มารู้จักกับฐานข้อมูลกัน

บทที่ 14 : System


1. กำหนดตัวละครเริ่มต้น ว่าตอนเริ่มเกม จะมีตัวละครคนไหนบ้าง

จะเว้นว่างไว้ ไม่ต้องให้มีสักคนเลยก็ได้
แต่จะไม่เห็นตัวเดินของฮีโร่ และเมื่อเข้าฉากต่อสู้ จะGame Overทันที

2. ธาตุต่างๆที่มีในเกม
3. แก้จำนวนรายการของธาตุต่างๆที่มีในเกม
4. กำหนด Window Skin ที่ใช้ในเกม (พื้นกรอบคำพูด, พื้นเมนู)
5. รูปฉากไตเติ้ลเกม
6. รูปฉากเกมโอเวอร์
7. เอฟเฟกต์ตอนเข้าฉากต่อสู้
8. เพลงฉากไตเติ้ล
9. เพลงฉากต่อสู้
10. เพลงตอนสู้จบ
11. เพลงตอนเกมโอเวอร์
12. เสียงกดเลื่อนเคอร์เซอร์
13. เสียงกดตกลง
14. เสียงกดยกเลิก
15. เสียงกดไม่ผ่าน
16. เสียงตอนสวมใส่อาวุธ
17. เสียงตอนซื้อของ
18. เสียงตอนเซฟเกม
19. เสียงตอนโหลดเกม
20. เสียงตอนเข้าฉากต่อสู้
21. เสียงตอนหนี
22. เสียงตอนตัวละครตาย
23. เสียงตอนศัตรูตาย
24. คำศัพท์ต่างๆที่ใช้ในเกม

Money Currency = หน่วยเงินที่ใช้ในเกม
HP = พลังชีวิต
SP = พลังเวทย์
Strength = พละกำลัง
Defense = ความแม่นยำ
Agility = ความว่องไว
Mind = ความฉลาด
Attack Power = พลังโจมตี
Physical Defense = พลังป้องกัน
Magic Defense = พลังป้องกันเวทย์
Weapon = อาวุธ
Shield = โหล่
Helmet = หมวก
Armor = ชุดเกราะ
Assessory = เครื่องประดับ
Attack = จู่โจม
Skill = ใช้สกิล
Defense = ตั้งรับ
Item = ใช้ไอเทม
Equip = อาวุธ/ชุดเกราะที่สวมใส่อยู่

=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=
จบบริบูรณ์
=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=

บทที่ 13 : Common Event

common event หรือ เหตุการณ์ทั่วไป
สิ่งนี้ ผู้สร้างระบบเดินยิง, เดินฟัน หลายคนพูดถึง
แต่เราไม่รู้สักที ว่ามันอยู่ตรงไหนของโปรแกรม?

มันอยู่ตรงในฐานข้อมูลนี่เอง!!

common event ใช้ทำอะไร? ...common event นั้น ก็เหมือนeventในแม็พนั่นแหล่ะ เพียงแต่มันจะทำงานก็ต่อเมื่อถูกเรียก

แค่เรียก มันก็มา ไม่ต้องไปรอให้ผู้เล่นเดินไปคุย และจะมีผลครอบคลุมทุกแม็พที่ผู้เล่นไป

ไปดูหน้าตาของมันกันก่อนดีกว่า

1. รายการcommon event
2. ชื่อcommon event
3. เงื่อนไขการทำงาน

none คือไม่มีเงื่อนไขใดๆ ถ้าเรียก มันก็มา
Auto Sta คือ เริ่มcommon event โดยอัตโนมัติ ถ้าสวิตช์เปิด (ผู้เล่นจะขยับไม่ได้)
Parallel คือ เริ่มcommon event โดยอัตโนมัติ ถ้าสวิตช์เปิด (ผู้เล่นจะขยับตัวได้ตามปกติ)

4. ตั้งสวิตช์สำหรับเงื่อนไขแบบ Auto Sta กับ Parallel นั่นเอง

Auto Sta และ Parallel ต้องขึ้นอยู่กับสวิตช์เปิดเท่านั้น ถ้าสวิตชไม่เปิด มันก็จะไม่ทำงานนะคร้าบ

5. พื้นที่สำหรับป้อนคำสั่ง

เอาล่ะ ที่นี้ ผมจะมาประยุกต์ใช้common eventให้ดูกัน

สิ่งที่ผมจะทำต่อไปนี้คือ ไอเทมแผนที่โลก
ผมจะตั้งcommon eventไว้อย่างนี้


แล้วก็สร้างไอเทม "แผนที่โลก"


ระวังใช้ครั้งเดียวแล้วหายไปเลย ถ้าไม่ตั้ง SP Use ก่อน


เอาล่ะ... เริ่มทดสอบเกม...

ผมจะกดใช้ไอเทมแล้วนะ

ชึบ! แสดงแผนที่ขึ้นมาจริงๆ


กดปุ่มมั่วๆอีกที... ก็กลับมาฉากแม็พเหมือนเดิม

บทที่ 12 : ไทล์เซต

ไทล์เซต (Tileset) คือวัตถุดิบที่ใช้วาดแผนที่ครับ

1. รายการไทล์เซต
2. ชื่อไทล์เซต
3. รูปที่จะเอามาใช้
4. Auto Tile

คือไทล์ที่เชื่อมกันแบบอัตโนมัติ เช่นพวก น้ำ หญ้า กำแพงบ้าน อะไรพวกนี้

5. Panorama (ฉากหลังแม็พ)

เลือกรูปฉากหลังที่นี่เลย...

ฉากหลังนั้น จะปรากฎให้เห็นเมื่อมีช่องว่างในแม็พ

ผลลัพธ์ก็จะออกมาเป็นแบบนี้ยังไงล่ะ

(แม็พนี้... ตรงที่เห็นเป็นฉากหลังทิวทัศน์ภูเขา ...ผมไม่ได้่ใส่รูปอะไรไว้เลย เว้นไว้เป็นช่องว่างเปล่าๆ)

ฉากหลังจะปรากฎขึ้นมาให้เห็นเอง

6. หมอก
7. ฉากหลังฉากต่อสู้ (ฉากต่อสู้จะมีเหมือนกันทุกแม็พ)
8. กำหนดให้ผ่านได้/ไม่ได้

ถ้าเป็นเครื่องหมาย O คือผ่านได้
เครื่องหมาย X คือผ่านไม่ได้
เครื่องหมายรูปสี่เหลี่ยม คือ กำแพง (กำแพงในที่นี้คือ ขอบกำแพง ...ซึ่งมีลักษณะ ผ่านไม่ได้ทางซ้าย/ขวา แต่ผ่านได้ทางบน/ล่าง ลองเอาไปใช้ดู แล้วจะรู้)

9. กำหนดทิศทางการผ่าน

10. กำหนดการบดบังกัน

จะเป็นเครื่องหมายรูปดาว และมีตัวเลขกำกับอยู่ (ใช้สำหรับวัตถุที่อยู่สูง เหนือหัวฮีโร่ เช่นใบไม้ หลังคาบ้าน)
เลข1... คือ จะทับแค่ตัวฮีโร่ ไม่ทับหัว (ระยะ 1 ช่องประมาณ32 พิคเซลจากพื้น)
เลข2 ขึ้นไป... คือ จะทับทุกส่วนของฮีโร่เลย
...และ เลขที่มากกว่า ก็จะทับเลขที่น้อยกว่านะครับ

11. ทำให้ช่วงล่างตัวละครโปร่งแสง เมื่อเดินบนช่องนี้

12. ทำให้ช่องนี้เป็นเหมือนเคาน์เตอร์ร้านขายของ คือพูดคุยกับคนที่อยู่อีกฟากของวัตถุได้

แต่คุยผ่านได้แค่ช่องเดียวนะ
13. กำหนดรหัสภูมิประเทศ(Terrain)

สามารถกำหนดได้ตั้งแต่ 0-7 ซึ่งสามารถใช้คำสั่ง"ตรวจเช็คเงื่อนไข" ตรวจเช็คจากตัวแปรได้

ท่านสามารถตั้งให้แม็พไหน ใช้ไทล์เซ็ตไหน โดยคลิ๊กขวาที่ไอคอนแม็พ แล้วmap properties


จะเห็นเป็นหน้าตาดังรูปนี้

บทที่ 11 : Animation

animationนี้ เราจะเอาไปใช้เยอะทีเดียว ทั้งเวลาใช้สกิล เวลาโจมตี ถ้าไม่มีanimationอะไรเลย มันก็จะดูจืดๆไป

1. รายการanimation
2. ชื่อanimation
3. รูปที่จะเอามาทำanimation
4. ตำแหน่งที่จะเล่นanimation

T คือบนหัวตัวละคร
M คือกลางตัวของตัวละคร
B คือใต้เท้าตัวละคร
Screen คือจะแสดงanimationแบบทั่วทั้งจอ (ไม่เจาะจงตัวละคร)

5. จำนวนframeทั้งหมดของanimationนี้ (ยิ่งมากยิ่งนาน)
6. ไปยังframeต่างๆ
7. ใส่แสง ใส่เสียง

Frame Num คือ ระบุว่าแสงเสียงนี้จะเล่นที่frameไหน
Soumd Effect คือ เลือกเสียง
Variant คือ กำหนดว่าแสงเสียงนี้จะเล่นใน'โหมดสำเร็จ(Hit)' หรือ 'โหมดไม่สำเร็จ(Miss)'

โหมดไม่สำเร็จคือ เวลาที่ใช้สกิลไม่ได้ผล เวลาที่โจมตีพลาด
ส่วนโหมดสำเร็จคือเวลาที่โจมตีโดนหรือใช้สกิลสำเร็จนั่นเอง

หากตั้งข้อนี้เป็นMiss ก็จะเล่นในโหมดไม่สำเร็จ
หากตั้งข้อนี้เป็นHit ก็จะเล่นในโหมดสำเร็จ
หากตั้งข้อนี้เป็นBoth ก็จะเล่นในทั้งสองโหมดเลย (แนะนำอันนี้ เพราะจะได้ไม่ต้องเซตมาก เดี๋ยวจะเหนื่อย)

Flash คือ กำหนดแสง ว่าจะให้แสงฉายที่เป้าหมาย หรือฉายทั่วทั้งหน้าจอ
None คือ ไม่มีแสง
Target คือฉายแสงที่เป้าหมาย (นึกภาพ เวลามอนสเตอร์มีแสงกระพริบสีแดงตอนโดนโจมตี)
Screen คือฉายแสงทั่วทั้งหน้าจอ
Hidden Target คือฉายแสงที่ศัตรูที่ซ่อนตัวอยู่ (ถ้าไม่เข้าใจ ให้กลับไปดูบทที่9 เรื่องกลุ่มศัตรู ...เราสามารถตั้งให้ศัตรูซ่อนตัวอยู่ได้)

Red, Green, Blue ก็คือสีนั่นเอง ... ส่วนStaturate คือความเข้มของสี
Duration คือระยะเวลาที่จะให้แสงนี้ฉาย ...หากตั้ง5frameแบบในรูป แสงก็จะฉายแป๊บเดียว (เป็นแสงกระพริบนั่นเอง)

8. เปลี่ยนรูปเป้าหมาย (เอาไว้ดู เอาไว้กะanimation)
9. เอาframeที่แล้ว ก็อปปี้มาใส่frameนี้
10. ก็อปปี้frame (จริงๆคลิ๊กขวาcopyจากรายการframeก็ได้นะ)
11. ลบรูปทุกรูปในframeนี้
12. ทำให้animationเปลี่ยนแปลงขนาด, ทิศทาง เอง (แนะนำ อย่าเพิ่งใช้)
13. แก้ไขรูปหลายรูปทีเดียว

Frames คือเลือกFrameที่จะให้แก้
Cells คือเลือกหมายเลขของรูปในจอanimation (มุมซ้ายบนของกรอบ จะมีหมายเลขน่ะเห็นไหม อันนั้นแหล่ะ)
Pattern คือ เปลี่ยนรูป
X Coord. คือเปลี่ยนตำแหน่งแนวนอน (ยิ่งมาก ยิ่งไปทางขวา)
Y Coord. คือเปลี่ยนตำแหน่งแนวตั้ง (ยิ่งมาก ยิ่งลงข้างล่าง)
Magnify คือเปลี่ยนขนาด (ยิ่งมากยิ่งใหญ่)
Rotation คือหมุน (ไม่เกิน 360)
Mirror คือให้รูปมันกลับหัวกลับหาง
Opacity คือ ความเข้มของรูป
Blending คือ ลักษณะพิเศษ (add คือสีจ้า negative คือสีตรงกันข้าม)

14. เลื่อนรูปทุกรูปในจอanimation
15. ทดลองเล่นanimation (Hit คือเล่นในโหมดสำเร็จ Missคือเล่นในโหมดไม่สำเร็จ)
16. รูปสำหรับเลือกมาใช้

คลิ๊กหนึ่งครั้งที่รูปเพื่อเลือก คลิ๊กอีกหนึ่งครั้งที่จอanimationเพื่อใส่รูป

บทที่ 10 : สถานะผิดปกติ

จริงๆไม่อยากเรียกสถานะผิดปกติเลย
เพราะสถานะมันก็มีสถานะที่ดีอยู่ด้วย เช่นเพิ่มพลังป้องกัน เพิ่มการหลบหลีก
ส่วนสถานะที่ไม่ดีก็คือพวก ติดพิษ สับสน เป็นใบ้ มึนงง

1. รายการสถานะ
2. ชื่อสถานะ
3. animationที่แสดงให้เห็นว่าตัวละครนั้นติดสถานะนี้อยู่ เช่นถ้ามึนงง ก็จะมีดาวลอยเหนือหัวอยู่ตลอดเวลา
4. ลักษณะเบื้องต้นของสถานะนี้ (เป็นเครื่องบ่งบอกว่าตัวละครจะมีอาการอย่างไร)

None = ไม่มีลักษณะเบื้องต้น
Magic is unusable = ใช้สกิลไม่ได้ (ต้องเป็นสกิลที่ความฉลาดไปมีผลนะ)
Attack Enemies = โจมตีศัตรูอย่างเดียว โดยไม่ใช้สกิลเลย(เหมือนอาการบ้าคลั่ง)
Attack Allies = โจมตีพวกเดียวกัน (เหมือนอาการสับสน)
Cannot act = ตัวละครขยับไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้

5. ลักษณะเสริมของสถานะนี้

Unresistable = ไม่สามารถป้องกันได้เลย (ยังไงก็เป็น 100%)
Link with HP 0 = หากพลังชีวิตตัวละครหมด จะเกิดอาการนี้ทันที (ไว้ใช้กับพวก สถานะ'ตาย')
Cannot Gain EXP = เมื่อติดสถานะนี้ จะไม่ได้ค่าประสบการณ์
No Evasion Allowed = เมื่อติดสถานะนี้ จะหลบการโจมตีไม่ได้
Progessive Damage = พลังชีวิตจะลดลง10% ทุกตาเล่น

6. กำหนดการเพิ่ม/ลดค่าต่างๆ

Rating = ความเด่นของสถานะนี้ หากโดนหลายสถานะพร้อมกับ สถานะที่เด่น จะไปทับสถานะที่ด้อยกว่า
Accuracy = %ความแม่นยำโดยรวมของตัวละคร หากต้องการจะให้เพิ่ม ก็เปลี่ยนเป็นเลขที่มากขึ้น หากต้องการให้ลด ก็เปลี่ยนเป็นเลขที่น้อยลง
Max HP = %พลังชีวิตสูงสุด
Max SP = %พลังเวทย์สูงสุด
Strength = %พลังพละกำลัง
Defense = %ความแม่นยำ(เอ๊ะยังไง? ทำไมมันซ้ำล่ะ?... จะอธิบายง่ายๆคือ Defense เป็นค่าความแม่นยำที่ติดตัวตัวละครมาครับ ส่วนAccuracy เป็นความแม่นยำหลังจากหักลบค่าต่างๆนาๆของมอนสเตอร์เรียบร้อยแล้ว)
Agility = %ความว่องไวตัวละคร
Mind = %ความฉลาดตัวละคร
Attack Pow = %พลังโจมตี
Pow Def. = %พลังป้องกัน
Mag Def. = %พลังป้องกันเวทย์
Evasion = ปรับอัตราการหลบหลีกของตัวละคร (0-100)

7. ตั้งว่าจะให้สถานะนี้หายไปเมื่อไร

ติ๊กที่End After Battle = ตั้งให้สถานะนี้หายหลังจากจบการต่อสู้
2 Turns Passed 50% of Change to be recover = เลขตัวแรกคือ กำหนดว่ากี่ตาเล่นจึงจะหาย เลขตัวที่สองคือ โอกาสหายกี่เปอร์เซนต์
Each time damage is dealt 50% of Change to be recover = หากได้รับความเสียหาย จะมีโอกาสหายกี่เปอร์เซนต์ (นึกภาพ ถ้าเราหลับแล้วมีคนมาปลุก จะมีโอกาสตื่นกี่เปอร์เซนต์)

8. การป้องกันธาตุ (เช่นจะทำสถานะบาเรียป้องกันธาตุไฟ ก็ต้องติ๊กช่องธาตุไฟ)
9. เพิ่ม/ลด สถานะ

ติ๊กให้เป็นเครื่องหมายบวกคือ ทำให้ติดสถานะ
ติ๊กเป็นเครื่องหมายลบคือ ยกเลิกสถานะนั้น

ตัวอย่างสถานะเป็นใบ้ (ใช้เวทย์ไม่ได้)


ตัวอย่างสถานะลดความเร็ว


ตัวอย่างสถานะBarrier (เพิ่มพลังป้องกัน)


ตัวอย่างสถานะตาย

บทที่ 9 : กลุ่มมอนสเตอร์

ข้อมูลที่เราตั้งค่าไปในบทที่แล้ว ยังเป็นแค่ข้อมูลครับ ต้องเอามาจัดกลุ่มซะก่อน ว่าจะให้เจอกี่ตัว ก็เหมือนกับตัวละครต้องมีปาร์ตี้นั่นแหล่ะ

1. รายการกลุ่มมอนสเตอร์
2. ชื่อกลุ่มมอนสเตอร์
3. ตั้งชื่อกลุ้มอัตโนมัติ
4. เปลี่ยนพื้นหลัง (สำหรับการทดสอบ)
5. ทดสอบการต่อสู้
6. จัดการตำแหน่ง, เพิ่มลดมอนสเตอร์

add คือเพิ่มมอนสเตอร์
delete คือลบมอนสเตอร์
clear คือลบมอนสเตอร์ทั้งหมด
dress คือจัดตำแหน่งมอนสเตอร์นั้นอัตโนมัติ (ตำแหน่งอัตโนมัตินี้จะอยู่บริเวณล่างๆอย่างที่เห็นในภาพ 9.1)

7. สร้างเหตุการณ์พิเศษ

เช่นอยากให้มอนสเตอร์พูดท้าทายพระเอกก่อนสู้ อะไรอย่างนี้
เรามาดูกันดีกว่า
เริ่มจากตรงขวามือที่เขียนว่าFrequency นั่นคือความบ่อยของเหตุการณ์
Battle คือเหตุการณ์จะเกิดขึ้นตอนต้นการต่อสู้
Turn คือเหตุการณ์จะเกิดขึ้นตอนต้นตาเล่นของผู้เล่น (ต้องรอให้ถึงตาเล่นผู้เล่นก่อน)
Instant คือเหตุการณ์จะเกิดขึ้นทันที ไม่ต้องรออะไรทั้งสิ้น

ทีนี้ มาดูcondition ทางซ้ายมือกันบ้าง

คล้ายๆกับบทที่แล้วเลยใช่ไหม? ตอนที่เราตั้งสกิลให้มอนสเตอร์
Turns นั้น เลขตัวหน้า หมายถึงเทิร์นที่เหตุการณ์พิเศษจะเกิด เลขตัวหลังคือ กำหนดว่าเหตุการณ์จะเกิดทุกๆกี่เทิร์น
Monster HP Below นั้น ตัวเลขจะเป็นการกำหนดว่า เมื่อพลังชีวิตมอนสเตอร์ลดลงเหลือกี่% เหตุการณ์จึงจะเกิด
Hero HP Below นั้น ตัวเลขจะเป็นการกำหนดว่า เมื่อพลังชีวิตตัวละครลดลงเหลือกี่% เหตุการณ์จึงจะเกิด
Switch เป็นการกำหนดว่าถ้าสวิตช์เปิด เหตุการณ์จึงจะเกิด

อ๊ะ ผมลืมบอกไป

ที่หน้าจอวางตัวมอนสเตอร์นั้น ถ้าเราคลิ๊กขวา จะมีตัวเลือกพิเศษสองตัวขึ้นมานะครับ
Hidden คือ ให้มอนสเตอร์มันซ่อนตัวอยู่ (ต้องใช้คำสั่งโชว์มอนสเตอร์ซ่อนตัว มันถึงจะปรากฎ ไม่งั้นก็ซ่อนอยู่อย่างนั้นแหล่ะ)
Invincible คือ อมตะ โจมตีเท่าไรก็ไม่ตาย

บทที่ 8 : มอนสเตอร์

มอนสเตอร์ในที่นี้คือศัตรูนั่นเองครับ

ขอเรียกว่ามอนสเตอร์นะครับ

1. รายการมอนสเตอร์
2. ชื่อมอนสเตอร์
3. รูปของมอนสเตอร์ (ดับเบิ้ลคลิ๊กเปลี่ยนได้นะครับ)
4. ค่าพลังต่างๆของมอนสเตอร์

Max HP = พลังชีวิตมอนสเตอร์
Max SP = พลังเวทย์มอนสเตอร์
Strength = พละกำลังมอนสเตอรื
Defense = ความแม่นยำมอนสเตอร์
Agility = ความว่องไวมอนสเตอร์
Mind = ความฉลาดมอนสเตอร์
Attack = พลังโจมตีมอนสเตอร์

พลังโจมตีและพละกำลัง ต่างกันที่...
พลังโจมตี จะมีผลเมื่อโจมตีธรรมดา ส่วนพละกำลังจะมีผลเวลาใช้สกิล

Pow. Def = พลังป้องกัน
Mag. Def = พลังป้องกันเวทมนตร์
Evasion = อัตราการหลบหลีกมอนสเตอร์

5. animationของมอนสเตอร์มันเอง เวลาจะโจมตี
6. animationของเป้าหมาย (พวกเรา-*-...) เวลาโดนมันอัด
7. ค่าประสบการณ์ที่ได้เมื่อปราบมอนสเตอร์ตัวนี้
8. เงินที่ได้เมื่อปราบมอนสเตอร์ตัวนี้
9. ไอเทมที่ได้ เมื่อปราบมอนสเตอร์ตัวนี้
10. สกิลของมอนสเตอร์

Turns นั้น เลขตัวหน้า หมายถึงเทิร์นที่มอนสเตอร์จะใช้สกิลนี้ เลขตัวหลังคือ กำหนดว่ามอนสเตอร์จะใช้สกิลนี้ทุกๆกี่เทิร์น
HP Below นั้น ตัวเลขจะเป็นการกำหนดว่า เมื่อพลังชีวิตมอนสเตอร์ลดลงเหลือกี่% มอนสเตอร์จึงจะใช้สกิล
Avg Party Level Above จะเป็นการตั้งว่า ถ้าเลเวลเฉลี่ยสมาชิกในปาร์ตี้มีค่าเท่านี้ มอนสเตอร์จะใช้สกิล
Switch เป็นการกำหนดว่าถ้าสวิตช์เปิด มอนสเตอร์จะใช้สกิล
Basic จะเป็นพฤติกรรมพื้นฐานของมอนสเตอร์ (ไม่ใช่สกิลหรอก) ได้แก่ โจมตี, ป้องกัน, วิ่งหนี, อยู่เฉยๆไม่ทำอะไร
Skill เลือกสกิลให้มอนสเตอร์
Rating ตรงจุดนี้ ยิ่งเลขมาก มอนสเตอร์ก็จะใช้สกิลบ่อยมากขึ้น

11. ตั้งว่าจะให้มอนสเตอร์โดนธาตุเบาแรงอย่างไร (ในตัวอย่างคือ แพ้ธาตุไฟ และแพ้ธาตุ'ปราบผีดิบ')

ถ้าติ๊กเป็น F การโจมตีนั้นจะกลายเป็นเพิ่มพลังให้มอนสเตอร์แทน

12. ตั้งให้มอนสเตอร์โดนสถานะผิดปกติติดยากหรือง่ายอย่างไร (Aคือติดง่าย F คือติดยาก)

บทที่ 7 : ชุดเกราะ


1. รายการชุดเกราะ
2. ชื่อชุดเกราะ
3. รูปไอคอนประจำชุดเกราะนั้นๆ
4. คำอธิบายชุดเกราะ
5. ประเภท

Sh คือ โล่
Helmet คือ หมวก
Armor คือ ชุดเกราะ
Acc คือ เครื่องประดับ

6. ทำให้ผู้สวมใส่ ติดสถานะ (อาจจะเป็นสถานะที่ำไม่ดี อย่างคำสาป หรือสถานะที่ดี อย่างBarrier)
7. ค่าต่างๆของชุดเกราะ

Price = ราคาชุดเกราะ
Pow. Def = เพิ่มพลังป้องกัน
Mag. Def = เพิ่มพลังป้องกันเวทย์
Evasion = เพิ่มอัตราการหลบหลีก
Strength = เพิ่มค่าพละกำลังตัวละคร
Defense = เพิ่มความแม่นยำตัวละคร
Agility = เพิ่มความว่องไว
Mind = เพิ่มความฉลาด

8. ต้านทานธาตุ (จะโดนความเสียหายจากธาตุนั้นเบาลง)
9. ต้านทานสถานะผิดปกติ (จะไม่ติดสถานะผิดปกตินั้นเลย)

บทที่ 6 : อาวุธ


1. รายการอาวุธ
2. ชื่ออาวุธ
3. รูปไอคอนประจำอาวุธนั้นๆ
4. คำอธิบายอาวุธ
5. animationของตัวละคร เวลาใช้อาวุธโจมตี
6. animationของเป้าหมาย เวลาโดนอาวุธตี
7. ค่าต่างๆของอาวุธ

Price = ราคาอาวุธ
Attack Pow. = พลังโจมตีอาวุธ
Pow. Def = เพิ่มพลังป้องกัน
Mag. Def = เพิ่มพลังป้องกันเวทย์
Strength = เพิ่มค่าพละกำลังตัวละคร
Defense = เพิ่มความแม่นยำตัวละคร
Agility = เพิ่มความว่องไว
Mind = เพิ่มความฉลาด

8. ธาตุของอาวุธ
9. แถมสถานะผิดปกติไปกับการโจมตีด้วย

บทที่ 5 : ไอเทม


1. รายการไอเทม
2. ชื่อไอเทม
3. รูปไอคอนประจำไอเทมนั้นๆ
4. คำอธิบายไอเทม
5. เลือกเป้าหมายของไอเทม (ฟังก์ชั่นนี้ เหมือนหมวดสกิลเด๊ะๆ)

Enemy คือศัตรูตัวเดียว
All Enemy คือศัตรูทุกตัว
Self คือผู้ใช้สกิลเอง
One Ally คือสมาชิกในปาร์ตี้หนึ่งคน
All Ally คือ สมาชิกในปาร์ตี้ทุกคน
None คือ ไม่มีเป้าหมาย ใช้แล้วจบไปเฉยๆ

6. ตั้งว่าจะให้ใช้ไอเทมนี้ได้เมื่อไร

Battle คือ ในฉากต่อสู้เท่านั้น
Menu คือ ใช้ได้ในเมนูเท่านั้น (ในฉากแผนที่นั่นแหล่ะ)
Both คือ ใช้ได้ทั้งในฉากต่อสู้และในเมนู
Unusable คือ กดใช้ไม่ได้เลย

7. animation เมื่อผู้ใช้ใช้ไอเทม
8. animation เมื่อเป้าหมายโดนไอเทม
9. เสียงเมื่อกดใช้ในจอเมนู
10. เหตุการณ์ทั่วไป (เรียกคำสั่งหลังจากใช้ไอเทมนี้จบสิ้น)
11. ค่าต่างๆของไอเทม

Price = ราคา
SP Use = yesคือใช้แล้วหายไป noคือใช้ได้ไม่จำกัด ...โปรแกรมคงเขียนผิดน่ะครับ ไม่เกี่ยวอะไรกับพลังเวทย์เลย
Base Statics = ตั้งว่าจะให้เพิ่มค่าความสามารถตัวละครด้วยไหม (ใช้สำหรับไอเทมประเภทเพิ่มความสามารถถาวร)
HP Recov. % = ฟื้นพลังชีวิต เป็น% (100 คือฟื้นเต็ม)
HP Recov = ฟื้นพลังชีวิตตามกำหนด
SP Recov. % = ฟื้นพลังเวทย์ เป็น% (100 คือฟื้นเต็ม)
SP Recov = ฟื้นพลังเวทย์ตามกำหนด
Accuracy = ความแม่นยำของไอเทม
Pow Def F. = ตั้งว่าพลังป้องกันชุดเกราะจะมีผลต่อไอเทมนี้ไหม (ใช้สำหรับไอเทมประเภทโจมตีศัตรูไง)
Mag Def F. = ทำนองเดียวกับอันข้างบน แต่อันนี้คือพลังป้องกันเวทย์
Variance = ยิ่งมีค่ามาก ยิ่งความแรงไม่แน่นอน (ถ้าตั้งไว้ 0 คือ ความแรงคงที่ตลอด)

12. กำหนดว่าจะให้ไอเทมนี้มีธาตุเป็นอะไร (กรณีไอเทมฟื้นพลัง อย่าไปกำหนดธาตุให้มันจะดีกว่า เดี๋ยวเพิ่มน้อยมากไม่เท่ากันนะจะบอกให้ เหอๆ)
13. ถ้าติ๊กเป็นเครื่องหมายบวก จะติดสถานะนั้นให้ตัวละคร ถ้าเป็นเครื่องหมายลบ จะลบสถานะนั้นออกจากตัวละคร

ตัวอย่างไอเทมรักษาสถานะผิดปกติ

ดูสิ ติ๊กเครื่องหมายลบที่สถานะผิดปกติหมดเลย

ตัวอย่างไอเทมเพิ่มพลังป้องกันชั่วคราว

สถานะ ก็ไม่ใช่มีแต่อันที่ไม่ดีนะ มีอันดีด้วย! เช่นอันนี้คือสถานะBarrier เพิ่มพลังป้องกัน

ตัวอย่างไอเทมเพิ่มค่าความสามารถแบบถาวรๆ

เลือกค่าความสามารถที่ต้องการ แล้วตั้งตัวเลขด้วยล่ะ ว่าจะให้เพิ่มเท่าไร

ตัวอย่างไอเทมแผนที่(กดใช้ได้)

เดี๋ยวไปศึกษาเหตุการณ์ทั่วไป(comment event) ในบทที่13ต่อนะครับ