนใจดีนี่นา") PSP. ชิรายูกิไปไหนแล้วเนี่ย - -*
ชาอิโร (ถ้าพูดตามปกติจะออกเสียงเป็น "ชายอิโระ") = สีน้ำตาล
โดโก (ออกเสียง "โดโก๋") = ตรงไหน (เช่น "โดโก เดทซึ กา?" แปลว่า "ตรงไหนหรอครับ?")
โคะโคะ = นี่ไง (เช่น สึดะ : "ประธานอยู่ตรงไหนหรอครับ" ประธาน : "นี่ไง" สึดะ : "ไหนครับ" ประธาน : "ตรงนี้ไง...") PS3. ใครไม่เข้าใจมุขไปดู Seitokai Yakuindomo นะครับ ผมเอามาจากอนิเมะเรื่องนี้แหละ (รับประกันความฮา ถ้าดูแล้วไม่ฮาถือว่าหมดอายุประกัน...ล้อเล่นน่าครับ เรื่องตลกจริงๆนะครับ)
โอฮางิ = ข้าวปั้นนี้จะเป็นสีเหมือนถั่วแดง การทำจะหมักทิ้งไว้ 5-6 ชั่วโมงแล้วนำมาคลุกกับแป้งถั่วและถั่วแดงแล้วปั้นเป็นกลมๆ (อร่อยดีนะ =w=b)
โค่โน = หนอยแก...
ชิกโช = หนอยแน่ (เป็นคำที่ใช้ตอนที่ไม่พอใจอะไรสักอย่างเช่น คุระยามิกำหมัดกระแทกลงบนโต๊ะอย่างแรง คุระยามิ : "ทำไมกันล่ะคะ" เซย์เรย์ : "ในเมื่อไม่มีหลักฐานยืนยันว่าชิรายูกิยังมีชีวิตอยู่ เราก็จะไม่ออกตามหาเธอ" คุระยามิ : "แต่ว่า ถ้าไม่ให้พวกทหารออกไปตามหาล่ะก็ จะไปรู้ได้ยังไงล่ะว่าชิรายูกิยังรอดอยู่รึเปล่า" เซย์เรย์ : "ถึงชิรายูกิจะเป็นนักรบฝีมือดีของจักรวรรดิ แต่ไม่มีความจำเป็นต้องใส่ใจว่าจะเป็นหรือจะตาย..." จากนั้นคุระยามิก็เดินออกมาจากห้อง คุระยามิ "ไอเวรเอ้ย (ชิกโฉ) พวกแกคิดว่าที่รอดมาได้ถึงวันนี่เพราะใคร ถ้าไม่มีชั้นและชิรายูกิอยู่ล่ะก็ พวกแกคงโดนพวกมาจิกเชี่ยนฆ่าตายไปแล้ว")
[พักเบรคสักแปปนึงนะครับ ขอทบทวนกับสิ่งที่ผมทำตามแบบของผม...อืม...ในที่สุดก็เริ่มออกทะเลตามสเตปของผมอีกแล้วครับท่าน... การยกตัวอย่างของผมเริ่มจะเป็นรูปเป็นร่างของนิยายไปซะแล้ว (ผมเองก็มีนิยายอยู่เหมือนกันที่แต่งต่างหาก แต่ทำไมพอจะทำจริงๆได้แค่เดือนละไม่กี่ตอนเอง...) เฮ้อ...เป็นอะไรที่ น่าหนักใจจริงๆครับ ไหนๆก็ไหนๆขอแนะนำตัวละครไปเลยละกัน (PS3. ตามที่ผมคิดไว้ผมจะเอาตัวละครพวกนี้ไปรวมในนิยายที่ผมแต่งไว้ด้วย ยังไงก็ใส่มันไว้ที่นี่แหละ และผมจะใช้ตัวละครพวกนี้ในการยกตัวอย่างต่อไปด้วยครับ)]
คาคุชิคามิ เอจิส ชิรายูกิ - นักรบหญิงแห่งจักรวรรดิคลาสเซเบอร์ซึ่งผมยังไม่รู้ว่าจะจับลงเมืองไหนดี ลักษณะของเธอคือดาบสีขาวขนาดใหญ่และเมื่อปลดปล่อยพลังผมสีเทาของเธอจะมีสีขาวขึ้นราวกับหิมะและแสงสีขาวร่วงหล่นลงมาจากดาบของเธอดั่งหิมะตลอดเวลาที่ปลดปล่อยพลัง ดาบของเธอรู้จักในนาม "หยิน"
คาคุชิคามิ เอจิส คุระยามิ - นักรบหญิงแห่งจักรวรรดิคลาสเซอไวเออร์ซึ่งมีสถานะเดียวกันกับชิรายูกิ เป็นพี่ฝาแฝดของชิรายูกิ ลักษณะคือพกดาบสองเล่ม หนึ่งดาบคือดาบคาตานะสีดำดาบสองคือดาบมาซามุเนะสีม่วง เมื่อปลดปล่อยพลังจะมีออร่ามีม่วงรอบๆร่างกายตลอดเวลา สีผมของเธอจะเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีน้ำเงิน ดาบของเธอรู้จักในนาม คาตานะของเธอคือ "คุโระ" และ มาซามุเนะของเธอคือ "ยามิ"
โฮชิอการิ - นักรบสาวลึกลับคลาสแอสแซสซิน ยังไม่มีลักษณะพิเศษใดๆเพราะคิดไม่ออก (เมื่อกี้ยังคิดได้จนจบเลยนี่เฟ้ย!!!โฮ้ย!!!)
เซย์เรย์ - ขุนนางระดับสูงคนหนึ่งในจักรวรรดิซึ่งได้รับหน้าที่พิเศษในการดูแลนักรบและคอยป้องกันการโจมตีจากมาจิกเชี่ยน
[555+ จับชิรายูกิ คุระยามิ กับ โฮชิอการิ ไปอยู่ในฮาเร็ม SSS (ไม่ใช่ ชินดะ เซย์ไค เซ็นเซ็น ของหนูเทนชิสุดโลลินะครับ ในที่นี้หมายถึง Seven Servant Silver) ซะเลย เอาล่ะ เดี๋ยวผมแต่งไปเรื่อยๆสักอีกเดือนนึงหลังจากนี้ผมจะเอาไปแปะไว้ละกันเน้อ 555+ มันจะออกทะเลสักเท่าไหร่กันหว่า (คาดหวังไว้ 7 ภาค และจะแต่งให้หมดทุกภาค และเมื่อจบ 7 ภาค Happy End ไปแล้วผมก็ยังไม่จบแค่นั้นเพราะจะแต่งเล่นไปเรื่อยๆไม่มีทางจบ ก็อุตส่าห์สร้างนอยายฮาเร็ม Longest Story ได้สักทีจะให้มันจบไปก็น่าเสียดายน่ะสิ เหอๆ) ไปติไปด่าไปถับถมกันหน่อยละกันนะครับ (ฮ่าๆๆ ถ้าเป็นงั้นจริงๆตูก็อยากร้องไห้นะเนี่ย)]
มะ...กลับเข้าเรื่องกันเถอะ ... อ่ะ...อ่าเร๊ะ...คิดไม่ออกแหะ =w=!
OK ครับ ลุยกันต่อ - -*
ไซ = สุดท้าย
เซ็นโจว (Senjou/บางทีจะออกเสียงเป็น "เซ็นโซว" [เคยผ่านคำนี้มาแล้ว ใครที่ไม่ได้อ่านผ่านๆจะรู้]) = สงคราม
วารุ่ย = โทษที (เป็นคำขอโทษทีใช้สบายๆ ใช้ขอโทษกับเพื่อนหรือคนสนิท)
คิโมดจิวารุ่ย = รู้สึกไม่ดี/น่าขยะแขยง
เท็น = สวรรค์
โมยอิจิโด่ = อีกครั้ง/อีกครั้งนึง
โกดชิไม๊ = จบ/อวสาน
อุไม = อร่อย
โออิชิ = อร่อย (- -a ก็เหมือนกันน่ะนะครับ)
ซานเน็น = น่าเสียดาย
ม็อดโตเกะ = หยุดไปเลย/พอเลย/ปล่อยไปเถอะ (เป็นเชิงประโยคพูดให้หยุดในสิ่งที่คนอื่นกำลังทำอยู่หรือประมาณว่า "ปล่อยๆให้ทำไปเถอะ")
คิเร = สวย
อิจิบาน = มากที่สุด/ที่สุด
นามิ = น้ำตา
โคโนเซย์ไค = โลกนี้/โลกไปนี้
เทสโตะ = สอบ (ทัพศัพท์ Eng)
นางิโซเร่ะ = อะไรกันน่ะ
โอสะกาเระซามะเดทซึตะ = เหนื่อยหน่อยนะครับ
ชิมบึง = หนังสือพิมพ์
กีฟฟึ = ยอมแล้ว (คำนี้ทับศัพท์ Eng คำว่า Give up เผื่อใครไม่รู้ แต่คำว่ายอมแพ้ในภาษาญี่ปุ่นก็มีเช่นกัน)
ชินเดะมิรุ = ลองตายดูมั้ย? (หรือะไรทำนองนี้)
เซย์โตะไค-คุไทโชว = รองประธานนักเรียน
เซย์โตะไค-ไคโชว = ประธานนักเรียน
ไซโมเอะ (Saimoe) = "คำนี้เป็นคำที่ควรรู้ไว้นะครับ แนะนำเลย" (ไซ = สุดท้าย, โมเอะ = [อะไรที่อธิบายเป็นคำพูดได้ยาก เป็นความรู้สึกแบบ "น่าร้าก จะอาวกลับบ้าน~" อะไรประมาณนี้] รวมความหมายก็คือ "ความโมเอะที่เป็นหนึ่งเดียว/โมเอะที่สุด" มักใช้ประโยคนี้ในการใช้การโหวตของโอตาคุส่วนใหญ่ว่าตัวละครตัวไหนมีคนชอบมากที่สุดโดยแข่งกันที่คะแนน)
โอโมจิกาอิริ = จะเอากลับบ้าน
โยโกะโซะ = ขอต้อนรับ (มักจะตามด้วยชื่อสถานที่)
ฮาเร็ม = ผู้ชายคนหนึ่งที่มีแฟนเป็นของตัวเองเยอะ ส่วนความหมายโดยตรงก็หาได้ง่ายๆครับ เพราะทัพศัพท์ Eng
โอ่โซ้ย/อุโซ้ย = ช้าจริง!
โคจา = ชา (น้ำชา)
โนเวล = นิยาย (เป็นเนื้อเรื่องนิยายที่แต่งขึ้นมา ซึ่งก็คือจะมีแต่ตัวหนังสือเท่านั้น ไม่มีภาพประกอบเหมือนมังงะ ส่วนภาษาญี่ปุ่นคือ "โชวเซ็ตสึ")
มากะเซโระ = เดี๋ยวทำเอง/เดี๋ยวจัดการให้เอง
โอเระ โนะ = ของผม
คาไวอิโซ = น่าสงสาร
โยตชิ = โอ๋ (เป็นคำปลอบใจ)
ยาดะ = ไม่เอา/ไม่เอาแล้ว (เช่น ชิรายูกิ "ทำไม...ทำไมกัน สงครามแบบนี้ รบกันไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ไม่เอาแล้ว... ไม่อยากทหารต้องล้มตายไปอีกแล้ว" อะไรประมาณนี้ หรือจะใช้ตอนที่คนอื่นให้ของแต่เราจะบอกว่าไม่เอาก็สามารถใช้คำนี้ได้)
ชักกะ = ไม่ผ่าน/ไม่อนุญาต
ทะโทเอวา/ทะโทเอบะ = อย่างเช่น
คักโคเอ็น = โรงเรียน
โค่ไค้ = เข้าใจผิด (เช่น "โค่ไค้เดทซึ" แปลว่า "เข้าใจผิดแล้วครับ!")
อาซะ = เช้า
โทยูวาเกเดะ/โทะยูวาเกะเดะ = ก็อย่างที่ว่าไป/ก็อย่างที่พูดไป
เครดิต Vocaloid_BRS
ภาษาญี่ปุ่นเบื้องต้นเพื่อจะได้ฟังอนิเมะที่ไร้ซับได้คร่าวๆและการเอาไปจับผิดเหล่า Fansubs (555+)