เรื่องที่ 1
สุภาพสตรีนางหนึ่งชื่อว่า แอ๊ปเปิ้ล อายุอานามก็ปาเข้าไป 30 กว่าแล้ว
แต่ยังโสดเลยลงประกาศหาชายในฝันทางหน้าหนังสือพิมพ์แต่มีข้อแม้ดังนี้
1. หากมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันขอให้พูดจากันดี ๆ อย่าลงไม้ลงมือ
2. จะต้องไม่จากหล่อนไปไหน จะอยู่เคียงข้างกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน
3. ต้องเต็มร้อยในเรื่องบนเตียง
หลังจากลงประกาศอยู่หลายวันไม่มีใครมาติดต่อ
อีก 2-3 สัปดาห์ต่อมา ขณะที่กำลังทำงานบ้านอยู่ก็มีคนมาเคาะประตู
พอหล่อนออกไปเปิดก็พบผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนรถเข็น แขนขาด้วน หน้าตาน่าสงสาร
แอ๊ปเปิ้ล..."มาหาใครคะ"
ชายพิการ..."ผมมาหาคุณแอ๊ปเปิ้ลครับ"
แอ๊ปเปิ้ล... "ดิฉันนี่แหละค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ"
ชายพิการ.. "คือ..ผมเห็นประกาศในหน้าหนังสือพิมพ์
ผมก็เลยคิดว่าผมมีคุณสมบัติครบถ้วน ตามที่คุณต้องการ"
แอ๊ปเปิ้ล... (งงเล็กน้อย) "คุณมีคุณสมบัติอะไรที่ว่าครบ"
ชายพิการ... "ข้อ 1 ผมไม่ตบตีคุณแน่ เพราะผมไม่มีมือไม่มีแขน และ
ข้อ 2 ผมไม่ทอดทิ้งคุณไปไหนเพราะผมไม่มีขา"....
แอ๊ปเปิ้ล.... "เอ่อ ... เอ่อ.. แล้วข้อ 3 ล่ะคะ" หล่อนถามด้วยความสงสัยเป็นที่สุด
ชายพิการ... "คุณครับ ผมไม่มีมีมือ ไม่มีแขน ไม่มีขา
แล้วเมื่อสักครู่ที่ผมเคาะประตู คุณคิดว่าผมใช้อะไรเคาะละครับ"
แต่ยังโสดเลยลงประกาศหาชายในฝันทางหน้าหนังสือพิมพ์แต่มีข้อแม้ดังนี้
1. หากมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันขอให้พูดจากันดี ๆ อย่าลงไม้ลงมือ
2. จะต้องไม่จากหล่อนไปไหน จะอยู่เคียงข้างกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน
3. ต้องเต็มร้อยในเรื่องบนเตียง
หลังจากลงประกาศอยู่หลายวันไม่มีใครมาติดต่อ
อีก 2-3 สัปดาห์ต่อมา ขณะที่กำลังทำงานบ้านอยู่ก็มีคนมาเคาะประตู
พอหล่อนออกไปเปิดก็พบผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนรถเข็น แขนขาด้วน หน้าตาน่าสงสาร
แอ๊ปเปิ้ล..."มาหาใครคะ"
ชายพิการ..."ผมมาหาคุณแอ๊ปเปิ้ลครับ"
แอ๊ปเปิ้ล... "ดิฉันนี่แหละค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ"
ชายพิการ.. "คือ..ผมเห็นประกาศในหน้าหนังสือพิมพ์
ผมก็เลยคิดว่าผมมีคุณสมบัติครบถ้วน ตามที่คุณต้องการ"
แอ๊ปเปิ้ล... (งงเล็กน้อย) "คุณมีคุณสมบัติอะไรที่ว่าครบ"
ชายพิการ... "ข้อ 1 ผมไม่ตบตีคุณแน่ เพราะผมไม่มีมือไม่มีแขน และ
ข้อ 2 ผมไม่ทอดทิ้งคุณไปไหนเพราะผมไม่มีขา"....
แอ๊ปเปิ้ล.... "เอ่อ ... เอ่อ.. แล้วข้อ 3 ล่ะคะ" หล่อนถามด้วยความสงสัยเป็นที่สุด
ชายพิการ... "คุณครับ ผมไม่มีมีมือ ไม่มีแขน ไม่มีขา
แล้วเมื่อสักครู่ที่ผมเคาะประตู คุณคิดว่าผมใช้อะไรเคาะละครับ"
เรื่องที่ 2
ทหารหนุ่มผู้หนึ่งต้องออกไปรบแดนไกล ทิ้งภรรยาสาวสวยไว้ที่บ้านนานเป็นเวลาถึง 2 ปีเต็ม เมื่อได้เวลาที่จะกลับบ้าน เขาจึงรู้สึกดีใจมากที่จะได้เจอกับภรรยาสาวผู้เป็นที่รักยิ่ง แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านเขาก็ต้องแปลกใจมากเมื่อที่หัวเตียงนอนของภรรยามีไข่ไก่วางอยู่ 3 ฟองและเงินสดอีก 2 แสนบาท ด้วยความสงสัย เขาจึงถามภรรยาว่า
สามี: ที่รัก..คุณเอาไข่มาวางไว้ที่หัวเตียงทำไมครับ ?
ภรรยา: ฉันขอสารภาพตามตรงค่ะ..คือช่วงที่คุณไม่อยู่ฉันเหงาเหลือเกิน ฉันนอกใจคุณค่ะ ทุกครั้งที่ฉันนอกใจคุณ ฉันจะเอาไข่มาวางไว้ที่หัวเตียงเพื่อเตือนความจำว่าฉันทำผิดต่อคุณไปกี่ครั้ง
สามีได้ฟังก็รู้สึกเห็นใจภรรยามาก เขาจากหล่อนไปตั้ง 2 ปีเต็ม เธอนอกใจเขาแค่ 3 ครั้ง เธอคงเหงาจริงๆถึงได้ทำลงไป เขาไม่ติดใจเอาความอะไร แต่ก็อดถามถึงเงิน 2 แสนบาทไม่ได้
สามี: แล้วเงินสดตั้ง 2 แสนบาทนี่ล่ะ คุณเอามาจากไหนที่รัก
ภรรยา: อ๋อ..เงินนั่น....ฉันก็เอาไข่ไปขายได้มาไงล่ะคะคุณ...
สามี: &%$#???
สามี: ที่รัก..คุณเอาไข่มาวางไว้ที่หัวเตียงทำไมครับ ?
ภรรยา: ฉันขอสารภาพตามตรงค่ะ..คือช่วงที่คุณไม่อยู่ฉันเหงาเหลือเกิน ฉันนอกใจคุณค่ะ ทุกครั้งที่ฉันนอกใจคุณ ฉันจะเอาไข่มาวางไว้ที่หัวเตียงเพื่อเตือนความจำว่าฉันทำผิดต่อคุณไปกี่ครั้ง
สามีได้ฟังก็รู้สึกเห็นใจภรรยามาก เขาจากหล่อนไปตั้ง 2 ปีเต็ม เธอนอกใจเขาแค่ 3 ครั้ง เธอคงเหงาจริงๆถึงได้ทำลงไป เขาไม่ติดใจเอาความอะไร แต่ก็อดถามถึงเงิน 2 แสนบาทไม่ได้
สามี: แล้วเงินสดตั้ง 2 แสนบาทนี่ล่ะ คุณเอามาจากไหนที่รัก
ภรรยา: อ๋อ..เงินนั่น....ฉันก็เอาไข่ไปขายได้มาไงล่ะคะคุณ...
สามี: &%$#???
เรื่องที่ 3
เหตุเกิดขึ้นณ.ประตูสวรรค์มีหญิงสาว 3 คน กำลังยืนรอคำพิพากษาของSt. Peter อยู่
St. Peter : ข้ามีคำถามจะถามเจ้าง่ายๆเพื่อเป็นการเลือกว่าจะส่งเจ้าไปประตูไหน
St. Peter จึงถามสาวคนแรกว่า : เจ้าจงบอกสถานภาพของเจ้าตอนก่อนแต่งงานและหลังแต่งงานซิ
สาวคนแรก : ก่อนแต่งงานข้ายังเป็นสาวบริสุทธิ์ หลังจากแต่งงานแล้วข้าก็ยังคงความบริสุทธิ์เอาไว้
St. Peter : เยี่ยมมาก เจ้าเป็นคนดีจริงๆ งั้นเจ้าเอากุญแจทองไป
หลังจากนั้น St. Peter ก็ถามสาวคนที่ 2 ด้วยคำถามเดียวกัน
สาวคนที่สองจึงตอบว่า : ก่อนแต่งงานข้ายังเป็นสาวบริสุทธิ์แต่หลังแต่งข้าไม่บริสุทธิ์แล้ว
St. Peter : เจ้าก็เป็นคนดีใช้ได้ที่รักษาความบริสุทธิ์เอาไว้ก่อนแต่ง งั้นเอากุญแจเงินไป
ต่อมา St. Peter ก็ถามสาวคนสุดท้าย ด้วยคำถามเดียวกัน
สาวคนสุดท้าย : ข้าไม่เคยรักษาความบริสุทธิ์ไว้เลย ข้ามี sexกับผู้ชายทุกคนที่พบ ทั้งก่อนแต่งและหลังแต่ง ทุกที่ทุกเวลาที่ทำได้
St. Peter : เยี่ยมมากเลยงั้นเจ้าเอากุญแจห้องข้าไป!!
St. Peter : ข้ามีคำถามจะถามเจ้าง่ายๆเพื่อเป็นการเลือกว่าจะส่งเจ้าไปประตูไหน
St. Peter จึงถามสาวคนแรกว่า : เจ้าจงบอกสถานภาพของเจ้าตอนก่อนแต่งงานและหลังแต่งงานซิ
สาวคนแรก : ก่อนแต่งงานข้ายังเป็นสาวบริสุทธิ์ หลังจากแต่งงานแล้วข้าก็ยังคงความบริสุทธิ์เอาไว้
St. Peter : เยี่ยมมาก เจ้าเป็นคนดีจริงๆ งั้นเจ้าเอากุญแจทองไป
หลังจากนั้น St. Peter ก็ถามสาวคนที่ 2 ด้วยคำถามเดียวกัน
สาวคนที่สองจึงตอบว่า : ก่อนแต่งงานข้ายังเป็นสาวบริสุทธิ์แต่หลังแต่งข้าไม่บริสุทธิ์แล้ว
St. Peter : เจ้าก็เป็นคนดีใช้ได้ที่รักษาความบริสุทธิ์เอาไว้ก่อนแต่ง งั้นเอากุญแจเงินไป
ต่อมา St. Peter ก็ถามสาวคนสุดท้าย ด้วยคำถามเดียวกัน
สาวคนสุดท้าย : ข้าไม่เคยรักษาความบริสุทธิ์ไว้เลย ข้ามี sexกับผู้ชายทุกคนที่พบ ทั้งก่อนแต่งและหลังแต่ง ทุกที่ทุกเวลาที่ทำได้
St. Peter : เยี่ยมมากเลยงั้นเจ้าเอากุญแจห้องข้าไป!!
เรื่องที่ 4
คนแคระ 2 คนเข้าไปในบาร์ ขากลับหิ้วอีหนูออกไปด้วย 2 คน เข้าห้องพักโรงแรมซึ่งได้ห้องติดกัน ปรากฏว่าหนุ่มคนแคระคนที่ 1 ผิดหวังมาก เพราะทำยังไง ๆ เจ้าน้องชายก็ไม่ยอมลุกขึ้นสู้ ต้องนอนทรมานฟังเสียงครวญครางจากห้องข้าง ๆ
"
หนึ่ง, สอง, สาม.....โอ๊ย ! " แล้วก็ตามด้วย " นึง...ส่อง....ซั้ม...อู้ย ! " เป็นระยะ ๆ อยู่ตลอดคืน รุ่งเช้า พอเจอหน้ากัน หนุ่มแคระคนที่ 2 ก็ถามทันที " ไงเพื่อน ดีไหม ? "
"
ดีกะผีอะไรเล่า " หนุ่มแคระคนที่1 ตอบ "ขายหน้าจังว่ะ ทำยังไง ๆ มันก็ไม่สู้ "
หนุ่มแคระคนที่ 2 ส่ายหน้า " แค่นี้ก็รู้สึกขายหน้าแล้วเหรอ ? ข้านะ พยายามขึ้นเตียงทั้งคืน ยังขึ้นไม่ได้เลย"
"
หนึ่ง, สอง, สาม.....โอ๊ย ! " แล้วก็ตามด้วย " นึง...ส่อง....ซั้ม...อู้ย ! " เป็นระยะ ๆ อยู่ตลอดคืน รุ่งเช้า พอเจอหน้ากัน หนุ่มแคระคนที่ 2 ก็ถามทันที " ไงเพื่อน ดีไหม ? "
"
ดีกะผีอะไรเล่า " หนุ่มแคระคนที่1 ตอบ "ขายหน้าจังว่ะ ทำยังไง ๆ มันก็ไม่สู้ "
หนุ่มแคระคนที่ 2 ส่ายหน้า " แค่นี้ก็รู้สึกขายหน้าแล้วเหรอ ? ข้านะ พยายามขึ้นเตียงทั้งคืน ยังขึ้นไม่ได้เลย"
เรื่องที่ 5
ตรงศักดิ์ กับ โฉมฉาย คบหากันมานาน วันหนึ่ง ตรงศักดิ์ จะชวนโฉมฉายไปซื้อแหวนหมั้น แต่..ไม่กล้าบอกตรงๆ กลัวไม่เซอร์ไพรส์ อีกอย่างโฉมฉายก็กำลังคุยอยู่กับเพื่อนๆ ด้วย จะบอกตรงๆ ก็กลัวจะอายเพื่อน
เลยตัดสินใจ เดินไปใกล้ๆ แล้วทำมือทำไม้ เป็นภาษาใบ้ และเรียกโฉมฉายมาดู
ตรงศักดิ์ : โฉมฉาย โฉมฉาย เรา...
(ว่าพลาง ก็เอามือซ้ายทำเป็นรู แล้วเอานิ้วชี้ขวา แหย่ๆๆ รู)
เมื่อโฉมฉายเห็นดังนั้น เธอทั้งอายทั้งโกรธ
โฉมฉาย : คุณทำอะไรของคุณ ฉันอายนะ
ตรงศักดิ์ : คือ..ผมจะชวนคุณไปซื้อแหวนหมั้นหน่ะ
โฉมฉาย : อ้อ คุณจะชวนชั้นไปซื้อแหวนหมั้นเหรอ
นี่ถ้าชวนฉันไปซื้อนาฬิกา จะไม่ทำแบบนี้เหรอ (ว่าพลาง ก็เอามือขวาจับข้อมือซ้าย ยกขึ้นชูให้ตรงศักดิ์ดู)
ตรงศักดิ์ : - -"
เรื่องที่ 6
โดนเพื่อนสนิทชาย มอมเหล้า แล้วเค้าบอก ไม่ได้ใส่ถุง ต้องทำอย่างไรบ้างคะ ?
ต้อง ทำ อะไรหรือทานอะ ไร ภายใน 24 ชม. หรือเปล่า
คือว่าไปผับ กับเพื่อนสนิทที่คณะ แต่ ไม่ได้ชอบเค้า
แล้ว เราก็เมา จากนั้นจำความได้ว่า
ไปต่อที่ร้านโจ๊กกองปราบ ซอยโชคชัย 4
ตอนนั้นก็เมามากแล้ว รู้สึกตัวอีกที ​ ตอนที่เค้ามาส่งที่บ้านแล้ว เค้าบอกว่าไม่ได้ ใส่ถุง
เลยถามเค้าว่าทำอย่างนี้ได้ยังไง
เค้าเลยตอกกลับมาว่า.............
แดกไปตั้งสองชาม แล้วยังอยากใส่ ถุงอีกเหรอ !!!
จะ ทำ อย่างไรดีคะ โทรไปหา เค้าดีมั้ย ? ตอนนี้สับสนมาก
เรื่องที่ 7
เจ้าหญิงองค์หนึ่งกำลังจะเลือกคู่
และเธอตัดสินใจเลือกที่ความยาว
ชายคนแรกที่มาสมัครแสดงขนาดอันมหัศจรรย์ของตัวเองให้เจ้าหญิงดู
มันยาวถึง 8 นิ้ว
เจ้าหญิงรู้สึกทึ่ง
แต่ก็ยังคิดว่าน่าจะมีที่น่าสนใจกว่านี้
คนถัดมายาวถึง 10 นิ้ว
เจ้าหญิงรู้สึกมั่นใจขึ้นว่าความคิดของเธอถูก...
ที่ยาวกว่านี้น่าจะมีอีก
คนถัดมานี่สิ ยาวถึง 1 ฟุต
เจ้าหญิงค่อนข้างมั่นใจว่าขนาดนี้แหละไม่น่ามีใครเทียบได้
แต่เพื่อความมั่นใจเธอจึงให้เขาแสตนด์บายไว้ก่อน
แล้วเรียกคนถัดไปเข้ามา
คนถัดมาถอดกางเกงออก
เจ้าหญิงหัวเราะอย่างสมเพชเขา
เพราะมันยาวแค่หนึ่งนิ้ว
ชายหนุ่มจึงดีดนิ้วหนึ่งครั้ง
มันยาวขึ้นทันทีหนึ่งนิ้ว
เขาดีดต่อเนื่องอีกหลายครั้ง
และทุกครั้งมันยาวขึ้นครั้งละหนึ่งนิ้ว
จนกระทั่งมันยาวเกือบสองฟุต
เจ้าหญิงอึ้ง เธอกลืนน้ำลาย
ถามชายหนุ่มว่าถ้าจะให้มันสั้นลงจะต้องทำยังไง
ชายหนุ่มยิ้ม เขาตบมือหลายครั้ง
ทุกๆครั้งมันจะสั้นลงหนึ่งนิ้ว
เขาตบจนขนาดมันเหลือแค่หนึ่งนิ้วแล้วจึงหยุด
เจ้าหญิงพอใจมาก
เธอไม่ลังเลที่จะเลือกชายหนุ่มคนนี้ทันที
คืนอภิเษกมาถึง ผู้คนทั้งเมืองมาร่วมแสดงความยินดีด้วย
และเมื่อเจ้าหญิงและว่าที่สวามีมาปรากฏกาย
ฝูงชนโห่ร้องด้วยความยินดี
แต่ทั้งเจ้าหญิงและสวามีกลับหน้าซีด
เพราะชาวเมืองตบมือกันสนั่นเมืองเลยแหละ!!!
เรื่องที่ 8
เด็กชายป๋องได้การบ้านมาครูสั่งให้หาความหมายคำว่า จู๋จี๋
เขาจึงไปถามแม่ แม่ไม่ยอมบอกแต่กลับบอกให้เขาไปหลบอยู่หลังม่านห้องรับแขก เพื่อดูพี่เขาจู๋จี๋กับแฟนเอาเอง( เขาเรียกพี่เขาว่าเจ๊) เขาจดไปส่งครูว่า เขาแอบอยู่ในม่านห้องรับแขกเห็นเจ๊และเพื่อนชายนั่งคุยกันอยู่สักครู่หนึ่ง
เพื่อนชายของเจ๊ก็เดินไปปิดไฟในห้องรับแขก แต่พอมีแสงอยู่เล็กน้อยผมเห็น
เพื่อนเจ๊เอามือล้วงเข้าไปในเสื้อของเจ๊เหมือนหมอตรวจหัวใจ
แต่ผมว่าเพื่อนชายของเจ๊คงไม่เก่งเท่าเพราะผมเห็นเค้าคลำมั่วไปหมด
พอคลำได้สักครู่ทั้งคู่ก็มีเสียงหอบเหมือนคนทำงานหนัก
แล้วผมก็เหลือบไปเห็นปลาออกมาจากกางเกงของเพื่อนเจ๊เจ๊ตกใจมาก
บอกว่าใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ผมเห็นตัวมันโผล่ออกมาประมาณ 3 นิ้วได้
แต่ผมว่าในบ่อหลังบ้านของผมยังตัวใหญ่กว่านี้อีก ปลาไหลตัวนั้นเข้าไปในปากของเจ๊ แล้วเข้าๆ ออกๆ อยู่หลายที่ สักครู่เพื่อนชายของเจ๊ก็สวมปลอกให้เจ้าปลาไหลตัวนั้น แล้วก็นอนทับกับเจ๊ๆ ร้องครางเบาๆ ผมเดาเอาเองว่าเพื่อนชายของเจ๊และเจ๊คงช่วยกันอัดกอปปี๊
ให้เจ้าปลาไหลตัวนั้นตาย สักครู่ผมเห็นเจ้าปลาไหลออกมาคืนแต่มันคงหมดแรง
เพราะมันนอนราบแน่นิ่งที่เดียว แต่สักครู่มันก็ชูขึ้นมาใหม่แล้วเจ๊และเพื่อนก็อัดก๊อปปี๊มันอีก
สุดท้ายผมทายว่าเจ้าปลาไหลคงจะตายแล้วเพาระผมเห็นเพื่อนเจ๊ลอกคราบมันแล้วทิ้งลงในโถส้วม
เรื่องที่ 9
ผมเคยไปกินข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
ผมสังเกตเห็นว่าบริกรที่มารับออร์เดอร์มีช้อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อ
พอผมมองไปทั่วๆจึงเห็นว่าบริกรในร้านมีช้อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อกันทุกคน
ด้วยความสงสัยผมจึงถามเขาดู
"ขอถามหน่อยเถอะมีไว้ทำไมเนี่ยเห็นมีกันทุกคนเลย"
"ช้อนนี่หรือครับ"
"เจ้าของร้านเขาจ้างบริษัทที่ปรึกษามาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานน่ะครับ
เขาเก็บข้อมูลอยู่หลายเดือนแล้วก็บอกว่า
ลูกค้าจะทำช้อนตกมากว่าอย่างอื่นถึง ๗๓.๘๔%
ซึ่งตกประมาณ ๓ ครั้งต่อโต๊ะต่อชั่วโมง
ซึ่งถ้าพนักงานเราเตรียมการไว้ก่อนก็จะสามารถลดจำนวนครั้งที่จะต้องเดินกลับไปที่ครัว
และก็สามารถลดพนักงานที่ใช้ลงได้ ๑ คนต่อกะ"
พอเขาพูดเสร็จผมก็ได้ยินเสียงช้อนหล่นอยู่หลังผม
บริกรที่คุยอยู่กับผมก็หยิบช้อนในกระเป๋าเสื้อส่งให้ใหม่แล้วบอกว่า
"ผมจะหยิบอันใหม่เมื่อผมผมกลับไปที่ครัวแทนที่จะรีบเข้าไปหยิบในครัวเดี๋ยวนี้"
ผมรู้สึกประทับใจมาก
และเมื่อผมมองดูรอบๆอีกครั้งผมก็สังเกตเห็นด้ายเส้นเล็กๆห้อยออกมาจากช่องซิปกางเกงของ
บริกรทุกคน ด้วยความสงสัยผมจึงถามบริกรคนเดิมอีกครั้ง
"รบกวนอีกทีเถอะ ทำไมถึงต้องมีด้ายห้อยออกมาจากตรงนั้นด้วย"
"โอ้โฮเฮะ" เขาดูตื่นเต้นมาก "ผมไม่เคยเจอใครช่างสังเกตอย่างคุณเลยนะครับ
จริงๆแล้วนี่ก็เป็นผลงานของบริษัทที่ปรึกษาเจ้าเดิมนั่นแหละ
เขาบอกว่ามันทำให้เราสามารถประหยัดเวลาที่ใช้ตอนเข้าห้องน้ำได้"
"ประหยัดได้ไง" ผมสงสัย
"ก็..." เขาอธิบาย "เราผูกด้ายนี่เข้ากับปลายนั่น คุณคงเข้าใจนะครับ แล้วพอจะฉี่เราก็แค่ดึงด้วยนี่ออกมามือก็ไม่เลอะ มันก็ประหยัดเวลาที่ต้องล้างมือไปได้
เขาว่ามันทำให้ประหยัดเวลาที่ต้องใช้ในห้องน้ำลงไปตั้ง ๗๖.๓๙% แน่ะ"
"อืม... ร้ายจริงๆ" ผมรู้สึกทึ่ง
"ว่าแต่ว่าด้ายนั่นช่วยตอนเอาออกมา แล้วตอนเก็บเข้าไปล่ะจะทำไง?"
"เอ่อ..." เขากระซิบ
"ผมก็ไม่รู้ว่าคนอื่นเขาทำกันยังไง แต่ผมน่ะ...ใช้ช้อน"
เรื่องที่ 10
คุณยายคนหนึ่งเข้าไปหาหมอในโรงพยาบาล เพียง 5 นาทีเท่านั้น เธอวิ่งออกมาจากห้องตรวจ กรีดร้องไปตลอดทาง “คุณเป็นบ้าอะไรของคุณน่ะ” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลโวยใส่หมอหนุ่มที่ตรวจเธอ “พยาบาลบอกผมว่าคุณบอกเธอว่าเธอท้อง... ผู้หญิงอายุ 63 เนี่ยนะ”
หมอหนุ่มหลิ่วตา "ก็แล้วเธอหายสะอึกไหมล่ะครับ"
เรื่องที่ 11
เด็กน้อยคนหนึ่งพึ่งโตเป็นสาว และ ก็เริ่มมีรอบเดือน
แม่ของเธอจึงสอนเกี่ยวกับการใช้ผ้าอนามัย
วันหนึ่ง....
"แม่!!!!!!" สาวน้อยตะโกนเรียกแม่ของเธอกลางดึก
"เป็นอะไรลูก" แม่ถาม
"แม่พาหนูไปหาหมอหน่อยสงสัยหนูจะไม่สบาย" เด็กน้อยตอบ
เมื่อไปถึงโรงพยาบาล เด็กน้อยก็บอกอาการกับหมออย่างกลัวๆ ว่า
"หมอคะ หนูไม่สบายแน่ๆ เลยรอบเดือนของหนูเป็นสีแดง"
"ก็เป็นปกตินี่จ๊ะ" ิ้มๆ
"ไม่ปกติแน่ค่ะหมอ ก็หนูเห็นในโฆษณา มันเป็นสีฟ้านี่นา.."
หมอ "..........."
แม่ของเธอจึงสอนเกี่ยวกับการใช้ผ้าอนามัย
วันหนึ่ง....
"แม่!!!!!!" สาวน้อยตะโกนเรียกแม่ของเธอกลางดึก
"เป็นอะไรลูก" แม่ถาม
"แม่พาหนูไปหาหมอหน่อยสงสัยหนูจะไม่สบาย" เด็กน้อยตอบ
เมื่อไปถึงโรงพยาบาล เด็กน้อยก็บอกอาการกับหมออย่างกลัวๆ ว่า
"หมอคะ หนูไม่สบายแน่ๆ เลยรอบเดือนของหนูเป็นสีแดง"
"ก็เป็นปกตินี่จ๊ะ" ิ้มๆ
"ไม่ปกติแน่ค่ะหมอ ก็หนูเห็นในโฆษณา มันเป็นสีฟ้านี่นา.."
หมอ "..........."
เรื่องที่ 12
"ช่วยลงข่าวการเสียชีวิตของสามีดิฉันให้หน่อยสิคะ"
สาวผู้จับได้ว่าสามีนอกใจโทรหานสพ.ท้องถิ่น
"เขาเสียชีวิตเมื่อไหร่ครับ" นักข่าวถาม
"เอ้อ..." แม่สาวลังเล
สาวผู้จับได้ว่าสามีนอกใจโทรหานสพ.ท้องถิ่น
"เขาเสียชีวิตเมื่อไหร่ครับ" นักข่าวถาม
"เอ้อ..." แม่สาวลังเล
"ถ้าไม่คืนนี้ก็คงเป็นพรุ่งนี้เช้าแหละค่ะ!!!"
ชอบเรื่องไหนก็บอกกันด้วย
เรื่องเลาฮาๆ ไม่ฮาให้เตะเลย